"นายกฯ อิ๊งค์" โพสต์ภาพคู่ให้กำลังใจ "อาปู" หลังศาลสั่งชดใช้จำนำข้าวหมื่นล้าน "โฆษก รบ." รีบแจงรูปคู่ "อา-หลาน" ภาพเก่า ยันไม่ได้นัดเจอกันระหว่างเยือนลอนดอน "พท." ดาหน้าโอด "ยิ่งลักษณ์" ไม่ได้รับความเป็นธรรม "ประเสริฐ" ลั่นจำนำข้าวชาวนาได้ประโยชน์ "ชูศักดิ์" รับคำพิพากษาส่งผลกระทบนโยบายรัฐบาลอนาคต "ศิริกัญญา" ถามแค่ไหนต้องประมาทเลินเล่อ "หมอวรงค์" ซัด "อดีตนายกฯ ปู" หยุดสร้างความสับสนให้ ปชช. "นัก กม.มหาชน" เตือนฟ้องคดีใหม่เอาเงินข้าวเน่าหักลบกลบหนี้ไม่ง่าย "ทนายเชาว์" ย้ำคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดถือเป็นที่สุด
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางเยือนประเทศอังกฤษ ได้แชร์โพสต์ของพรรคเพื่อไทยในไอจีสตอรี ที่มีข้อความว่า "22 พฤษภาคม ถูกปล้นความยุติธรรม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า" และแชร์โพสต์ข้อความเป็นคำพูดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุช่วงหนึ่งว่า "จากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ ทำให้ดิฉันต้องชดใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ความเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัติ โดยที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านั้นแต่อย่างใด" รวมถึงโพสต์ภาพในอดีตที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั่งจับถุงข้าวสารพูดคุยกับเกษตรกร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในคดีโครงการรับจำนำข้าว เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 10,028 ล้านบาท
น.ส.แพทองธารยังโพสต์ไอจีสตอรีให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่เป็นคุณอา โดยโพสต์ภาพเซลฟีคู่ระหว่างอา-หลาน พร้อมใส่เพลงประกอบ “ฤดูที่แตกต่าง” ซึ่งเป็นเพลงที่นิยมใช้สำหรับให้กำลังใจ มีเนื้อร้องว่า “อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ” พร้อมแท็กไปยังไอจีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ใช้ชื่อว่า pouyingluck_shin ด้วย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพคู่ระหว่าง น.ส.แพทองธารกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่มีการโพสต์เป็นภาพเก่า ภาพถ่ายคู่ในสมัยที่พบปะกันของบุคคลในครอบครัวเมื่อครั้งที่ยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
"การโพสต์นั้นเพื่อให้กำลังใจอดีตนายกฯ ที่ต้องต่อสู้มาอย่างยาวนาน และยืนยันการเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษไม่มีโปรแกรมนัดหมายใดๆ นอกจากภารกิจทีมไทยแลนด์ อีกทั้งผมก็ไม่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปัจจุบันพำนักอยู่ที่ประเทศใด" โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะอดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีโครงการจำนำข้าวว่า รู้สึกเห็นใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งได้ให้กำลังใจและทำให้เห็นแล้วว่าข้าวล็อตสุดท้ายที่เขาจะขาย แต่ตนไม่ยอมให้ขาย และสุดท้ายตนก็ไปดำเนินการจนทำได้กิโลกรัมละ 18 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 ปี ขายได้เพียงแค่ 3-5 บาท ก็เป็นสมมติฐานหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาเราเสนอเรื่องนี้ไป แต่ว่าศาลปิดการเสนอพิจารณาคดีไปแล้ว และเรื่องนี้ตนมองว่าเป็นเหตุเป็นผลที่จะต้องพิจารณา
"ผมรู้สึกเห็นใจและอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับความเป็นธรรมคืนกลับมา กรณีนี้ศาลก็มีอำนาจพิจารณาไป แต่ในข้อเท็จจริงหนทางการต่อสู้ทางกฎหมายก็จะต้องดำเนินการ ในฝั่งของนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะต้องนำเอกสารหลักฐานรวบรวมเพื่อเอามาเปรียบเทียบ ซึ่งเป็นสิทธิ์ตามกระบวนการ ส่วนศาลจะรับหรือไม่รับเป็นหลักฐานหรือไม่ ถือเป็นสิทธิ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะดำเนินการตามกระบวนการเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม" นายภูมิธรรมกล่าว
พท.โอด 'ปู' ไม่ได้ความเป็นธรรม
ถามว่า การต่อสู้ของทนายความในกรณีนี้เพื่อไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้สู้เพื่อไม่ชดใช้ แต่ช่วยทำให้เห็นว่าการที่ท่านรับโทษอยู่นั้นไม่เป็นธรรม สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่าในเรื่องของนโยบายไปไม่ถึง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในระดับปฏิบัติ แล้วบอกว่าให้ท่านรับผิดชอบ
ซักว่ามีการตั้งข้อครหาการระบายข้าวล็อตสุดท้ายเพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์รับโทษเบา นายภูมิธรรมย้อนถามกลับว่า รมว.พาณิชย์เหลือข้าวล็อตสุดท้าย ตนก็ต้องขาย และการขายจะเอื้อใครหรือไม่เอื้อใครขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง เรื่องนี้มองว่าเป็นการหยิบเฉพาะส่วนเพื่อนำมาหาเรื่อง หากตนไม่ทำอะไรเลยเรื่องก็ยังค้างอยู่ จะถูกมองว่าไม่ยอมทำหน้าที่
เมื่อถามว่า เรื่องเรียกร้องความเป็นธรรมดูจะสอดคล้องกับสิ่งที่นายกฯ แชร์โพสต์ของพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า จะสอดคล้องหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นที่ตนต้องมาคิด คิดจากสิ่งที่ว่ารู้สึกอย่างไรก็รับผิดชอบด้วยความรู้สึก เรื่องนี้มีความคิดเห็น 2 ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนที่เราเคารพและเคยร่วมงานกันมา เราดูจากประเด็น เราก็วินิจฉัยของเราได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลจะเป็นคนตัดสิน อยู่ที่ข้อมูลของแต่ละฝ่ายที่จะเสนอ
"เรื่องนี้ไม่ได้มีสัญญาณอะไรแต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณ หากจะบอกว่าเรื่องนี้มีสัญญาณก็แสดงว่ากระบวนการทั้งหมดเชื่อมกันหมด มันใช่ไหมล่ะ เราพยายามยืนอยู่บนจุดยืนที่กระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามหลักของประเทศ คือการยึดหลักนิติรัฐนิติธรรม หลักนิติธรรมนั้นสำคัญ หากเราไม่ยึดให้ชัดเจน หรือทำให้ต่างประเทศไม่เชื่อมั่น การประชุมต่างๆ ก็จะไม่เกิด" นายภูมิธรรมกล่าว
ถามว่า ล่าสุดนายกฯ ได้มีการโพสต์ภาพคู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนมีการมองว่านายกฯ ไปพบกัน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทำไมจะต้องเดินทางไปพบคุณยิ่งลักษณ์ ตนก็จะโพสต์ให้กำลังใจคุณยิ่งลักษณ์เช่นกัน เพราะรู้สึกเห็นใจ
เช่นเดียวกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า พวกเรารู้สึกว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม โครงการนี้เกษตรกรชาวนาได้ประโยชน์ และก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางได้มีการวินิจฉัยว่าท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ปรากฏว่าศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยว่าท่านต้องชดใช้หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีเจตนาดีต่อประเทศชาติ แต่ต้องมาได้รับผลการตัดสินแบบนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนในฐานะที่ร่วมทำโครงการนี้ก็ต้องยอมรับว่าเห็นใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ตนมองว่ามีเรื่องที่พอจะอ้างความชอบธรรมได้บ้าง อย่างแรกคือศาลปกครองกลางเคยยกคำร้องการอายัดทรัพย์ ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่ายังมีศาลที่เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ควรที่จะรับผิดชอบ ขณะเดียวกันความเห็นของศาลปกครองสูงสุดเมื่อเข้าที่ประชุมใหญ่ก็ยังมีความเห็นแย้ง แต่ในเมื่อศาลพิจารณาออกมาเป็นแบบนี้แล้ว ในระบบของไทยก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น เพียงแต่ว่าเรื่องที่ทนายเตรียมดำเนินการก็เป็นเรื่องที่น่าคิด
"ข้าวที่เป็นกรณีพิพาท หลังจากยึดอำนาจก็มีการอายัดข้าวตรงนี้ไว้ เมื่อมาสมัยนี้ ก็ทราบว่าข้าวเป็นของรัฐ และนายภูมิธรรมได้นำไปจำหน่ายได้เงินก้อนหนึ่ง จึงถือเป็นทรัพย์สินที่รัฐได้มาจากโครงการนี้ ดังนั้นการใช้เหตุผลว่าควรจะมาหักลบกลบหนี้กันก็เป็นเหตุเป็นผล" นายชูศักดิ์กล่าว
ถามว่าพรรค พท.จะช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า อดีตนายกฯ ก็มีทีมทนายความดูแลรับผิดชอบอยู่ แต่สำหรับพรรค พท.ที่เป็นเจ้าของนโยบายนี้ หากมีอะไรที่ช่วยได้ในทางคดี ก็ไม่น่าจะขัดข้องอะไร
รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยอมรับว่า ผลคำพิพากษาของศาลปกครองอาจจะส่งผลให้การทำนโยบายต้องคิดหนัก เพราะที่ผ่านมามีนโยบายเยอะมาก แต่ไม่มีการฟ้องร้องดำเนินการ จึงมีนักวิชาการออกมาบอกว่า ต่อไปนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว ทุกอย่างต้องหยุดหมด
'ไหม' ข้องใจปมประมาทเลินเล่อ
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า คำวินิจฉัยนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้การบริหารราชการแผ่นดินไทยเหมือนกัน ความผิดที่ศาลใช้คำว่าประมาทเลินเล่อโดยร้ายแรง ตกลงแล้วเราต้องทำแค่ไหนจึงถือว่าไม่ประมาทเลินเล่อ ซึ่งศาลตัดสินให้ว่ามีความผิด โดยที่ระบุว่ามีการตักเตือนหลายรอบแล้ว แต่ในขณะเดียวกันฝั่งนายกฯ ในขณะนั้นคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้อยู่เฉย มีการตั้งกรรมการหรืออนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องไปติดตามอีก แล้วจะไปติดตามอะไร อย่างไร จึงเกิดข้อสงสัยว่าเส้นแบ่งอยู่ตรงไหน
“ถ้าคุณยิ่งลักษณ์มีเจตนาจริงๆ ที่จะปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มันก็ค่อนข้างชัดเจน แต่พอบอกว่าประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง สำหรับคนที่ต้องดำเนินนโยบายต่อไปในอนาคต มันก็เริ่มทำให้น่าจะเกิดความกังวลใจ และอาจจะทำให้ไม่กล้าทำโครงการอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาในอนาคตก็ได้ เพราะมีบรรทัดฐานแบบนี้เกิดขึ้น” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
ถามว่า ในฐานะคนคิดนโยบายพรรคการเมือง พอเจอบรรทัดฐานแบบนี้กลัวมากขึ้นหรือไม่ หรือต้องชั่งน้ำหนักตอนพูดหาเสียงหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องตอนหาเสียง แต่เป็นเรื่องของตอนที่มีการดำเนินนโยบายหลัก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจริงๆ
“โอเค แน่นอนว่าการดำเนินโยบายต่างๆ ของรัฐบาลต้องมีฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว การตักเตือน การส่งคำเตือนอะไรต่างๆ ก็มีได้ทั้งฝ่ายค้านและข้าราชการประจำอยู่แล้ว ซึ่งถ้ารัฐบาลมีเหตุผลมากเพียงพอที่จะเดินหน้าต่อก็เดินหน้าต่อ แต่พอมาถึงกรณีที่คอร์รัปชันเกิดขึ้น แล้วต้องทำแค่ไหนถึงจะเพียงพอ ตั้งคณะกรรมการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเฉยๆ ในอำนาจหน้าที่แล้วก็ยังไม่เพียงพอด้วยหรือไม่ ต้องมาแชร์ความผิดนี้ด้วย ทำให้ทั้งคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ ที่จะต้องเป็นคนคอยดึงขากางเกงกันเองให้ สุดท้ายแล้วไม่สามารถทำนโยบายอะไรได้เลยในอนาคต” น.ส.ศิริกัญญากล่าว
วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "ยิ่งลักษณ์หยุดสร้างความสับสนให้ประชาชน" เนื้อหา 7 ข้อสำคัญ โดยสรุปว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เคลื่อนไหวในสิ่งที่ทำให้ประชาชนสับสน 1.การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุต้องมารับภาระหนี้ที่เกิดจากการระบายข้าวของฝ่ายปฏิบัตินั้น อย่าลืมว่าการระบายข้าวเป็นอำนาจเต็มของฝ่ายการเมือง 2.น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ศาลปล่อยปละละเลยในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น ไม่จริง ศาลพิพากษามีความผิดมาตรา 157 เพราะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และผิด พรบ.ป.ป.ช.มาตรา 123/1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทุจริต ไม่ได้แค่ปล่อยปละละเลย
3.น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การดำเนินนโยบายแบบนี้ (จำนำข้าว) กลับถูกกล่าวหาว่าทำให้เกิดความเสียหายนั้น ศาลไม่เคยห้ามการทำนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ที่สำคัญคือห้ามโกงหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนนำไปสู่ความเสียหายอย่างใหญ่หลวง 4.น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าการดำเนินโครงการแต่ละขั้นตอนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานและบุคลากรหลายฝ่าย ไม่ใช่หัวหน้าฝ่ายบริหารจะไปก้าวก่ายแทรกแซงได้นั้น การขายข้าวแบบจีทูจี หลายฝ่ายเตือนแล้วคุณกลับเพิกเฉย จึงต้องร่วมรับผิดชอบเฉพาะส่วนนี้
ฟ้องคดีใหม่หักลบกลบหนี้ไม่ง่าย
5.ข้าวที่เหลือในโกดัง 18.9 ล้านตัน ถูกขายในราคาต่ำกว่าที่ควรจะได้รับ คิดเป็นมูลค่าส่วนต่างนับ 100,000 ล้านบาท แต่ไม่ปรากฏความคืบหน้าของการตรวจสอบ และหาคนรับผิดชอบไม่ได้จนปัจจุบัน คำตอบ คุณต้องยอมรับความจริงว่า ข้าวที่ถูกขายในคลัง มีข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเหลือง ข้าวขึ้นรา รวมทั้งมีนั่งร้านซุกอยู่ในกองข้าว ทำให้เขาต้องขายข้าวเหล่านี้ออกไปราคาถูก มันเป็นบางส่วน หลายส่วนที่เป็นข้าวดีก็ขายออกไปในราคาที่สูง คุณต้องพูดให้ถูกต้อง ส่วนข้าว 10 ปี ที่พวกคุณอ้างขายได้ราคาดี เพราะพวกคุณจัดฉาก (มีการจ้างเอกชนไปแต่งกองใหม่ให้ดูดี) ใครๆ ก็รู้ เพราะมันมีข้าวเหลือไม่มาก 6.เรื่องไม่อาจเข้าถึงความยุติธรรมที่แท้จริงนั้น อย่ามาอ้างประชาชนเลย เขาถูกเอาเปรียบถูกหลอก จากนักการเมืองมาตลอดชีวิต และ 7.บริวาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังออกมามั่วๆ เรื่องหักกับข้าวที่ยังเหลือในคลังนั้น ต้องไปอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดให้ดี
"คุณยิ่งลักษณ์และบริวาร ควรหยุดสร้างความสับสนแบบมั่วๆ ได้แล้ว และควรเคารพคำตัดสินของศาล เคารพกฎหมาย บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไป" นพ.วรงค์กล่าว
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า การขายข้าวค้างสต๊อกในราคาดีเพื่อหักล้างความเสียหายเดิมว่า ข้อเท็จจริงที่กระทรวงการคลังสั่งให้จ่ายและศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งแก้ให้จ่าย 10,028 ล้านบาท ตรงนี้ไม่อาจนำข้อเท็จจริงมารื้อร้องฟ้องใหม่ได้ เพราะไม่ใช่การขอให้พิจารณาคดีใหม่ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 75 ซึ่งหลักเกณฑ์ในการขอพิจารณาคดีใหม่ ต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้ที่อาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนั้น อาจมีคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดี หรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองนั้นใหม่ได้
ดร.ณัฐวุฒิกล่าวว่า การพิจารณาคดีใหม่ ไม่ใช่การอุทธรณ์ซ้ำ หรือการฟ้องซ้ำในประเด็นเดิม ประเด็นจะนำหลักฐานเรื่องยอดการขายข้าวค้างในคลังที่ได้นับแสนล้านบาทไปฟ้องแล้วนำยอดเงินมาใช้ในหักกลบลบหนี้ เพื่อมิให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จ่าย พิจารณาแยกได้ 2 ส่วน
ส่วนที่หนึ่ง หากทนายผู้ร้องได้ยื่นข้อเท็จจริงนี้ไปในคดีดังกล่าวแล้วแต่ศาลไม่รับ โดยวินิจฉัยยกคำร้องระบุว่า เลยขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง ทำให้ข้อเท็จจริงไม่เข้าสู่สำนวนเดิม อาจนำไปสู่การฟ้องในข้อเท็จใหม่ มิใช่ในเรื่องเดิมได้
ส่วนที่สอง ต้องพิจารณาดูว่า ยอดการขายข้าวค้างโกดังที่อ้างจะเป็นหลักฐานใหม่นั้น เป็นพยานหลักฐานใหม่หรือไม่ ที่สามารถนำมาขอรื้อฟื้นคดีได้ตามกฎหมาย เพราะเป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในสำนวนคดีเดิมอยู่แล้ว และศาลได้พิจารณาไปครบถ้วนแล้วในกระบวนการพิจารณาคดีที่ผ่านมา
"ดังนั้นโอกาสที่จะสามารถฟ้องใหม่หรือรื้อฟื้นคดีจำนำข้าวได้สำเร็จนั้น ค่อนข้างจำกัด เว้นแต่จะมีพยานหลักฐานใหม่ที่ชัดเจนและสำคัญอย่างแท้จริง ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในกระบวนการพิจารณาคดี และเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายระบุไว้ทุกประการ" นักกฎหมายมหาชนผู้นี้ระบุ
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และทนายความ โพสต์เฟซบุ๊กโดยสรุประบุว่า การขายข้าวค้างสต๊อกในราคาดีเพื่อหักล้างความเสียหายเดิม เป็นเพียงความพยายามสร้างกระแสทางการเมืองเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจากสาระของคดี ซึ่งคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดถือเป็นที่สุดตามมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ และไม่เข้าเงื่อนไขการรื้อฟื้นคดีตามมาตรา 75.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง

