ฮั้วสว.ทำการเมืองเสื่อม 30พ.ค.ลุ้นเคาะ3ป.ป.ช.

โพลชี้ชัดคดีฮั้ว สว. ทำชาวบ้านไม่เชื่อมั่นระบบการเมือง สภาสูงรอสัญญาณ 8 โมงเช้า ศุกร์ 30 พ.ค. โหวต 3 ป.ป.ช.หรือไม่ คาดไปชี้นิ้วคดีใหญ่ที่ค้างอยู่ “สว.อิสระ” ขวางสุดตัว    อ้างมีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องงดใช้อำนาจ 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ค.2568 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,211 คน   เรื่องประชาชนคิดอย่างไรกับกรณีข่าวฮั้ว สว.   โดยเมื่อถามว่าคิดอย่างไรต่อกระแสข่าวฮั้ว สว.กับพรรคการเมือง พบว่า 56.73% ไม่เชื่อมั่นในระบบการเมืองไทยในปัจจุบัน, 53.34% หากผิดจริง อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย นำผู้กระทำผิดมารับโทษ และ 52.93% ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ สว.และนักการเมืองยิ่งเสื่อมเสีย                   

ถามต่อว่า คิดว่ากรณีฮั้ว สว.เกิดจากสาเหตุใด พบว่า 60.36% ระบบการเลือกตั้ง สว. ความไม่โปร่งใสในกระบวนการขั้นตอน, 59.70% พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน, 57.56% เป็นเกมการเมือง แข่งขันกันระหว่างกลุ่มต่างๆ ทั้งนี้ เมื่อถามว่าคิดว่าความขัดแย้งจากกรณีฮั้ว สว. จะส่งผลต่อความมั่นคงของรัฐบาลหรือไม่ พบว่า 66.15% ส่งผลกระทบ และ 33.85% ไม่ส่งผลกระทบ  

สวนดุสิตโพลยังถามว่า คิดว่าควรแก้ไขปัญหากรณีฮั้ว สว.อย่างไร พบว่า 61.81% เร่งปฏิรูประบบการเลือกตั้ง สว., 55.34% มีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้น โปร่งใสมากขึ้น และ 50.87% รอให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการ  ส่วนเมื่อถามว่ากรณีฮั้ว สว. ประชาชนได้รับผลกระทบอะไรบ้าง พบว่า 57.12% เกิดความไม่ไว้วางใจในสังคม เกิดความขัดแย้งทางความคิด,  54.30% ประชาชนรู้สึกไม่มั่นใจในระบบประชาธิปไตย และ 48.84% ทำให้ประชาชนสนใจติดตามการเมืองมากขึ้น               

วันเดียวกัน ยังมีความเคลื่อนไหวของ สว. โดยเฉพาะการประชุมวันศุกร์ที่ 30 พ.ค. ที่จะมีการประชุมลับเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ รายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใหม่ 3 คน ที่คณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งมีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ได้คัดเลือกและส่งชื่อมาให้ ประกอบด้วย นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ รองประธานศาลฎีกา  อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา อดีตประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ, นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการภาค 2 อดีตอธิบดีสำนักงานคณะกรรมการอัยการ และนายประจวบ ตันตินนท์ ผู้สอบบัญชีอิสระ และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว.กลุ่มอิสระ กล่าวว่า สว.ไม่ควรประชุมเพื่อโหวต ป.ป.ช. และตั้ง กมธ.สอบประวัติกรรมการองค์กรอิสระและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันศุกร์นี้ 30 พ.ค.นี้  ควรชะลอไว้ก่อน เพราะขณะนี้มี สว.หลายคนมีข้อกล่าวหาเรื่องการเข้ามาเป็น สว.ที่กำลังสอบสวนอยู่ รวมถึงก็มี สว.มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ มีข้อพิพาทกันอยู่ การที่ สว.ไปโหวต ป.ป.ช.ชุดใหม่ 3 คน มันเหมาะสมหรือไม่ 

“ยังไม่ได้ยินกระแสข่าวการล็อบบี้หรือส่งสัญญาณอะไร และคงไม่มีใครมาล็อบบี้หรือบอกอะไรกับผมให้ลงคะแนนโหวตอย่างไร เพราะเขาก็รู้ว่าไม่ใช่พวกเขา ผมเป็นพวก สว.อิสระ เขาคงไม่มาบอกอะไร เรื่องนี้คงต้องรอดูตอนช่วงใกล้ๆ ถึงวันโหวตศุกร์นี้” น.ต.วุฒิพงศ์กล่าว

แหล่งข่าว สว.กล่าวว่า การโหวต ป.ป.ช.ใหม่ 3 รายชื่อตอนนี้สัญญาณยังไม่ชัดว่าจะโหวตผ่านทั้ง 3 คนเลยหรือไม่ โดยข้อมูลล่าสุดคืออาจโหวตผ่าน 3 รายชื่อ แม้ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจมี 1 ชื่อมีปัญหา จนอาจไม่ผ่านการโหวตเห็นชอบ เพราะมีข่าวลือว่าบุคคลดังกล่าวมีสายสัมพันธ์กับฝ่ายการเมืองตรงข้ามขั้วสีน้ำเงิน แต่ได้ยินมาว่าเคลียร์กันได้แล้ว ซึ่งจะผ่านทั้งหมดหรือไม่ ต้องรอสัญญาณสุดท้าย ซึ่งในการประชุม สว.วันที่ 29 พ.ค. คงมี สว.บางคนถามข้อมูลนอกรอบกับ สว.ที่เข้าไปเป็น กมธ.สอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมฯ ที่สอบข้อมูลทางลับของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช.ทั้ง 3 คนว่าจากการเรียกทั้ง 3 คนไปสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 1 พ.ค.เป็นอย่างไรบ้าง 

“ความชัดเจนว่าจะโหวตผ่านทั้ง 3 ชื่อหรือไม่  หรือจะผ่านแค่บางชื่อ จะทราบแน่ชัดช่วงเย็นวันที่ 29 พ.ค.ที่ สว.จะประชุม แต่จะชัดมากขึ้นว่าใครผ่าน-ใครไม่ผ่านก็ตอนแปดโมงเช้าวันโหวตศุกร์ 30 พ.ค. ที่จะเป็นสัญญาณสุดท้ายเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา เวลา สว.โหวตเรื่องสำคัญๆ  สัญญาณสุดท้ายจะมาตอนเช้าของวันนั้นๆ”  แหล่งข่าว สว.ให้ข้อมูล

อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าซอยรางน้ำและ สว.สีน้ำเงินต้องการให้โหวต ป.ป.ช.ใหม่โดยเร็ว เพื่อเข้าไปคุมเสียงข้างมากใน ป.ป.ช. ในการพิจารณาคดีสำคัญๆ ทางการเมือง เช่น คดีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร, คดีที่ สว. 92 คนเข้าชื่อกันยื่นคำร้องให้ไต่สวนเอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีสอบสวนการเลือก สว.โดยมิชอบฯ รวมถึงคดีสำคัญทางการเมืองอื่นๆ  เช่น คดีอดีต สส.พรรคก้าวไกล 44 คนร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่ ป.ป.ช. คดี ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. กับพวกรวม 8 คน เรียกรับเงินหรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ และธุรกิจผิดกฎหมายอื่น 18 ประเภท และคดีไต่สวน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. กับพวก เรียกรับผลประโยชน์เว็บพนันออนไลน์ และความผิดฐานฟอกเงิน เป็นต้น.