พท.ดิ้นสู้คดีปู/วรงค์กางหลักฐานมัดทุจริต

"เพื่อไทย" ห่วง "ยิ่งลักษณ์" คดีจำนำข้าว โฆษก พท.ยันมีช่องทางต่อสู้จากการขายข้าวได้ 48 ล้านตัน เป็นหลักฐานใหม่ยังไม่เคยเข้าสู่การพิจารณา "เด็จพี่" อัดขบวนการปล่อยข่าวทำลาย "อิ๊งค์-ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ" หวังจุดไฟโค่นล้มรัฐบาลโดยจับปัญหา ปชช.เป็นตัวประกัน "หมอวรงค์" เปิดสัญญาจีทูจีเก๊ลากไส้ขบวนการขายข้าวราคาถูกให้บริษัทใกล้ชิด พท.  หลายฝ่ายเตือนแล้วแต่ยังปล่อยให้โกง ซัดหยุดมั่วเรื่องข้าว 18 ล้านตัน ส่วนที่โกงไปต้องชดใช้   "เทพไท" ย้อนเจ็บ พท.ไม่มีสิทธิ์โทษรัฐประหาร  มันจบตั้งแต่ดีลลับจัดตั้ง รบ.ข้ามขั้วแล้ว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการโพสต์ภาพร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ  หลังศาลปกครองสูงสุดให้ชดใช้ค่าเสียหายโครงการจำนำข้าวว่า เป็นรูปเก่า

เมื่อถามอีกว่า ตกลงได้เจอกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่ได้เจอ เมื่อถามว่าหลังศาลปกครองมีคำสั่งออกมาได้พูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์บ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “คุยค่ะ คุยอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ก็คุยอยู่แล้ว และก็ให้กำลังใจกันไป”

ขณะที่ นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงจุดยืนของพรรค พท.ในคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าพรรค พท.มีความเป็นห่วงเป็นใยและสงสารท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากหลายท่านทราบดีว่าคดีเรื่องการจำนำข้าวนั้นเป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงของการปฏิวัติรัฐประหาร และเป็นหนึ่งในเหตุผลของการยึดอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในขณะนั้น เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีทีมกฎหมาย มีทนายที่ร่วมต่อสู้คดี แต่เมื่อคดีถึงที่สุด พรรค พท.ก็ต้องยอมรับในคำตัดสิน และอยากใช้ช่องทางกฎหมายเท่าที่เหลืออยู่ต่อสู้ในคดีนี้

 “พรรคเพื่อไทยเป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ขอเรียนว่าหลังจากที่ตัดสินไปแล้ว มีการสอบถามมายังพรรคค่อนข้างเยอะมาก และเราก็ได้ไปพูดคุยกับฝ่ายกฎหมาย พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ขอเรียนว่าคดีนี้ยังมีช่องทางในพอต่อสู้ได้อยู่” นายดนุพรกล่าว

นายดนุพรกล่าวต่อว่า คดีนี้มีการขายข้าวได้  น่าจะเป็นหลักฐานใหม่ที่จะนำไปสู่การขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดใหม่ได้ภายใน 90 วัน ตามมาตรา 75 ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี พ.ศ.2542 คือการขายข้าว 18.9 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิพากษาในคดี เพราะเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นภายหลังการสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ดังนั้น เราจะใช้ช่องทางทางกฎหมายตามมาตรา 75 นี้เป็นช่องทางต่อสู้ต่อไป ซึ่งคดีนี้ผู้นำในการปฏิวัติในขณะนั้นได้มีการใช้มาตรา 44 หลายฉบับ เกี่ยวข้องกับคดีการจำนำข้าว แต่แน่นอนเราก็ต้องต่อสู้กันไปโดยใช้หลักฐานใหม่

นายดนุพรระบุว่า เฟซบุ๊กของ พท.ลงโพสต์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอเรียนว่านโยบายจำนำข้าวนั้นเป็นนโยบายหลักที่ พท.ใช้ในการหาเสียงเมื่อปี 2554 พวกเราชนะการเลือกตั้งส่วนหนึ่งก็มาจากนโยบายนี้ ได้แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรโดยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาสามารถลืมตาอ้าปากได้ เป็นเหตุจำเป็นที่ พท.จะต้องลงโพสต์ชี้แจง พูดถึงข้อเท็จจริงเรื่องของคดีนี้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร

ส่วนหลายท่านที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เปรียบเทียบคดี 112 เป็นการเมืองหรือไม่ ทำไมไม่แสดงความเห็น นายดนุพรกล่าวว่า ในเดือน ก.ค.จะมีการเปิดประชุมสภาอย่างเป็นทางการ และในวันที่ 9 ก.ค. จะมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม ดังนั้น ไม่อยากให้ถกเถียงกันนอกสภาว่าเป็นการเมืองหรือไม่ เมื่อถึงขั้นตอนของการพิจารณากฎหมาย ก็ไปพูดคุยอภิปรายในสภา เราจะหาข้อสรุปได้ในวันนั้น

เมื่อถามว่า มีนักกฎหมายวิเคราะห์ไม่สามารถนำข้าวที่ขายมาชดเชยได้ นายดนุพรกล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล เพียงแต่ว่าเราก็มีช่องทางทางกฎหมายที่เหลืออยู่ โดยใช้มาตรา 75 เราก็พยายามที่สุด ส่วนศาลจะรับหรือไม่รับ ก็เป็นเรื่องที่เราต้องขอความเห็นเป็นธรรมต่อไป  รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน การตำหนิรัฐบาลทำได้ เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีวาระ 4 ปี เหลืออีก 2 ปีก็เลือกตั้งใหม่

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรค พท. กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคประชาชน (ปชน.) แสดงความเห็นใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าต้องขอบคุณแกนนำพรรค ปชน. รวมไปถึงประชาชนคนไทยที่ออกมาแสดงความเห็นใจต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นผู้ถูกกระทำให้ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่ไม่มีใครกล้าออกมาบอกว่าโครงการดังกล่าวไม่ดี พท.และ ปชน.ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยเหมือนกัน มีจุดยืนเดียวกันคือมุ่งคิดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะแสดงความเห็นใจต่อกัน เมื่อเป็นเช่นนี้เกรงว่าต่อไปรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะไม่กล้าออกนโยบายสาธารณะที่ทำเพื่อประชาชนโดยไม่หวังผลกำไร เพราะกลัวจะถูกยึดทรัพย์และมีคดีอาญาติดตัวเหมือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งจะทำให้คนไทยเสียโอกาสในการเพิ่มรายได้และมีชีวิตที่ดีขึ้น

โวยขบวนการจุดไฟล้มรัฐบาล

"จึงขอให้พี่น้องคนไทยทุกคนโปรดเห็นใจและเข้าใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งยกระดับปากท้องประชาชนอย่างจริงจัง ขอให้ประชาชนเป็นพลังให้พรรคการเมืองที่มองประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง และขอให้พรรคการเมืองทุกพรรคที่มาจากการเลือกตั้งอย่าหมดกำลังใจ อย่าหยุดคิดนโยบายเพื่อแก้วิกฤตประเทศชาติให้ประชาชนต่อไป จับมือฝ่าฟันแก้วิกฤตที่จะเกิดขึ้นกับประเทศในวันนี้ไปให้ได้"  นายวรชัยกล่าว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท. กล่าวว่า ขณะนี้มีขบวนการปล่อยข่าวทำลายเสถียรภาพรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่สหราชอาณาจักรและราชรัฐโมนาโก นำสินค้าไทยไปโปรโมต หวังให้ประเทศไทยเป็นสถานที่จัดแข่งฟอร์มูลาวัน เชิญชวนนักท่องเที่ยวนักลงทุน แต่ถูกกล่าวหาไปเที่ยว หลบเลี่ยงไม่อยากตอบคำถามศาลปกครองสูงสุดตัดสินคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฝ่ายตรงข้ามยังโหมใส่ร้ายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะไม่เดินทางไปไต่สวนตามที่ศาลนัดพร้อมวันที่ 13 มิ.ย.  กรณีพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ บ้างก็บอกว่าหลบหนีไปแล้ว เสี้ยมให้พรรคภูมิใจไทย  พรรคเพื่อไทย ประเด็นเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะนำไปสู่การแตกหักของรัฐบาล ยุบสภา หรือทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ไม่ผ่านวาระรับหลักการของสภา

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดี ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ยังไม่ลดละ ร่วมมือกับกลุ่มทุนบางกลุ่ม การข่าวที่ได้รับมามีความพยายามปลุกระดมพี่น้องชาวสวนปาล์มยางพาราทางภาคใต้ และระดมกลุ่มเกษตรกรให้มาร่วมชุมนุมโค่นรัฐบาล นำประเด็นชั้น 14 ของนายทักษิณ คดีจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประเด็นการทำงานของ น.ส.แพทองธาร จากคนละเรื่องมามัดรวมใส่ร้ายให้เป็นเรื่องเดียวกัน พวกนี้ต้องการโค่นรัฐบาลทางลัด เอาทุกประเด็นมามัดรวม จุดประเด็นเติมเชื้อไฟทางการเมือง

 “เชื่อว่าการเมืองไม่มีทางตัน ยังมีทางออกเสมอ นักการเมืองต้องยึดประโยชน์ของบ้านเมือง หากเสนอแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาประเทศ เรายินดีรับฟัง แต่ถ้าช่วยไม่ได้ ควรอยู่เฉยๆ อย่าสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ปล่อยข่าวปลุกระดมมาทำลายล้างรัฐบาล แล้วจับปัญหาของประชาชนเป็นตัวประกัน เพียงหวังตอบสนองเป้าประสงค์ทางการเมืองของตัวเอง” นายพร้อมพงศ์กล่าว

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ยิ่งลักษณ์หรือประชาชนผู้จ่ายภาษีใครกันแน่ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอขอบคุณท่านอัยการ ที่เป็นเจ้าของสำนวนคดีจำนำข้าว ได้เห็นนักการเมืองและทีมทนายความ พยายามดิ้นรน แถ เพื่อบิดเบือนความจริง ได้ส่งรายละเอียดข้อมูลการทุจริตจีทูจีมาให้ผม ขอเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ ขบวนการโกง ตามที่ทราบช่วงจำนำข้าว ข้าวสารท้องตลาดราคาสูงขึ้น เพราะรัฐบาลจะเป็นผู้ผูกขาดตลาดข้าวสาร มีขบวนการจีทูจีเก๊ เพื่อขายข้าวสารราคาถูก ให้กับบริษัทใกล้ชิดพรรคเพื่อไทย

เตือนแล้วยิ่งลักษณ์ปล่อยให้โกง

การขายรอบแรก 4 สัญญา สัญญาที่ 1 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2554 กับบริษัท GSSG จำนวน 2.195 ล้านตัน ข้าวทุกชนิดเฉลี่ยตันละ 10,000 บาท, สัญญาที่ 2 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2554 กับบริษัท GSSG จำนวน 2 ล้านตัน ข้าวขาว 5% ตันละ 16,950 บาท, สัญญาที่ 3 ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2555 กับบริษัท GSSG จำนวน 2.3 ล้านตัน ข้าวขาว 5% ตันละ 13,860 บาท,  สัญญาที่ 4 ลงวันที่ 6 กันยายน 2555 กับบริษัท HINAN grain and oil จำนวน 65,000 ตัน ปลายข้าวเหนียวตันละ 13,800 บาท รวมทั้งสิ้น 4 สัญญา 6.5 ล้านตัน เฉพาะการทุจริต 4 สัญญานี้ ศาลปกครองพิพากษาแล้วว่า สร้างความเสียหาย 20,057 ล้านบาท

ถ้าจำกันได้ ช่วงก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายออกมาเตือน และวันที่ 9 ตุลาคม 2555 น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังออกมาพูดพร้อมกับนายบุญทรงว่าเห็นสัญญา (พูดแบบผิดไปถูกๆ) เพื่อปกป้องการทุจริตครั้งนี้ ที่เลวร้าย เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องรู้ หลังจากที่พวกเราอภิปรายเรื่องการทุจริตจีทูจี โครงการนี้ควรต้องยุติ ตั้งแต่มีการอภิปราย (26 พ.ย.2555) แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มิได้ยำเกรง ยังมีการขายจีทูจีต่อเนื่องไปอีกคือ สัญญาที่ 5 ลงวันที่ 9 ม.ค.56 ทำสัญญาขายข้าว G to G แบบทุจริต รวม 3 ล้านตัน ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2554/55 และ 2555 ตันละ 10,500 บาท ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2555/56 ตันละ 12,000 บาท, สัญญาที่ 6 ลงวันที่ 11 ม.ค.56 ทำสัญญาขายข้าว G to G แบบทุจริตรวม 2 ล้านตัน ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2554/55 และ 2555 ตันละ 10,500 บาท ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2555/56 ตันละ 12,400 บาท, สัญญาที่ 7 ลงวันที่ 9 เม.ย.56 ทำสัญญาขายข้าว G to G แบบทุจริต รวม 4 ล้านตัน ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2549/50-2552/53 ตันละ 9,000 บาท ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2554/55 และ 2555 ตันละ 10,400 บาทข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2555/56 ตันละ 12,000 บาท, สัญญาที่ 8 ลงวันที่ 26 มิ.ย.56 ทำสัญญาขายข้าว G to G แบบทุจริต รวม 5 ล้านตัน ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2554/55 และ 2555 ตันละ 9,000 บาท ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2555/56 ฤดูการผลิตที่ 1 และ 2 ตันละ 9,500 บาท

"สิ่งที่น่าสังเกต การขายจีทูจี สัญญาที่ 5 ถึง 8 ป.ป.ช.ทำไมถึงยังไม่มีการดำเนินคดี และให้สังเกต สัญญาจีทูจีสัญญาที่ 8 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2556 หลังจากนั้น วันที่ 30 มิถุนายน 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงปรับนายบุญทรงออกจากรัฐมนตรีพาณิชย์ สิ่งที่ต้องถามยิ่งลักษณ์ คุณมีเจตนาปล่อยให้บุญทรงโกงให้เรียบร้อยก่อนหรือไม่ ทำไมจึงปล่อยให้โกงอีก 4 สัญญา 14 ล้านตัน หลังจากจบสัญญาสุดท้าย 26 มิถุนายน 2556 คุณจึงปรับนายบุญทรงออก ในวันที่ 30 เดือนเดียวกัน แสดงว่าคุณจงใจปล่อยให้โกงใช่หรือไม่?"

                    นพ.วรงค์ระบุอีกว่า สิ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติม วันที่ 30 เมษายน 2555 หนังสือเตือนจาก ป.ป.ช. มีหนังสือถึงนายกฯ บางส่วนระบุว่า การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก โดยยกระดับราคาให้สูงกว่าระดับราคาตลาดอย่างมาก โดยราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า ที่ความชื้น 15% ตันละ 15,000 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิ ที่ความชื้น 15% ราคาตันละ 20,000 บาท ข้าวเปลือก 1 ตัน สีเป็นข้าวสารได้ประมาณ 650 กิโลกรัม หากคิดเป็นข้าวสาร 1 ตัน จะมีต้นทุนวัตถุดิบที่เป็นข้าวเปลือก มูลค่า 23,077 บาท และเมื่อรวมกับค่าสีแปรสภาพ ค่าขนส่งอีกตันละ 1,500 บาท รวมเป็นต้นทุนต่อตันข้าวสาร เท่ากับ 24,577 บาท นี่คือความจริงที่ยิ่งลักษณ์จะต้องรับรู้ คุณจะได้รู้ตัวว่า ใครกันแน่ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม  ระหว่างคุณไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือประชาชนเจ้าของภาษี เป็นผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ดีลลับไม่มีสิทธิ์โทษรัฐประหาร

                    นพ.วรงค์โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งว่า พท.พยายามดิ้น หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้ค่าเสียหาย 10,028 ล้านบาท ที่เกิดจากการทุจริตจีทูจี อ้างว่ามีหลักฐานใหม่ ที่สามารถยื่นต่อศาลปกครอง พิจารณาคดีขึ้นใหม่ โดยอ้างถึงข้าวที่ขายได้ 18 ล้านตันเศษ สามารถนำมาชดใช้หนี้ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอถาม พท. ถ้าคุณมีส้มสองเข่ง เข่งหนึ่งถูกลูกน้องเอาไปแอบขาย ย่อมมีค่าเสียหายที่ลูกน้องไปแอบขาย คุณมีสิทธิที่จะดำเนินคดีและเรียกค่าเสียหาย จากเข่งที่ลูกน้องโกง ต่อมาลูกน้องคุณบอกส้มอีกเข่งถ้าขายแล้ว จะได้เอาเงินมาชดใช้ค่าเสียหาย ที่เขาโกงไปคุณจะยอมไหม ส้มเข่งที่เหลือเมื่อขายได้ก็ต้องเอาไปใช้หนี้ต้นทุนที่ลงทุน ส่วนที่เขาโกงก็ต้องให้ชดใช้ การขายข้าวจีทูจี ที่มีการโกง นำไปสู่การเสียหาย คุณก็ต้องชดใช้ส่วนที่มีการโกง ส่วนข้าวที่เหลือเมื่อขายได้ คุณก็ต้องไปใช้หนี้เงินที่กู้มาลงทุน (ต้นทุน) ที่กู้มาซื้อข้าวเปลือก ตรรกะง่ายๆ ทำไมไม่ยอมเข้าใจ สงสัยหน้ามืด คิดจะตีรวน โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง

                    "ความจริงแล้ว ข้อมูลใหม่ที่กระทรวงการคลัง ควรจะนำไปร้องศาลปกครอง คือหลักฐานการระบายข้าวแบบจีทูจีอีก 14 ล้านตัน ก่อนที่จะปรับนายบุญทรงออก ในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 อันนี้คือหลักฐานการทุจริตอีก 4 สัญญา ที่ใหม่จริงๆ และน่าจะมีอะไรผิดปกติ เรื่องจึงเงียบไป และศาลยังไม่ได้พิจารณา พรรคเพื่อไทยควรหยุดมั่วได้แล้ว ระบอบประชาธิปไตย ควรเคารพคำตัดสินของศาล ที่สำคัญคือ อย่าเอาเสียงดังมามั่ว ถ้ามีเหตุผล ก็พอฟังได้ แต่ครั้งนี้เด็ก ป.4 ยังรู้เลยว่าพวกคุณตีรวนแบบมั่วๆ" นพ.วรงค์ระบุ

                    นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หยุดอ้างรัฐประหาร เล่นงานพรรคเพื่อไทย คนในระบอบทักษิณหลายคน แสดงตัว โผล่หน้า แสดงความเห็นในลักษณะเห็นอกเห็นใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยบอกว่าไม่ได้ทำผิดบ้าง พยายามโยนความผิดว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจากคณะรัฐประหาร  ซึ่งความจริงเรื่องนี้ได้จบสิ้นไปแล้ว ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยกระโดดข้ามขั้ว ตระบัดสัตย์จับมือตั้งรัฐบาลกับคณะรัฐประหาร จึงไม่มีสิทธิ์จะพูดใส่ร้ายหรือโจมตีคณะรัฐประหาร ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล  พรรคเพื่อไทยต่างหากที่จะตอบสังคม เรื่องจุดยืนสมัยเป็นพรรคฝ่ายค้าน ประกาศจะคิดบัญชีกับรัฐบาลคณะรัฐประหาร เรื่องเหมืองทองอัคราบ้าง เรื่องเรือดำน้ำบ้าง เรื่องเงินกู้บ้าง ฯลฯ

                    "หากว่าพรรคเพื่อไทยเห็นว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาล คสช. ถ้าคิดจะเอาคืน ก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่อาจเพราะดีลับทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของนายทักษิณ สูงกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของการได้กลับมาประเทศไทยของนายทักษิณ จึงทำให้เงื่อนไขต่างๆ ล้มเลิกไป หรือพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนแปลงจุดยืนไป ก็เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องตอบกับสังคม แต่ถ้าหากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถที่จะตอบคำถาม  ก็ไม่ควรออกมาตีโพยตีพาย เรื่องคดีจำนำข้าว และไม่ควรโยนความผิดให้กับใคร จะมาเคลื่อนไหว เรียกความนิยมและความเห็นใจ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดมารยาทการเข้าร่วมรัฐบาลตามดีลลับที่ตกลงกันไว้" นายเทพไทระบุ.