ฮือ!เซฟแพทยสภา หมอทั่วปท.หนุนมติฟันชั้น14/หอบหลักฐานยื่นศาลมัดแม้ว

ศึกชั้น 14 ระอุ! ฮือทั้งประเทศให้กำลังใจ "แพทยสภา" แพทยสมาคมฯ-อาจารย์หมอศิริราช-รามาฯ-จุฬาฯ-เชียงใหม่ ร่อนแถลงการณ์หนุนมติ 8 พ.ค.ฟัน 3 หมอรักษาทักษิณ "วิรังรอง" เปิดแคมเปญล่าชื่อประชาชนร่วมเซฟแพทยสภา "ปลัดคลัง" ขอรอฟัง "พิชัย" แจงปมทวง "ยิ่งลักษณ์" ชดใช้หมื่นล้าน ยันสิ้นเดือนนี้รู้เรื่อง

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนถึงเส้นตายที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา  ต้องมีความเห็นว่าจะวีโตมติแพทยสภาที่ลงโทษแพทย์ 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ภายในไม่เกินวันศุกร์ที่ 30 พ.ค. พบว่ามีกลุ่มแพทย์หลายโรงพยาบาลได้ร่วมกันลงชื่อออกแถลงการณ์สนับสนุนแพทยสภา ในนามศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์หลายมหาวิทยาลัย

รวมถึงแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกแถลงการณ์สนับสนุนมติแพทยสภา

https://www.mat-thailand.org/ โดยระบุว่า "แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ สนับสนุนให้สมาชิกประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้ถูกต้องตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม และสนับสนุนมติแพทยสภาในการควบคุมการประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ให้ถูกต้องตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 และขอเป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ของคณะผู้บริหารแพทยสภา คณะอนุกรรมการทุกคณะและเจ้าหน้าที่ทุกตำแหน่ง ที่ทำหน้าที่ในการหาข้อเท็จจริงด้านการแพทย์และกฎหมายทางการแพทย์ ยืนหยัดด้วยหลักธรรมาภิบาล โปร่งใสปราศจากการแทรกแซงใดๆ จนได้รับการพิจารณาเป็นมติแพทยสภาที่มีความยุติธรรมต่อแพทย์และประชาชน"

ทั้งนี้ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2464 โดยที่ผ่านมามีแพทย์ชั้นผู้ใหญ่ในวงการสาธารณสุขเป็นกรรมการแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยมากมาย เช่น ศาสตราจารย์เกียรติคุณแพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภาคนปัจจุบัน, ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา และประธานอนุกรรมการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รักษานายทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นอดีตนายกแพทยสมาคมฯ ด้วย

วันเดียวกัน ศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชรุ่น 82-รามาธิบดีรุ่น 7 (พ.ศ.2514-2519) รวม 73 คน ได้ออกแถลงการณ์ให้กำลังใจแพทยสภาที่มีมติเสนอลงโทษแพทย์ 3 คน ที่ให้การรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีใจความว่า

"มติของแพทยสภา : การพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อ 8 พ.ค.2568 ได้มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ท่าน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง พวกเราสมาชิกแพทยสภาขอให้กำลังใจแพทยสภา ในการยืนยันมติเดิมของแพทยสภา ในวันที่ 8 พ.ค.2568 โดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นกิจที่หนึ่ง และจะไม่ยินยอมให้อำนาจอื่นที่ไม่มีจริยธรรมมายับยั้ง หรือแสวงหาประโยชน์ส่วนตนเด็ดขาด"

สำหรับรายชื่อแพทย์ที่ร่วมลงชื่อ 73 คน อาทิ พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์, พญ.อภิญญา กีรติบุตร, นพ.ประภาพ ยุทธวิสุทธิ, นพ.ธราธิป โคละทัต, พญ.มุทิตา ตระกูลทิวากร, นพ.ห้องสิน ตระกูลทิวากร, นพ.เทพกร สาธิตการมณี, พลตรี นพ.พีระพัฒน์ วิริยธรรมภูมิ, พลตรี นพ.ดิตถ์ สิงหเสนี, พญ.สุชาดา กัมปนาทแสนยากร นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแพทย์เชียงใหม่ รุ่น 15 ออกแถลงการณ์ว่า "ขอชื่นชมคณะกรรมการแพทยสภาที่ได้พิจารณาคดีดังกล่าวด้วยความเป็นธรรม และลงมติด้วยความกล้าหาญให้เกิดความเป็นธรรม ภายใต้กรอบของจริยธรรมและจรรยาบรรณของแพทย์ให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคมไทย ในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ มีความเป็นไปได้ที่ รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษอาจใช้สิทธิ์วีโตไม่เห็นด้วยกับมติการลงโทษดังกล่าว

ถ้าเป็นตามนั้นจะต้องมีการลงมติอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ต้องการเสียงถึง 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมดจึงจะยืนยันตามมติเดิม ในการลงคะแนนครั้งนี้จำเป็นต้องได้เสียงจากกรรมการอย่างน้อย 47 คนขึ้นไป จากกรรมการทั้งหมด 70 คน เพื่อยืนยันตามมติเดิม เนื่องจากมีข่าวลือว่ามีการล็อบบี้คณะกรรมการแพทยสภาบางคน

จึงทำให้เกิดความวิตกจากแพทย์และคนทั่วไปที่ติดตามเรื่องนี้ ถ้ามติครั้งนี้ออกมาค้านกับมติเดิม อาจทำให้เกิดความแตกแยกในวงการแพทย์ และเกียรติยศศักดิ์ศรีของสภาวิชาชีพ พวกเราแพทย์เชียงใหม่รุ่น 15 ขอเป็นกำลังใจให้กรรมการแพทยสภายืนยันตามมติเดิม อย่ายอมให้อิทธิพลหรือผลประโยชน์ทางการเมืองมาเบี่ยงเบนมติเดิมของแพทยสภา ด้วยความเชื่อมั่นในเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของสภาวิชาชีพ"

กลุ่มแพทย์จุฬารุ่น 24 และรุ่น 26 ออกแถลงการณ์ว่า "พวกเราขอสนับสนุนมติแพทยสภาในวันที่ 8 พ.ค.2568 ให้ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เอื้อประโยชน์แก่นักโทษที่มีอิทธิพลคนหนึ่ง ให้มีอภิสิทธิ์เหนือประชาชนทั่วไป แบบสองมาตรฐาน โดยรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ตลอดเวลา 6 เดือน โดยไม่มีเหตุผลเพียงพอจะอธิบายการเจ็บป่วยอันสมควร ด้วยการพักผ่อนอย่างสบายในห้อง VIP ชั้น 14 รพ.ตำรวจ แทนการจองจำอยู่ในเรือนจำตามคำพิพากษาศาลตามกระบวนความยุติธรรมที่ได้กระทำความผิด ตามที่ศาลตัดสินคดีเสร็จสิ้นให้จำคุกแล้ว

และขอสนับสนุนการตัดสินของแพทยสภาที่ยืนหยัดต่อความยุติธรรม จริยธรรมแห่งวิชาชีพแพทย์ฃต่อไปทุกกรณีด้วยความอิสระ ปราศจากการแทรกแซงใดๆ เป็นตัวอย่างของสถาบันที่มีเกียรติต่อสังคม"

ด้าน นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ และนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 30 ได้เปิดแคมเปญผ่านระบบกูเกิลฟอร์ม https://forms.gle/MB6ktJwhVoL2s96EA เชิญประชาชนทั่วไปร่วมลงชื่อชื่นชม สนับสนุน และให้กำลังใจคณะกรรมการแพทยสภา ในการยืนยันมติเดิมของแพทยสภาในวันที่ 8 พ.ค.2568 เพื่อผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม จริยธรรม และความถูกต้อง รักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของแพทย์ไทย

นายสมชาย แสวงการ อดีตประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ขอคนไทยร่วมกันส่งกำลังใจให้ ศ.นพ.ประสิทธิ วัฒนาภา และคณะกรรมการแพทยสภาทุกท่านในการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อรักษาสถาบันแพทยสภา จริยธรรมที่ดีงาม ในการทำหน้าที่ตัวแทนแพทย์ทั่วประเทศ 80,000 คน เดินตามรอยพระชนก พระบิดาทางการแพทย์ และพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงฝากไว้ให้แพทย์ทุกคนรักษาจรรยาบรรณ ทำหน้าที่เพื่อดูแลชีวิตประชาชนไทยครับ ศรัทธาและเชื่อมั่นในจรรยาบรรณคุณความดีของแพทย์ทุกท่าน"

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำลายความน่าเชื่อถือแพทยสภาหรือไม่" โดยระบุว่า หลายคนสงสัยท่าทีของนายทักษิณต่อแพทยสภา ซึ่งระบุว่า "แพทยสภาบางคนด่าผม อยู่ในไลน์กลุ่ม แล้วแพทยสภาอีกคนหนึ่ง ก็ตอบเป็นสติกเกอร์ไปว่า YES ซึ่งยังไม่ทันพิจารณาเลย อย่างนี้เรียกว่าจริยธรรมมีปัญหาซะเอง" ตนเชื่อว่านี่เป็นขบวนการที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของแพทยสภา ทั้งนี้ คาดเดาได้เลยว่านายสมศักดิ์น่าจะยับยั้งมติแพทยสภา

ขณะที่ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์สมาคมชี้แจงว่า กรณีที่สื่อลงข่าวว่าตนเองให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้ที่ต้องด่า จริยธรรมแพทยสภาไม่มี เพราะลืมนกหวีดไว้ข้างหลังตอนแถลงข่าว” วันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าไม่เคยให้ถ้อยคำดังกล่าวกับสื่อมวลขน จึงขอให้หยุดการแพร่ภาพและข้อความดังกล่าว และขอให้ลบออกไปจากสื่อทุกช่องทางนับแต่บัดนี้ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายอีกต่อไป ส่วนกรณีข่าวดังกล่าวอาจทำให้แพทยสภาและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบ สมาคมทนายความฯ ขอกราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย

ที่รัฐสภา นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงไทม์ไลน์ขั้นตอนการเรียกค่าเสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ชดใช้คดีจำนำข้าวกว่า 10,028  ล้านบาท ว่า ต้องรอทีมกฎหมายสรุปให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฟังก่อน แล้วตนจะเล่าให้ฟัง ทั้งนี้ รอให้ รมว.การคลังพูดก่อน

เมื่อถามว่า จะมีความชัดเจนเมื่อเมื่อไหร่ ภายในเดือน มิ.ย.หรือไม่ นายลวรณกล่าวว่า เร็วๆ นี้ ภายในสิ้นเดือนนี้ต้องรู้เรื่องแล้ว ส่วนวงเงินเป็นยอด 10,028 ล้านบาท หรือจะปรับลดเพิ่มเติมนั้น ต้องเป็นไปตามคำพิพากษา และให้หักรายการใดออกไปได้บ้าง ซึ่งเราต้องดู

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องมีการตั้งคณะกรรมการมาดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ นายลวรณกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เวลาเราใช้กฎหมายความรับผิดและการละเมิดมีขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องดำเนินการอะไร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.