ภท.แจงกกต.ป้องลูกเนวิน ชงญัตติขวาง‘สภาน้ำเงิน’

ล็อต 2 คดีฮั้วยกโขยงเข้าแจง กกต. "นภินทร" โดดป้องลูกชายเนวิน ไม่เอี่ยวเส้นทางเงิน ขณะที่ สว.สำรองขวางเปลี่ยนคณะสอบคดีฮั้ว “อนุทิน” สวนหมัดจี้ดีเอสไอออกหมายจับ  “ณฐพร” อัดอย่าปล่อยคนทำผิด กม.ลอยนวลหนีคดีเพ่นพ่าน ขณะที่อัยการเลื่อนสั่งฟ้อง ซัดกลับ “มท.1” เอาเวลาไปหาพยานหลักฐาน ด้านสภาระบุ สว.สีน้ำเงินเล่นเกมเร็วลุยโหวตองค์กรอิสระ อ้าง รธน.ให้อำนาจเต็ม ขณะที่ "นันทนา” ขอโทษ  ปชช. พับล่ารายชื่อ งัดแผนสองชงเสนอด่วนด้วยวาจา

เมื่อวันพุธ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 สำนักงาน กกต. ได้เชิญนักการเมือง 10 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา กรณีอาจเข้าไปมีส่วนร่วมกับขบวนการฮั้วเลือก  สว. ซึ่งเป็นการเรียกล็อตที่ 2 โดยในวันนี้ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมายังสำนักงาน กกต. ในเวลา 09.00 น. เข้ารับทราบข้อกล่าวหา

นายนภินทรกล่าวว่า วันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา โดยนำพยานหลักฐานเข้ามาต่อสู้ การปฏิบัติตัวที่ผ่านมาไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง เส้นทางทางการเงินก็ไม่เคยมี ไม่ว่าอะไร เชื่อว่าเป็นเรื่องเท็จทั้งนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทั้ง 10 คนที่ถูกเรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาล็อตที่ 2 แต่ได้คุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้วเมื่อวานนี้หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี  ซึ่งนายอนุทินได้ให้กำลังใจ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของทุกหน่วยงาน

เมื่อถามถึงเส้นทางการเงินที่เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น นายนภินทรกล่าวว่า คนอื่นตนไม่ทราบ เชื่อว่าเลขาธิการพรรคก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยตนแจ้งด้วยว่า ขอจัดเตรียมข้อมูลและให้การอย่างละเอียดภายใน 4-5 วันทำการนี้

ด้านนายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีต สส.สุโขทัย และปัจจุบันคือที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย  (อนุทิน ) กล่าวว่า ส่วนตัวก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนอะไร รวมๆ ใช้เวลารับทราบข้อกล่าวหาและให้ข้อมูลแค่ 15 นาที ดังนั้นจึงถือว่างงและสงสัยว่าเราโดนเรื่องอะไร

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าผู้ที่ถูกเรียกตัวมาวันนี้หลักๆ เป็นแม่เหล็กที่อยู่ใกล้ตัวนายอนุทิน นายสมเจตน์กล่าวว่า ไม่รู้เลยจริงๆ ส่วนเรื่องการไปรับประทานอาหารที่โรงแรมพูลแมนนั้น ไม่น่าจะเป็นข้อกล่าวหานั้น เพราะนั่นเป็นโรงแรมใครก็ไปได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมไหนเราก็สามารถไปรับประทานอาหารได้

ขณะที่ นายวงศกร ชนะกิจ อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย และเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที  ซึ่งตนก็ยังคงมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และยินดีที่จะมาให้ปากคำอีกถ้าหากคณะกรรมการสอบสวนยังมีข้อสงสัย

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะ สว.สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พร้อมด้วยนายแทนคุณ จิตต์อิสระ  อดีต สส.และอดีตผู้สมัคร สว. เข้ายื่นร้องต่อ กกต. เพื่อคัดค้านคำร้องของ สว.ที่ขอให้ กกต.สั่งทบทวนการทำงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 ที่มี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก  เป็นประธาน ที่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในกรณีการสอบสวนคดีฮั้วเลือก สว.

'หนู' ล่าณฐพร

ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ  และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเป็น 1 ใน 14 ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงินคดีสหกรณ์คลองจั่น  ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) ได้ประสานกรมการปกครองในการติดตามตัวไปฟ้องศาลหรือไม่ ว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ ว่ามีการหลบซ่อนอยู่ที่ไหน แต่ต้องรอให้ดีเอสไอออกหมายจับก่อน เพราะขณะนี้ออกแค่หมายเรียกแล้ว เพราะหากออกหมายจับทุกองค์กรก็ต้องชี้เบาะแส ให้การร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องหา ที่ต้องเร่ง เพราะอายุความเหลือนิดเดียว

นายอนุทินกล่าวว่า หากดีเอสไอออกหมายเรียกไปแล้วไม่มา ต้องออกหมายจับ เพราะอัยการประสานดีเอสไอให้ออกหมายเรียกตั้งแต่เดือน ก.พ.68 และเวลาล่วงเลยมาหลายเดือน ผู้ต้องหาปรากฏตัวตามที่ต่างๆ และแจ้งกำหนดการล่วงหน้าว่าจะไปไหน ตนว่าผู้มีหน้าที่จับกุมต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมปล่อยให้ทอดมาถึงทุกวันนี้จนใกล้หมดอายุความ ฉะนั้นต้องเร่ง เพราะผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนีไปไหน

 เมื่อถามว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีจะดึงเรื่องหรือไม่ เพราะดำเนินการมา 8 ปียังไม่สามารถฟ้องศาลได้ นายอนุทินกล่าวว่า จากที่กรมการปกครองไปตรวจสอบประวัติอาชญากร ก็มีหลายคดี โดยใช้ชื่อเก่า ซึ่งลักษณะก็คล้ายแบบนี้ ทอดและดึงเวลาให้หมดอายุความ แต่เที่ยวนี้คงลำบาก เพราะปรากฏตัวอย่างชัดเจน และมีหนังสือของอัยการให้เร่งรัดจับกุม ซึ่งหากไม่จับกุมก็เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และจะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐดูไม่ดี ดังนั้นต้องช่วยกัน ซึ่งมหาดไทยก็ต้องช่วยดีเอสไอ เพราะเราเกี่ยวข้องความมั่นคงในประเทศอยู่แล้ว จะให้คนผิดกฎหมายลอยนวลหนีคดีเดินไปเดินมาไม่ได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ ระบุว่า เจอนายอนุทินก็ยังไม่เห็นพูดเรื่องนี้ ที่ผ่านมายังพูดคุยกันดี และเป็นเรื่องของดีเอสไอ ตนแค่เข้าไปกำกับดูแล ไม่ถึงขนาดเข้าไปสั่งการอะไรได้ โดยการกระทำของดีเอสไอเขามีผู้บังคับบัญชาที่ชัดเจน แต่ตนไม่เข้าไปแทรกแซง และปล่อยให้เขาทำงาน ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะตนคุมเรื่องนโยบาย 

เลื่อนสั่งฟ้อง

วันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายณฐพร โตประยูร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน เดินทางมารายงานตัวกับพนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เพื่อขอเลื่อนการสั่งฟ้องคดี ในคดีเกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยระบุว่า ดีเอสไอทำได้ถูกต้องแล้วที่ไม่ออกหมายเรียกในวันที่ 2 เม.ย. ตนทำหนังสือมาถึงดีเอสไอแล้วว่าคดีนี้เป็นคดีหลักที่ศาลยกฟ้อง และทุกคดียังรอคดีหลักอยู่ เมื่อสั่งฟ้องจึงต้องจำหน่ายคดีอยู่ดี ตนจึงมองว่าควรที่จะชะลอคดีออกไปก่อน และตนยังแปลกใจที่อัยการทำหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้งๆ ที่อายุความคดีนี้เหลืออีก 4 ปี ไม่ใช่หมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย.

นายณฐพรกล่าวอีกว่า อยากฝากขอบคุณไปถึงพรรคภูมิใจไทยที่ให้ความสำคัญกับตนจนออกมากันทั้งพรรค โดยเฉพาะนายอนุทิน ที่บอกว่าถ้าดีเอสไอจับตัวตนไม่ได้ก็จะให้กรมการปกครองจับตัวแทน การกล่าวแบบนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทตนด้วย เพราะในขณะนี้ตนไม่ได้ถูกหมายจับใดๆ ทั้งสิ้น แต่ตนจะไม่ฟ้องนายอนุทินกลับอย่างแน่นอน เพราะมองว่านายอนุทินเป็นคนอ่อนด้อยทางสติปัญญา และไม่อยากเอาคดีแบบนี้เข้าไปให้รกศาลด้วย 

เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่หรือไม่ นายณฐพรกล่าวว่า ไม่คาดเดาอะไรทั้งนั้น และจริงๆ คดีนี้มีผู้ต้องหา 14 คน แต่ออกหมายเรียกแค่ 2 คน จึงไม่ได้คิดอะไร เพราะถือว่าอัยการและกรมสอบสวนคดีพิเศษทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว และยืนยันว่าการที่ตนเป็นนักกฎหมายนั้นจะไม่มีทางหนีคดีโดยเด็ดขาด และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์อย่างหนึ่งว่า รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยก็กำหนดไว้ว่าให้ประชาชนร่วมกันปราบปรามทุจริต แต่พอมีคนออกมาร้องเรื่องทุจริตก็มีการออกมาฟ้องปิดปากแบบนี้

ต่อมาเวลา 13.45 น. หลังเข้าพบพนักงานอัยการเป็นเวลาเพียง 20 นาที นายณฐพรระบุว่า  วันนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีความเมตตา และมองว่ามีเหตุผลจำเป็น จึงอนุญาตเลื่อนนัดส่งตัวฟ้องศาลเป็นวันที่ 5 มิ.ย.68 เวลา 09.00 น. ส่วนทางกรมสอบสวนคดีพิเศษก็จะส่งหัวหน้าพนักงานสอบสวนมา ซึ่งตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยถูกต้อง วันที่ 5 มิ.ย.นี้ก็จะมาพบพนักงานอัยการและพร้อมจะยื่นประกันตัว

 “ขอเตือนพรรคภูมิใจไทยว่า ให้เอาเวลาไปหาพยานหลักฐานมาชี้แจงดีกว่ามาทำแบบนี้ มันไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ต่อให้เอาผมขังคุก ก็มีคนมาร้องต่อได้ ส่วนหากจะฟ้องหมิ่นประมาท ผมพร้อม เพราะเป็นข้อหาเดียวกับที่พรรคก้าวไกลฟ้องผมแล้วศาลยกฟ้อง ส่วนวันที่ 5 นี้ที่จะมีการส่งฟ้องต่อศาล ผมก็ไม่หวั่นใจ เพราะคดีผมเนื้อหาเบาสุดและมีเหตุผล ส่วนเรื่องอายุความได้สอบถามแล้ว มีบางส่วนที่จะหมดอายุความ   หากเป็นเช่นนั้นจริงก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ” นายณฐพรระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ดีเอสไอได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีนี้ โดยมีการเผยแพร่ข่าวสารในสื่อสาธารณะ ระบุช่วงหนึ่งว่า ล่าสุด วันพุธที่ 28 พ.ค.2568 เวลาประมาณ 13.30 น. นายณฐพรได้เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ตามนัดหมาย และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นำตัวนายณฐพร และนายรัฐสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่พนักงานอัยการสั่งให้ติดตามตัวมาฟ้อง ไปส่งมอบให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแล้ว

 สว.เดินหน้าโหวต

ที่รัฐสภา นายวุฒิชาติ​ กัลยาณมิตร​ สว. และเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา​ (วิปวุฒิสภา)​ กล่าวถึงกรณีความพยายามคัดค้านไม่ให้สมาชิกวุฒิสภาเดินหน้าพิจารณาบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระว่า ต้องดูการทำงานว่ากฎหมายให้อำนาจ หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือเลื่อนวาระได้หรือไม่​ และเมื่ออ่านรัฐธรรมนูญแล้วพบว่าวุฒิสภายังมีอำนาจเต็มในการเดินหน้าพิจารณา

เมื่อถามถึงกรณีที่​ นพ.เปรมศักดิ์​ เพียยุระ​ สว. ออกมาแฉว่า​วิปวุฒิสภาเตรียมลักไก่ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.​และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายวุฒิชาติกล่าวว่า ไม่ใช่การลักไก่ แต่เป็นการทำงานที่ถูกต้องตามระเบียบ ทุกอย่างวาระการประชุมออกไปหมดแล้ว และแนวทางเหล่านี้เราเคยปฏิบัติมาแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำ  

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวิปวุฒิสภาว่า วิปวุฒิสภาได้อนุมัติญัตติที่นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. ที่เสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาชะลอการพิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระออกไป ทั้งนี้ จะบรรจุวาระในวันที่ 29 พ.ค.หรือ 30 พ.ค.นั้น  ขณะนี้ยังรอให้นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาพิจารณา

 “วิปวุฒิสภาบรรจุให้แน่นอน และต้องใช้การลงมติชี้ขาดว่าจะให้ชะลอหรือไม่ หากที่ประชุมมีมติให้ชะลอ ทุกอย่างต้องชะลอออกไป ส่วนการอภิปรายนั้นจะไม่ได้จำกัดเวลา และเปิดโอกาสให้เต็มที่” นายพิสิษฐ์กล่าว

เมื่อถามว่า วิปวุฒิสภาได้พิจารณาในแง่กฎหมายถึงความเป็นไปได้จะชะลอกระบวนการได้หรือไม่ นายพิสิษฐ์กล่าวว่า ตามความเห็นส่วนตัว สว.ทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ โดยข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ข้อ 105 กำหนดกรอบระยะเวลาที่คณะกรรมการสรรหาส่งมาให้ สว.พิจารณาตรวจสอบจริยธรรมขององค์กรอิสะต่างๆ ในระยะเวลา 60 วัน และขยายเวลาได้ 30 วันเท่านั้น จึงไม่สามารถชะลอไปมากกว่านี้ได้

 “ที่หลายฝ่ายที่จะอ้างว่าการชะลอออกไปเพื่อแสดงสปิริตนั้น ผมขอย้อนไปถามว่า เข้าใจกฎหมายและข้อบังคับมากน้อยแค่ไหน และตามหลักแล้ว สว.ที่แม้เป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่ในมาตรา 129 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ ระบุว่าหากไม่ได้ถูกตัดสินหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.ยังมีอำนาจเต็ม และกฎหมายเปิดช่องไว้ให้ด้วยว่าต่อให้วันนี้มีการโหวตรับรององค์กรอิสระต่างๆ แล้วพรุ่งนี้ สว.ถูกตัดสินให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังถือว่าการกระทำของ สว.นั้นเป็นการกระทำโดยชอบของกฎหมาย” นายพิสิษฐ์กล่าว

งัดแผน 2 สู้

ด้าน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมด้วยกลุ่มผู้สมัคร สว. และนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ แถลงกรณีการเข้าชื่อ สว.เพื่อขอให้ สว.ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบคดีฮั้วเลือก สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยระบุว่า กราบขออภัย ที่ไม่สามารถหาคนร่วมลงชื่อได้ครบ 20 คน เนื่องจาก สว.กลุ่มอิสระมีเพียง 40-50 คน จะหารายชื่อ 20 ถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เพราะคำร้องถอดถอน สว.นั้น ก็มีเนื้อหาแข็งกร้าว เป็นยาแรง จนอาจกระทบ สว.ที่ลงชื่อ และหากมีการตอบโต้ เอาคืน สว.สีน้ำเงินก็สามารถรวมเสียงได้ง่ายชั่วพริบตา จึงขอประกาศยุติการล่าชื่อตั้งแต่วันนี้

"ขอเสนอแผนที่ 2 เพื่อยับยั้งไม่ให้ สว.เสียงข้างมากได้ลงมติด้วยการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา ในที่ประชุมวุฒิสภา สว.ยังมีโอกาส ซึ่งดิฉันจะเป็นคนใช้สิทธิ์เสนอญัตติด่วนด้วยวาจานั้น เพื่อให้ สว.ชะลอการลงมติเห็นชอบเกี่ยวกับองค์กรอิสระทั้งหมด" น.ส.นันทนาระบุ 

ขณะที่ทนายอั๋นกล่าวว่า การต้องใช้ สว.อีก 19 คน จนถึงวันนี้ตนจึงไม่แน่ใจว่า สว.สีน้ำเงินมีมากกว่า 150 หรือไม่ และไม่รู้ว่าคนที่เรียกตัวเองว่าสีขาว เปลี่ยนไปแล้วหรือไม่ อย่างไร .

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม