ประเดิมถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท "นายกฯ อิ๊งค์" ชี้นโยบายการค้าโลกทำแบกความเสี่ยงเพิ่ม ต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ วาง 6 ยุทธศาสตร์ใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ปชช. พร้อมกันงบใช้จ่ายฉุกเฉิน 6.6 แสนล้าน "เท้ง" ซัด รบ.จัดงบแบบไร้เป้าหมาย สักแต่ตั้งงบให้มีใช้ ไม่ได้คิดนำ ปท.ผ่านพ้นวิกฤต เหน็บไม่ใช่เราไม่มีเงิน แต่ไม่มีผู้นำที่รู้จักใช้อำนาจ เสี่ยงนำประเทศสู่รัฐล้มเหลว
ที่รัฐสภา วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานที่ประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระได้แจ้งถึงประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองให้นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ เป็น สส.นครศรีธรรมราช พรรคกล้าธรรม จากนั้นได้ให้นายก้องเกียรติปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่
นายวันมูหะมัดนอร์แจ้งด้วยว่า ขณะนี้มี สส.เท่าที่มีอยู่และปฏิบัติหน้าที่ได้จำนวน 495 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งต้องไม่น้อยกว่า 248 คน
กระทั่งเวลา 14.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2569
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณี สส.ฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดทำงบประมาณไม่ตรงกับสถานการณ์ของประเทศที่ต้องเร่งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า งบประมาณทั้งหมดจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโต ที่สำคัญงบประมาณดังกล่าวผ่านการทบทวนจากหลายหน่วยงาน ใครที่มีข้อท้วงติง อย่างงบดิจิทัลวอลเล็ต เราก็รับฟังความคิดเห็นไปหมดแล้ว คิดว่างบประมาณที่จะพิจารณานี้จะเป็นส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต คิดว่าตรงเป้า
ถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอความเห็นให้โยกงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทออกมาใช้แก้ไขปัญหายาเสพติด น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในงบประมาณมีเรื่องของยาเสพติดอยู่แล้ว เป็นวาระแห่งชาติเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และก็รับฟังความคิดเห็น เมื่อถามว่างบ 1.57 แสนล้านบาทใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ จึงควรเอางบกลางมาแก้ปัญหายาเสพติดดีกว่าหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มันมีการแบ่งงบไปอยู่แล้ว อะไรที่จำเป็นเร่งด่วนก็จะใช้งบกลาง แต่อันไหนที่อยู่ในงบได้ก็อยู่ในงบไปแล้ว ซึ่งค่อนข้างที่จะครอบคลุมทุกหัวข้ออยู่แล้วด้วย
พอถามว่านายทักษิณบอกจะขอลงพื้นที่พบปะประชาชน ได้มีการคุยกันบ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ทุกกำลัง ทุกการช่วยเหลือ ดีคะ ไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือใครก็ตาม หากจะช่วยแก้ปัญหาสังคมได้เราก็ยินดีร่วมมือกัน จะมาคุยกับรัฐบาลก็ได้เรายินดี บังเอิญว่านายทักษิณเป็นคุณพ่อ ก็อาจจะมีการคอมเมนต์ได้ใกล้ชิด แต่ถ้าท่านจะไปลงพื้นที่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว ตามสะดวก ใครก็ตามที่คิดจะช่วยประเทศชาติยินดีเสมอ
อิ๊งค์ยันพรรคร่วมไม่แตกกัน
น.ส.แพทองธารกล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยว่า ข้อเท็จจริงคือว่าทุกพรรคการเมืองมีการเห็นไม่ตรงกันจริงในหลายเรื่อง แต่ไม่ได้แตกกัน ไม่ได้งัดกัน อย่างที่ตนบอกว่าการเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นคู่แบบไหนก็ตาม ถ้าเราได้ขัดกันแล้วปรับความเข้าใจกันได้ก็คิดว่าจะเข้าใจกันมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้
ถามถึงกรณีนายทักษิณระบุรัฐบาลจะอยู่จนจบสมัย ไม่ต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ หมายความว่าอย่างไร มีประเด็นการเปลี่ยนตัวนายกฯ เกิดขึ้นมาหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าาวว่า “สัญญาณจากสื่อมวลชนหรือเปล่าล่ะว่าจะให้เปลี่ยนตัวนายกฯ อย่าเพิ่งเบื่อกันสิคะ แต่ถ้ามีอะไรก็บอกได้”
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณกอดคอ เป็นการกลบข่าวเอาพรรค ภท.ออกจากรัฐบาลหรือไม่ ว่าเคยบอกแล้วว่าไม่มีใครรู้ดีกว่าผู้เล่น นักวิเคราะห์นักวิจารณ์นักคาดคะเนอะไรทั้งหลาย เอาละต่างคนต่างทำหน้าที่ ข้อเท็จจริงคือมันไม่ใช่การแสดง ความสัมพันธ์จริงๆ เป็นแบบที่เห็นในภาพ
ถามว่าจะชวนนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทยไปทานข้าวกับนายทักษิณตามวงรอบอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นายเนวินไม่ค่อยอยู่กรุงเทพฯ ส่วนนายทักษิณก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ จะให้เราเป็นคนไปคอยนัดไม่ได้หรอก ต้องให้เกียรติกัน คนนับถือกัน เป็นเรื่องของเขาคุยกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล การเมืองเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค รองนายกฯ และรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 08.50 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมายังอาคารรัฐสภาพร้อมด้วยทีมอารักขาส่วนตัวและ สส.พรรค พปชร. โดยได้ขึ้นมาบริเวณชั้น 2 หน้าห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมาเซ็นชื่อและยืนยันตัวตน ก่อนที่จะมีการอภิปรายการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วาระแรกเป็นวันแรก
เมื่อถามว่า ได้กำชับ สส.พรรคในการพิจารณางบประมาณปี 2569 อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สามารถถาม สส.ของพรรคที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้ ซึ่งตนนั้นก็ได้กำชับให้ทำหน้าที่ สส.ให้ดีที่สุด
จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวออกจากอาคารรัฐสภาไปทันที ก่อนที่เวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตรจะกลับมาร่วมประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่..) พ.ศ..… รวมทั้งร่วมยกมือลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 454 คน งดออกเสียง 2 คน ไม่ลงคะแนนเสียงไม่มี ไม่เห็นชอบไม่มี
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก
น.ส.แพทองธารแถลงหลักการและเหตุผลว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.3-3.3 โดยมีแรงสนับสนุนจากการขยายตัวการลงทุนภาครัฐ การบริโภคในประเทศ การฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว แต่ยังมีข้อจำกัดจากภาระหนี้สินภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง และปัจจัยเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกา ส่วนเศรษฐกิจปี 2569 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.3-3.3 มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภค การลงทุนภาคเอกชน การฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว
ลั่นงบ 69 เพื่อประโยชน์ ปชช.
"เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าโลก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย จากราคาน้ำมันดิบโลกและมาตรการภาครัฐ ด้านภาวะการเงินโดยรวมยังตึงตัว แต่ฐานะการเงินด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี เงินสำรองระหว่างประเทศ วันที่ 31 ธ.ค.2567 มี 237,045 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจดังกล่าวทำให้ปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลต้องดำเนินนโยบายงบประมาณขาดดุลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการฟื้นตัวและส่งเสริมอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 2.65 ล้านล้านบาท รายจ่ายชดใช้เงินคงคลัง 123,541 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 864,077 ล้านบาท และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 151,200 ล้านบาท" น.ส.แพทองธารกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า งบรายจ่ายปี 2569 จำแนกตามยุทธศาสตร์ได้ 6 ด้าน คือ 1.ด้านความมั่นคง 415,327 ล้านบาท อาทิ การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การแก้ปัญหายาเสพติด การรักษาความสงบในประเทศ 2.ด้านการสร้างความสามารถการแข่งขัน 394,611 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน อาทิ การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล การขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 605,927 ล้านบาท อาทิ การเสริมสร้างศักยภาพการกีฬา การเสริมสร้างคนมีสุขภาวะที่ดี การพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยปฏิรูประบบการศึกษา ปรับรูปแบบการเรียนการสอน สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มที่เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา
4.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 942,709 ล้านบาท ให้คนไทยได้รับสวัสดิการพื้นฐาน บริการสาธารณะอย่างทั่วถึง อาทิ การบริหารจัดการที่ดิน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การรองรับสังคมสูงวัย การกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ ผ่านการสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแก่นักเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพคนพิการ 5.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 147,216 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ การจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านน้ำเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
และ 6.ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาการบริหารจัดการภาครัฐ 605,441 ล้านบาท เพื่อยกระดับการบริการภาครัฐให้มีสมรรถนะสูง เปลี่ยนผ่านไปสู่ราชการทันสมัยในระบบดิจิทัล อาทิ การแก้ปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ประเทศไทยปลอดทุจริต โดยปลูกฝังวิธีคิด ปลุกจิตสำนึกให้มีพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต มีเป้าหมายค่าดัชนีรับรู้การทุจริตอยู่ในอันดับ 1 ใน 45 หรือได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 56 คะแนน รวมถึงการมีรัฐบาลดิจิทัล หน่วยงานรัฐใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลให้บริการประชาชนได้เต็มศักยภาพ การพัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทบทวนความจำเป็นและความเหมาะสมของกฎหมายที่มีอยู่ ลดข้อจำกัดด้านกฎหมาย
“รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายจำนวน 669,365 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรองรับเหตุการณ์กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐและชดใช้เงินคงคลัง อาทิ การเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติร้ายแรง ภารกิจที่มีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐ การกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ข้อจำกัดด้านรายได้และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก รัฐบาลจึงดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง และเกิดผลสัมฤทธิ์การพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” นายกฯ กล่าว
จากนั้นเวลา 17.11 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลุกขึ้นอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 โดยแบ่งเป็น 7 ส่วน 1.ภาพรวมของงบประมาณปี 69 ซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกันที่รัฐบาลเพื่อไทยตั้งงบขาดดุลสูงสุดจนเกือบเต็มเพดาน กำหนดกรอบงบประมาณไว้ที่ 3.78 ล้านล้านบาท ขณะที่มีการประมาณการรายได้ของรัฐไว้เพียง 2.92 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ต้องกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 8.6 แสนล้านบาท คิดเป็น 4.5% ต่อจีดีพี ซึ่งหากใช้ตัวเลขจีดีพีใหม่ ที่มีการปรับลดลงมาแล้ว สัดส่วนตรงนี้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
'เท้ง' ซัดจัดงบเสี่ยงพา ปท.พัง
"สิ่งที่น่ากังวลในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องของการกู้ แต่คือเรื่องการใช้เงินเกินตัว โดยไม่มีแผนการลงทุนและการหารายได้มารองรับ และการกู้โดยไม่มีแผน ไม่มีอยู่ยุทธศาสตร์ใดๆ ไม่มีการเชื่อมโยงกับการสร้างศักยภาพของประเทศไทยในอนาคต มีแต่การกู้ซ้ำๆ ไปลงกับโครงการเดิมๆ ไม่ได้สร้างรายได้ ไม่ได้สร้างอนาคตให้กับประเทศ งบปี 69 จึงเป็นกระจกสะท้อนชั้นดีว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ไร้ทิศ ไร้ทาง และไร้ภาพ ไม่ได้จัดงบเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ แต่ปล่อยให้การบริหารราชการแผ่นดินอยู่ในระบบของราชการประจำ เพราะใช้เวลาไปกับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ไม่ได้เอาสมาธิไปจดจ่อกับการแก้ไขปัญหาของประเทศ หรือนำประเทศผ่านพ้นวิกฤต" นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า 2.ในปีที่โลกปั่นป่วน อุณหภูมิโลกร้อนแรง การค้ารุนแรง เศรษฐกิจโลกเปราะบาง แต่เรายังใช้งบประมาณสูตรเดิมๆ ที่ล้มเหลวกันมาอย่างต่อเนื่องหลายปี หากรัฐบาลยังลงทุนไม่ถูกจุด ไม่มีเป้าหมาย ในการใช้จ่ายงบประมาณที่ชัดเจน แล้วพวกเราจะฝากความหวังไว้กับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้อย่างไร 3.การจัดสรรงบประมาณที่ยังคงถูกตั้งด้วยสูตรเดิมๆ 2 ปีที่ผ่านมา ถ้าเรามีรัฐบาลที่มีสมาธิในการบริหารประเทศ จัดงบประมาณได้ตรงจุด เราจะได้งบประมาณที่ดูแลคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม การศึกษา และสวัสดิการที่ทั่วถึงเพียงพอ
"รัฐบาลสักแต่ตั้งงบเพื่อให้มีงบไปใช้ ไม่ได้คิดงบเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทำให้มองไม่เห็นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ใดๆ แม้แต่น้อย" นายณัฐพงษ์กล่าว
ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า 4.ขอย้ำว่าประเทศไทยไม่ได้ขาดเงิน หากจะทำให้ประเทศเราผ่านพ้นวิกฤตในตอนนี้ไปได้ ต้องตั้งคำถามใหม่ว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรอยู่ในมือจริงๆ เท่าไหร่ รัฐบาลต้องบริหารเงินแผ่นดินเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการมองเห็นเงินในกระเป๋า คือการรู้จักใช้เงินในกระเป๋าให้เกิดผลทวีคูณในระบบเศรษฐกิจ 5.การยิงเงินบาทเดียวให้ได้ผลหลายเด้ง ควรต้องเปลี่ยนวิธีการตั้งงบแบบเดิม ไปสู่การตั้งงบแบบใหม่ที่ให้ผลทวีคูณ
"โลกที่เปลี่ยนไปแต่งบประมาณไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยตอนนี้ไม่ได้ขาดเงิน แต่ขาดวิธีการใช้เงินอย่างคุ้มค่า แม้นายกฯ จะไม่ได้เป็นคนที่ทำงบประมาณด้วยตนเอง แต่ท่านคือคนที่คุมสำนักงบประมาณด้วยตนเอง เมื่อท่านปล่อยให้ประเทศไทยใช้งบอย่างไร้เป้าหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เคยปรับทิศไม่เคยปรับทาง ไม่เคยปรับทีม พวกเราจึงตั้งคำถามว่า ประเทศไทยมีคนที่คอยทำหน้าที่เป็นผู้นำรัฐบาลอยู่จริงหรือไม่ ผมขอเตือนนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ไม่ใช่แค่การจัดทำงบประมาณที่ผิดพลาด แต่คือกระจกสะท้อนไปยังตัวท่าน ว่าท่านไม่มีเป้าหมายให้กับประเทศ ซึ่งท่านได้ละเลยต่อการทำหน้าที่ในฐานะผู้นำรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว
นายณัฐพงษ์ย้ำว่า ไม่ใช่ว่าประเทศเราไม่มีเงิน แต่ประเทศเราไม่มีผู้นำที่รู้จักใช้อำนาจในการเปลี่ยนงบประมาณที่ล้มเหลวเพื่อไม่ให้ประเทศล้มเหลวไปด้วย สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่วิกฤตทางการคลัง แต่เป็นวิกฤตทางการเมือง เป็นวิกฤตของสถาบันรัฐไทย ที่เริ่มมีลักษณะเป็นระบบขูดรีดตามที่เขียนไว้ในหนังสือ Why Nations Fail ว่าประเทศที่ล้มเหลวไม่ใช่เพราะขาดเงิน แต่เพราะชนชั้นนำจงใจรักษาสภาพที่ตนเองได้ผลประโยชน์ไว้ ไม่เคยปรับเปลี่ยนเพื่ออนาคตของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ความหวังของประเทศนี้ คือรัฐบาลที่ต้องรู้จักใช้อำนาจ ไม่ใช่รัฐบาลที่แสวงหาอำนาจ ทางออกของประเทศนี้คือกลไกการเมืองในระบบรัฐสภาและนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งพวกตนจะช่วยกันปกป้องไม่ให้ล้มเหลวไปด้วย รัฐสภานี้ต้องเป็นสถาบันที่ปกป้องประเทศนี้ไว้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะฟังข้อเสนอที่เพื่อนสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้านจะอธิบาย 3 วันต่อจากนี้
"เพราะการจัดงบประมาณในครั้งนี้จะเป็นเครื่องชี้เป็นชี้ตาย ไม่ใช่แค่ความอยู่รอดของคนไทย กลับหมายถึงอนาคตของประเทศนี้ทั้งประเทศด้วย" นายณัฐพงษ์กล่าว
เวลา 17.55 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.การคลัง ชี้แจงว่า การขาดดุลของเราเมื่อมองจากภายนอกขาดดุลมา 850,000 ล้านบาท ติดกัน 2 ปี หากมองจากมุมมองข้างนอกก็สูงเพราะขาดดุลกว่า 4% ซึ่งไม่ควรเกิน 3.25- 3.5% ซึ่งในเงินจำนวนนี้มีการคืนเงินต้นอยู่ด้วย 150,000 ล้านบาท โดยเมื่อหักลบกันแล้วเราก็ขาดดุลอยู่ประมาณ 3% กว่า ซึ่งตนเองกำลังดูอยู่ว่าในข้างหน้ามีการปรับการขาดดุลทุกปี โดยในปีนี้เรามีงบรายจ่ายประจำ ซึ่งพยายามลดให้ได้ โดยส่วนใหญ่งบประมาณส่วนนี้ผูกพันกับงบข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เรื้อรังมาอย่างยาวนาน หนี้เหล่านี้รวมหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในทางปฏิบัตินำหนี้เหล่านี้มารวมในหนี้สาธารณะทั้งหมด
"แม้จะมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป มีการตั้งเป้าจีดีพีให้เกิน 3% แต่ในวันนี้ก็มีการปรับลงมา ก็คาดว่าในปีนี้การเก็บรายได้ของเราน่าจะอยู่ในเป้าหมายได้ เพราะฉะนั้นเงินขาดดุลคงคลังคงมากไปกว่าเดิม ยืนยันว่ามีการปรับหลายอย่างเพื่อเดินไปข้างหน้า" นายพิชัยกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าการเปลี่ยนงบประมาณคงจะต้องนำมาดู แต่ก็ยังเชื่อว่าการทำงบประมาณเหล่านี้จะสนับสนุนให้เอกชนเกิดความรู้สึกที่เชื่อมั่นและมั่นใจในการลงทุนวันข้างหน้า จึงเชื่อว่างบประมาณนี้เป็นตัวเริ่มต้นจากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป เราคงต้องปรับเปลี่ยนใหม่ให้โครงสร้างเศรษฐกิจพึ่งพาในประเทศมากยิ่งขึ้น และต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่แก้ได้จากงบประมาณรัฐ มาตรการการลงทุนผ่านกองทุนของเอกชน โดยเอกชนลงทุนส่วนหนึ่งและรัฐลงทุนอีกส่วนหนึ่ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง


