"สมศักดิ์" วีโตมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอรักษา "ทักษิณ" ชั้น 14 แยกประเด็นเป็นรายบุคคล เจ้าตัวขอชี้แจง 30 พ.ค.นี้ที่ทำเนียบฯ "กก.แพทยสภา" ชี้ "จริยธรรมแพทย์" ตัดสินตามข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์ ทำตามธงไม่ได้ "โรม" ซัดสมศักดิ์ไม่อายฟ้าดิน มีหน้าที่ปกป้อง "นายใหญ่" จี้ ป.ป.ช.เรียก "นายกฯ-ทักษิณ" ไปให้การได้แล้ว "สุริยะใส" เตือนซ้ำรอยนิรโทษกรรมสุดซอย เหตุใช้กลไกรัฐปกป้องบุคคลโดยมิชอบ "ชาญชัย" กับพวกหอบหลักฐานยื่นคำร้องให้ศาลฎีกามัดป่วยทิพย์ เผยใบเสร็จ รพ.ตำรวจ 26 ใบ ไม่มีรายละเอียดรักษาอะไร มีแต่จ่ายค่าห้อง "แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ" งานเข้าอีก กสม.รุกสอบ "จำเลยคดีสตาร์ค" นอนชั้น 14 ไม่ส่งตัวกลับ รพ.ราชทัณฑ์
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภายหลังคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณา ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้มีการประชุมไป 3 ครั้ง และส่งสรุปความเห็นแต่ละคนให้กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2568 นั้น ล่าสุด นายสมศักดิ์ได้มีการทำหนังสือส่งถึงแพทยสภาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งในเนื้อหานั้นไม่ทราบมากนัก แต่ทราบเบื้องต้นว่านายสมศักดิ์ได้มีการส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 คน โดยมี 1 คนที่ถูกยกคำร้อง อีก 3 คนถูกลงโทษตักเตือนกับพักใช้ใบอนุญาต
“นายสมศักดิ์ก็ได้ให้ความเห็นกลับไปเป็นรายบุคคลเลย มีทั้งส่วนที่เห็นด้วยกับมติแพทยสภา และมุมที่ให้แพทยสภาเอาไปพิจารณาด้วย อย่างเรื่องของกระบวนการก็ด้วย ซึ่งไม่ใช่เป็นเชิงคำสั่งว่าจะต้องทบทวนอะไร เพราะตรงนั้นเป็นเรื่องที่บอร์ดแพทยสภาต้องไปพิจารณากันต่อ” นายกองตรี ธนกฤต กล่าว
ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลสำโรง จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวถามนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ถึงเรื่องดังกล่าว โดยนายสมศักดิ์บอกว่า จะขอไปให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา หากได้ข่าวไม่พร้อมกันเดี๋ยวจะเป็นปัญหาสำหรับตัวเอง
เมื่อถามว่า ประเด็นที่มีการวีโตคำสั่งแพทยสภาไปเป็นประเด็นใด นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่งไปแล้ว โดยเป็นแนวทางตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ไปตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ส่วนรายละเอียดที่มีการตอบกลับนั้นขอยังไม่เปิดเผย และขอให้แพทยสภาได้เปิดเอกสารตอบกลับไปก่อน โดยจะขอให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล
ด้าน รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ กรรมการแพทยสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า การประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะมีความรับผิดตามกฎหมายมาเกี่ยวข้อง 3 ประเด็น คือ ความรับผิดทางอาญา ความรับผิดทางแพ่ง และความรับผิดทางจริยธรรม ความรับผิดทางอาญาและแพ่ง อำนาจอยู่ที่อัยการและผู้พิพากษา
แพทยสภามีหน้าที่ความรับผิดชอบในประเด็นเรื่อง "มาตรฐานวิชาชีพ" และ "ความรับผิดทางจริยธรรม" โดยตรง คดีนี้ทำให้เห็นชัดว่า "ทำไมคดีทางการแพทย์จึงควรต้องทำคำตัดสินโดยแพทยสภา"
มติของคณะกรรมการแพทยสภาที่เป็นผู้ออกคำสั่ง หรือคำตัดสินคดีจริยธรรม หรือมาตรฐานวิชาชีพ มีที่มาจากเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้า "เท่านั้น" ดังนั้น กรรมการแพทยสภาทุกคนจะไม่สามารถปักธงไว้ล่วงหน้า จนกว่าจะได้ศึกษาสำนวนและคำสรุปของอนุกรรมการทุกชุดจนถ่องแท้ ก่อนทำการโหวตลงมติ หรือแม้จะมีธง แต่เมื่อมีเอกสารหลักฐานเวชระเบียนผลภาพรังสีต่างๆ วางอยู่ตรงหน้า จึงเป็นการยากที่จะตัดสินใจตามธง เพราะประเด็นทางการแพทย์เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ที่ทุกการตัดสินใจในการรักษา ต้องมีเหตุผลรองรับ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วประเทศ
"ทุกเสียงโหวตล้วนตัดสินใจบน "ข้อเท็จจริงทางการแพทย์" จากเวชระเบียนและจากการไต่สวนที่อนุกรรมการจริยธรรม อนุกรรมการสอบสวน และอนุกลั่นกรอง "ทำการบ้านมาให้ล่วงหน้า" ก่อนชงให้คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ทำคำตัดสิน" รศ.(พิเศษ) นพ.เมธีระบุ
ไม่อายฟ้าดินปกป้องนายใหญ่
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า การที่แพทยสภาออกมาชี้ค่อนข้างชัดว่าไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต ก็สมควรที่จะจบแล้ว ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดในสภาว่า ถึงที่สุดก็ให้แพทยสภาเป็นคนตัดสิน ฉะนั้นเมื่อไม่วิกฤต ความจำเป็นที่นายทักษิณจะต้องรักษาตัวอยู่ รพ.ตำรวจต่อไปก็จบแล้ว ส่วนการที่จะลงโทษคนที่เกี่ยวข้องนั้น คนที่เป็นหมอคงอยู่ในกระบวนการว่าทางแพทยสภาจะยืนยันกลับไปอีกครั้งหรือไม่ แต่หวังว่าแพทยสภาจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยยึดเอาพยานหลักฐาน และคิดไปถึงมาตรฐานในอนาคตว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ วันนี้มีนายทักษิณนอนอยู่ที่ชั้น 14 วันต่อไปจะเป็นใคร หมอสามารถรับงานแบบนี้โดยที่ไม่สนใจกระบวนการยุติธรรมและวิชาชีพไปช่วยคนดังคนมีอำนาจ ประเทศไทยจะอยู่อย่างไร
"ส่วนเรื่องความสง่างามของนายสมศักดิ์ ที่ใช้กระบวนการวีโตกลับมา เดี๋ยว เราทุกคนทราบว่านายสมศักดิ์อยู่พรรคอะไร นายทักษิณมีอำนาจ มีอิทธิพลต่อใคร และเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้กรณีชั้น 14 เป็นเรื่องของการช่วยเหลือพวกพ้อง ต้องยอมรับว่ากระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณไม่อายฟ้าดิน ไม่ได้สนใจว่าประชาชนจะมองต่อปรากฏการณ์นี้อย่างไร และทำให้เกิดมาตรฐานที่เลวร้ายต่อไปเรื่อยๆ"
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ลำพังในอดีตที่มีนักโทษอภิสิทธิ์ชนก็แย่พอแล้ว วันนี้เรามาเจอนักโทษเทวดาในรูปแบบกระบวนการยุติธรรมของเรา มันเหลือจะทน เราคงไปหวังพึ่งนายสมศักดิ์ไม่ได้แล้ว หากจะให้พูดง่ายๆ นายสมศักดิ์มีหน้าที่ปกป้องนายใหญ่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของศาล หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หวังว่าจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระบวนการของ ป.ป.ช.ช้ามากเหลือเกิน นายกรัฐมนตรีควรจะไปให้การได้แล้ว และควรเรียกนายทักษิณเข้าไปให้การได้แล้ว กระบวนการเร็วกว่านี้ได้
นายสุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ว่า วีโตแพทยสภา ระวัง! ซ้ำรอย นิรโทษกรรมสุดซอย รัฐบาลและ รมว.สาธารณสุขควรตระหนักอย่างยิ่งว่า การดำเนินการใดๆ ที่มีลักษณะเป็นการแทรกแซงมติขององค์กรวิชาชีพอย่างแพทยสภา ย่อมสุ่มเสี่ยงต่อการทำลายหลักการพื้นฐานของรัฐธรรมาธิปไตยและอาจกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองในระดับโครงสร้าง เป็นสิ่งที่สังคมไม่สามารถเพิกเฉยได้ เพราะนอกจากจะเป็นการลดทอนความเป็นอิสระขององค์กรควบคุมจริยธรรมวิชาชีพแล้ว อาจถูกตีความได้ว่าเป็นความพยายามใช้กลไกภาครัฐปกป้องหรืออุปถัมภ์ผลประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยมิชอบ
"สังคมไทยเคยมีบทเรียนสำคัญจากกรณีร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม พ.ศ.… (ฉบับสุดซอย) ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญของประเทศ เนื่องจากประชาชนจำนวนมากมองเห็นว่าเป็นความพยายามบิดเบือนกลไกกฎหมายเพื่อล้างผิดเชิงระบบ อันส่งผลให้เกิดการชุมนุมขนาดใหญ่ในช่วงปี พ.ศ.2556-2557 และนำไปสู่วิกฤตความชอบธรรมของรัฐบาลในที่สุด ในบริบทปัจจุบัน หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหรือกระบวนการใดๆ ที่มีนัยเช่นเดียวกัน คือการขัดขวางหรือลบล้างกระบวนการพิจารณาโทษทางจรรยาบรรณของแพทยสภาโดยไม่ยึดหลักธรรมาภิบาลและหลักนิติรัฐ ย่อมอาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ทางการเมืองในลักษณะเดียวกันได้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง" นายสุริยะใสระบุ
ชงศาลใบเสร็จมัดป่วยทิพย์
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนราชดำเนินใน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายสมชาย แสวงการ อดีต สว., นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์, นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเองในวันที่ 13 มิ.ย.นี้
ภายหลังนายชาญชัยกล่าวว่า มายื่นเรื่องคำร้องไต่สวนว่ามีการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาหรือไม่ แม้ศาลจะได้ยกคำร้องในส่วนของตน แต่ศาลได้เรียกหน่วยงานต่างๆ มาไต่สวนเพื่อทำคำชี้แจงและไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ตนไม่ได้รับหมายให้ส่งคำชี้แจงเพิ่ม แต่มีเอกสารที่เตรียมไว้ จึงอยากจะนำมาส่งให้ศาลเพื่อให้ศาลนำไปพิจารณาทำการไต่สวน เป็นคำร้องและประกอบด้วยคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ประธานสอบเรื่องนี้ คำร้องของท่านเสรีพิศุทธ์ที่ร้อง ป.ป.ช. จึงขอให้ศาลได้มีหมายเรียกเอกสารและพยานบุคคลให้มาไต่สวน เป็นอำนาจของศาลมีอำนาจในการเรียกไต่สวน และมีเอกสารที่ชี้ชัดว่าคุณทักษิณไปนอนที่โรงพยาบาล 181 วัน ที่ชัดเจนว่าไม่ได้ป่วยจริง หากเราไปโรงพยาบาลแล้วจะมีใบเสร็จรับเงินที่เราไปโรงพยาบาล ใบเสร็จรับเงินจะบ่งบอกว่าเราไปตรวจโรคอะไร ใบเสร็จนี้ตนพูดตามหลักฐานข้อเท็จจริงที่ส่งให้ศาล
ด้านนายสมชายกล่าวว่า เรามายื่นพยานเอกสารตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ที่กำหนดว่า หากรู้ว่าพบผู้ต้องคำพิพากษาแต่ไม่ได้รับโทษสามารถมาแจ้งต่อศาลได้ และนำเรื่องจากคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพฯ วุฒิสภา ที่มีการนำข้อมูลจากแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้บัญชาการเรือนจำ มาให้ข้อมูลทั้งหมด 12 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม มายื่นเป็นข้อมูลกับศาลฎีกา ข้อมูลทั้งหมดเป็นเอกสารจำนวน 222 แผ่น และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนายทักษิณ ตลอดระยะเวลา 181 วันที่นายทักษิณได้รับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ มีข้อพิรุธเกิดขึ้นมากมาย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมยื่นพยานหลักฐานครั้งนี้ด้วย เนื่องจากต้องการทำความจริงให้ปรากฏ ตนไม่อยากให้นายทักษิณทำให้ประเทศชาติวุ่นวายไปมากกว่านี้ เชื่อว่าหากปล่อยให้นายทักษิณสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองต่อไป บ้านเมืองของเราจะมีปัญหาเกิดขึ้นแน่นอน จึงต้องการทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคม และเชื่อว่าในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ที่ศาลนัดไต่สวน นายทักษิณจะไม่มาศาลอย่างแน่นอน แต่เชื่อว่านายทักษิณไม่น่าจะหนี เพราะจะส่งผลกระทบต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวของตัวเอง
แหล่งข่าวจากคณะทำงานชุดดังกล่าวให้ข้อมูลว่า เอกสารสำคัญส่วนหนึ่งที่ทางกลุ่มนำไปยื่นต่อศาลฎีกาคือใบเสร็จที่นายทักษิณไปนอนรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ในช่วง 6 เดือนก่อนได้รับการพักโทษ แต่ไม่ได้รักษาอะไร มีแต่จ่ายค่าห้อง เวลาคนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะมีรายละเอียดว่ามีค่าใช้จ่ายในการรักษาอะไรบ้าง เช่น ค่ายา ค่าหมอ ค่าห้อง พอออกจาก รพ. คนไข้ก็จะได้รับใบเสร็จกับใบรับรองแพทย์ แต่ของนายทักษิณไม่มีรายละเอียดตรงนี้ เป็นเอกสาร รพ.ตำรวจ 26 ฉบับ เป็นเอกสารจริง มีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรอง เพื่อให้ศาลฎีกาพิจารณา
ทนายปูจ่อยื่นศาลชะลอยึดทรัพย์
มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ทำหนังสือลงวันที่ 29 พ.ค.2568 ถึงนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ (พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ สบ 8) เพื่อขอเข้าพบสอบถามข้อเท็จจริงกรณีนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นจำเลยในคดีทุจริตและฉ้อโกงหุ้น ได้รับการดูแลรักษาดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น เพื่อการตรวจสอบในเรื่องข้างต้นเป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย จึงขอให้ กสม.และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กสม. เข้าพบแพทย์ผู้ทำการรักษานายวนรัชต์ เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง และขอเข้าเยี่ยมพร้อมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับหอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง ชั้น 14 ห้องนายวนรัชต์พักรักษาและหอผู้ป่วยสำหรับผู้ต้องขังกรณีทั่วไป รวมถึงขอสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการเพื่อเรียกค่าเสียหาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ชดใช้คดีจำนำข้าวกว่า 10,028 ล้านบาท โดยย้อนถามว่า ต้องตั้งคณะกรรมการเหรอ ทำไมต้องตั้งคณะกรรมการ เพราะอะไร ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า เพื่อที่ต้องมาดูตัวเลขการชดใช้โครงการจำนำข้าว นายพิชัยกล่าวว่า “เหรอ มันมีคณะกรรมการอยู่แล้วหรือเปล่า หรือมีคนดูอยู่แล้วหรือเปล่า ต้องรอฟังจากปลัดกระทรวงการคลังก่อน”
เมื่อถามว่า แสดงว่าปลัดกระทรวงการคลังยังไม่ได้มีการรายงาน นายพิชัยกล่าวว่า ยัง ตนให้นำข้อเท็จจริงมาวางทั้งหมดว่าโดยกฎหมายจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุดทางทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์บอกว่าจะยื่นศาลปกครองให้ชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อนเพื่อรอหลักฐานใหม่ นายพิชัยกล่าวว่า “อ๋อเหรอ ผมยังไม่รู้เรื่องนี้เลย ขอบคุณมากที่บอก”
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความส่วนตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการรื้อคดีใหม่ว่า ขณะนี้ให้ทีมงานรวบรวมเอกสาร และทำตัวเลขการขายข้าวจำนวน 18.5 ล้านตันอยู่ ส่วนราคาที่ขายได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ขออนุญาตยังไม่เปิดเผย ยืนยันว่าตัวเลขมีมากกว่าจำนวนที่จะต้องชดใช้ หากมีความชัดเจนจึงจะให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนได้ จะยื่นร้องคดีใหม่ภายใน 90 วัน ซึ่งสามารถยื่นได้ เพราะมีหลักฐานใหม่ ตามมาตรา 75 ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ศาลจะรับพิจารณาคดีใหม่หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เมื่อถามว่า ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังกำลังเตรียมการเดินหน้ากระบวนการเพื่อเรียกค่าเสียหายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนรวิชญ์กล่าวว่า ต้องดูว่าสิ่งที่เรากำลังขอพิจารณาคดีใหม่ และขอให้ชะลอกระบวนการของกระทรวงการคลังด้วยโดยจะยื่นไปยังศาลปกครอง ดังนั้นต้องดูว่าศาลจะว่าอย่างไร ถ้าศาลรับพิจารณาก็ควรจะรอ และยอมรับว่าขณะนี้ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็เหลือไม่กี่ชิ้นที่ยังไม่ได้ขายทอดตลาด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง

