กกต.เรียก สว.แจงล็อต 5 "พี่ชายทรงศักดิ์" โดนด้วย "อนุทิน" ปัดไม่เกี่ยว ภท. "ทนายอั๋น" ปูดล็อตต่อไปมีเจ๊ใหญ่อำนาจฯ "ดีเอสไอ" ลุยสางข้อหาฟอกเงิน "สว.พันธุ์ใหม่-สีขาว" พ่ายโหวต วุฒิสภาเห็นชอบ "เพียรศักดิ์" อดีตอธิบดีอัยการนั่ง ป.ป.ช.
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. คณะกรรมการไต่สวนและสืบสวนชุดที่ 26 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งหมายเรียกเชิญ สว.ล็อตที่ 5 มารับทราบข้อกล่าวหา กรณีการฮั้วเลือก สว. อีก 21 คน และผู้สมัคร สว.กทม. กลุ่ม 14 สตรี อีก 1 คน คือ น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์
สำหรับล็อตล่าสุด มีดังนี้ 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม สว.กลุ่มที่ 14 จ.มุกดาหาร 2.นางเจียระนัย ตั้งกีรติ สว.กลุ่มที่ 14 จ.พระนครศรีอยุธยา 3.นางมยุรี โพธิแสน สว.กลุ่มที่ 14 จ.ยโสธร 4.นางจารุณี ฤกษ์ปราณี สว.กลุ่มที่ 14 จ.พระนครศรีอยุธยา 5.นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ กลุ่มที่ 15 จ.พัทลุง 6.นายธนภัทร ตวงวิไล กลุ่มที่ 15 จ.ชัยภูมิ 7.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ กลุ่มที่ 11 จ.ราชบุรี 8.นายกัมพล สุภาแพ่ง กลุ่มที่ 11 จ.เพชรบุรี 9.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ กลุ่มที่ 11 จ.กระบี่ 10.นายอัครวินท์ ขำขุด กลุ่มที่ 11 จ.ชัยนาท 11.นางธารนี ปรีดาสันติ์ กลุ่มที่ 12 จ.อุบลราชธานี 12.นางรจนา เพิ่มพูล กลุ่มที่ 12 จ.พระนครศรีอยุธยา 13.น.ส.ปุณณภา จินดาพงษ์ กลุ่มที่ 12 จ.เลย
14.นายณรงค์ จิตราช กลุ่มที่ 12 จ.เลย 15.นายธนชัย แซ่จึง กลุ่มที่ 12 จ.ศรีสะเกษ 16.นายพละวัต ตันศิริ กลุ่มที่ 12 จ.เชียงราย 17.นายกัมพล ทองชิว กลุ่มที่ 13 จ.สมุทรสาคร 18.นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ กลุ่มที่ 13 จ.ตราด 19.นายนพดล พริ้งสกุล กลุ่มที่ 13 จ.สุราษฎร์ธานี 20.นายพรเพิ่ม ทองศรี สว.กลุ่มที่ 13 จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพี่ชายนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และแกนนำพรรคภูมิใจไทย และ 21.นายสุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา สว.กลุ่มที่ 13 จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนฯ ได้เชิญ สว.เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 5 ล็อต แบ่งเป็น ล็อตแรก 55 คน, ล็อตสอง 10 คน, ล็อตสาม 24 คน, ล็อตสี่ 16 คน และล็อตห้า 21 คน รวมเป็น 126 คน ถือว่ามี สว.เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วเกินครึ่งหนึ่ง ของจำนวน สว.ทั้งหมด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีนายพรเพิ่ม ทองศรี สว.กลุ่มที่ 13 จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของนายทรงศักดิ์ ว่า เรื่องนี้ตนและพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยว ส่วนนายพรเพิ่มกับนายทรงศักดิ์ เขาเป็นครอบครัวเดียวกัน อยู่ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ การถูกเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาก็ขอให้เตรียมข้อมูลไป ส่วนคนที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ที่ตนทราบมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ซึ่งได้ไปตามกำหนดการ และให้ความร่วมมือทุกอย่าง ตนเห็นว่าทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมืออย่างดี
นายอนุทินกล่าวด้วยว่า หากทุกฝ่ายทำทุกอย่างด้วยความเป็นธรรมและเจตนารมณ์ดี คนที่ชี้แจงก็ให้ความร่วมมือ อย่าไปดื้อ ประชด พูดกระแทกแดกดัน มันจะจบได้เร็วความจริง ก็มีอยู่แค่นี้ ทุกอย่างจะพิสูจน์ได้ด้วยความจริงเท่านั้นเอง
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว.ว่า ปัจจุบันคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 60 ปาก อยู่ระหว่างการรวบรวมถ้อยคำให้การ ส่วนกว่า 60 ปากดังกล่าวมีคนหลายกลุ่ม ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนพยายามเร่งรัดดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ส่วนการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่มีเจ้าหน้าที่ กกต.และดีเอสไอ รวม 7 รายนั้น ตนไม่สามารถพูดหรือไปก้าวล่วงได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่ดีเอสไอยังไม่พิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีอั้งยี่ ฟอกเงิน เนื่องจากรอกระบวนการทำงานของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนให้เสร็จสิ้นก่อนหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนายืนยันว่า ไม่ได้เป็นเงื่อนไข เพราะเรารวบรวมพยานหลักฐานไปอีกส่วนหนึ่งเหมือนกัน
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า หากคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. บุคคลนั้นจะไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่ ฟอกเงิน อธิบดีดีเอสไอปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวกัน
ลุยโหวตองค์กรอิสระ
วันเดียวกัน ในการประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติของนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. ที่เสนอญัตติเรื่อง ขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต. และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้
โดยนายเทวฤทธิ์ได้อภิปรายแสดงเหตุผลของการเสนอญัตติว่า เมื่อ สว.คำนึงถึงปัญหาการแทรกแซงกระบวนการปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ในวันนี้ที่ สว.กำลังจะใช้สถานะผู้ให้ความเห็นชอบใน 3 องค์กรอิสระที่ สว.จำนวนมากกำลังตกเป็นคู่กรณี ทั้งในสถานะผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องก็ตาม ดังนั้น จึงหนีไม่พ้นที่จะมองว่าเรื่องที่ดำเนินการอยู่นี้ผิดหลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่วนข้อกังวลว่า จะเกิดสุญญากาศหากไม่มีคนเข้าไปทำงานในองค์กรอิสระต่างๆ นั้น เราไม่ได้ชะลอตลอดไป เพียงแค่ในช่วงที่มีการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่า 6 เดือนน่าจะแล้วเสร็จ และยังมีรักษาการดำรงตำแหน่งอยู่ได้
ด้าน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. อภิปรายว่า เมื่อท่านเป็นผู้ถูกร้องมีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเป็นทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่ท่านจะยังใช้สถานะ สว.คัดเลือก ป.ป.ช.จำนวน 3 คน เพื่อเข้าไปวินิจฉัยคดีของท่านอีกหรือ จะเป็นธรรมต่อผู้ร้องและผู้ถูกร้องหรือ หากท่านชนะคดีทั้งหมด คู่กรณีและประชาชนจะคิดอย่างไร
“หากท่านยังดึงดันที่จะลงมติเลือกองค์กรอิสระต่อไป โปรดรู้ไว้ว่าการกระทำของท่านได้ฝืนความรู้สึกของประชาชน และประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศย่อมมีสิทธิ์ที่จะยื่นตรวจสอบจริยธรรมท่านที่ลงมติในวันนี้ด้วย" น.ส.นันทนาระบุ
ขณะที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. อภิปรายว่า วันนี้การเข้ามาควบคุมองค์กรอิสระกระทำโดยผ่านวุฒิสภา ทฤษฎีนี้บอกว่า ถ้าควบคุมวุฒิสภาได้ก็ควบคุมองค์กรอิสระได้ ถ้าควบคุมองค์กรอิสระได้ก็ควบคุมประเทศไทยได้ นี่คือ ทฤษฎีควบคุมประเทศไทยยุคใหม่ ตนไม่อยากเห็นว่า เมื่อเราพ้นจากยุคการปฏิวัติรัฐประหารแล้วเรายังมาเจอรูปแบบใหม่ในการควบคุมองค์กรอิสระโดยสมาชิกวุฒิสภา
นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ตนห่วงใยว่าเมื่อสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้งไปแล้ว องค์กรอิสระจะอยู่ไปอย่างน้อย 7-9 ปี โดยไม่มีการถอดถอน ไม่เหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 40 และเราต้องอย่าลืมว่าองค์กรอิสระก็เป็นคน มีผิดชอบชั่วดีได้ มีความบกพร่องผิดพลาดได้ จึงให้มีการถอดถอนได้ แต่รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 นี้ ไม่สามารถถอดถอนได้ แต่งตั้งหรืออยู่ไปจนครบวาระ ถ้าไม่ตายหรือลาออก ซึ่งมีโอกาสน้อย ดังนั้นเราจึงต้องวิเคราะห์ให้ละเอียด
เขากล่าวอีกว่า หากเรายังดึงดันต่อไป ไม่ใช่ว่าจะปลอดโปร่งโล่งตลอด เพราะองค์กรอิสระเหล่านี้ที่เราจะแต่งตั้ง ไม่ว่าจะคณะกรรมาธิการตรวจสอบจริยธรรมก็ดี หรือให้ความเห็นชอบ ป.ป.ช.ก็ดี ไม่สิ้นสุดแค่เรา เพราะตามกฎหมายแล้วจะต้องทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อลงพระปรมาภิไธยเป็นที่ชั้นสุดท้าย จึงขอเรียกร้องว่า เราควรกลั่นกรองให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ก่อนที่จะทูลเกล้าฯ ถวายดีหรือไม่ ไม่ควรจะทำอะไรให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
ขณะที่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ลุกขึ้นอภิปรายว่า อย่ามาว่ามีจริยธรรมหรือไม่ ตราบใดที่ตนยังไม่เชื่อมั่นในองค์กรที่สอบสวนหรือไต่สวน ถือว่าตนยังเป็นผู้มีจริยธรรม รวมทั้งเพื่อสมาชิกที่ถูกกล่าวหาทุกท่าน จึงไม่อาจที่จะชะลอการดำเนินดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสามัญได้
น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สว. กล่าวว่า ผลของการไต่สวนยังไม่ถึงที่สิ้นสุด แล้วเราจะเอาหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไปเป็นตัวประกันเลยหรือ หากเป็นเช่นนั้น สุดท้ายแล้วพบว่าไม่มีความผิด เราจะต้องรับผิดชอบกันอย่างไร เวลาไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ เวลาที่สูญเสียไปเราจะทำกันอย่างไร
ด้าน พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว. อภิปรายว่า การจะกล่าวอ้างว่า สว.ส่วนหนึ่งถูกสงสัย ความปรากฏว่าอาจกระทำการฝ่าฝืน เป็นเพียงข้อสงสัย ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม อยู่ในขั้นก่อนการดำเนินคดี สิ่งที่ สว.จะกระทำต่อไปนี้เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่มีกฎหมายใดห้ามหรือสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่
จากนั้นที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติ ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 175 เสียง เห็นด้วย 37 เสียง ไม่เห็นด้วย 125 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วยให้ชะลอการแต่งตั้งองค์กรอิสระ
ทั้งนี้ ภายหลังการลงมติ กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ และกลุ่ม สว.สีขาว จะวอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุมไป
ต่อมาเวลา 13.00 น. ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบรายชื่อ สว. ที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งในกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ทั้ง 45 คน พบว่า มีรายชื่อ สว. 29 คน ที่ปรากฏชื่ออยู่ในหมายเรียกของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 ของ กกต. และดีเอสไอ
เห็นชอบ ‘เพียรศักดิ์’ นั่ง ป.ป.ช.
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า จะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมของ สว.ที่ลงมติว่า มีจริยธรรมในการลงมติหรือไม่ และผลที่ สว.เหล่านั้นได้กระทำไปชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการกระทำของพวกคุณในวันนี้และวันหน้า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายจะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
“พวกคุณทั้งหลายไปให้สุด ขาข้างหนึ่งติดคุกไปแล้ว วันนี้ กกต. ดีเอสไอ ออกมาเรียกในล็อตที่ 5 แล้ว และล็อตที่ 6 ผมบอกเลยว่าเป็นเจ๊ใหญ่เมืองอำนาจ ล็อตที่ 7 บรรดาลูกเทพทั้งหลาย และล็อต 8 เจ้าพ่อเขากระโดงโดนแน่” ทนายอั๋นระบุ
จากนั้นเวลา 15.13 น. ภายหลังการประชุมลับวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 3 คน โดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในขณะนั้นได้ให้ที่ประชุมลงมติลับ
สำหรับนายประกอบ ลีนะเปสนันท์ รองประธานศาลฎีกา ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 156 เสียง เห็นชอบ 61 เสียง ไม่เห็นชอบ 60 เสียง งดออกเสียง 33 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง ถือว่าได้เสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 100 คะแนน
ขณะที่ นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการภาคสอง ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 155 เสียง เห็นชอบ 138 เสียง ไม่เห็นชอบ 2 เสียง งดออกเสียง 13 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง ถือว่าที่ประชุมให้ความเห็นชอบมากกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 100 คะแนน
ด้านนายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการอิสระ บริษัท สิริเวช จันทบุรี จำกัด (มหาชน) จากจำนวนสมาชิก 155 เสียง เห็นชอบ 14 เสียง ไม่เห็นชอบ 108 เสียง งดออกเสียง 31 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง ถือว่าได้เสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 100 คะแนน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
‘อนุทิน’ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง ข้าราชการการเมือง 1 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๔๔๕/๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง


