“รทสช.” ยังระอุ “สุชาติ” ท้าขับออก พิสูจน์ว่าจะมีกี่คนที่ตามไปอยู่โอกาสใหม่ อึ้ง! พีระพันธุ์เหมือนรู้แกวแก้ข้อบังคับพรรค ฝักใฝ่พรรคอื่นมีความผิด "เสธ.หิ" โร่แจงแทนหัวหน้า พร้อมสอน “แรมโบ้” บอกพรรคเป็นของประชาชนไม่ใช่ของส่วนตัวใคร สะพัด! อิ๊งค์ปรับ ครม.สัปดาห์นี้ ชง “ประเสริฐ” นั่งมหาดไทยแทนเสี่ยหนู “อนุทิน” ยันเชื่อแพทองธารไม่มีอะไร บอกล้มก้นจ้ำเบ้าที่วัดพระแก้ว แต่ไม่เป็นไรเพราะมีภูมิคุ้มกัน!
เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2568 ยังคงมีความต่อเนื่องในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. นัดแกนนำและ สส.พรรคทานอาหารหารืออนาคตทางการเมืองกันที่โรงแรมคอนราด เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสุชาติกล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ถึงการไปอยู่พรรคโอกาสใหม่ (อ.) ว่า ที่ไปกินข้าวร่วมกันมาประมาณ 20 คน ยืนยันเคารพสิทธิ์ สส.ทุกคน เราไม่สามารถตัดสินใจแทนคนอื่นได้ แต่แนวทางของเราหากไปอยู่ที่อื่นและสามารถแสดงออก หรือแสดงความคิดเห็นได้มากกว่าก็ควรไป
นายสุชาติกล่าวถึงสาเหตุที่เชิญ สส. 20 คนนี้ไปร่วมกินข้าวหารืออนาคตการเมืองว่า ที่มาร่วม รทสช.เพราะออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ด้วยกัน เรากินข้าวร่วมกันมา 5-6 เดือนแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมากินตอนนี้ โดยคิดว่าวันหนึ่งอยากไปทำการเมืองในพรรคของตัวเอง และเป็นพรรคที่เหมาะสมกับตนเอง ก็ต้องมาถามเพื่อนๆ เพราะชวนเขามาก่อนหน้านี้ก็ต้องรับผิดชอบ ก็ต้องสอบถามว่าหากจะไปทุกคนคิดเห็นอย่างไร และส่วนมากก็เชื่อในการตัดสินใจของตนเอง
“สส. 90% ไปกินข้าววันนั้นตัดสินใจมา 5-6 เดือนแล้ว แต่ที่เขายังพูดไม่ได้กลัวจะมีผลทางการเมือง และเราไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว เรามาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน” นายสุชาติกล่าวและว่า ที่สบประมาทว่าจะมี สส.ไปเพียง 5-6 คน รทสช.สามารถขับออกจากพรรคได้ ก็จะได้รู้ว่ามีกี่คน แต่ที่บอกว่า 5-6 คนก็อยากบอกว่าเป็นเพียงเสี้ยวเดียว
ด้านนายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรค รทสช.โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า สส.หลายคนที่ไปร่วมรับประทานอาหารเป็นไปตามคำเชิญ ส่วนการตัดสินใจย้ายพรรคหรือไม่นั้น หลายท่านแจ้งว่ายังไม่ถึงเวลาตัดสินใจ โดย สส.ที่ไปมี 2 ประเภท คือเขตเลือกตั้ง ซึ่งแบบนี้คะแนนที่เลือกมีทั้งส่วนตัวและของพรรคร่วมกันอยู่ สส.ในแบบนี้จึงมีภาระผูกพันอยู่กับพรรค จึงควรเคารพมติพรรคและอยู่ในกติกาของพรรคอย่างมีมารยาท หากเมื่อถึงเวลาแล้วย่อมเป็นสิทธิที่จะพิจารณาหาพรรคที่เหมาะสมกับจริตต่อไป ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ คะแนนเสียงที่เลือกเป็นคะแนนพรรค สส.แบบนี้หากเห็นว่าพรรคที่สังกัดไม่ตรงกับความต้องการของตัวเองแล้ว ควรลาออกจากสมาชิกทันที เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีรายชื่อถัดไปมีโอกาสทำงานตามนโยบายพรรคต่อไป
นายหิมาลัยระบุอีกว่า การเข้าพบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่ได้เป็นเรื่องยาก หากเข้าประชุมพรรค และหลังจากประชุมแล้วก็เข้าพบท่านหัวหน้าพรรคที่ห้องได้ตลอดเวลา รวมถึงงานเลี้ยงสังสรรค์หลังประชุม ถ้าหัวหน้าไม่ติดภารกิจสำคัญก็จะไปร่วมงานเลี้ยงด้วยเสมอ
“ผมขออนุญาตกราบเรียนข้อเท็จจริงมายังท่านสุชาติด้วยความเคารพ หากต้องการทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในฐานะผู้อำนวยการพรรค ยินดีเข้าพบและนำเรียน และขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มั่นใจในพรรค รทสช.ภายใต้การนำของท่านพีระพันธุ์ ว่าประเทศชาติและประชาชนต้องมาก่อน” นายหิมาลัยระบุ
พีระพันธุ์แก้ข้อกำหนดพรรค
มีรายงานข่าวจาก รทสช.แจ้งว่า นายพีระพันธุ์ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค รทสช. เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2568 โดยสาระสัญคือ ข้อ 53 ใหม่ที่ระบุว่า สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง เมื่อผู้นั้นขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคในกรณี …(5) คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะกระทำผิดวินัยหรือมาตรฐานทางจริยธรรมหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคการเมืองตามข้อ 55 หรือกระทำความผิดกฎหมายร้ายแรง หรือมีเหตุร้ายแรงอื่น (6) ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นหรือสนับสนุนผู้สมัครในตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ที่ไม่ใช่ของพรรคการเมือง และ (7) กระทำการใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกหรือความเป็นเอกภาพในพรรคการเมือง หรือการบริหารพรรคการเมือง รวมทั้งสนับสนุนหรือส่งเสริมการกระทำเช่นว่านั้น
ทั้งนี้ หากนายพีระพันธุ์เรียกประชุม กก.บห.พรรค เพื่อบังคับโทษใหม่ มีความเป็นไปได้ว่า จะมีเหตุทำให้สมาชิกภาพสมาชิกพรรคของนายสุชาติสิ้นสุดลง หลังเคลื่อนไหวนัด สส.พรรครับประทานอาหารที่ รร.คอนราดและประกาศไปอยู่พรรค อ. แต่ต้องมีหลักฐานว่ากระทำความผิดจริงและก่อให้เกิดความผิดร้ายแรง จึงจะถือว่าขาดจากสมาชิกพรรค ซึ่งกรณีการกระทำของนายสุชาติเป็นเพียงการกินข้าวร่วมกันเท่านั้น
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. กล่าวว่า ต้องแยกแยะว่าเป็นปัญหาส่วนรวมหรือไม่พอใจส่วนตัว เพราะนายพีระพันธุ์ทำงานให้ประเทศมากกว่าพรรคพวกตนเอง ต้องมีข้อบกพร่องไม่ถูกใจ ซึ่งน่าจะดีใจแทนคนไทย เพราะพิสูจน์กันด้วยผลงาน นักการเมืองมาแล้วก็ต้องไป จะอยู่ในตำแหน่งทำไมถ้าทำประโยชน์ให้ประเทศไม่ได้ ขอให้โฟกัสที่ศึกนอก ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเมือง และสนับสนุนคนสุจริตให้ทำงานเพื่อส่วนรวม ถ้าวันไหนหัวหน้าพรรค รทสช.ทำประโยชน์ให้ตนเอง ให้พรรคพวก มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม จะเป็นคนแรกที่บอกเขาว่ากลับบ้านเถอะ
ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ก่อตั้งพรรค รทสช.เผยว่า จะขอเอาพรรค รทสช.คืน และขอไล่นายพีระพันธุ์ออกไปเพราะไม่สง่างาม ขอให้คนอื่นที่เหมาะสมกว่านี้มาเป็นหัวหน้าพรรคดีกว่า เนื่องจากกรณีนายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ไปร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และข้อมูลค่อนข้างน่าเชื่อถือ ก็ไม่เคยออกมาชี้แจงความจริง ในฐานะคนก่อตั้งพรรค เมื่อมาขอพรรคไปดูแล แต่ทำได้ไม่ดี มีแต่ความแตกแยก แตกความสามัคคี หัวหน้าพรรคเข้าถึงยาก ความคิดเป็นใหญ่ จึงจำเป็นต้องขอทวงพรรคคืน เพราะให้ยืมไปคิดว่าจะทำให้เติบโตมีแต่จะทำให้ตกต่ำลงกว่าเดิม
นายหิมาลัยโพสต์เฟซบุ๊กเรื่องนี้ว่า นายเสกสกลได้ลาออกจากสมาชิกพรรคไปเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีสถานภาพเป็นสมาชิกของพรรค ในขณะที่นายพีระพันธุ์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง ตามข้อบังคับพรรคและระเบียบ กกต. ในการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อ 3 ส.ค. 2565 และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคเป็นตัวแทนของสมาชิกพรรคในการเสนอนโยบายและแนวทางบริหารต่อพี่น้องประชาชนทั่วไป ซึ่งปัจจุบันพรรคมีสมาชิกพรรคถึงกว่า 40,000 คน ได้รับเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งหลังสุดถึงกว่า 4 ล้านเสียง
“ผมเข้าใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นของประชาชนผู้สนับสนุนพรรค ไม่ใช่ของส่วนตัวของผู้ใด ผมจึงไม่สามารถหาข้อมูลหรือเหตุผลที่จะนำเสนอท่านหัวหน้าพรรค เพื่อคืนพรรคให้พี่ได้ หากพี่มีหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าพรรค รทสช.เป็นของพี่ กรุณาส่งหลักฐานเพิ่มเติมให้ผมได้ที่พรรค เพื่อจะได้ประมวลเรื่องนำเรียนท่านหัวหน้าพรรคตามขั้นตอนต่อไป จึงเรียนมาด้วยความเคารพครับพี่” นายหิมาลัยโพสต์ถึงนายเสกสกล
ย้ำอำนาจนายกฯ ปรับ ครม.
สำหรับความเคลื่อนไหวในเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้นั้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ไม่ทราบเลย เรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกฯ ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวการระหองระแหงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับเพื่อไทย คิดว่าถึงเวลาที่จะปรับ ครม.หรือยัง นายสรวงศ์กล่าวว่า ระหองระแหงก็มีมาตั้งแต่ตอนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแล้ว ไม่น่ามีอะไร อย่างที่นายกฯ เคยบอกไว้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นไม่ตรงกันมันมีได้อยู่แล้ว ขนาดพรรคเดียวกันยังมีความเห็นไม่ตรงกัน เป็นเรื่องปกติของการเมืองของคนที่อยู่ร่วมกัน แต่เรื่องของการปรับ ครม.ขอให้เป็นเรื่องของนายกฯ
ถามย้ำว่าจะปรับ ครม.เมื่อไหร่ อย่างไร ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาใช่หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่มีส่งสัญญาณอะไรเลย ส่วนข่าวที่บอกว่าสัปดาห์นี้คิดว่าน่าจะยังไม่ใช่ เพราะสัปดาห์นี้รัฐบาลและประชาชนให้ความสำคัญในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และนายกฯ เองก็ยังไม่ได้พูดอะไร ยังอยากทำงานร่วมกันอย่างนี้ต่อไปก่อน แต่นายกฯ อาจจะมีคิดหรือวางตัวอะไรไว้แล้ว แต่ไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมาดูเหมือนพรรค พท.ต้องการเอากระทรวงมหาดไทยกลับมาอยู่ในการดูแลของตัวเอง นายสรวงศ์กล่าวว่า ความจริงมันก็มีบ้างที่สมาชิกบ่นกันว่าอยากได้ก็กระทรวงหลักๆ กลับมา ทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเราก็อยากได้กระทรวงหลักๆ กลับมา เพราะมันเป็นเรื่องของกระแส เรื่องของการทำนโยบายของเราด้วย แต่ทั้งหมดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะนายกฯ ได้วางตัวคนทำงานอยู่แล้วไม่ได้มีปัญหา
เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ของพรรคภูมิใจไทยกับเพื่อไทยเป็นลักษณะยื้อกันไปยื้อกันมาแบบนี้ จะไปได้ตลอดรอดฝั่งจนครบวาระอีกสองปีนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า “เอาน่า แบบนี้แหละ มันก็เป็นแบบนี้แหละ รัฐบาลผสม คิดไม่เหมือนกันบ้าง ก็ว่ากันไป”
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า สส.พรรคมีความคิดเห็นและแนวทางเดียวกันที่จะให้ น.ส.แพทองธารเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้ เพราะทำงานใกล้ชิดกับทั้งรัฐมนตรีและ สส.ของพรรคเพื่อไทย ย่อมรู้ดีว่าใครควรได้ทำงานแบบไหน
“เชื่อว่าไม่มีใครแทรกแซงการตัดสินใจของ น.ส.แพทองธารได้ เพราะท่านมีความเด็ดเดี่ยว มีวิจารณญาณ เป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ไม่มีใครมาออกใบสั่งนายกฯ ได้”
สะพัด! ประเสริฐคุม มท.
มีรายงานข่าวจาก พท.แจ้งว่า น.ส.แพทองธารได้ตัดสินใจปรับ ครม.แล้วในสัปดาห์นี้ โดยเห็นว่าเป็นช่วงจังหวะการเมืองที่เหมาะสม โดยมีการตัดสินใจปรับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย โดยพรรค พท.จะเข้าบริหารเอง เพื่อสร้างผลงานปราบยาเสพติด รวมทั้งการอัดฉีดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจลงสู่หมู่บ้าน โดยผู้จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ขณะนี้มีชื่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดีอีเป็นตัวเต็ง
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกระแสปรับ ครม.ที่จะให้นายประเสริฐมาคุม มท.ว่า ยังไม่มีการพูดเรื่องการปรับ ครม.กับนายกฯ หรือนายทักษิณ ชินวัตร เพราะเมื่อนายกฯ บอกว่าไม่มีอะไรก็ต้องเชื่อนายกฯ จึงต้องถามนายกฯ ถึงความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนกระทรวง เพราะนายกฯ บอกว่ายังไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ตัวนายกฯ บอกไม่มี แต่พ่อนายกฯ บอกว่ามี แบบนี้จะทำให้เกิดความสับสนหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า หัวหน้ารัฐบาลคือนายกฯ ซึ่งนายกฯ ให้สัมภาษณ์แล้วว่ายังไม่มีอะไร และบอกผู้สื่อข่าวเองว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับอะไร ขออย่าเพิ่งพูดเดี๋ยวข้อความจะไม่เหมือนกัน แล้วกลายเป็นประเด็นขัดแย้ง ให้ฟังนายกฯ คนเดียว เพราะเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาตัดสินในการปรับเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่
ถามว่า ถ้ามีการปรับเปลี่ยนกระทรวงจะเกิดปัญหาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทำงานมา 2 ปีแล้ว การเข้าร่วมเป็นรัฐบาลก็มีข้อตกลงกันอยู่ตั้งแต่ดั้งเดิม ทุกคนก็ทำงานสนองนโยบายนายกฯ ตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ มาจนถึง น.ส.แพทองธาร ทุกกระทรวงทำงานสนองนโยบายนายกฯ ทั้ง 2 คนอย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ก็ดีไม่ได้มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเพื่อไทยต้องการกระทรวงมหาดไทยต้องเอากระทรวงอะไรมาแลก นายอนุทินกล่าวว่า ทุกพรรคต้องการกระทรวงขนาดใหญ่ทั้งนั้น อย่าเพิ่งไปคิดเลย ถ้าถามอย่างนี้เดี๋ยวพรรคนี้ก็ต้องการกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ วันนั้นท่านก็พูดว่าต้องการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังให้สัมภาษณ์นายอนุทินได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ตนลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามในช่วงที่ฝนตก ซึ่งก็สวมรองเท้าปกติ โดยหลังจากล้มก็ทำให้สวมแหวนที่สวมประจำไม่ได้ เพราะเจ็บนิ้วนาง นิ้วนางข้างซ้ายบวม “ใส่แหวนไม่ได้ (บวม) ตุ่ยเลย ตอนล้มเอามือไปยัน จ้ำเบ้า”
ผู้สื่อข่าวถามว่า สะโพกไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ ไปหาหมอตรวจเอกซเรย์หรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ยังๆ แต่เดี๋ยวจะไปขอยาแก้ปวด เดินตามนายกฯ เมื่อวาน
เมื่อถามต่อว่า ช่วงนี้เหมือนคณะรัฐมนตรีพากันเจ็บออดๆ แอดๆ นายอนุทินร้อง หา! แล้วก็หัวเราะก่อนกล่าวว่า “ไม่เป็นไรนิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวก็มีภูมิคุ้มกัน”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท


