ภท.สวนพท.ปรับครม.ยกชุด

"ภูมิธรรม" ย้ำ "นายกฯ" ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. "มหาดไทย" อยู่กับ พท.หรือไม่ขึ้นอยู่กับ "อิ๊งค์" ตัดสินใจ "ประเสริฐ" แย้ม "นั่งตรงไหนก็ทำงานได้" หลังมีข่าวนั่ง มท.1 "ภูมิใจไทย" ตอบ "เพื่อไทย" ปรับใหญ่ไปเลยเพื่อประชาชน อย่าทำเพราะผลประโยชน์การเมือง  คาดจะเรียกหารือหัวหน้าพรรคร่วมฯ ได้ข้อสรุปภายใน มิ.ย.นี้ "เอกนัฏ" ยัน รทสช.ยังไม่แตก ยังคุยกันปกติ แจงแก้ข้อบังคับพรรคให้ตรง รธน. ไม่มีนัย ขณะที่ "เสี่ยเฮ้ง" ดื่มกาแฟ สส.ใต้เขย่า รทสช.อีกรอบ ลั่นภารกิจจบสิ้นตั้งแต่ผู้มีพระคุณไม่อยู่แล้ว

ที่ท้องสนามหลวง ช่วงเช้าวันที่ 3 มิถุนายน  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.)  ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร   นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า พท. มีการส่งสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่มีเลย ตนเห็นแต่ในสื่อ ซึ่งทุกคนก็ไม่มีใครมีปัญหา ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ อยู่ที่ท่านนายกฯ ตัดสินใจ อย่างไรก็อย่างนั้น

เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่กระทรวงมหาดไทยต้องมาอยู่กับ พท. นายภูมิธรรมกล่าวว่า รอให้นายกฯ พิจารณา

เมื่อถามว่า กระแสข่าวการปรับ ครม. บั่นทอนจิตใจรัฐมนตรีและทำให้ข้าราชการเกียร์ว่างหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เห็นว่ารัฐมนตรีแต่ละท่านเกิดความหวั่นไหวแต่อย่างใด เมื่อซักครู่เจอรัฐมนตรีในงานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ซึ่งรัฐมนตรีก็ยังไม่มีใครรับรู้เรื่องการปรับ ครม.อะไรทั้งสิ้น ส่วนเรื่องเกียร์ว่าง เชื่อในเกียรติของข้าราชการประจำที่มีหน้าที่ทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนดูแลประเทศชาติอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ไม่มีอะไร

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกระแสข่าวนายกฯ จะปรับ ครม. โดยนายประเสริฐจะได้ไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย ว่า นายกฯ ยังไม่ได้แจ้ง ไม่มีอะไร นายกฯ ยังไม่มีการพูดเรื่องการปรับ ครม. สถานการณ์ตอนนี้ยังปกติอยู่

เมื่อถามต่อว่า หากมีการปรับไปนั่ง รมว.มหาดไทย พร้อมหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า  "จริงๆ แล้วนั่งตรงไหนก็ทำงานได้" ถามต่อว่า  พท.อยากได้เก้าอี้ รมว.มหาดไทยอย่างที่นายทักษิณพูดหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล

ถามต่อว่า มีข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่อนุญาตให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎหมายระดับกฎกระทรวงหรือกฤษฎีกา เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการทำงาน 3 หน่วยงานคือ มหาดไทย ดีอี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งตนขอกลับไปดูความเห็นของกฤษฎีกาก่อน ก่อนที่จะสรุป เพราะยังไม่มีการพบปะพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ส่วนใช่ประเด็นนี้หรือไม่ที่นายทักษิณ ชินวัตร มองว่ามหาดไทยทำงานไม่สุด และอยากให้ พท.เข้าไปกำกับดูแลแทนนั้น ตนไม่ทราบ

 รายงานข่าวจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า แกนนำพรรค พท.ได้ประสานมาที่แกนนำพรรค ภท. เพื่อหารือถึงแนวทางการปรับ ครม. โดยฝ่าย พท.แสดงความประสงค์ให้มีการ “ปรับใหญ่” หรือ “ปรับยกชุด” เพื่อเสริมศักยภาพการบริหารประเทศ อย่างไรก็ตาม ภท.ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดในการปรับ ครม. ในส่วนสัดของพรรคตัวเอง แต่หากนายกฯ เห็นว่าการปรับ ครม.เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา ก็ควรเป็นการปรับใหญ่ทั้งคณะ เปิดโอกาสให้ทุกพรรคได้พิจารณาบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งใหม่ หรือสลับกระทรวงให้เหมาะสมกับนโยบายที่รับผิดชอบ

ภท.หนุนปรับ ครม.เพื่อ ปชช.

 ผู้บริหาร ภท.ยังระบุว่า รัฐบาลขณะนี้กำลังเผชิญปัญหาหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัว  สถานการณ์ยาเสพติด และปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงชายแดนพม่า ซึ่งรัฐบาลควรเร่งจัดการโดยไม่เพิ่มปัญหาการเมืองเข้าไปซ้ำเติม การปรับ ครม.ควรมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาประชาชน ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า

ด้านแกนนำ พท.ที่เป็นผู้ประสานงานระบุว่า  จะนำข้อเสนอของ ภท.แจ้งต่อนายกฯ เพื่อพิจารณา คาดว่าจะมีการเรียกประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในเร็วๆ นี้ เพื่อสรุปแนวทางการปรับ ครม.ภายในเดือน มิ.ย.นี้

ส่วนปัญหาความแตกแยกภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการ รทสช. ให้สัมภาษณ์ว่า เดี๋ยวต้องไปคุยกัน ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ตนกับ สส.ส่วนใหญ่ก็คุยกันตลอดเวลา คิดว่าปัญหาทุกอย่างคุยกันได้

เมื่อถามว่า รทสช.ยังอยู่กันแน่นหรือแตกแล้ว นายเอกนัฏกล่าวว่า ยังอยู่กัน ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพ สส.ร่วมทานข้าวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้า รทสช. ทาง สส.ได้มาบอกกับตนว่าแค่ไปทานข้าวกันเฉยๆ หรืออย่างก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยข่าวว่าจะมีคนย้ายออกจากพรรค หลายคนก็ออกมาปฏิเสธแล้ว คิดว่าเป็นการเข้าใจผิด เรื่องนี้ทุกพรรคการเมืองถือว่าเป็นเรื่องปกติ อาจมีสิ่งที่คาใจหรือมีปัญหากันบ้าง แต่เราก็เปิดรับฟังอยู่แล้ว ซึ่งก่อนช่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ตนก็พูดคุยกับ สส.ตามปกติ

เมื่อถามถึงกระแสที่กดดันนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคให้ออกจากตำแหน่ง นายเอกนัฏกล่าวว่า คิดว่าตำแหน่งของนายพีระพันธุ์อยู่สูง  จึงต้องมีแรงกดดันเป็นธรรมดา เพราะการทำงานต้องประสบกับความท้าทาย ซึ่งเชื่อว่านายพีระพันธุ์เจอกับปัญหา แต่ท่านไม่ค่อยพูด เป็นคนที่สู้งานอย่างเดียว ในส่วนคดีถุงยังชีพที่อยู่ในชั้นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เชื่อว่าท่านชี้แจงได้หมด และพร้อมไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.และหน่วยงานอื่นๆ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. นายเอกนัฏกล่าวว่า ตอนนี้ตนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ตราบใดที่อยู่ตรงนี้ก็ทำงานเต็มที่ ส่วนการปรับ ครม. ก็เข้าใจกันดีว่าเป็นอำนาจของนายกฯ ส่วนอนาคตเป็นอีกเรื่อง และไม่มีสัญญาณจากนายกฯ และที่ผ่านมาตนก็ทำงานกับนายกฯ ได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามถึงกรณี รทสช.มีการแก้ข้อบังคับเรื่องการพ้นสมาชิกภาพ จากการสร้างความขัดแย้ง หมายถึงนายสุชาติใช่หรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า การแก้ข้อบังคับทำมาตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.แล้ว ตั้งแต่การประชุมใหญ่พรรค เป็นการปรับแก้ให้ตรงกับรัฐธรรมนูญ คงไม่ได้ไปแก้เพราะรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อถามว่า เป็นการแก้เพื่อขู่อีกฝ่ายหรือไม่  นายเอกนัฏกล่าวว่า ไม่ ยืนยันว่าไม่ได้มีนัย อะไรทั้งสิ้น เพราะการประชุมใหญ่ทุกปีก็มีการแก้ข้อบังคับพรรค เพราะข้อบังคับบางตัวยังไม่มีความชัดเจน เมื่อถามว่าได้มีการเคลียร์ใจกับนายสุชาติแล้วหรือยัง นายเอกนัฏกล่าวว่า ยังเลยครับ แต่วันนี้ไม่แน่ เพราะอาจจะได้เจอ

ทางด้านนายสุชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการเคลียร์ใจกับนายเอกนัฏแล้วหรือไม่ หลังจากที่ปรากฏภาพนายสุชาติรับประทานอาหารกับกลุ่ม สส.ในพรรค และมีการพูดคุยทิศทางการทำงานการเมืองในอนาคตว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไร เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคนอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างตนให้เกียรติ เพราะเราอาศัยบ้านเขาอยู่  ส่วนเรื่องข้อบังคับพรรคก็ว่ากันไปตามระเบียบ ตนไม่ได้ซีเรียส ยืนยันว่าเรื่องที่สื่อมวลชนสอบถามเรื่องที่ตนได้รับประทานอาหารร่วมกับ สส.และสมาชิกพรรคบางกลุ่มก็ต้องพูดความจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเอกนัฏระบุพร้อมที่จะรับฟังปัญหา ได้มีการนัดพูดคุยกันแล้วหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ตนอาศัยพรรคเขาอยู่ ต้องยอมรับว่าพรรคก็ดีสำหรับบางคนบางกลุ่ม แต่ตนเองนั้นบริบทอาจจะไม่ได้เหมาะสมกับบางกลุ่ม และต้องขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจ แต่เราต้องมองทิศทางของเราต่อไป ขณะนี้ยังไม่ได้ไปดีลอะไรกับใคร เพราะเรามีมารยาทพอ แต่ส่วนตัวเองนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะคุยกับ สส.ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป

'สุชาติ' รับภารกิจจบสิ้นแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีรายชื่อของนายสุชาติปรากฏในการปรับ ครม.รอบหน้า นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่สามารถไปก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ของนายกฯ ได้ วันนี้ขอให้คุยกันทีละสเตป การกินข้าวกับ สส.นั้น กินกันมา 5-6 เดือนแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ และกลุ่มเพื่อน สส.นี้ก็คบกันมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งปี 62 ซึ่งต้องคุยกันเรื่องทิศทางบ้านเมือง จะไปอยู่กับพรรคไหนในอนาคตพรรคนั้นต้องทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน

"พรรคที่สังกัดอยู่เป็นพรรคที่มีนโยบายที่ดี แต่อาจจะไม่ตรงกับเรา ทุกท่านทราบดีว่าผมมาอยู่ตรงนี้ผมทำเพื่อใคร และภารกิจส่วนนั้นได้จบสิ้นแล้ว ที่เข้ามารับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองตั้งแต่ปี 62 แต่ตอนนี้ไม่สามารถไปอยู่กับท่านได้แล้ว ซึ่งท่านได้ฝากไว้หลายเรื่อง เหมือนการตามผู้มีพระคุณมา แล้ววันหนึ่งต้องตัดสินใจด้วยตนเอง"

เมื่อถามว่า มีความชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าใจไม่อยู่กับพรรคปัจจุบันแล้ว นายสุชาติกล่าวว่า  ต้องมองไปข้างหน้า แต่เราจะไม่จากด้วยการทะเลาะกัน จากกันด้วยดี แต่อะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ ผิดข้อบังคับหรือผิดระเบียบก็ต้องยอมรับความเป็นจริง เพราะตนเป็นลูกผู้ชาย ส่วนมีเพื่อน สส.ที่มีแนวทางตรงกันกี่คน ขอไม่พูดถึงคนอื่น เพราะไม่อยากให้เกิดความไม่สบายใจ ยอมรับว่ามีการคุยในรายละเอียดกันลึก

เมื่อถามถึงกรณีนายเอกนัฏระบุว่า หากไม่มีใจแล้วก็ขอให้ลาออกจากพรรค นายสุชาติกล่าวว่า ก็มีคนออกมาพูดถึงข้อบังคับพรรคแล้ว หากจะทำอะไรกับตนก็ทำตามข้อบังคับพรรค หากตนลาออก ประชาชนจะมองตนอย่างไร เพราะประชาชนเป็นคนเลือกตั้งมา หากทำอะไรแล้วมีปัญหาก็ว่ากันไปตามข้อบังคับพรรค ตนพร้อมที่จะยอมรับ แต่สิ่งหนึ่งตนมองว่าเขาน่าจะมองสิ่งที่ดีต่อกันที่เคยมีมา

"ผมพาเพื่อนที่อยู่กันแต่ละจังหวัดมา ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนปี 62 เพราะเราเองก็เหนื่อยที่จะพาเพื่อนๆ จากพรรคอื่นๆ มา การเมืองมีเข้ามีออกเป็นเรื่องปกติ และพรรคที่ผมสังกัดอยู่สมัยก่อนไม่มี สส.สักคน ขอถามว่า แล้วการเลือกตั้งปี 66 สส.มาจากพรรคไหน สื่อมวลชนก็รู้อยู่ เป็นการพาแม่น้ำหลายๆ สายมารวมกับแม่น้ำสายใหญ่ หากวันหนึ่งแม่น้ำสายหนึ่งที่ไม่มีน้ำ การจะไปหมุนเวียนรวมกับสายอื่นก็เป็นเรื่องปกติ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปรากฏภาพการนัดรับประทานอาหารร่วมกันของ สส.พรรค รทสช.บางส่วน นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น ท่ามกลางกระแสข่าวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้านายสุชาติอาจจะไปร่วมงานกับพรรคโอกาสใหม่ ล่าสุดได้ภาพปรากฏร่วมดื่มกาแฟกับบรรดา สส.ของพรรคอีกครั้ง อาทิ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.เขต 1 ชุมพร, นายสันต์ แซ่ตั้ง สส.เขต 2 ชุมพร, นายสุพล จุลใส สส.เขต 3 ชุมพร และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.เขต 10 นครศรีธรรมราช ที่ยังคงนำโดยนายสุชาติ เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 2 มิ.ย.

 ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า สส.กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมวงในครั้งแรก ซึ่งทั้งหมดเป็น สส.ในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด โดยเฉพาะ จ.ชุมพร ที่มาหมดทั้ง 3 เขต ซึ่งภาคใต้ถือเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของพรรค รทสช.  

ด้านนายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1  พรรค รทสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีภาพ 3 สส.ชุมพรนั่งดื่มกาแฟกับนายสุชาติว่า ไม่มีนัยทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ภาพที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ  นั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. เนื่องจากตนและ สส.ทั้งหมดตามในภาพได้ไปพบกับนายสุชาติ เพื่อไปพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันและสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่ปลูกกันมากในภาคใต้ ในฐานที่ท่านเป็น รมช.พาณิชย์ ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากนั้น

"ผมยืนยันว่าในพรรคยังรักกันเหมือนเดิม ไม่มีความขัดแย้งใดๆ และพวกผมก็ยังอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติเหมือนเดิม" นายวิชัยกล่าว.