อิ๊งค์คิดสูตรปรับครม.

ปรับ ครม.ฝุ่นตลบ “นายกฯ อิ๊งค์”  แย้มกำลังคิดอยู่ปรับแบบไหนแล้วดีขึ้น ขณะที่ลูกหาบ 2 พรรค “ภท.-พท.” ออกโรงทุกการตัดสินใจอยู่ที่หัวหน้าพรรคชี้ขาด “ขิง” เมินผี 8  ตัวกินข้าวทิ้ง รสทช. ขณะที่ “สนธิญา” บี้หนัก "พีระพันธุ์" หอบหลักฐานเกือบ 600 หน้าจี้ กกต.ปมถือหุ้น พ่วงยื่นผู้ตรวจฯ ชงศาล รธน.ขึงข้อบังคับ  รทสช.ขัด รธน. “จุลพันธ์” ตีปี๊บ "กาสิโน" สภาเสียงข้างมากลากไป ปิดจ๊อบจบภายในรัฐบาลแพทองธาร

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เวลา  11.25 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยเสนอให้ปรับ ครม.ครั้งใหญ่ หลังพรรคเพื่อไทยประสานไป ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ได้ส่งสัญญาณไปแต่ละพรรคแล้วหรือยัง ว่ายังไม่ได้คุยกับพรรคภูมิใจไทยเลยในเรื่องนี้ จะคุยเมื่อจำเป็น ถ้าจะต้องปรับหรืออย่างไรต้องคุยกันอยู่แล้ว ความจริงทุกพรรคร่วมรัฐบาลต้องคุยกันก่อนว่าจะอย่างไร และถ้าจะปรับหรืออะไรต้องปรับในส่วนของพรรคเพื่อไทยด้วย อย่างตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องคุยกันในรายละเอียดแบบนี้ แต่ว่าอยู่ในช่วงของการประเมิน และคิดอยู่ว่าจะปรับแบบไหนแล้วดีขึ้น

เมื่อถามว่า ได้ส่งสัญญาณไปแต่ละพรรคแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ยังนะคะ ถามว่า ณ วันนี้ก็ยังเหมือนเดิมอยู่ แต่ก็มีการคิดในเรื่องของการปรับ แต่ยังไม่ 100%

ส่วนจะปรับเฉพาะเพื่อไทยหรือมีการสลับกระทรวงกับพรรคร่วมฯ เป็นการปรับใหญ่ไปเลยนั้น นายกฯ กล่าวว่า พูดตอนนี้มันเร็วไป ขออนุญาตยังไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวพูดแล้วจะกระทบ บางทีวางกระทรวงกันไปยังไม่ได้ออกจากตนเลย   คนที่มีชื่อเขาจะเกิดความสั่นไหวว่าจะอย่างไรดี

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ เห็นว่าถึงเวลาต้องปรับ ครม.แล้วหรือยัง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มีการพิจารณาอยู่ในใจ อย่างไรก็ตาม หากจะต้องปรับ ครม. ต้องคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว เพื่อให้คำปรึกษากันแล้วเอาความคิดเห็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีพรรคร่วมรัฐบาลส่งสัญญาณมาบ้างหรือไม่ว่าจะปรับ นายกฯ กล่าวว่า "ยังค่ะ ยังไม่ได้สอบถามมา สมมติไฟนอลจริงๆ ว่าจะต้องปรับ ก็ต้องเรียกมาแสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว ไม่อยากให้ไม่ค่อยคุยแล้วทำเลย"

ส่วนในฐานะนายกฯ จะดูภาพรวมทั้งหมด หรือให้อำนาจแต่ละพรรคไปพิจารณากันภายในนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "ยังไม่ได้คิดเลย เดี๋ยวปรับแล้วบอก ขอจัดการเรื่องอื่นๆ ก่อน เรื่อง ครม.ยังนะคะ ยังไม่ปรับ เราเอาเวลาที่เหมาะสมดีกว่า อย่าพูดว่าเร่งเลย ถ้าเร่งไปเดี๋ยวปรับจะไม่โอเค"                                     

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ต้องไปถามพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นกระแสข่าว ยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงในการปรับ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย ว่าตอนนี้ยังเป็นแค่ข่าวลือ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยถือเป็นกระทรวงสำคัญ

เมื่อถามว่า ถ้าจำเป็นต้องไปนั่ง รมว.มหาดไทยก็ต้องไปใช่หรือไม่ นายประเสริฐหัวเราะก่อนกล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับการปรับ ครม. ถ้ามีนะครับ" เมื่อถามว่า รมว.มหาดไทยจะต้องเป็นคนบู๊ คิดว่าตนเองสามารถทำได้หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้ขอไม่วิจารณ์

นายสรวงศ์​ เทียนทอง​ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย​ กล่าวว่า ภายในพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน  ในฐานะเลขาธิการพรรค ยืนยันว่าอำนาจนี้เป็นของนายกฯ ส่วนที่มีข่าวว่าเป็นคนประสานเจรจากับพรรคภูมิใจไทยนั้น​ ไม่ใช่เลขาธิการพรรคแน่นอน เพราะหากมีการปรับหรือเปลี่ยนแปลงอะไร ในระดับหัวหน้าพรรคต้องมีการพูดคุยกันอยู่แล้ว​ และตนไม่ทราบว่าจะมีการโยกย้ายสลับกระทรวงใหญ่ระหว่างสองพรรคหรือไม่

รอ 'อนุทิน' ชี้ขาด        

ขณะที่ นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์ข้ามประเทศมาแล้วว่าไม่จริง จึงต้องรอให้นายอนุทินเดินทางกลับจากต่างประเทศมาประเทศไทย และให้ตอบเองดีที่สุด  ตนเองไม่สามารถตอบในเรื่องนี้ได้ ต้องอยู่ในการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรค ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค

น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า นายอนุทินยังไม่ได้รับแจ้งจากนายกฯ ว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี และไม่มีแกนนำพรรคเพื่อไทยประสานไปที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขอย้ำว่าในส่วนของพรรคไม่มีการเจรจา และไม่เคยเสนอเงื่อนไขใดๆ ให้นายกฯ  และพรรคเพื่อไทย ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ  เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้แถลงให้ทราบเอง

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกระแสการปรับ ครม. ที่มีชื่อไปนั่งเป็น รมช.การคลังว่า ไม่มี เป็นข่าวมั่วทั้งหมด ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมได้ให้สัมภาษณ์ ส่วนกรณีที่มีข่าวจะสลับให้นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ขึ้นเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์แทนนั้น ยังไม่มี เป็นข่าวมั่ว  นายกฯ ยังไม่ได้พูดอะไร ยังไม่มีการประสานอะไรทั้งสิ้น เป็นไปตามที่ ร.อ.ธรรมนัสพูดว่าเป็นคนที่เจรจาตั้งแต่แรกว่าให้พรรคเราดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โควตาเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรมไม่ได้มีเพิ่มขึ้น เพราะเราไม่ได้เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รทสช. จับกลุ่มรับประทานอาหารกับ สส.พรรคบางส่วนว่า เป็นเรื่องปกติ ตนพูดเสมอว่างานการเมืองเคร่งเครียด จะไปสังสรรค์ก็เป็นเรื่องปกติ แต่พอภาพออกมาก็ถูกปลุกปั่นให้มีนัยทางการเมือง แต่สส.ในภาพก็ออกมาปฏิเสธแล้ว ออกมาปฏิเสธหมดแล้ว

เมื่อถามว่า มองเรื่องการมีภาพถ่ายปรากฏออกมาอย่างไร นายเอกนัฏกล่าวว่า เฉยๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติอย่าหมกมุ่น โชคดีที่ตนอยู่ตรงนี้มานาน เราก็ต้องทำงานต่อ ไม่หมกมุ่น ไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลย ย้ำว่าตนไม่เอามาหมกมุ่น และไม่กระทบการทำงาน

ส่วนการปล่อยภาพแบบนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรค รทสช.เหมือนพรรคแตกหรือไม่นั้น  นายเอกนัฏกล่าวว่า เราต้องเชื่อมั่นในความรู้สึกของประชาชนว่ามีวิจารณญาณในการประเมินว่าแปลว่าอะไร ซึ่งในภาพ 15 คน แต่พอไปถึงสื่อมี 23 คนเฉย มีผี 8 ตัว มาจากไหน พอใส่ภาพพร้อมข้อมูลชงให้พร้อมเสิร์ฟแบบนี้ คนก็ควรจะมีสติในการเสพว่าอะไรเป็นอะไร

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูแล้วนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ไหวหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า “ไหว”

 เมื่อถามว่า จะใช้ข้อบังคับใหม่ที่ระบุว่า ห้ามสมาชิกฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น มิฉะนั้นจะพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค นายเอกนัฏกล่าวว่า ข้อบังคับปรับทุกปีเวลาประชุมใหญ่ เพื่อให้ยึดโยงรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกให้มากที่สุด ซึ่งแก้มานานแล้ว แก้ก่อนที่เหตุจะเกิด ไม่ได้แก้เพื่อไปทำอะไรกับใครเฉพาะเจาะจง

เมื่อถามย้ำว่า จะใช้ข้อบังคับใหม่กับกรณีนี้หรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า มีข้อบังคับเป็นเรื่องปกติ ทุกคนต้องทำตามข้อบังคับ บ้านเมืองมีกฎหมาย

ให้ยืมไม้ค้ำยัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายเอกนัฏได้เจอกับนางนฤมล ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่หน้าตึกบัญชาการ 1 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งยังใช้ไม้เท้าค้ำยัน เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขายังไม่หายดี จากนั้นสื่อมวลชนได้ขอให้ทั้งคู่ยืนคู่กันเพื่อถ่ายภาพ โดยนางนฤมลได้หันไปแซวนายเอกนัฏด้วยหน้าตายิ้มแย้มว่า "ให้ยืมไม้ค้ำยันมั้ย"

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามนางนฤมลว่าให้ยืมเพราะอะไร นางนฤมลจึงตอบว่า “แซวเล่น” พร้อมกับหัวเราะ ก่อนที่นายเอกนัฏจะยิ้มแล้วตอบว่า “จะให้ผมไปตีใครล่ะครับ”

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต. เพื่อขอให้ไต่สวนและพิจารณาข้อเท็จจริงกรณีของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ตั้งแต่เริ่มสมัครเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ แล้วลาออก และกรณีการถือครองหุ้น 4 บริษัท

โดยนายสนธิญากล่าวว่า ขอให้ กกต.ตรวจสอบเพิ่มเติมกรณีการถือหุ้นและแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ และให้ตรวจสอบผู้ถือหุ้นที่เป็นภรรยาและบุตรของนายพีระพันธุ์ อีกทั้งวันนี้มีเอกสารประกอบในเรื่องของการดำรงตำแหน่ง และการกระทำการต่างๆ ที่ตนรวมแล้วมีจำนวน 580 หน้า เพื่อให้ กกต.พิจารณา อย่างไรก็ตาม ได้รับหนังสือเชิญเข้าให้ปากคำกับ กกต.ในเรื่องดังกล่าวแล้ว ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้

นายสนธิญายังกล่าวถึงข้อบังคับของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่นายพีระพันธุ์เป็นหัวหน้าพรรค ได้มีบังคับใช้ในที่ประชุมใหญ่ช่วงเดือน มี.ค.68 โดยถ้าอ้างจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำว่า “ฝักใฝ่” พรรคการเมืองต่างๆ คือในเรื่องผูกพันและเอาใจใส่ นั่นหมายความว่าสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะไปฝักใฝ่หรือเอาใจใส่พรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใดไม่ได้ เพราะนั่นจะเป็นเหตุให้เข้าสู่ข้อบังคับของพรรครวมไทยสร้างชาติ ในข้อที่ 5 (6) นั่นคือการสิ้นสุดสภาพการเป็นสมาชิกของพรรค

 “ผมมีข้อสังเกตว่านายพีระพันธุ์ก็เป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ แบบนี้จะนำข้อบังคับข้อที่ 5 (6) มาใช้ใช่หรือไม่ เพราะนายพีระพันธุ์เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่มี น.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี นั่นเป็นการผูกพันและเอาใจใส่กันหรือไม่ นั้นแล้วถือว่าเข้าข่ายในข้อบังคับข้อที่ 5 (6) ดังนั้นวันนี้ได้ไปยื่นเรื่องดังกล่าวให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาว่าข้อบังคับดังกล่าวนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่  และส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงยื่นให้ กกต.พิจารณาด้วย” นายสนธิญาระบุ

วันเดียวกัน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต รมว.แรงงานฯ อดีต รมต.สำนักนายกฯ อดีต รมช.สาธารณสุข ได้เดินทางมาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม (กธ.) อย่างเป็นทางการแล้ว

ลุยไฟกาสิโน

ที่กระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานแถลงข่าว THAILAND ENTERTAINMENT COMPLEX มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลกเพื่อคนไทยทุกคนว่า ขณะนี้กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ผ่านการยกร่างและเตรียมจะเข้าสภาแล้ว แต่ยอมรับว่ายังมีเสียงสะท้อนและข้อห่วงใยในหลากหลายมิติ ซึ่งรัฐบาลเชื่อมั่นว่าหากมีการเร่งทำความเข้าใจและสื่อสารให้ครบถ้วน ส่วนฝ่ายที่คัดค้านก็อาจจะต้องถอยบ้าง เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศได้ เชื่อว่าตรงนี้สภาพร้อมที่จะพูดคุย       

 “อายุของสภามีเวลาเหลืออีก 2 ปี ก็เชื่อว่าจะเพียงพอที่จะขับเคลื่อนกฎหมายนี้ได้ ซึ่งรัฐบาลไม่รู้สึกกังวลว่าสภาจะไม่เห็นด้วย เพราะกฎหมายนี้เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีเสียงข้างมากมาจากการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายหากกฎหมายไม่ผ่านความเห็นชอบก็อาจจะต้องกลับไปเริ่มใหม่ ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และต้องยอมรับว่าเป็นการเสียโอกาส และถือเป็นการผลักโอกาสในการสร้างเครื่องยนต์ใหม่ที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยหากถามความเห็นส่วนตัว ก็อยากให้การดำเนินการเรื่องกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้” นายจุลพันธ์ระบุ

นายจุลพันธ์ระบุว่า ส่วนกรอบระยะเวลาการดำเนินการนั้น รัฐบาลไม่ได้มีการเร่งรัดแต่อย่างใด แต่ต้องการดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างรอบคอบ ทำกฎหมายให้ขาวสะอาด และพร้อมกับทุกประเด็น โดยเฉพาะที่เป็นข้อห่วงใยของสังคม ซึ่งกระบวนการในการทำข้อกฎหมายนั้น คาดว่าจะใช้เวลาเป็นปีกว่าจะจบ เพราะกฎหมายจะต้องมีความซับซ้อนมาก ต้องมีการหารือ ปรับแก้ และหลังจากกฎหมายแล้วเสร็จจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมา ตั้งหน่วยงานขึ้นมาทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในหลายมิติ ก่อนจะออกเป็นทีโออาร์  โดยเป็นความพยายามที่อยากจะให้กระบวนการทั้งหมดแล้วเสร็จได้ภายในรัฐบาลชุดนี้

รมช.การคลังกล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่ที่จะจัดทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น สุดท้ายรัฐบาลจะเป็นผู้กำหนด ส่วนจะมีการจัดตั้งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กี่แห่ง ยังไม่ได้มีการหารือ แต่หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับหลายภาคส่วน มีความเป็นไปได้ว่ากฎหมายจะสามารถกำหนดได้ว่าควรจะมีการจำกัดจำนวนโครงการเพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย

 “เรื่องจำนวนแห่งที่จะเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น เท่าที่หารือกับหลายฝ่าย รวมถึงฝ่ายที่คัดค้าน ซึ่งกังวลว่าหากไม่จำกัดจำนวนจะเหมือนประเทศเพื่อนบ้านที่มี 20-30 แห่ง แต่ยืนยันว่าของไทยจะเป็นการลงทุนระดับแสนล้านบาท ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการเปิดทุกจังหวัด ทุกอำเภอ แต่รัฐบาลก็ยินดีหากจะให้มีการจำกัด หรือกำหนดพื้นที่ในการเปิดเพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปคุยกันในระดับกรรมาธิการอีกที ซึ่งล่าสุดก็มี 2 ผู้ประกอบการที่ระบุเลยว่าสนใจ และพร้อมที่จะเข้ามาแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเขาเชื่อว่าหากไทยจัดทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะกลายเป็นอันดับ 3 ของโลก ภายใน 5-10 ปี รองจากสหรัฐและมาเก๊า” รมช.การคลังระบุ

สำหรับเงินลงทุนจะไม่ใช่งบประมาณ โดยจะเป็นการลงทุนจากภาคเอกชนทั้งสิ้น เบื้องต้นประเมินว่าจะมีการลงทุนขั้นต่ำ 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.23% ในช่วงการดำเนินการ และ 0.2-0.8% หลังเปิดให้บริการ สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว 1.19-2.38 แสนล้านบาทต่อปี สร้างการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 22,300 บาท/คน/ทริป เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 5-20% ต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง Low Season 13% ทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งปี อีกทั้งยังสร้างรายได้ให้รัฐ 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี รายได้ภาษีจากกิจการอื่นๆ  8,773-35,093 ล้านบาทต่อปี รายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาทต่อปี รายได้จากกิจการกาสิโน เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนัน ขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ