"สมเด็จฮุน เซน" แสบ! ปล่อยคลิปคุย "อิ๊งค์" ปมชายแดนไทย-กัมพูชา บอกอยากได้อะไรขอให้บอก พูดชัด "แม่ทัพภาค 2" อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา "นายกฯ" ยอมรับของจริง โวยระดับผู้นำไม่น่าทำแบบนี้ ลั่นเลิกคุยส่วนตัว ความไว้ใจมีปัญหา จวกหวังใช้เหตุการณ์เรียกคะแนนนิยมใน ปท. แจงยิบพาดพิง "มทภ.2" แค่เทคนิคการพูดหลังไมค์ "อนุทิน" บอกเห็นใจนายกฯ แต่รับลูกพรรค ภท.ไม่แฮปปี้คลิปเสียง "ปชน-.สว.พันธุ์ใหม่" บี้ยุบสภา-ลาออก ชี้หมดความชอบธรรม "กรณ์" ปลุกพรรคร่วมถอนตัวจากรัฐบาล คำพูดเข้าข่ายทรยศแผ่นดิน "ม็อบ" นัด 19 มิ.ย.บุกทำเนียบฯ ไล่พวกขายชาติ "เรืองไกร" จ่อร้อง กกต.สอบนายกฯ มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ "หลวงปู่สุดใจ" มอบ 1 ล้านให้ "บิ๊กกุ้ง" สนับสนุนทหารชายแดน
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงคล้าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โทรศัพท์พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง คลิปมีความยาว 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวด ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนในเรื่องทางราชการ จำเป็นต้องมีการบันทึกเสียงการสนทนาไว้ เพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อใช้เป็นข้อมูลภายในของกัมพูชาเองด้วย
ในคลิปดังกล่าว น.ส.แพทองธารได้ทักทายสมเด็จฮุน เซน โดยผ่านล่ามว่า "สบายดีไหม เป็นอย่างไรบ้าง" ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ได้ตอบว่า "แข็งแรงดี" จากนั้นนายกฯ ได้บอกว่า "วันนี้ได้คุยกับพี่ฮวดเรื่องชายแดน ก็เข้าใจตรงกันว่าอยากให้ทั้ง 2 ประเทศสงบสุข ไม่อยากให้ฮุน เซน ไปฟังฝ่ายที่ตรงข้ามกับเรา อย่างแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ซึ่งพอไปฟังอย่างนั้น ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่พอใจหรือโกรธ เพราะไม่ใช่ความตั้งใจของเรา เขาอยากจะดูเท่ เพราะตอนนี้ทางนั้นเขาอยากจะดูเท่ ก็จะพูดอะไรออกมาที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่ที่เราต้องการคือต้องการให้เกิดความสงบสุขให้เกิดขึ้นเหมือนก่อนที่ปะทะกันในบริเวณชายแดน"
นายกฯ กล่าวผ่านล่ามต่อว่า "ฝากบอกขอให้ท่านฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย เพราะตอนนี้คนในประเทศไทยเขาไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไรก็ขอให้ท่านบอกมา" ทางด้านสมเด็จฮุน เซน กล่าวตอบว่า "ขั้นตอนที่ 1 อยากให้ชายแดนเปิดปกติเหมือนก่อนเกิดเหตุ" ซึ่งนายกฯ ตอบกลับว่า "โอเค ตรงกัน" สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า "จริงๆ เหตุการณ์ปิดชายแดนฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มก่อน ดังนั้นหากฝ่ายไทยถอนคำสั่งทางกัมพูชา ก็จะเปิดปกติ ผิดหวังเพราะเราก็มีปัญหาความผิดหวังมาแล้วครั้งหนึ่งที่ช่องบก เราก็พยายามทำตามที่ฝ่ายไทยต้องการ และเราก็บอกว่าโอเค เราทำตาม แต่ขอให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ เราถอนและปรับกำลังแล้ว แต่ฝ่ายไทยยังเอาเรื่องด่านมากดดันอีก"
ต่อมาล่ามได้แปลว่า "สมเด็จฮุน เซน อยากให้นายกฯ ช่วยให้ฝั่งไทยถอนเรื่องการปิดด่าน ถ้าถอน ฝ่ายกัมพูชาก็จะถอนเรื่องการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร" ด้าน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า "ตอนนี้รัฐบาลโดนโจมตีหนักมาก เพราะตอนที่สมเด็จฮุน เซน ออกมาพูดกับท่านฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรื่องการตัดน้ำตัดไฟ อันนั้นต้องขอโทษด้วย กระทรวงการต่างประเทศแค่อธิบายขั้นตอนไม่ได้บอกว่าจะทำ แต่ตอนนี้เรื่องตัดหนังตัดละครเหมือนท่านจะทำหมดแล้ว จริงๆ ก็น่าจะทำให้โอเคทั้งสองฝ่าย พูดพร้อมกันว่าเราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้ว ว่าจะเปิดให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติได้ และอยากให้เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติ"
ทั้งนี้ ล่ามจึงได้ถาม น.ส.แพทองธารว่า "จะให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาโพสต์ใช่หรือไม่" น.ส.แพทองธารตอบว่า "ใช่ให้ท่านฮุน เซน แนะนำก็ได้ ให้เป็นการตกลงร่วมกัน เพราะตอนนี้อิ๊งค์โดนหนักมาก" ทางสมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า "จริงๆ ท่านฮุน มาเนต ต้องการเสถียรภาพมาก แต่ว่าทหารมันมาปิดด่านก่อน เริ่มต้นก่อน กดดันก่อน ดังนั้นต้องคุยกับทหารว่าพร้อมไหมในการเปิดด่าน" น.ส.แพทองธารตอบว่า "พร้อมค่ะ เราเปิดให้อยู่แล้ว แต่เราต้องตกลงร่วมกันว่าเราเปิด เพราะถ้าอิ๊งค์บอกว่าเรายอม ยอม ยอม ยอมหมด อิ๊งค์ก็จะโดน เพราะตอนนี้มันเลยมาถึงเรื่องก่อนด่านแล้ว" สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า "เรื่องการปิดด่าน ทหารมันเริ่มก่อนทั้งๆ ที่มันหลอกเรา ให้ปรับกำลัง แล้วบอกว่าสถานการณ์ต้องปกติ"
ต่อมาสมเด็จฮุน เซน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 มิ.ย.2025 ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทย โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 17 นาที 6 วินาที ซึ่งมีคุณเคลียง ฮวด ทำหน้าที่ล่ามตามปกติ และเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนในเรื่องทางการ การบันทึกเสียงสนทนาไว้ถือเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อการใช้งานภายในของกัมพูชา
'อิ๊งค์' รับคลิปจริงคุย 'ฮุน เซน'
สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า หลังจากนั้น ผมได้เผยแพร่ไฟล์เสียงบทสนทนาระหว่างผมกับนายกรัฐมนตรีไทยให้แก่บุคคลราว 80 คน ซึ่งรวมถึงสมาชิกคณะกรรมการประจำพรรค กลุ่มทำงานวุฒิสภา ทีมสภาแห่งชาติ หน่วยงานด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเผยแพร่ กลุ่มงานด้านชายแดน และสมาชิกของกองทัพ ในกลุ่มบุคคลเหล่านี้ อาจมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่กี่ชั่วโมงหลังบทสนทนา นายกรัฐมนตรีไทยได้ออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาว่าทำการเมืองอย่าง ไม่เป็นมืออาชีพ และดำเนินกิจกรรมทางการเมืองผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับคำพูดของตนเอง
"สำหรับประเด็นไฟล์เสียงที่หลุดออกมา ผมสังเกตว่าในขณะนี้มีการเผยแพร่สู่สาธารณะเพียงประมาณ 9 นาทีเท่านั้น ดังนั้น หากฝ่ายไทยต้องการไฟล์เสียงฉบับเต็ม ผมพร้อมที่จะเผยแพร่บทสนทนาทั้งหมดความยาว 17 นาที 6 วินาทีอย่างครบถ้วน" สมเด็จฮุน เซน ระบุ
ล่าสุด คลิปเสียงบทสนทนาความยาว 17 นาที 6 วินาที ระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ได้ถูกปล่อยสู่สาธารณะผ่านทางผู้ใช้เฟซบุ๊กหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทางการของกัมพูชา สร้างแรงสะเทือนต่อเวทีการเมืองและการทูตไทย-กัมพูชา
กระทั่งเวลา 14.09 น. น.ส.แพทองธารลงมาที่หน้าตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล แถลงข่าวด่วนหลังมีการปล่อยคลิปการสนทนาดังกล่าว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รวมทั้งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ยืนอยู่ด้านหลังนายกฯ ด้วย
น.ส.แพทองธารยอมรับว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปจริงที่คุยกันเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตนทราบข้อมูลจากผู้ที่เป็นล่ามในคลิปว่าสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาค 2 ระหว่างการพูด จึงบอกว่าการพูดของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ในขณะที่ไทยกับกัมพูชาตอนนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามกัน ปะทะกันก็ต้องพูดเช่นนั้น แม่ทัพภาค 2 ก็ต้องพูดเช่นนั้น อย่าไปถือสา อย่าไปคิดเลย ตนพยายามเข้าใจว่าเมื่อสมเด็จ ฮุน เซน โกรธเรื่องนี้
"ก็เป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์ คุยโทรศัพท์แบบส่วนตัว มันก็ไม่ควรจะนำมาเปิดเผย ดิฉันมีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง อธิปไตย และผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ดิฉันจึงพูดคุยด้วยความนุ่มนวล และการพูดคุยส่วนตัว ก็เรียกคุณอาเหมือนกับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลทุกคนที่ทำงานมาตั้งแต่ยุคนายทักษิณ ชินวัตร การเรียกอาเรียกลุงเป็นเรื่องปกติ และระหว่างการพูดคุยดิฉันไม่มั่นใจไทม์ไลน์ของกองทัพ สมเด็จฮุน เซน บอกให้เปิดด่าน ดิฉันจึงเสนอให้เปิดพร้อมกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงสันติภาพ จับมือแล้วเปิดพร้อมกัน แต่ทางกัมพูชาไม่ยอม พยายามพูดโน้มน้าวให้เปิดพร้อมกัน แต่ฝั่งกัมพูชาบอกไม่ได้ให้ไทยเปิดก่อน แล้วจะเปิดตามหลัง 5 ชั่วโมง และบอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น ซึ่งดิฉันก็ไม่แน่ใจ จึงขอปรึกษากระทรวงกลาโหมก่อน เพื่อให้คำตอบในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นการประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่บ้านพิษณุโลก" น.ส.แพทองธารกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ระหว่างประชุมสมเด็จฮุน เซน ก็โพสต์เฟซบุ๊กว่า หากไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง กัมพูชาจะปิดด่านทั้งหมด อ้าวทำไมไม่เหมือนที่พูดกันไว้ ตนพยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะอยากทราบว่าเขาต้องการอะไร คุยกันอย่างไรดี เพื่อให้เกิดการต่อรอง เกิดสันติภาพ ไม่เสียเลือดเสียเนื้อ นี่คือความตั้งใจ สมเด็จฮุน เซน เขาย้ำเรื่องการเปิดด่านอย่างเดียว ซึ่งตนไม่กล้ารับปาก เพราะไม่แน่ใจว่ากองทัพพร้อมหรือไม่
โวยระดับผู้นำปท.ไม่ควรทำ
"แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าความต้องการของท่านจริงๆ คือคะแนนนิยมภายในประเทศของท่านเอง โดยไม่สนใจจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร การที่ท่านต้องการคะแนนนิยมภายในประเทศ เพราะเคยบอกกับดิฉันว่าคะแนนนิยมเริ่มตก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งทำให้อยากจะเรียกพลังตรงนี้ ดิฉันหวังว่าท่านจะได้คะแนนนิยมเพิ่มอยู่ในสายตาของโลกที่จับตามองอยู่ว่าเมื่อผู้นำสองท่านคุยกันแบบส่วนตัว แต่ที่มีการอัดคลิปแล้วปล่อยมาแบบนี้ แน่นอนว่าดิฉันไม่ได้ปล่อย ก็ตามนั้น จะได้เข้าใจจุดประสงค์ว่าเราต้องการสันติภาพ ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นหนึ่งในการทำให้คะแนนนิยมของท่านเพิ่มขึ้น ไม่เป็นไรก็ตามนั้น" นายกฯ กล่าว
ถามว่า การบอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ใช่พวกเรา ถือเป็นเทคนิคในการสนทนาหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวสวนทันทีว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่พวกเรา แต่เรากับกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว การจะพูดคุยกันก็ต้องพูดถึงกันไม่ดีอยู่แล้ว แต่ตนทราบว่าสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาค 2 จึงชี้แจงทำความเข้าใจ
ซักว่า ประเด็นนี้จะต้องทำความเข้าใจกับแม่ทัพภาคที่ 2 หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า หากตนเป็นฝั่งตรงข้ามกับกองทัพ ทำไมต้องรอว่าฝั่งกองทัพคิดอย่างไร แต่มันไม่ใช่ เมื่อตนทราบว่าเขาโกรธกองทัพก็รีบทำความเข้าใจว่าเมื่อเราทะเลาะกันเป็นฝั่งตรงข้าม ก็ต้องพูดแบบนี้ ให้แม่ทัพภาค 2 พูดไป พยายามลดอารมณ์ว่าไม่มีอะไร เพื่อจะให้คุยประโยคกันต่อไป และนำไปสู่ความสงบสุข
ย้ำว่ามีกระแสข่าวจะมีคลิปที่ 2 ตามออกมา จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะภายในประเทศที่เหมือนจะถูกยั่วยุให้รบกันเอง นายกฯ ตอบว่า "ใช่ค่ะ ดิฉันไม่อยากให้คนไทยหลงกลตรงนี้ เพราะเป็นเทคนิคให้เข้าใจว่าเราทะเลาะกัน แต่จริงๆ แล้วประโยชน์แรกที่ดิฉันคือต้องการแสดงความเข้าใจเขา ให้เขาบอกความต้องการที่แท้จริงว่าอะไรที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข อะไรทำให้การปะทะมันจบลง"
เมื่อถามว่า การพูดคุยและมีการปล่อยคลิปตามหลังออกมาแบบนี้ ต่อไปจะพูดคุยกันต่อได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่าสันติเจรจาจะยังใช้ได้กับกัมพูชาหรือไม่ น.ส.แพททองธารกล่าวว่า ตนไม่ใช่คนที่จะไปท้าตีท้าต่อย แต่คงไม่มีการคุยส่วนตัวแล้ว
พอถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฮุนกับตระกูลชินวัตรได้จบลงแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่ทราบว่าอย่างไร แต่ไม่ขอคุยส่วนตัวอีกแล้ว เพราะจะมีปัญหาเรื่องการไว้ใจ อย่างไรก็ตาม บทสนทนาแบบนี้ไม่ควรที่จะออกมา เพราะนี่คือระดับผู้นำของประเทศ คือนายกฯ และอดีตนายกฯ ที่เป็นนายกฯ มาตั้งแต่อายุ 32 ปี และเป็นพ่อของนายกฯ คนปัจจุบัน บทสนทนาแบบนี้ ก็นั่นแหละค่ะ
จากนั้น น.ส.แพทองธารเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2568 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และลุกเดินออกไปรับโทรศัพท์อยู่บ่อยครั้ง ภายหลังเป็นประธานการประชุม นายกฯ เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง มาส่งขึ้นรถและได้ยืนพูดคุยกันก่อนนายกฯ จะขึ้นรถออกจากทำเนียบฯ
เวลา 15.10 น. นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้ต่อสายพูดคุยกับ พล.ท.บุญสิน แม่ทัพภาคที่ 2 แล้ว ซึ่งท่านก็เข้าใจ และบอกว่าถ้านักข่าวสงสัยให้โทรศัพท์ได้เลย
"คำพูดที่นายกฯ ชี้แจงแม่ทัพภาค 2 บอกว่าเข้าใจได้ ยืนยันไม่มีการเข้าใจผิด เพราะเป็นเรื่องที่เกิดกับแม่ทัพภาค 2 ให้ไปถามกับแม่ทัพภาค 2 ว่าพูดคุยกับนายกฯ เข้าใจแล้วหรือไม่" นายภูมิธรรมกล่าว
ปมคลิปเสียง ภท.ถอนตัว รบ.
ด้าน พล.ท.บุญสินให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ ได้โทร.มาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า "ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ " ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน
ขณะที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงการปล่อยคลิปการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ว่าตนยังไม่ได้ฟังรายละเอียด แค่อ่านจากข่าว เมื่อถามว่าจากกรณีที่เกิดขึ้นต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไปถามนายกฯ สิ
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะส่งผลกระทบระดับไหน นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่รู้ที่มาที่ไป ถามอีกว่า กรณีนี้จะทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาซ้ำเติมอะไรใคร
เมื่อถามว่า จะให้ให้กำลังใจอะไรนายกฯ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ในฐานะสัมพันธ์ส่วนตัวตนให้กำลังใจนายกฯ เสมอ พอถามว่าแล้วกับคุณพ่อนายกฯ นายอนุทินยิ้มโดยไม่ได้ตอบคำถาม
ถามถึงความเห็นของประชาชนที่จะลงถนนหรือเรียกร้องให้นายกฯ ประกาศยุบสภา นายอนุทินระบุว่า เป็นการตัดสินใจของนายกฯ ถ้ามันเป็นทางออกว่าจะยุบก็ยุบ สิ่งที่ดีที่สุดคือให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจ
ซักว่าสมาชิกพรรคภูมิใจไทยมีความเห็นอย่างไรต่อเรื่องคลิปเสียงดังกล่าว นายอนุทินระบุว่า วันนี้ยังไม่ได้คุยเลย ตื่นไปทำงานตั้งแต่เช้าตอนตี 5 หลายคนก็บอกว่าหน้าตาร่วงโรย แต่ท่าทีของพรรคก็ไม่ค่อยแฮปปี้นัก ซึ่งอย่างที่ตนบอกไปว่าตอนนี้ยังเป็นรัฐมนตรี อีกทั้งท่านนายกฯ ก็ได้แถลงข่าวไปแล้ว อะไรที่ทำได้ที่ตนจะสามารถช่วยแบ่งเบาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ เพราะตนก็มีพรรคพวกที่เป็นทหารหลายฝ่าย หากตรงไหนที่เห็นว่าตนเป็นประโยชน์ อะไรที่ทำได้โดยที่ไม่ต้องมีใครร้องขอ ตนก็ทำอยู่แล้ว
ช่วงค่ำ เวลา 20.40 น. พรรค ภท.ออกแถลงการณ์ถอนตัวจากรัฐบาล เนื้อหาระบุว่า จากกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และกองทัพไทย พรรค ภท.ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรค ภท. ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรค ภท.ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรค ภท.ทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
พรรค ภท.ขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร แสดงความรับผิดชอบต่อการทำให้ประเทศไทย ต้องเสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชน และกองทัพ พรรค ภท.พร้อมจะร่วมมือกับประชาชนชาวไทย สนับสนุนกองทัพ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ เพื่อธำรงรักษาอธิปไตย ดินแดน และประโยชน์ของประเทศไทย ทุกวิถีทาง อย่างสุดกำลัง
สื่อข่าวรายงานว่า นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านเพจ “ลุงเนวิน” เป็นรูปธงชาติไทย ข้อความระบุว่า “เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่” พร้อม ติดแฮชแท็กว่า #ตัวเป็นไทยใจไม่เป็นทาส
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่าน x ถึงคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน โดยแสดงความเห็นและข้อเรียกร้องต่อ น.ส.แพทองธาร 6 ข้อ สาระสำคัญคือ เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธารแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้แก่ประชาชน และเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลบางกลุ่มปลุกปั่นความผิดพลาดของ น.ส.แพทองธารให้บานปลาย จนนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยของเรา
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวว่า "คลิปที่เกิดขึ้นนี้ หมดเวลาท่านนายกฯ แล้วครับ ผมยืนยันในจุดนี้ ผมไม่อยากพูดคำนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าจะพูดแบกท่านนายกฯ ต่อไปอย่างไร ที่จะทำให้ประชาชนคนไทยกลับมาให้ความเชื่อมั่นกับนายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ในการคลี่คลายปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อไป จะมั่นใจได้อย่างไรว่าการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีจะคิดถึงผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก นี่คือคำถามที่เมื่อฟังแถลงการณ์ของนายกฯ ท่านก็ไม่สามารถคลี่คลายข้อพิพากษ์วิจารณ์ และข้อสงสัยของประชาชนได้ ผมว่าทางออกเดียวของนายกฯ คือการลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น"
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความเรื่องคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ได้ตัดสินใจกันใหม่ว่าต้องการให้ใครเป็นรัฐบาล เพื่อแก้วิกฤตการเมืองในระยะสั้น ทั้งของประเทศและทั้งของพรรคเพื่อไทยเอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถึงทางตัน และเพื่อไม่ให้สถานการณ์เดินไปจนเข้าทางพวกจ้องรัฐประหาร ดังนั้น นายกรัฐมนตรีโปรดแสดงภาวะผู้นำ ยุบสภาเถิดครับ ไม่มีอะไรใหญ่กว่าประชาชน
น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชัน X ระบุว่า trust คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักการเมือง และยิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำประเทศ ดิฉันเตือนท่านหลายครั้งว่าท่านกำลังสูญเสีย trust อย่างร้ายแรงจากกรณีไทย-กัมพูชา วันนี้ ดิฉันเชื่อว่า trust ที่ประชาชนมีต่อท่าน ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ซัดขายชาติทรยศแผ่นดิน
ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมด้วย สว.พันธุ์ใหม่ แถลงกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ว่าพวกเราในฐานะ สว.พันธุ์ใหม่ มีความรู้สึกไม่สบายใจที่นายกฯ ออกมายืนยันว่าเป็นคลิปเสียงของตัวเอง ทำให้คนไทยทั้งประเทศและฝ่ายความมั่นคงก็อาจจะรู้สึกคับข้องใจกับคลิปเสียงนี้ ซึ่งในเรื่องของการแสดงความรับผิดชอบรัฐบาลคงจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่มีในบทสนทนา และต้องออกมาชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบต่อกรณีนี้อย่างไร
น.ส.นันทนากล่าวว่า เรามองว่าฝ่ายความมั่นคงได้ทำหน้าที่ของตัวเองดีอยู่แล้ว ในเรื่องการปกปักรักษาชายแดนของประเทศไทย และทำหน้าที่เป็นผู้ที่ดูแลบริเวณของประเทศไทยอย่างมั่นคง ฉะนั้นก็ให้กำลังใจกับฝ่ายทหารที่จะทำหน้าที่ในการปกป้องประเทศชาติของเราต่อไป แต่ไม่เห็นด้วยถ้าทหารจะใช้เงื่อนไขนี้มายึดอำนาจหรือทำรัฐประหาร ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์ในประเทศของเราไม่ได้ไปถึงจุดที่จะต้องทำรัฐประหาร เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเราอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่
ถามว่า นายกฯ ควรจะลาออกหรือไม่ น.ส.นันทนากล่าวว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ แต่จะรับผิดชอบอย่างไรก็ต้องออกมาชี้แจง เพราะที่นายกฯ ออกมายอมรับว่าเป็นเสียงของตัวเอง และประชาชนได้ฟังสิ่งที่พูดแล้วไม่สบายใจ ฝ่ายความมั่นคงไม่สบายใจ ย้ำว่าท่านต้องรับผิดชอบ ส่วนจะรับผิดชอบแล้วลักษณะอย่างไรก็ต้องมาชี้แจงต่อประชาชน
ซักว่ามองอย่างไรถ้าความรับผิดชอบไม่ตรงใจประชาชนอาจจะมีการลงถนน น.ส.นันทนากล่าวว่า เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่แสดงออกได้อยู่แล้ว แต่ต้องไม่บานปลาย และฝ่ายความมั่นคงไม่ใช้เป็นเงื่อนไขนี้ในการยึดอำนาจ จึงต้องบอกว่าฝ่ายทหารต้องหนักแน่นและยืนยันว่าเป็นทหารอาชีพคือทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศ
ซักว่าหากนายกฯ ไม่ลาออกการแก้ปัญหาจะเกิดความเชื่อมั่นอย่างไร น.ส.นันทนากล่าวว่า ต้องดูความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ถ้ารัฐบาลยังบริหารประเทศต่อไปโดยที่ยังมีผู้นำประเทศและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เป็นลักษณะเดิมก็ต้องดูว่าประชาชนจะยังให้ความไว้วางใจอยู่มากน้อยแค่ไหน
"ขอย้ำว่าถ้าประชาชนไม่พอใจ การเปลี่ยนแปลงต้องเป็นไปตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย และรัฐบาลมีทางออกคือลาออกหรือยุบสภา ถ้ายุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ประชาชนก็สามารถตัดสินใจได้ว่าเขาจะเลือกใครมาเป็นรัฐบาลต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ไม่เกิดการปะทะ ไม่เกิดความรุนแรง และเป็นเงื่อนไขที่ดีที่สุด แต่ถ้าผิดไปจากนี้รัฐบาลก็ต้องยอมรับว่าเมื่อเสียศรัทธาต่อประชาชนแล้วจะสามารถบริหารต่อไปได้อย่างไรในการที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและทำตาม" สว.รายนี้ระบุ
ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคกล้า และอดีต รมว.การคลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ทั้งในแง่หลักการ อุดมการณ์ และยุทธศาสตร์การเมือง พรรคร่วมรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ และภูมิใจไทย ควรรีบยื่นเงื่อนไขให้นายกฯ ลาออก ถ้านายกฯ ไม่ยอมพรรคร่วมควรถอนตัวจากรัฐบาล
"กรณีคลิปเสียงนี้ผมว่าเกินเยียวยา ในสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งที่นายกฯ พูดเข้าข่าย treason คือการทรยศตำแหน่งของตนและทรยศแผ่นดิน หากแม้ว่าในใจท่านไม่ได้คิดทรยศประเทศ แต่แค่พูดออกมาก็ผิดแล้ว การขอโทษและลาออกยังจะรักษาความสง่างามไว้ได้บ้าง ในระบอบประชาธิปไตยนั้น ความชอบธรรมสำคัญ พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลอยู่ไม่ควรลังเลที่จะแสดงตน" นายกรณ์ระบุ
เพจ คปท. ของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย โพสต์ข้อความระบุว่า “ถ้าพี่น้องได้ฟังคลิปเสียงขายชาติ ไส้ศึกกัมพูชา แล้วพี่น้องไม่พอใจ ขอให้พี่น้องมารวมกัน ทำเนียบรัฐบาล ในวันพฤหัสฯ ที่ 19 มิ.ย.68 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป แพทองธารต้องรับผิดชอบ ออกไป ออกไป ออกไป”
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวว่า วันที่ 19 มิ.ย. เวลา 09.30 น. จะไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้ กกต.ตรวจสอบนายกฯ แพทองธารว่ามีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) หรือไม่ หลังปรากฏคลิปการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ออกมา
หลวงปู่ให้ 1 ล้านกำลังใจทหาร
ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สนามเป้า กรุงเทพฯ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท พร้อมเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้แก่กองทัพภาคที่ 2 จากพระครูสุทธิปัญญาจารย์ หรือ หลวงปู่สุดใจ ภัททปัญโญ เจ้าอาวาสวัดสวรรค์สามัคคีธรรมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด พร้อมคณะศิษย์ยานุศิษย์ เพื่อนำไปสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 มาปฏิบัติภารกิจที่ช่อง 5 ได้มีพี่น้องประชาชนที่ทราบข่าวได้มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยได้อย่างดีเยี่ยมสมเป็นชายชาติทหาร
นอกจากนี้ ที่บริเวณด้านหน้าสโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พบว่า อาคารสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก ได้ปรากฏว่ามีการขึ้นภาพบนจอ LED ที่ติดอยู่กับอาคาร โดยเป็นภาพของแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมกับข้อความว่า "ขอเป็นกำลังใจให้แม่ทัพภาคที่ 2"
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงภายหลังการประชุม ศบ.ทก. ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบ.ทก. เป็นประธาน
นายนิกรเดชกล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้ง ไทยยึดมั่นกลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาเขตแดนไทยกับกัมพูชาด้วยความจริงใจและสุจริตใจ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและธรรมเนียมปฏิบัติของกติกาสากล ซึ่งฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเจบีซีนัดพิเศษในเดือน ก.ย. ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ตอบกลับแล้ว
"การประชุมอาร์บีซีที่นายกฯ ได้ประสานฝ่ายกัมพูชาไปให้จัดประชุมโดยเร็ว เราได้ยื่นข้อเสนอวันที่เราไปแล้ว ซึ่งฝ่ายไทยและกัมพูชากำลังพิจารณาหาวันที่ที่เหมาะสมทั้งสองฝ่าย โดยจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป" โฆษก ศบ.ทก.กล่าว
ถามว่า ทางกรุงพนมเปญมีการปลุกระดมกลุ่มผู้ชุมนุมรักชาติ ทางรัฐบาลมีความห่วงใยคนไทยในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลตอบเองว่า ตามคติพจน์ของศูนย์ ศก.ทบ. รอบคอบ รอบด้าน ใช้สติสร้างสันติ แต่หากทางฝ่ายกัมพูชาทำอะไรเราตอบโต้ทุกเรื่อง เราก็ได้ใช้สติในการพิจารณา และกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงที่ในประชุม ซึ่งไม่มีผลกระทบอะไรกับประเทศไทย ได้แต่เพียงรับทราบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลตีตกทักษิณ ขอพิจารณาลับ ไต่สวน9ผู้คุมคุก
ศาลฎีกาเริ่มไต่สวนพยานคดีทักษิณชั้น 14 วันที่ 3 เรียกพัศดีเวร จนท.ราชทัณฑ์ 9 ปากขึ้นสอบ "หมอวรงค์"
ครม.เคาะ1ต.ค. รถไฟฟ้า20บาท ตลอดสายทุกสี
ครม.ไฟเขียว “รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย” ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้ ครอบคลุมทุกสายทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทลายแก๊งคนสนิทฮุนเซน วธ.ปัดเขมรเคลมชุดไทย
"อิ๊งค์" ปิดปากกัมพูชาเรียกร้องคืนวัตถุโบราณ 20 ชิ้น "วธ." แจงเขมรเสนอ "ประเพณีแต่งงาน" ขึ้นทะเบียนยูเนสโกไม่พบข้อมูลอ้างอิง "ชุดไทย"
5หมื่นล.สู้ภาษีทรัมป์ คลังช็อก1ส.ค.เก็บไทย36%เร่งชงข้อเสนอใหม่เอาใจสหรัฐ
"ทรัมป์" ส่งจดหมายถึงไทย เก็บภาษีนำเข้าสหรัฐคงเดิม 36% มีผล 1 ส.ค.นี้
มท.อ้วนโชว์เชือดสิงห์นํ้าเงิน
“ภูมิธรรม" ไม่รอ 3 เดือน โยก 2 อธิบดีสายสีน้ำเงินเข้ากรุ มท.ทันที หลังทำงานเพียง 5 วัน
'นายกฯอิ๊งค์' ประชุม สส.เพื่อไทย ลั่นจะต่อสู้เพื่อกลับมาปฏิบัติหน้าที่ให้ได้
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ฐานะรักษาการนายกฯ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และรองหัวหน้าพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ