ม็อบพรึ่บโคราช ตะเพิด‘นายกฯ’

ม็อบทุกสีไล่รัฐบาลพรึ่บ! โคราชเรียกร้อง "อุ๊งอิ๊ง" ลาออก เลือกนายกฯ ใหม่ เพราะไร้วุฒิภาวะ  ขาดความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ สมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู มิได้แสดงเจตนา เจรจา พิทักษ์รักษาซึ่งเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ลั่น 28 มิ.ย. เจอกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 ที่ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ได้มีกลุ่มพลังมวลชนในนามภาคประชาชนคนโคราชในการปกป้องอธิปไตยของไทยและสนับสนุนกองทัพไทย โดยมีรถเครื่องขยายเสียง รถแห่ป้ายไปรอบๆ ตัวเมือง ปลุกระดมเชิญชวนพี่น้องประชาชน ทั้งกลุ่มเสื้อหลากสี    กลุ่มคนเสื้อเหลือง กลุ่มคนเสื้อแดง  และกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน ขอให้รวมพลังชาวโคราชรวมกว่า 500 คน โดยเขียนข้อความข้างรถว่า พี่น้องผู้รักชาติ...รักแผ่นดิน...ร่วมส่งกำลังใจให้แม่ทัพภาคที่  2 พลโทบุญสิน พาดกลาง

นำโดยนายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล  แกนนำภาคีเครือข่ายประชาชนชาวโคราชผู้รักชาติ ประธานกลุ่มพันธมิตรโคราช และนายธนภัทร ชองรัมย์ แกนนำภาคประชาชนคนโคราชในการปกป้องอธิปไตยของไทยและสนับสนุนกองทัพไทย พร้อมถือธงชาติไทยโบกสะบัด โดยมีการถือป้ายเขียนข้อความว่า “นักรบแนวหน้าสู้ สู้, ชาวโคราชไม่ยอมเสียแผ่นดิน, รัฐบาลเพื่อไทยขายชาติ ออกไป-ออกไป-ออกไป โดยมีการเปิดเพลงปลุกใจ ปลุกระดมคนรักชาติรักแผ่นดิน อาทิ รวมพลังตั้งมั่น, สามัคคีชุมนุม และร่วมกันร้องเพลงหนักแผ่นดิน และเพลงชาติไทย ก่อนสลายการชุมชน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.จังหวัดฯ คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยรวมกว่า 50 นาย

ทั้งนี้ บรรยากาศการชุมนุมมีการพูดไมโครโฟนผ่านเครื่องขยายเสียงกล่าวโจมตี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างเผ็ดร้อน พร้อมทั้งทุกคนตะโกนหลายครั้งๆ “ อุ๊งอิ๊ง” ออกไป ออกไป ออกไป พร้อมทั้งเรียกร้องให้ลาออกทันทีเป็นทางเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ยุบสภา  โห่ไล่พรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งเรียกร้องให้พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และยังเรียกร้องให้ สส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา ลาออกจากพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ มีการกล่าวโจมตี "ฮุน เซน"  อย่างดุเดือด รวมทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และตระกูลชินวัตรอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้มีการบอกกล่าวแจ้งให้กันและกันแล้วบอกต่อๆ กันว่าในวันที่ 28 มิ.ย.2668 เครือข่ายโคราชจะเดินทางไปยังชุมนุมใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยใครที่สะดวกก็ร่วมกันเดินทางไปสมทบ ส่วนที่ จ.นครราชสีมา ก็จะมีการชุมชนกระจายกันไปที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม  พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า คนไทย ชาวโคราชไม่มีสี มีสีเดียวคือสีธงชาติไทย

ต่อมากลุ่มพลังมวลชนผู้ชุมชนได้รวมกลุ่มเรียงแถวหน้ากระดานโบกธงชาติสะบัด พร้อมกับหยุดเครื่องเสียง ปิดเพลงปลุกระดมก่อน ยืนอ่านแถลงการณ์ภาคประชาชนคนโคราชในการปกป้องอธิปไตยของไทยและสนับสนุนกองทัพไทย

“ด้วยประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดินมาทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งบัญญัติไว้ในหมวด 4 มาตรา 50 ว่าด้วยหน้าที่ของปวงชนชาวไทยในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงการป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

ในฐานะปวงชนชาวไทย ขอยืนเคียงข้างประเทศไทยและสนับสนุนทหารไทยผู้กล้าหาญที่อยู่แนวหน้าในการทำหน้าที่ปกป้อง ดินแดนที่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ได้ทรงปกปักรักษาไว้ เพื่อให้บรรพบุรุษของไทยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใครจวบจนถึงปัจจุบัน

วันนี้ประเทศไทยมีรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร เป็นผู้นำประเทศ กลับสร้างความเสียหายให้กับชาติไทยอย่างใหญ่หลวง มีพฤติการณ์ ในเชิงสมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู อันเป็นการปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ ขัดกับรัฐธรรมนูญหมวดที่ 5 หน้าที่ของรัฐมาตรา 52 ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย และตามประมวลกฎหมายอาญาหมวดที่ 3 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ และต้องรักษาไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วันนี้ขอเรียกร้องและแถลงการณ์ความดังต่อไปนี้

1.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ

2.นายกรัฐมนตรีมีพฤติการณ์ในเชิงสมคบคิด ตอบสนองอริราชศัตรู มิได้แสดงเจตนา เจรจา พิทักษ์รักษา ซึ่งเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

3.รัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลว ไร้ความสามารถ เศรษฐกิจถดถอย GDP ต่ำสุดในรอบหลายปี โดยเฉพาะด้านความ มั่นคงของรัฐ การค้า การลงทุน การขายถูกคู่ค้าต่างชาติ แทรกแซง ราคาสินค้าพืชผลการเกษตรของไทยตกต่ำที่สุดใน รอบ 400 ปี เช่น มันสำปะหลังกิโลละ 1.20 บาท

4.เพื่อธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความมั่นคง อธิปไตย แห่งราชอาณาจักรไทย ประโยชน์ส่วนรวม ความผาสุกของประชาชน วันนี้ฉันทามติประชาชนชาวไทย จึงเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกทันที

5.พรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ลาออก

ดังนั้น วันนี้ปวงชนชาวไทยและพี่น้องลูกหลานย่าโมโคราชทุกคน มีหน้าที่โดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญเป็นกองหนุนแรงกาย แรงใจของฝ่ายไทย ในการปกป้องดินแดน ยืนเคียงข้างทหาร กองทัพไทย และรักษาความมั่นคงของชาติ เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยไม่ให้ใครรุกราน จะทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญต้องรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย ของไทย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ ตามหน้าที่พลเมืองเพื่อปกป้องแผ่นดิน ดั่งเพลงชาติไทย ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี

นายสุพจน์เผยว่า การชุมนุมก็เพื่อต้องการให้ น.ส.แพทองธารลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่มีความชอบธรรม ไม่มีความเหมาะสมที่จะบริหารชาติบ้านเมืองอีกต่อไป คือทางออกที่ดีที่สุดต้องลาออกเท่านั้น แล้วให้จัดการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในสภา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ถ้ายังไม่ยอมลาออก วันนี้มี 2 ทางคือ มวลชนชาวโคราชและมวลชนในประเทศไทยคนจะออกมาลงถนนกันมืดฟ้ามัวดินแน่นอน เพราะรัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว ความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมืองไม่ต้อง เพราะจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างมาก ต้องลาออกเท่านั้นคือทางออกของชาติ ส่วนรัฐบาลเฉพาะกาลต้องขึ้นอยู่ว่าท่านใดจะเหมาะสมมาบริหาร ขึ้นอยู่กับมติฝ่ายรัฐสภา นายกเฉพาะกาลก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่แต่ว่าท่านใดที่จะเหมาะสม เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้

"โคราชเราไม่แบ่งสี ไม่แบ่งพวก จริงๆ ผมไม่อยากให้ยุบสภา มันต้องลาออก แล้วสรรหานายกรัฐมนตรีใหม่ เพราะถ้ายุบสภาเลือกตั้งใหม่มันก็เปลืองงบประมาณ" นายสุพจน์กล่าว

ที่วัดสว่างสุวรรณาราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยภริยา ผศ.สุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นประธานในพิธีมอบถวายพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ ปางสะดุ้งมาร สมัยชัยวรมัน เนื้อสำริดสนิมเขียว ขนาดหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว สูง 1.20 เมตร  มีพระราชสิริวัฒน์ หรือเจ้าคุณเพชร เจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัดนครพนม ฝ่ายมหานิกาย พร้อมคณะสงฆ์วัดสว่างสุวรรณาราม รับมอบถวาย เพื่อประดิษฐานในศาลาการเปรียญ ให้สาธุชนกราบไหว้บูชาและเป็นที่ยึดเหยี่ยวทางจิตใจ

แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอยู่หน้าพระธาตุแสงนคร เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และไม่น่าเป็นห่วงในการใช้อาวุธซึ่งกันและกัน ยังไม่มีเหตุรุนแรงอะไร กำลังพลก็อยู่เขตใครเขตมัน ทั้งไม่หนักใจอะไร แก้ไขปัญหาไปตามสถานการณ์ ในส่วนรัฐบาลก็ต้องแก้ในระดับรัฐบาล ส่วนพื้นที่แนวชายแดนทหารก็พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย ฯลฯ

หลังประกอบพิธีถวายพระพุทธรูปทรงเครื่องเรียบร้อยแล้ว พระราชสิริวัฒน์ได้มอบวัตถุมงคล เหรียญสมโภชพระธาตุแสงนครรุ่นแรก จำนวน 1,000 เหรียญ โดยด้านหน้าเป็นพระธาตุพนมองค์ปฐมมหาเจดีย์แห่งภาคอีสาน นอกจากนี้พระอาจารย์ชาตรี จารุธัมโม วัดโพนสิม บ้านเสียวสงคราม ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ก็เดินทางมาร่วมพิธี พร้อมมอบวัตถุมงคลคือเหรียญท้าวเวสสุวรรณ และพระอุปคุต เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เหล่าทหารกล้าที่รักษาอธิปไตยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอยู่ในขณะนี้

ในขณะเดียวกัน มีประชาชนที่ทราบข่าวว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาเป็นประธานมอบถวายพระพุทธรูป ก็หอบดอกกุหลาบสีแดงแทนความรัก ความห่วงใย ซึ่งเป็นกำลังใจคนแนวหลัง แต่แม่ทัพภาคที่ 2 มีภารกิจรออยู่ที่ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา จึงต้องรีบเดินทางกลับเพราะช่วงบ่ายมีภารกิจอื่นอีก.