ชำระแค้น‘ฮุนเซน’ ‘อิ๊งค์’สั่งเจาะยาง!

ก้นร้อนเร่งเอาคืน "ฮุน เซน"  "แพทองธาร" นัดประชุมแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 23 มิ.ย.นี้ หลังพบฝั่งตะวันตกดีขึ้น ส่วนฝั่งตะวันออกหนักข้อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปเครื่องบินแทนผ่านด่าน “ศูนย์บิ๊กเล็ก” งัด 5 กลยุทธ์สู้กลับเขมรปิดกั้นนำเข้าผลไม้ไทย เตรียมระดมกำลังรัฐ-เอกชน ร่วมด้วยช่วยกัน

วันที่ 21 มิถุนายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เร่งเดินหน้านโยบายแห่งชาติ ด้านปราบปรามคอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์-พนันออนไลน์ ในทุกรูปแบบ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ โดยยืนยันว่าการแถลงผลการปราบปรามของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมานั้น เป็นผลจากมาตรการปรับการเปิด-ปิดด่านไทย-กัมพูชาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 โดยพบว่าสถิติในทุกรูปแบบลดลงเป็นจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ประชาชนคนไทยไม่ถูกหลอกลวงจากบุคคลที่กำลังทำลายความมั่นคงของประเทศไทยได้

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รายงานข่าวที่กัมพูชาถูกระบุเป็นแหล่งอาชญากรรมทางไซเบอร์นั้น  เป็นรายงานพิเศษของ UN agency map reveals Cambodia as global scammer hub ที่ระบุว่า ประเทศกัมพูชามีขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่ง UNODC เคยเชื่อว่าเมียนมาคือศูนย์กลางของภูมิภาคในอาชญากรรมประเภทนี้ แต่ขณะนี้ไม่ใช่อีกต่อไป ซึ่งรายงานทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริงจากรายงานขององค์การสหประชาชาติเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า สำหรับการแก้ปัญหาของประเทศไทยในรายงานผลกระทบและการปราบปรามวิกฤตในประเทศไทย ซึ่งในฝั่งตะวันตกพบว่ามีตัวเลขลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  แต่ในฝั่งตะวันออกกลับมีแนวโน้มว่าจะกลับมาหนักข้อมากขึ้น เนื่องจากมีการปรับรูปแบบของกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งคนไทยที่เดินทางไปทำงานกับกลุ่มเหล่านี้ถือว่าเป็นการทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ไขให้เป็นวาระแห่งชาติ จะไม่ยอมให้ใครมาทำลายความมั่นคงของชาติ และหลอกลวงคนไทยแบบนี้อีกต่อไป ทั้งนี้ ในวันที่ 23 มิ.ย.2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดนทั้งระบบ โดยเฉพาะภัยที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ อาทิ ยาเสพติด การฟอกเงินข้ามชาติ เทคโนโลยี การค้ามนุษย์ รวมทั้งอาชญากรรมตามแนวชายแดน เหนือใต้ออกตก เพื่อสร้างความมั่นคงต่อประเทศ และป้องกันภัยคนไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อโจรข้ามชาติเหล่านี้

“หลังจากที่รัฐบาลทำสำเร็จในการทลายกระบวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งชายแดนตะวันตก  ฝั่งชายแดนไทย-เมียนมา ด้วยมาตรการเด็ดขาด  ตัดไฟ ตัดน้ำ ตัดเน็ต ซึ่งทำให้อาชญากรรมเหล่านี้ลดลงมากกว่า 80% ส่วนชายแดนฝั่งตะวันออก ล่าสุดฝ่ายความมั่นคงได้รับรายงานมาว่า เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบหลังจากกำหนดเวลาและการปิดด่าน ทำให้กระบวนการเหล่านี้ มีคนไทยส่วนหนึ่งที่เคยเดินทางเข้า-ออกด้วยบัตรผ่านแดน  หลบเลี่ยงไปใช้วิธีทำพาสปอร์ตและเดินทางโดยเครื่องบินไปยังสนามบินเมืองใกล้เคียง เช่น เสียมราฐ พนมเปญ และจะมีขบวนการเหล่านี้ไปรับถึงสนามบินให้กลับมาทำงานตามชายแดน ซึ่งประเทศไทยจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด  เพื่อปกป้องประชาชนคนไทย อาชญากรรมเหล่านี้ต่อไป ซึ่งหลังที่ประชุมในวันที่ 23 มิ.ย. จะมีมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาโจรออนไลน์ออกมาอีกครั้ง" นายจิรายุกล่าว

ผู่สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมืองดใช้อากาศยานซึ่งไร้นักบิน (โดรน) ในพื้นที่ราชการ และเขตหวงห้ามทุกประเภท ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และอาจเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับทางราชการ

เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัย เนื่องด้วยสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชายังคงมีความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวต่อความมั่นคง เพื่อให้การรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์สามารถดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

ขณะที่ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผย 5 กลยุทธ์การส่งเสริมตลาด และการรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย 5 ข้อ ได้แก่

1.จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ “Thai Fruit Festival 2025” ร่วมกับห้างสรรพสินค้า/ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง/ห้างท้องถิ่น/สมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย/สมาคมตลาดสด

2.รับซื้อมะม่วงไปแจกเป็นของสมนาคุณ ร่วมกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 4 สถานี 1,097 สาขา (พีที พีทีที บางจาก ซัสโก้) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล-เป้าหมาย 2,000 ตัน

3.เชื่อมโยงผลไม้ไปจำหน่ายในงานธงฟ้า และ Mobile พาณิชย์ ในพื้นที่ กทม. 30 จุด และต่างจังหวัด อาทิ ผลไม้ภาคตะวันออก จ.ราชบุรี ฉะเชิงเทรา สุรินทร์ และนครพนม

4.สนับสนุนซื้อผลไม้จากเกษตรกรเพื่อกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) หรือบริโภคในองค์กร หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง, กองทัพฯ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมราชทัณฑ์, กรมฝนหลวง, สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs), ธนาคารเอกชน และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์

5.ขยายช่องทางใหม่ ร่วมกับ 1.บจ.ฟอร์ท เวนดิ้ง (เต่าบิน) รับซื้อผลไม้ทำเมนูน้ำผลไม้สมูทตี้ จำหน่ายตู้เต่าบิน 15 สาขา ในห้างชั้นนำ เป้าหมาย 1,000 ตัน ระยะต่อไป สาขาทั่วประเทศ เป้าหมาย 7,500 ตัน-ลงนาม MOU 16 พ.ค.68

2.สายการบินแอร์เอเชีย รับซื้อผลไม้แปรรูปเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายบนเครื่องบิน ทั้งภายในและต่างประเทศ-เป้าหมาย 1,000 ตัน-ลงนาม MOU.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' ต้นเหตุประเทศตีบตัน ดิ้นขอ 'ดีลใหม่' หวังหาทางรอด

บนความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ใจกลางปัญหา และมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงหรือเกิดวิกฤตจนถึงทางตัน

‘แม้ว’ เสี่ยงคุก10ปี ‘อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา’ยันเอาผิดครอบงำชี้นำ เพื่อไทยได้

ส่อล้มทั้งกระดาน! อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาชี้ "ทักษิณ" น่าจะครอบงำและชี้นำกิจกรรมพรรคเพื่อไทยจนอาจถูกยุบพรรคได้

พท.โต้แจกกล้วย8หลัก

เพื่อไทยดาหน้าปฏิเสธแจกกล้วยงูเห่าภูมิใจไทย ประธานวิปรัฐบาลยัวะ! ย้อนในอดีตภูมิใจไทยเป็นงูเห่าหรือเปล่า ลั่นผู้แทนไม่ใช่ทาส ยันคุมเสียงปริ่มน้ำได้

แม่ทัพภาคที่ 2 เตรียมพบเด็กช่างอุเทนถวาย มอบ 'บลูบังเกอร์' นวัตกรรมฐานปฏิบัติการเคลื่อนที่

พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มีกำหนดการ รับมอบ”บลูบังเกอร์”หลุมหลบภัยกันกระสุนและฐานปฏิบัติการเคลื่อนที่ให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นวัตกรรมการก่อสร้างและเทคโนโลยีวัสดุ ข