เล็งฟัน5หมออุ้ม‘ป่วยทิพย์’

“ทักษิณ” ส่งทนายวิ่งโร่ยื่นเอกสารสู้คดีป่วยทิพย์ถึงศาลฎีกาฯ ก่อนเส้นตายไม่เกิน  วันที่ 23 มิ.ย. “วิญญัติ” อุบไพ่สำคัญบอกเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริง “แพทยสภา” เตรียมสอบ 5 หมอล็อตสอง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2568 นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำการไต่สวนกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลา 180 วัน ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย. ทีมทนายความจะนำส่งเอกสารพยานหลักฐานในการสู้คดีของนายทักษิณต่อศาลฎีกาฯ เพราะเป็นวันครบกำหนดที่ศาลขยายเวลาให้ ส่วนรายละเอียดการยื่นเอกสารดังกล่าวไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีกี่หน้า มีอะไรบ้าง เพราะยังไม่ได้มีการยื่นต่อศาลฎีกาฯ แต่หลักๆ ก็เป็นเรื่องการชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ

 รายงานข่าวแจ้งว่า การไต่สวนของศาลฎีกาฯ   ก่อนหน้านี้ได้สั่งให้โจทก์ คือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) และอัยการสูงสุด รวมถึงจำเลยคือนายทักษิณ, ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ,   อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ศาลฎีกาฯ ภายในไม่เกิน 30 พ.ค. แต่ทนายความของนายทักษิณได้ขอขยายเวลาส่งเอกสาร ซึ่งศาลสั่งให้ส่งเอกสารหลักฐานได้ถึงไม่เกินวันจันทร์ 23 มิ.ย.

วันเดียวกัน แหล่งข่าวจากแพทยสภาเผยว่า  ในการสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวนายทักษิณ ล็อตที่ 2 จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ราย โดยได้จากการขยายผลสืบสวนสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่ถูกร้องเรียนในล็อตแรก ซึ่งกระบวนการจะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ผ่าน 7 ขั้นตอนเหมือนเดิม และจะหารือในรายละเอียดกันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน ก.ค.นี้  และการตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ นั้น สามารถตั้งผู้ที่จะมาเป็นอนุกรรมการใหม่ได้ แต่อย่างน้อยต้องมีส่วนที่เชื่อมโยงกับชุดเดิม เพื่อให้พิจารณาไม่เกิดความสะดุด

 “การพิจารณาจริยธรรมแพทย์ในล็อตที่ 2  อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะเรื่องใหญ่ได้ผ่านไปแล้ว แต่การสอบจริยธรรมแพทย์ล็อตที่ 2 นี้ เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนล็อตแรกแพทยสภาเห็นว่ามีความเกี่ยวข้อง ไม่อาจปล่อยผ่าน เห็นควรว่าต้องนำมาสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อสรุป”

สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบสอบจริยธรรม 7 ขั้นตอนจะประกอบด้วย ขั้นที่ 1.คณะอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณา มีกรอบเวลาทำงาน 4 เดือน ขยายเวลาได้ 2 เดือน, ขั้นที่ 2 อนุกรรมการกลั่นกรองให้ความเห็นเพิ่มเติมประกอบในสำเนามีกรอบเวลา 1-2 เดือน, ขั้นที่ 3 คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ที่มีการประชุมเดือนละ 1 ครั้งมีกรอบเวลา 1-2 เดือน พิจารณาว่าคดีที่ถูกร้องมีมูลหรือไม่ หากไม่มีมูลก็จบไป แต่ถ้ามีมูลก็ต้องสอบสวนเพิ่มเติม, ขั้นที่ 4 อนุกรรมการสอบสวนพิจารณาคดีต่อกรอบเวลา 180 วัน หรือ 6 เดือน  ให้มีมติว่ามีการยกข้อกล่าวหา หรือผู้ถูกร้องมีความผิด, ขั้นที่ 5 อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศให้ความเห็นต่อคดีเพื่อทำสำนวน, ขั้นที่ 6 คณะกรรมการแพทยสภาพิจารณาอีกครั้งว่ามีผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษอย่างไร หรือต้องมีการยกข้อกล่าวหาไป และขั้นที่ 7 เสนอต่อสภานายกพิเศษ   ซึ่งถ้ามีการพิจารณาโต้แย้งก็ต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็นถ้าเสียง 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม แต่ถ้าเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ก็จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม