ปิดชายแดนปราบแก๊งเขมร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา "อิ๊งค์" พิงยูเอ็นกู้ภาพพจน์ ประกาศไทยอาสาเจ้าภาพจับมือนานาชาติปราบอาชญากรรมข้ามชาติ อ้างข้อมูลสหประชาชาติเขมรเป็นแหล่งรวมวายร้าย ศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลกมูลค่า 6 แสนล้านบาท ระงับอินเทอร์เน็ตส่งไปหน่วยทหาร-ความมั่นคงของกัมพูชาทั้งหมด ขีดเส้นตาย 3 เดือน “เสรีพิศุทธ์” ร้อง “ผบ.ตร.” เอาผิด "ฮุน เซน" สั่งฆ่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามในไทย

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 พ.ท.อนิวรรต ศิริข่วง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ผบ.ร.3 พัน.3) ในฐานะผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 24 (ผบ.พัน.ร.24) หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 (ฉก.2) นำกำลังพลกองพันทหารราบที่ 24 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 เข้าร่วมพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมด้วย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมกันทุกภาคส่วน มีการประกาศว่ารัฐบาลกำลังจะประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมไปถึงเรื่องของความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ตัวอย่างที่เป็นปัญหาในเรื่องของสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ก็ได้รับผลกระทบทั่วโลก ขอยกระดับในเรื่องการแก้ไขปัญหานี้จากข้อมูลของทางสหประชาชาติ

โดยสหประชาชาติได้มีข้อมูลว่า กัมพูชาถือเป็นแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลกและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 600,000 ล้านบาท และสหประชาชาติมีข้อมูลอีกว่า 40%-60% ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของกัมพูชามาจากคอลเซ็นเตอร์ และมีในเรื่องของการฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็พยายามจะรักษาในเรื่องของความปลอดภัยของประชาชน ประเทศไทยโดยหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาดตามแนวชายแดน โดยจะกำหนดมาตรการดังนี้

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความมั่นคงจะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการเข้า-ออกจุดผ่านแดน ทั้งการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนทั้ง 7 จังหวัด มีการห้ามรถยนต์และบุคคลภายนอก ยกเว้นกรณีนักเรียน นักศึกษาที่ต้องข้ามมาเรียน รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องข้ามมาใช้โรงพยาบาล และการจับจ่ายซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น นอกจากนี้ห้ามให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน รวมถึงเข้มงวดการเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเสียมราฐเพื่อไปเล่นการพนัน ด้านอาชญากรรมเทคโนโลยี  กระทรวงดีอี โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (เอโอซี) จะดำเนินการตรวจสอบบัญชีม้าและเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างเข้มงวด รวมถึงการระงับการบริการอินเทอร์เน็ตและประตูอินเทอร์เน็ตใต้น้ำที่ไปยังหน่วยงานทางการทหารและความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาทั้งหมด

นอกจากนี้ จะต้องร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการสร้างมาตรการคว่ำบาตรผู้ที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ที่พบว่ามีในเรื่องของการฟอกเงิน รวมถึงการยึดอายัดทรัพย์ที่โยกย้ายไปต่างประเทศ และเรื่องการส่งออกไฟฟ้า น้ำมันและสินค้าผ่านชายแดน เราต้องระงับการส่งออกสินค้าที่เกื้อหนุนต่อกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาถึงความเหมาะสมในการระงับการส่งออกน้ำมันและเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชา ที่จะนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

คนไทยโดนวันละ 80 ล้านบาท

นายกฯ ​กล่าวว่า ด้านการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรและเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตามแนวชายแดน โดยขอความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยรับซื้อสินค้า ส่วนด้านการประสานความร่วมมือกับนานาชาติ กระทรวงการต่างประเทศจะประสานกับประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติร่วมในภูมิภาค โดยตนมีการกำหนดให้ทุกภาคส่วนกำหนดไทม์ไลน์และเคพีไอในการดำเนินมาตรการอย่างชัดเจน โดยขอให้ภายใน 3 เดือนนี้

"ตัวเลขสถิติการแจ้งความของคนไทย ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีปีละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่รัฐบาลมีมาตรการในเรื่องการตัดน้ำตัดไฟแและอินเทอร์เน็ตในฝั่งเมียวดี เมียนมา ทำให้ตัวเลขความเสียหายที่คนไทยได้รับลดลง เนื่องจากแก๊งที่กระทำผิดด้านสแกมเมอร์ได้ย้ายจากเมียวดีไปกัมพูชา หากรัฐบาลดำเนินการอย่างต่อเนื่องความเสียหายที่คนไทยได้รับจะลดลง และตอนนี้ทราบว่าพวกที่ทำเรื่องอาชญากรรมต่างๆ ย้ายถิ่นฐานจากเมียนมาไปที่กัมพูชา  ฉะนั้นเราต้องมีมาตรการเรื่องนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อปราบปรามและป้องกันในเรื่องของคนไทยที่ถูกหลอกในอนาคตข้างหน้า"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนกัมพูชา เรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ นายกฯ ได้มอบบทบาทอะไรให้ทหารเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อดูแล นายกฯ ตอบว่า เรามีการมอบอำนาจที่เราประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มอบในเรื่องของการควบคุมตามแนวชายแดนไปแล้ว ขอให้พิจารณาหน้างานตามแนวชายแดน ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้อำนาจทางทหารช่วยดูว่าเราควรจะปิด หรือจะเปิดหรือจะยังไงในตรงนั้น

เมื่อถามว่า มีข้อมูลตัวเลขหรือไม่ว่าคนไทยถูกหลอกเงินไปเท่าไหร่ น.ส.แพทองธารเผยว่า อย่างที่บอกว่าพอเช็กเรื่องตัวเลข แก๊งคอลเซ็นเตอร์เขาเสียหายประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่เราปราบปรามอย่างจริงจัง โดยตัวเลขของคนไทยที่โดนวันละ 80 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า นโยบายที่นายกฯ ให้ในที่ประชุมคือ ตั้งศูนย์วอรูมในการประเมินสถานการณ์ทุกวัน ประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ ของไทยและหน่วยงานต่างชาติ เช่น ตำรวจอาเซียน, อินเตอร์โพล, สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น โอดีซี) จะมารวมกันที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางช่วยเหลือปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะในกัมพูชา ที่พบว่าปัจจุบันเป็นแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุด ที่มีการเคลื่อนย้ายจากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา รวมทั้งจะมีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุม ออกหมายจับกรณีบุคคลที่เกี่ยวข้องในกัมพูชา ที่เกี่ยวข้องกับการให้ที่ตั้ง ผู้เกี่ยวข้องด้านการเงิน ก็จะมีการสืบสวนขยายผลออกหมายจับต่อไป พบว่ามีประชาชนจาก 36 ประเทศถูกหลอกไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเมียวดี ตนก็เชื่อว่าตัวเลขผู้ถูกหลอกไปที่กัมพูชาคงไม่ต่างไปจากนี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า เรายังยึดหลักสันติวิธีอยู่ ปัญหาในระดับกองทัพไม่มี เขาพร้อมที่จะคุยกัน แต่ปัญหาอยู่ที่ระดับผู้นำ เราแสดงให้โลกเห็นว่าเรารักษาสันติวิธี ระมัดระวังประชาชนชายแดน กลุ่มเปราะบาง ยึดหลักมนุษยธรรม

'ภูมิธรรม' จี้ 'ฮุน เซน' รับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กัมพูชาได้ส่งหนังสือประท้วงอย่างรุนแรงถึงเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ กรณีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง แจ้งความดำเนินคดีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นายภูมิธรรมตอบว่า มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ข่าวจริงด้วย  ข่าวปลอมด้วย เรื่องนี้เป็นสิทธิของนายสมคิดในการฟ้องร้อง และทางรัฐบาลกัมพูชาก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจงหรือประท้วงอะไรก็แล้วแต่ เป็นกลไกตามปกติของการดำเนินการด้านต่างประเทศ

เมื่อถามอีกว่า ทางฝ่ายกัมพูชาชี้แจงว่าการอัดเสียงเป็นเรื่องปกติเพื่อความโปร่งใส นายภูมิธรรมกล่าวว่า “อ้าว  ไหนเห็นว่า แก้ตัวไม่ได้เป็นคนทำเอง อันนี้ต้องฟังหน่อย จริงๆ เป็นคนโพสต์เฟซบุ๊กเอง ท่านก็คงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ท่านทำ ส่วนท่านจะแก้ตัวอย่างไรก็เป็นเรื่องของท่าน ไม่เกี่ยวกับผม ท่านก็สามารถแก้ตัวได้ กลไกการต่างประเทศทำอะไรได้แค่ไหน เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม โลกเขารู้ ไม่ว่าใครจะไม่รู้ แต่โลกรู้ ก็ว่าตามที่โลกเขารู้” 

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง  แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า จะลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ กับ ผบ.ทบ.เพื่อให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

"อยากฝากถึงคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่อาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ให้มีความรักความสามัคคีของคนในชาติ รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในภาวะที่ประเทศวิกฤตเช่นนี้ ส่วนทหารจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจว่า ชายแดนไทยเราจะมั่นคงปลอดภัยแน่นอน" พล.ท.บุญสินกล่าว

ส่วนกรณีที่ฝั่งกัมพูชามีการเพิ่มกำลังและอาวุธหนักเข้าพื้นที่นั้น พล.ท.บุญสินระบุว่า ไม่มีปัญหา เรื่องการทหารถือเป็นการชิงความได้เปรียบ ซึ่งเราพร้อมอยู่แล้วที่จะดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดน และยืนยันว่าไม่มีความประสงค์ที่จะปะทะกันด้วยอาวุธ แต่เป็นเรื่องของยุทธวิธีทางฝั่งกัมพูชา

ซักว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในอนาคต ว่าอาจต้องปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดไป แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า ดูไปตามสถานการณ์ หากมีการต่อสู้หรือเกิดความไม่เข้าใจกันก็มีโอกาส

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชาในเวลา 09.00 น. ว่ามีความตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์  รถพ่วงข้าง และรถชาลีมารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทยยกระดับตอบโต้มาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย

เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาได้เข้ามาเจรจา โดยอ้างว่าไม่ทราบล่วงหน้าว่าฝั่งไทยจะบังคับใช้มาตรการเข้มข้นถึงขั้นนี้ ขณะที่แรงงานบางคนแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยระบุว่าจำเป็นต้องนำรถเข้ามาดำเนินการด้านเอกสารกับศุลกากร มิฉะนั้นจะเสียค่าปรับ

เมื่อช่วงค่ำ 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1, กองทัพภาคที่  2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ออกคำสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรนไทย-กัมพูชาตลอดแนว ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและนักเรียน

แจ้งจับ 'ฮุน เซน' สั่งฆ่าคู่อริ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ความผิดต่อกฎหมายไทย จากกรณีที่สมเด็จฮุน เซน ได้มีการสั่งให้นายเกียง ฮวด รองผู้ว่าการกรุงพนมเปญ ร่วมกับตำรวจไทยสายเสื้อแดงฆ่านายลิม กิมยา  นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามในประเทศไทย ซึ่งคลิปเสียงดังกล่าวเผยแพร่ผ่านสำนักข่าวอัลจาซีรา  ต่อมาทางการกัมพูชาปฏิเสธคลิปเสียง โดยระบุว่าเป็นคลิปเสียงที่ทำโดยเทคโนโลยี AI แต่ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยียืนยันว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นคลิปเสียงของสมเด็จฮุน เซนจริง และต่อมาวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายพร  พันนา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝั่งตรงข้ามสมเด็จฮุน เซน ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2565 ก็ถูกชายแปลกหน้า 3 คนที่พูดภาษากัมพูชาทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เปิดเผยว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏเช่นนี้ ตนในฐานะอดีต ผบ.ตร.ที่ทราบกฎหมาย ว่าการกระทำดังกล่าวแม้จะเป็นการสั่งมาจากนอกราชอาณาจักร  มาดำเนินการในประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นความผิดในกฎหมายไทยด้วย วันนี้จึงต้องร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน โดยเอกสารที่ตนนำมายื่นให้ประกอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ที่บัญญัติว่าผู้ใดโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด และความผิดนั้นมีอัตราโทษไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ก็จะต้องรับโทษในความผิดบัญญัตินั้นเสมือนเป็นตัวการ

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ก็เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายที่เดินทางมาเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติรักแผ่นดิน ทั้งสองฝ่ายได้นำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน

เมื่อถามว่า จะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึงอย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชาได้หรือไม่ ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน

  ซักว่า ตำรวจไทยจะกล้าดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซนหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า เกิดมาเป็นตำรวจเราก็ต้องตรงไปตรงมา ความกล้าเกิดตั้งแต่ได้ถูกอบรมสั่งสอนอุดมคติการเป็นตำรวจแล้ว จากที่ผ่านมาหลายคดี ตำรวจเดินหน้าจับกุมผู้กระทำความผิดโดยไม่มีเงื่อนไข.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม