เพื่อไทยตอกยํ้า ขวางนิรโทษ112 หวังเดินหน้าปท.

"วิสุทธิ์" ย้ำจุดยืน "เพื่อไทย" ไม่นิรโทษกรรมความผิด ม.112 ยึดร่าง รทสช.เป็นหลัก หวังเสริมสร้างสันติสุข เลิกแล้วต่อกัน ร่วมกันเดินหน้าประเทศ "อนุสรณ์" มองเป็นสิทธิ "โรม"  อภิปรายนิรโทษฯ รวมคดี ม.112 บอกแค่ชั้นรับหลักการ สุดท้ายต้องไปว่าใน กมธ.วิสามัญ "วิปวุฒิฯ” ชงญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญ 4 ด้านสำคัญของประเทศ หลังรัฐบาลแก้ ศก.ไม่ตรงปก-อาชญากรรมออนไลน์พุ่ง-ปัญหาชายแดน 3 ปท.   และภัยน้ำท่วม แผ่นดินไหว 

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นายวิสุทธิ์  ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย  (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีพรรค พท.ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จำนวน 5 ฉบับ  ว่าเรื่องดังกล่าวพรรค พท.เคยเสนอไปแล้ว และมีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่าจะช่วยคนนั้นคนนี้ ซึ่งไม่เป็นความจริง เราเพียงแค่ต้องการให้การเมืองเดินหน้าไปได้โดยไม่นิรโทษกรรมคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตหรือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่เพื่อให้สามารถเดินไปได้ เราจึงถอนร่างของ พท.ออกมา ทำให้ขณะนี้จะมีการพิจารณาอยู่ 5 ร่าง

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า จุดยืนของเราชัดเจนว่าไม่เอาร่างที่มีการนิรโทษกรรมการกระทำความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 โดยจะยึดร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นหลัก เพราะเราต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ออกมาให้สำเร็จ เพื่อสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ช่วยคนที่โดนคดีจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองให้จบ

 “อย่าไปทะเลาะเบาะแว้ง เพราะความขัดแย้งทางการเมือง 20 กว่าปีที่ผ่านมาไม่มีใครได้อะไร มีแต่ความเสียหาย จึงอยากให้นิรโทษกรรมให้จบ  เราทำเพื่อเสริมสร้างสันติสุข เลิกแล้วต่อกัน และมาร่วมกันเดินหน้าประเทศ” นายวิสุทธิ์กล่าว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ  พรรค พท. กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายในสภาว่าการนิรโทษกรรมจำเป็นต้องเปิดกว้างให้มากที่สุด และไม่ต้องการเลือกปฏิบัติ ควรออกกฎหมายครอบคลุมบุคคลที่โดนคดีมาตรา 112 ด้วย ว่าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีการพิจารณาเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 5 ฉบับ แต่ละร่างมีความแตกต่างกัน ไม่ใช่เฉพาะชื่อ แต่แตกต่างกันในรายละเอียด พรรคไหนจะเสนอร่างรวมหรือไม่รวมมาตรา 112 เห็นว่าเป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะเสนอร่างเข้าที่ประชุมสภาอยู่แล้ว โดยการประชุมสภาครั้งหน้าจะมีการหารือกันว่าจะใช้ร่างใด

"การอภิปรายของแต่ละท่านถือเป็นสิทธิ เช่นเดียวกับการอภิปรายของนายรังสิมันต์ เพราะการประชุมดังกล่าวเป็นขั้นรับหลักการ ทุกคนสามารถอภิปรายได้ แต่สุดท้ายแล้วจะออกมาแบบไหนอย่างไร ก็ต้องไปทำงานกันในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่จะจัดตั้งกันโดยมีสัดส่วนของแต่ละพรรคการเมือง ตรงนั้นใครจะเสนออะไรก็เสนอได้ ไปทำงานและพูดคุยกันตรงนั้นได้ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่นิรโทษกรรมคดีความผิดมาตรา 112" นายอนุสรณ์กล่าว

ที่รัฐสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาญัตติเสนอให้วุฒิสภาตั้งคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่มีความสำคัญ 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน  หลังรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจดังที่ประกาศไว้ เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ชะลอโครงการเฟส 3 ออกไป หรือจะผลักดันการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ก็ยังพบว่ามีเสียงคัดค้านจากหลายภาคส่วนในสังคม  เนื่องจากกังวลถึงผลลัพธ์ที่ตามมา นอกจากนี้ ยังเจอปัญหาภายนอก เรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา ภาวะสงครามในหลายพื้นที่ ราคาน้ำมันโลกและพลังงานที่ผันผวน ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยต่ำกว่าคาดการณ์ สร้างผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระบบ

2.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน เนื่องจากกลไกของรัฐไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเชื่อมโยงกันเป็นโครงข่ายกับปัญหาการพนันออนไลน์และยาเสพติด ทำให้จำนวนคดีอาชญากรรมสูงขึ้นมา

3.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาและติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทยแบบบูรณาการ หลังประสบปัญหา เช่น บริเวณชายแดนประเทศไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งมีกลุ่มว้าแดง (กองกำลังสหรัฐว้า หรือ UWSA) มีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่อธิปไตยของไทย หรือบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา ที่มีความขัดแย้งเรื่องเส้นเขตแดน รวมถึงสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการก่อเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้น และผู้ก่อความไม่สงบสามารถหลบหนีการจับกุมไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ง่าย

4.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อหาแนวทางแก้ไขหลังเกิดจากธรรมชาติและเกิดจากมนุษย์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง ดินหรือโคลนถล่ม พายุ ไฟป่าและหมอกควัน หรือแม้กระทั่งแผ่นดินไหวรุนแรง

โดยแต่ละคณะมีจำนวน 29 คน และกำหนดเวลาการพิจารณาศึกษา 90 วัน โดยจะนำ 4 กมธ.เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 15 ก.ค.นี้. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.