นักวิชาการผวา สินค้าเกษตรUS ทะลักตลาดไทย

“เพื่อไทย” ตีปี๊บไทยได้เรตภาษีสหรัฐต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยภูมิภาคแน่ ฟุ้งมีมาตรการเยียวยารองรับแล้ว “อนุสรณ์” ผวาสินค้าเกษตรมะกันทะลักไทย ซ้ำเติมสินค้าจีนที่มีมากอยู่แล้ว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ค. นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงการเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐอเมริกาว่า พรรคขอให้กำลังใจทีมไทยแลนด์ในการเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ และเชื่อว่าการเจรจาที่ผ่านมามีแนวโน้มที่ดี คาดว่าอัตราภาษีน่าจะอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของภูมิภาค โดยการเจรจานี้จะดำเนินต่อไปก่อนวันที่ 1 ส.ค. ที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย

“พรรคเพื่อไทยขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลได้ติดตามและดูแลผลกระทบจากการเจรจาภาษีอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งรัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้าไทย และได้ชั่งน้ำหนัก ประเมินความเสี่ยงในทุกด้าน พร้อมทั้งเตรียมมาตรการเยียวยาไว้แล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว”

ด้าน รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การลดภาษีนำเข้า 0% สินค้านำเข้าจากสหรัฐอเมริกา และเปิดตลาดให้กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ อาจทำให้มีการลดกำแพงภาษีตอบโต้ของสหรัฐลงมาใกล้เคียงกับประเทศอาเซียน อย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซียได้ ทำให้ลดความรุนแรงของภาษีตอบโต้ทางการค้าที่ระดับ 36% และทำให้ผลกระทบต่อภาคส่งออกไทยจะลดลงมาได้ไม่ต่ำกว่า 9-10 เท่า โดยหากไทยไม่ได้ลดภาษีจาก 36% จะทำให้มูลค่าส่งออกไทยสูญเสียหลายแสนล้านบาทในระยะยาว

รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวอีกว่า การเปิดตลาดให้สหรัฐด้วยการลดภาษีนำเข้า 0% อาจสร้างปัญหาอีกด้านหนึ่ง โดยเฉพาะภาคการผลิตภายในที่ปรับตัวไม่ได้แข่งขันไม่ได้ และตลาดแรงงาน  ซึ่งอาจเกิดปัญหาใหญ่กว่าหากไม่มีมาตรการรองรับผลกระทบให้ดี เพราะสินค้าสหรัฐจะทะลัก  โดยเฉพาะสินค้าเกษตรอาจเพิ่มกว่า 100% กระทบผู้ผลิตภายในรุนแรง ซึ่งภาวะดังกล่าวจะซ้ำเติมสถานการณ์ที่ผู้ผลิตภายในต้องเผชิญสินค้าทุ่มตลาดจากจีนอยู่แล้ว

“ผลกระทบของภาษีทรัมป์ต่อตลาดแรงงานไทยโดยภาพรวมยังไม่รุนแรง และยังคงอยู่ในขอบเขตจำกัด โอกาสเกิดวิกฤตการจ้างงานเกิดขึ้นในเพียง 4 สาขา คือ การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรม และกิจการบริการอาหาร”

รศ.ดร.อนุสรณ์ย้ำว่า การเร่งพัฒนาทักษะแรงงาน ดึงดูดการลงทุนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะจากรายงาน OECD, ADB และ BOI รวบรวมโดยศูนย์วิจัย DEIIT ได้ชี้ถึงข้อจำกัดของระบบแรงงานไทย ดังนี้ 1.ทักษะไม่ตรงความต้องการตลาด 2.ระบบการฝึกอบรมยังไม่ทันสมัย 3.ขาดการรับรองทักษะในระดับสากล และ 4.ไม่มีระบบคาดการณ์ทักษะแรงงานล่วงหน้า จึงควรแก้เรื่องดังกล่าวทั้งการยกระดับ สร้างระบบฝึกอบรมแรงงานเพื่อรับรองทักษะสากล รวมทั้งมีระบบข้อมูล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.