จับตาสายลับขอม/วอนงดแพร่ข้อมูล

“ศบ.ทก.” วอนปิดเว็บแจ้งพิกัดศูนย์พักพิง หวั่นพลเรือนเสี่ยงตกเป็นเป้ากัมพูชายิงถล่ม  ขอ ว.5 ความลับขั้นสูงสุด "ทอ." เตือนงดเผยแพร่ข้อมูลอาวุธยุทโธปกรณ์เชิงลึก "ปชน." ยอมปิดเว็บรายงานสถานการณ์แล้ว ปัดเปิดข้อมูลกระทบความปลอดภัยคนไทย "ผบ.ตร." สั่งเฝ้าระวังสายลับเขมร สุรินทร์จับผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย

ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 09.20 น.  นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงว่า เมื่อเวลา 05.00 น. กัมพูชามีการโจมตีเป้าหมายพลเรือนอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสงคราม และช่วงเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา  เลขาธิการ สมช. มีความห่วงใย โดยเฉพาะทูตจิตอาสาและพรรคการเมือง ให้ความสำคัญกับประชาชนตามแนวชายแดน แต่ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม หรือแม้แต่ ศบ.ทก. ได้ทำในเชิงลับ ที่เรียกว่า ว.5 จะไม่ลงโลเคชันและไม่บอกจุดพักพิงใดๆ

"ขณะนี้มีเว็บไซต์และแฟนเพจของพรรคการเมืองและของภาคเอกชนระบุว่า มีประชาชนที่อยากช่วยเหลือและนำสิ่งของไปให้ศูนย์พักพิงตามโลเคชันต่างๆ ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จึงขอว่าช่วง 2-3 วันนี้ ซึ่งสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังมีการเปิดฉากระดมกำลัง มีการยิงเป้าหมายพลเรือนฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลเข้าใจในเจตนา แต่รัฐบาลทำในเชิงลับอยู่แล้ว จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ศูนย์พักพิงหรือจุดที่ต้องอพยพขอให้เป็นความลับขั้นสุดยอด ดังนั้นหากเป็นไปได้ช่วงนี้อยากให้ปิดเว็บไซต์ต่างๆ ก่อน" นายจิรายุระบุ

ทางด้านเพจกองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force ได้โพสต์ข้อความว่า ประกาศแจ้งเตือน ขอความร่วมมืองดเผยแพร่สื่อ/เนื้อหา/ข้อมูล/ภาพ เกี่ยวกับขีดความสามารถอาวุธยุทโธปกรณ์เชิงลึก รวมถึงการวิเคราะห์แผนการปฏิบัติการทางทหารที่อาจเป็นไปได้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติการของกองทัพ ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อความมั่นคงของประเทศไทย

ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยว่า พรรคประชาชนยินดีปิดเว็บไซต์รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามคำร้องขอของ ศบ.ทก. แต่ขอยืนยันว่าเว็บไซต์ของพรรคไม่เคยมีการเผยแพร่ข้อมูลใดที่รัฐบาลมีความกังวลว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนไทย หรือจะถูกรัฐบาลกัมพูชานำไปใช้ในการโจมตีพลเรือนไทย เช่น พิกัดที่ตั้งของศูนย์อพยพ พิกัดตำบลกระสุนตก รายละเอียดการวางกำลังพลและอาวุธของทหาร โดยเว็บไซต์ของพรรคได้รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเฉพาะที่ถูกเผยแพร่โดยหน่วยงานของรัฐ หรือที่ปรากฏต่อสาธารณะอยู่แล้ว          

"เว็บไซต์ของพรรคประชาชน มีเจตนาในการรวบรวมข้อมูลของหลายหน่วยงานรัฐ เช่น ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงกองทัพบก เพื่อให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยสะดวกในเว็บไซต์เดียว โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าใช้บริการเว็บไซต์เกิน 3 ล้านครั้ง แต่เพื่อให้รัฐบาลมีสมาธิกับภารกิจที่สำคัญในการปกป้องชีวิตประชาชน พรรคประชาชนยินดีให้ความร่วมมือและได้ดำเนินการปิดเว็บไซต์ตามคำขอของรัฐบาลแล้ว" นายพริษฐ์ระบุ

ทั้งนี้ พรรคหวังว่ารัฐบาลจะเร่งหาแนวทางดังต่อไปนี้ เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชน 1.เร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารที่รวมศูนย์ รวดเร็ว และแม่นยำ 2.เร่งให้ทุกจังหวัดและพื้นที่ที่ถูกกระทบ ตั้งศูนย์ประสานงานกลางในระดับพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่ในการบริหารจัดการบุคลากรทางการแพทย์และสิ่งของเครื่องใช้ที่ภาคส่วนต่างๆ ส่งมาช่วยเหลือ และ 3.เร่งดำเนินการให้เกิดการหยุดยิงโดยทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด

วันเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางไปยังโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ส.ต.อ.วชิระ กุศลพันธ์ อายุ 32 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจากเหตุการณ์กัมพูชาโจมตีที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง  โดยได้ให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือส่วนตัว จากนั้นเดินทางไปให้กำลังใจประชาชนที่ศูนย์อพยพในวัดแห่งหนึ่งในอำเภอพยุห์ ขณะเดียวกัน ผบ.ตร.ได้สั่งให้เฝ้าระวังกรณีคนแปลกหน้า ซึ่งอาจจะเป็นสายของฝ่ายตรงข้ามและการชี้เป้าหมายหรือจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ ในเขตประเทศไทยด้วย

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) เปิดเผยว่า ตร.ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ให้สังเกตลักษณะการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการสายลับ ดังนี้ 1.การเก็บข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ ลอบถ่ายภาพหรือวิดีโอที่ตั้งหน่วยทหาร จุดยุทธศาสตร์ เส้นทางลำเลียงเสบียงหรืออาวุธ 2.การติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ สอดส่องการเคลื่อนย้ายกำลังพล หรือการจัดวางยุทโธปกรณ์ของหน่วยงานความมั่นคง 3.การกระทำที่ผิดปกติ เช่น ถ่ายภาพในพื้นที่บ่อยครั้ง เข้าใกล้พื้นที่ปฏิบัติการโดยไม่มีเหตุผล 4.การเข้า-ออกพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรากฏตัวในพื้นที่ที่มีคำสั่งอพยพ หรือในเวลาที่ผิดปกติ เช่น เวลากลางคืน 5.การครอบครองอุปกรณ์ต้องสงสัย เช่น กล้องส่องทางไกล แผนที่ยุทธศาสตร์ แผนผังพื้นที่ หรืออุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPS โดยการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดร้ายแรง ตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 “ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร” ซึ่งอาจต้องระวางโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นพฤติการณ์ต้องสงสัย หรือบุคคลที่มีลักษณะเป็นสายลับ ขอให้แจ้งเบาะแสดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ หรือที่สายด่วน 191 และสายด่วน ตร. 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้มีการจับกุมชายชาวกัมพูชารายหนึ่ง  จากการตรวจค้น พบหลักฐานภาพถ่ายและพิกัดทางยุทธศาสตร์ คาดว่าเป็นสายข่าวที่เตรียมส่งข้อมูลให้หน่วยความมั่นคงของกัมพูชา จากนั้นมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมดงรักและเจ้าที่ทหารฝ่ายความมั่นคงนำตัวไปสอบสวน ซึ่งชายคนดังกล่าวยอมรับว่ามาด้วยกัน 4 คน อีก 3 คนยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่และฝ่ายความมั่นคงเร่งออกสืบติดตามจับกุมมาโดยด่วน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.