สะเทือนกรุง! กราดยิงกลางตลาด อ.ต.ก.ดับ 6 ศพรวด ก่อนยิงตัวตาย “ผบช.น.” ยันไม่เกี่ยวภัยคุกคาม เป็นปมขัดแย้งส่วนตัว สางแค้นถูก รปภ.กรีดรถตั้งแต่ปี 62 ด้าน รมว.เกษตรฯ นั่งไม่ติด ยันต้องทำให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย
เมื่อวันจันทร์ เวลาประมาณ 12.31 น. ได้เกิดเหตุกราดยิงภายในตลาดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ถนนกำแพงเพชร แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 6 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) 4 ราย แม่ค้า 1 ราย และผู้ก่อเหตุอีก 1 ราย ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในจุดเกิดเหตุหลังจากหลบซ่อนอยู่พักหนึ่ง ขณะเดียวกันยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้การช่วยเหลือแล้ว
โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายสูงอายุ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีครีม สะพายกระเป๋าเป้ลายทหาร โดยก่อนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่พยายามเข้าปิดล้อมพื้นที่และเจรจา แต่ไม่สามารถควบคุมตัวได้ทัน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนหาสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุ โดยยังไม่ตัดประเด็นใดออก ทั้งเรื่องขัดแย้งส่วนตัวหรือปัญหาส่วนบุคคล พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมเพิ่มเติม และตรวจพิสูจน์อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุอย่างละเอียด
และในเวลา 13.20 น. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ตนเองในฐานะที่กำกับดูแล อ.ต.ก. เมื่อได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวจึงมาลงพื้นที่ทันที เบื้องต้นในส่วนของรายละเอียด เกี่ยวกับคนร้ายและแรงจูงใจต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานความชัดเจน แต่ตอนนี้ตนมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ในการทำงาน และเพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ ตนได้ประสานงานกับนายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการ อ.ต.ก.ไปแล้ว และยืนยันว่านโยบายของกระทรวงเกษตรฯ คือต้องทำให้ตลาด อ.ต.ก.เป็นพื้นที่ปลอดภัย
“ผมต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ผมจะลงไปดูแลในส่วนนี้ เดี๋ยวจะไปเยี่ยมและพูดคุยกันที่โรงพยาบาล ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในฐานะที่เป็นครอบครัว อ.ต.ก.” นายอรรถกร กล่าว
นายอรรถกรกล่าวว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่ตลาด อ.ต.ก.มาก่อน ขณะนี้ขอฟังความชัดเจนจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน และจะนำข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาพิจารณาหาแนวทางป้องกันต่อไป ตอนนี้ตนไม่อยากให้พูดโดยยังไม่ได้รับการยืนยัน เพราะเดี๋ยวข้อมูลที่ออกไปมันจะเกิดการผิดพลาดขึ้นได้ แต่เบื้องต้นที่ยืนยันได้คือ สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว
จากนั้นนายอรรถกรได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมกรณีเกิดเหตุการณ์ยิงที่ตลาด อ.ต.ก. ว่าหนึ่งในพยานคนขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าตลาด อ.ต.ก.ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้ก่อเหตุ ให้การว่ามือปืนเป็นอดีตพ่อค้าภายในตลาด แต่ยังมีแผงขายหอมกระเทียมซึ่งให้ภรรยาเป็นผู้ขาย เขาเพียงมารับส่งภรรยาเท่านั้น และเป็นคนไม่ดื่มเหล้าหรือเสพสารเสพติด แต่ช่วงที่เกิดภาวะโควิดระบาดทำให้ไม่สามารถขายของได้ รายได้หดหาย ทำให้มีความเครียดตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ผู้ก่อเหตุเคยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดขูดขีดรถยนต์ของตนจนได้รับความเสียหาย และเกิดการทะเลาะกัน และทราบว่าเขามีปัญหากับแม่ค้าแผงข้างๆ กัน ทำให้มีปากเสียงกันอยู่เรื่อยมา จนเกิดความเครียดอยู่ตลอดเวลา
ด้าน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. คนร้ายได้จี้รถแท็กซี่มาจากบริเวณเอสซีปาร์คให้มาส่งที่ตลาด อ.ต.ก. โดยระหว่างขึ้นแท็กซี่คนร้ายพูดในรถบอกว่าจะมายิง รปภ.ที่ตลาด อ.ต.ก.และบอกว่ามีปืนด้วย
พล.ต.ท.สยามระบุว่า จากนั้นบังคับให้รถแท็กซี่มาส่งที่ตลาด อ.ต.ก. ซึ่งเดิมแท็กซี่จะจอดด้านนอกไม่ให้เข้ามา แต่คนร้ายบอกว่าให้ส่งประตู 1 พอมาถึงคนร้ายลงจากรถ เห็น รปภ.อยู่ตรงนั้น 3 คน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนกราดยิงทั้ง 3 คนทันที จากนั้นถามหา รปภ.ชื่อนัน ซึ่งสอบถามจากภรรยาผู้ก่อเหตุ ทราบว่ามีเรื่องโกรธแค้นบาดหมางทะเลาะฝังใจกันมานานหลายปีตั้งแต่ปี 62-63 ประเด็นที่มีเรื่องคับแค้นใจคือคนร้ายเป็นคนรักรถมาก เวลาเอารถมาจอดปรากฏว่ารถมีร่องรอยขูดขีดและเข้าใจว่า รปภ.เป็นคนทำ เวลาเมาจะระบายอยู่บ่อยครั้ง
ผบช.น.เปิดเผยต่อว่า หลังก่อเหตุยิง 3 ศพไปแล้ว คนร้ายได้เดินตามหา รปภ.ชื่อนัน ซึ่งมีป้อมอยู่หน้าอาคาร พอเห็นก็ได้ก่อเหตุยิงอีก 1 จุด จนกระสุนหมดแม็กแล้วบรรจุเพิ่มอีกแม็ก ก่อนจะเข้าไปก่อเหตุกราดยิงแม่ค้าเสียชีวิต 1 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน
“เบื้องต้นเหตุจูงใจได้สอบถามภรรยาของคนร้าย จากการสอบถามทราบว่าสามีไปบ่นให้ฟังเวลาดื่มสุราเรื่องคับแค้นใจที่ถูก รปภ.กรีดรถ ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือน ผู้ผู้ก่อเหตุได้โทร.มาแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ตลาดให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่รถถูกกรีด ซึ่งทางตลาดก็รับเรื่องไว้ตรวจสอบ และเคยไปตรวจสอบแล้วพบว่ารถของคนร้ายมีร่องรอยถูกกรีดจริง แต่ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ” ผบช.น ระบุ
ผบช.น.กล่าวอีกว่า จากการสอบถามภรรยาทราบว่าคนร้ายเป็นคนที่มีบุคลิกโมโหรุนแรงเวลาเมา และเป็นคนที่รักรถมาก ช่วงเช้าจะมาส่งภรรยาที่ตลาดแล้วก็มารับกลับ ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนไทย ไม่มีมูลเหตุเกี่ยวกับเรื่องอื่น ส่วนปืนเป็นของเขาเองขนาด 9 มม. จากการตรวจสอบอาวุธปืนพบกระสุนค้างอยู่ในรังเพลิงอีก 1 นัด ยิงไป 10 กว่านัด
"ยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเรื่องการก่อภัยคุกคาม เป็นความขัดแย้งที่มีมานาน ภรรยายังไม่ทราบ ก่อนเกิดเหตุยังคุยกับภรรยา ไม่มีลางบอกเหตุที่จะก่อเหตุแต่อย่างใด" ผบช.น.กล่าว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนทุกมิติ รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริง และสามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว โดยมอบหมายให้ บช.น. ดำเนินการให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


