"เพื่อไทย" ดิ้นสุดฤทธิ์ "ภูมิธรรม" ลาประชุม ก.ตร. นำแกนนำพรรคร่วมฯ คุย "ปชน." ขอเสียงหนุน "ชัยเกษม" เป็นนายกฯ เผย "พท." ยอม ปชน.ทุกเงื่อนไขหลังส่งข้อเสนอเพิ่มให้ไป ลั่นยุบสภาเร็วกว่า 4 เดือนก็ทำให้ได้ สะพัด! วงหารือยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนเท่าวงคุย "อนุทิน" เหตุยังไม่ได้คุยกับ "ชัยเกษม" ส่วน "แกนนำ พท." ชิงขอโทษก่อน พร้อมเสี้ยม "ภท." เคยขวางแก้ รธน. จับตาประชุม "สส.ปชน." จันทร์นี้ อาจยังกั๊กเลือกใครนั่งนายกฯ เหตุแกนนำ ปชน.ยังไม่เปิดเผยการตัดสินใจ "กก.บห.ปชป." มีมติใช้ข้อบังคับมอบอำนาจ "เฉลิมชัย" ตัดสินใจเบ็ดเสร็จ ยังกั๊กโหวตฝั่งไหนอ้างรอฝุ่นจาง ด้าน ภท.นัดประชุมบ่าย 3 วันจันทร์ "บังซุป" เย้ยรัฐบาล พท.เหมือนผีหัวขาด
เมื่อวันอาทิตย์ มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ยื่นข้อเสนอให้พรรคประชาชน (ปชน.) โหวตหนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตของเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี แทนไปหนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี
ช่วงเช้าพรรคเพื่อไทยได้เผยแพร่ข้อความระบุว่า พรรคเพื่อไทยได้ประสานงานและกำหนดนัดหมายกับพรรคประชาชน เพื่อหารือเรื่องข้อเสนอในการจัดตั้งรัฐบาล ในวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ส.2568 เวลา 14.00 น. ณ ที่ทำการพรรคประชาชน ทั้งนี้ พรรค พท.ยินดีตอบรับข้อเสนอจากพรรค ปชน.ทุกประการ และมีข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อความชัดเจนถึงแนวทางปฏิบัติและแก้ไขปัญหาของประเทศ ดังนี้ 1.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ตั้งขึ้นจากข้อตกลงนี้ จะยุบสภาภายใน 4 เดือนนับจากวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา และหากกระบวนการตามเงื่อนไขบรรลุผลก่อนกำหนดเวลา รัฐบาลจะยุบสภาทันที 2.การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะตั้งคำถามเรื่องเห็นด้วยกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตย พ.ศ.2540 เป็นร่างหลักหรือไม่ เพื่อกระชับเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3.ในการทำประชามติครั้งเดียวกัน จะตั้งคำถามเรื่องการคงไว้หรือยกเลิก MOU 43 และ MOU 44 เพื่อหาข้อยุติและลดความขัดแย้งภายในประเทศ 4.รัฐบาลชุดนี้จะร่วมมือกับพรรคประชาชนและทุกฝ่าย เร่งดำเนินการคดีฮั้ว สว.และคดีที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชน ตามกฎหมายและหลักนิติธรรมอย่างตรงไปตรงมา
ต่อมา เวลา 13.30 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน, นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค เดินทางมาถึงพรรค ปชน. เพื่อรอหารือกับพรรค พท. และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ในการโหวตสนับสนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ เป็นนายกฯ คนที่ 32
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อคืนนี้มีใครโทร.หาเพิ่มเติมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ไม่มี และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้โทร.มา
สำหรับบรรยากาศที่พรรค ปชน. มีประชาชนที่สนับสนุนพรรคมาเกาะติดการพูดคุยด้วย โดยมีทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและคัดค้านการจับมือกับพรรคเพื่อไทย กลุ่มที่สนับสนุนระบุว่า "เราเชื่อมั่นในหัวหน้าเท้ง หัวหน้าเท้งสู้ๆ เราไม่กดดันหัวหน้าเรา และกลุ่มคัดค้านการจับมือกับพรรคเพื่อไทย บอกว่า “ไม่ต้องโหวตให้ใครเลย ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย” และยังมีป้ายข้อความว่า “เพื่อไทยจะเลิกตระบัดสัตย์กี่โมง”, “ครั้งนี้คงไม่ได้ยินคำว่าเสียสัตย์เพื่อชาติอีกนะ” และ “เพื่อไทยศูนย์รวมโจร”
'อ้วนนำ' แกนนำเข้าหารือ ปชน.
เวลา 13.55 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย, นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, น.ส.จิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรค พร้อมมีตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาล นำโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาถึงที่ทำการพรรค ปชน. จากนั้นเจ้าหน้าที่พรรค ปชน. ได้นำคณะทั้งหมดขึ้นไปด้านบนของที่ทำการพรรคฯ ซึ่งมีแกนนำ ปชน.รออยู่ก่อนแล้ว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็น น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ได้ยืนมองจากชั้นสองของที่ทำการพรรคฯ ในระหว่างที่นายภูมิธรรมเดินทางมาถึงและกลุ่มมวลชนมีการตะโกนขับไล่ และก่อนที่จะถึงเวลานัดหมายระหว่าง พท.กับ ปชน. ในเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เจอแกนนำคณะก้าวหน้า ได้แก่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายชัยธวัช ตุลาธน อยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำการพรรค ปชน. ประมาณ 100 เมตร
เวลา 14.45 น. นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เดินทางมาถึงพรรค ปชน. โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ทำไมนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคถึงไม่ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง นายประภัตรตอบสั้น ๆ ว่า "ติดประชุม" ก่อนเดินขึ้นไปเพื่อร่วมวงหารือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเจรจาครั้งนี้ ขาดเพียงแกนนำของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ไปพบแพทย์ตามกำหนด
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจ "พรรคประชาชน" โพสต์ข้อความระบุว่า พรรคประชาชนขอยืนยันว่า เงื่อนไขในการโหวตนายกฯ มีเพียง 3 ข้อ ได้แก่ 1) ยุบสภาภายใน 4 เดือน 2) จัดทำประชามติเพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ 3) พรรคประชาชนจะไม่ร่วมรัฐบาลเด็ดขาด และไม่มีบุคคลในพรรคหรือตัวแทนไปรับตำแหน่งใน ครม. ยังไม่มีการเพิ่มเงื่อนไขอื่นใดจากนี้ และขณะนี้ พรรคประชาชนยังไม่ได้ตัดสินใจรับข้อเสนอของพรรคใดทั้งสิ้น
ต่อมาเวลา 15.05 น. นายภูมิธรรมแถลงข่าวว่า วันนี้ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ได้มอบหมายให้พรรค พท.เป็นแกนนำในการติดต่อพูดคุยการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคร่วมฯ ได้ปรึกษาหารือกันหมดแล้ว และมาสรุปในสิ่งที่เราได้นำเสนอ และตัวแทนที่มามีทั้งพรรคประชาชาติ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ป่วยติดการผ่าตัด ยืนยันว่าข้อเสนอเราก็เป็นเอกภาพตามที่เสนอ
"วันนี้พรรคร่วมฯ ได้มานำเสนอและพูดคุยกัน หัวใจสำคัญคือข้อเสนอพรรคประชาชนเรารับหมด และพร้อมให้เป็นไปตามนั้น พร้อมปฏิบัติไปตามนั้น ส่วนข้อเสนอของเราก็ให้พรรคประชาชนได้รับทราบ และคุยกันแล้วว่าหลายเรื่องที่เราเสนอควรปฏิบัติในเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะสิ่งที่เรานำเสนอคือไม่เข้าไปยุ่งในกระบวนการยุติธรรม คดีต่างๆ ทุกคดีก็ขอให้ดำเนินการทั้งหมด และรายละเอียดทางพรรคประชาชนก็จะนำไปพิจารณา และยังไม่ได้รับปากหรือตัดสินใจที่จะยกมือให้ใครเลย ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการและองคาพยพของพรรคมีหลายส่วน และต้องหารือหลายส่วนให้มากที่สุด เราก็ยอมรับเงื่อนไขนี้ได้"
ยุบสภาก่อน 4 เดือนก็ได้
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. จะมีการประชุม ซึ่งเป็นกระบวนการภายในของ ปชน.เอง สิ่งที่อยากเรียนวันนี้คือ เราได้เสนอพูดคุยกัน เห็นว่าสาระสำคัญคือแก้ไขวิกฤตเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องกติกา ที่อยากรีเซตการเมืองใหม่ ให้มีการเมืองที่สามารถมีประสิทธิภาพได้มากกว่านี้ เรื่องอื่นๆ ยังเป็นกระบวนการในรายละเอียดที่จะขอยังไม่พูดอะไร ส่วนข้อเสนอที่ พท.ไม่ได้เป็นปัญหาต่อข้อสรุป และเรายอมรับทั้งหมด ไม่ได้ขัดกัน แต่ก็ขอให้พิจารณาเท่านั้นเอง ถ้าจะทำหรือไม่ทำ ไม่มีผลต่อการที่จะร่วมกันในการสนับสนุนการตั้งรัฐบาล
ส่วนเป็นท่าทีที่ดีหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอให้รอทางพรรคประชาชน และกล่าวทิ้งท้ายว่า เรายินดีพร้อมยุบสภาภายในไม่เกิน 4 เดือน หากต่ำกว่า 4 เดือนที่เขาเสนอ เร็วกว่านั้นเราก็ทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่บรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเดินออกจากที่ทำการพรรค ปชน. ได้มีกลุ่มมวลชนผู้สนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลยื่นดอกไม้สีแดงให้กับพรรค พท. ขณะที่กลุ่มมวลชนที่สนับสนุนพรรค ปชน. ต่างตะโกนโห่ไล่ อาทิ ไม่เอาเพื่อไทย ออกไป จะไปขุดระเบิดกี่โมง ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน
มีรายงานว่า ในการหารือกว่า 1 ชั่วโมง บรรยากาศเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยในช่วงต้นของการเจรจา แหล่งข่าวระบุว่า ตัวแทน พท.ได้กล่าวขอโทษตัวแทน ปชน. ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นเรื่องขัดแย้งกันในอดีต แต่แหล่งข่าวมองว่า ในการหารือครั้งนี้ดูจะมีปัญหากว่าเมื่อเทียบกับการหารือกับ ภท.เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากครั้งนั้นเป็นการหารือกับ ภท.เพียงพรรคเดียว แต่ในครั้งนี้กลับมีพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาร่วมด้วย จึงทำให้เกิดความวุ่นวาย และยังไม่ได้ข้อสรุปเหมือนคราวที่หารือกับ ภท. ประกอบกับก่อนหน้านี้ พท.ไม่เคยมีท่าทีที่จะรับเงื่อนไขของ ปชน.เลย ทั้งยังมีข้อเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนทีโออาร์ด้วย จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การเจรจาไม่คืบหน้า ซึ่งทางแกนนำ ปชน.เองไม่ได้มีความมั่นใจกับแกนนำของ พท. เนื่องจากยังไม่ได้มีการพูดคุยกับแคนดิเดตนายกฯ ของ พท. จึงทำให้การพูดคุยไม่มีความชัดเจนเหมือนกับของ ภท.
ระหว่างที่มีการหารือกันนั้น พท.ได้แสดงเจตจำนงในการขอเสียงโหวตสนับสนุนให้นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ คนใหม่ โดยมีการเน้นย้ำว่า พท.มีความสามารถในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และได้ให้คำแนะนำกับ ปชน.ถึงการกระทำของ ภท.ในอดีตว่าเคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง พร้อมย้ำว่า พท.พร้อมรับข้อเสนอของ ปชน. แต่ก็ต้องให้เกียรติ ปชน.เป็นคนตัดสินใจ หลังจากแกนนำ พท.พูดคุยกับแกนนำของ ปชน.เสร็จแล้ว ยังได้มีการขอเวลาพูดคุยกันเองใน พท.เป็นการภายในด้วย
สำหรับการนัดประชุมนัดพิเศษของ สส.ปชน. วันที่ 1 ก.ย.นี้ เป็นไปเพื่อกำหนดแนวทางในการโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ โดยแหล่งข่าวคาดว่า สส.ที่เข้าร่วมอาจจะไม่ได้มาครบทั้งพรรค เนื่องจากบางคนอาจติดภารกิจ เพราะปกติแล้วจะประชุมกันในวันอังคาร โดยในการประชุมนี้จะเปิดโอกาสให้ สส.ได้แสดงความคิดเห็น แต่ไม่มีการลงมติ เนื่องจากแกนนำของพรรคได้มีการตัดสินใจไว้ก่อนแล้ว แต่ยังไม่มีการระบุวันที่ชัดเจนในการเปิดเผยผลการตัดสินใจนั้นให้กับ สส.ทราบเมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะกำหนดวันในการเลือกนายกฯ คนใหม่ลงระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อไหร่
ปชป.มอบอำนาจให้ 'เฉลิมชัย'
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ช่วงเที่ยง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. เดินทางเข้าที่ทำการพรรคฯ ก่อนที่จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคในเวลา 15.00 น.
ด้านนายเดชอิศม์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรมระบุภายหลังการเจรจากับ ปชน. ที่พรรคร่วมฯ รับเงื่อนไขทั้งหมดของ ปชน.ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของ พท.กับ ปชน. ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนพรรค ปชป.ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด
เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของ ปชน.และ พท.หรือไม่ นายเดชอิศม์ยืนยันว่า เห็นด้วย พร้อมระบุว่า วันนี้ต้องยุบสภาให้เร็วที่สุด เพราะถึงแม้เราอยู่ต่อไปก็ขัดต่อความรู้สึกของประชาชน 4 เดือนยังยาวไป อยากให้ยุบสภาเร็วกว่านั้น 2 เดือน 3 เดือนก็ยุบสภาได้แล้ว ในประเด็นที่แถมไปคือการทุจริต เช่นเรื่องเขากระโดง ที่หลวงต้องเป็นที่หลวง เราปล่อยให้ยืดเยื้อมาขนาดนี้ได้อย่างไร และการฮั้ว สว. เป็นการทำร้ายประเทศ
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าปิดประตูการร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า หากตนไปสนับสนุน เจ้าของนโยบายที่ตนพูดไปสักครู่ อย่าว่าเป็นนักการเมืองเลย ความเป็นคนของตนก็ไม่เหลือ
ด้านนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นการจัดตั้งรัฐบาล โดยบอกว่า ไม่ได้ติดตาม และส่วนตัวไม่ได้สนใจเรื่องที่จะไปนั่งรัฐบาล เพราะฉะนั้นมีข่าวอะไรที่เกี่ยวกับตนขอให้อย่าไปเชื่อ ไม่เคยมีใครมาเจรจา หรือมีความคิดจะไปเจรจากับใคร ขอให้ไปถามกรรมการบริหารพรรค
ภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค ปชป. เวลา 17.00 น. นายเฉลิมชัยเปิดเผยว่า การที่นายกฯ พ้นจากตำแหน่งเท่ากับว่ารัฐบาลได้หมดวาระลง พรรคจึงต้องกลับมาเริ่มต้นกระบวนการตามข้อบังคับพรรคใหม่ทั้งหมด โดยที่ประชุมได้มีมติใช้ข้อบังคับพรรคข้อที่ 134 ในหมวดเบ็ดเตล็ด ซึ่งเป็นการยกเว้นการบังคับใช้ข้อบังคับพรรคบางข้อ เพื่อให้การบริหารงานสามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที โดยข้อบังคับที่ได้รับการยกเว้นคือ ข้อ 94, 96 และ 97 ซึ่งครอบคลุมในประเด็นสำคัญ 1.การตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล 2.การตัดสินใจคัดเลือกบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หากกรณีที่เข้าร่วมรัฐบาล 3.การตัดสินใจพิจารณาตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมือง
"มติที่ประชุมได้มอบหมายอำนาจให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างถูกต้องตามข้อบังคับของพรรคทั้งหมด ซึ่งเป็นการให้อำนาจในการตัดสินใจอย่างเบ็ดเสร็จในกรณีที่มีการฟอร์มรัฐบาลใหม่เกิดขึ้น"
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลกับใคร หรือจะโหวตให้ใครเป็นนายกฯ คนต่อไป นายเฉลิมชัยตอบว่า "วันนี้ยังไม่มีใครตอบได้ รอฝุ่นจาง" พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจทุกอย่างจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงทางการเมือง และจะดำเนินการตามข้อบังคับของพรรคทุกประการ
เมื่อถามย้ำว่า วันนี้สามารถพูดได้ใช่หรือไม่ว่า ปชป.ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมกับฝ่ายไหน นายเฉลิมชัยกล่าวว่า "วันนี้อย่าเพิ่งให้ผมตอบในเรื่องอนาคตเลย แต่ยืนยันว่าผมมีจุดยืนในทางการเมืองเฉพาะตัวผม ส่วนสถานการณ์ทางการเมือง ผมไม่อยากเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้น อาจจะไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคิดทั้งหมดก็ได้ ส่วนการตัดสินใจของแต่ละคน เชื่อว่าก็มีแนวทางอยู่แล้ว รอให้ถึงเวลาว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร"
เมื่อถามถึงกรณีนายเดชอิศม์ไปร่วมประชุมกับ พท.และ ปชน. นายเฉลิมชัยกล่าวว่า นายเดชอิศม์ไปในฐานะอยู่ใน ครม. ไปฟังด้วย ซึ่งอย่างไรก็ตามทุกคนต้องมาทำตามมติพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และ สส.นครศรีธรรมราช เดินลงมาพร้อมกับนายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา ที่มีกระแสข่าวว่าเป็น 1 ใน 4 สส.ปชป.ผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนนายอนุทิน กล่าวยืนยันต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ล้านเปอร์เซ็นต์
ภท.เย้ยรัฐบาล พท.ผีหัวขาด
ส่วนบรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย กลับเป็นไปอย่างเรียบเรื่อย ล่าสุดมีภาพหลุดของนายอนุทิน ที่ในช่วงเช้าได้ไปรับประทานห่านพะโล้เจ้าดัง ร้าน ฉั่ว คิม เฮง ย่านกรุงเทพกรีฑา โดยแต่งตัวสบายๆ ไม่มีท่าทีกดดันอะไรกับการวิ่งแย่งชิงเก้าอี้นายกฯ ทั้งนี้ พรรค ภท.นัดประชุมพรรคประจำสัปดาห์ วันที่ 1 ก.ย. เวลา 15.00 น. คาดว่าน่าจะมีการประเมินสถานการณ์ในการจัดตั้งรัฐบาล หลังเดินสายขอเสียงสนับสนุนจาก สส.พรรคการเมืองอื่น
ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ภท. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถามอดีตนายกฯ ว่า นายกฯ พ้นจากหน้าที่เพราะผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง อดีตนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรค ถูกศาลวินิจฉัยว่าผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขาดคุณสมบัติการเป็นหัวหน้าพรรค ต้องพ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับพรรคหรือไม่
“เมื่อหัวหน้าพรรคพ้นจากตำแหน่ง กรรมการบริหารพรรคก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะด้วยใช่หรือไม่? คนในพรรคไปเจรจากับใครมีผลผูกพัน? หรือบ้านนี้เมืองนี้ถูกขับเคลื่อนโดยรักษาการๆ ที่มีเงาซาตานอยู่ข้างหลัง? ผีหัวขาดทั้งรัฐบาล ทั้งพรรค!??!” นายศุภชัยระบุ
นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ พรรค พท. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ตนเลือกที่จะใช้เอกสิทธิ์ สส.ไม่โหวตให้นายชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกฯ ด้วยเหตุผลหลักคือ 1.พรรคเพื่อไทยบริหารประเทศมา 2 ปี นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยแถลงไว้ แทบจะไม่สามารถปฏิบัติได้เป็นผล 2.จากเหตุการณ์คลิปอังเคิลหลุด และเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะที่อำเภอกันทรลักษ์ ประชาชนได้รับบาดเจ็บล้มตาย เดือดร้อนกันอย่างแสนสาหัส นั่นหมายถึงรัฐบาลบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ ไม่ดีพอ มาถึงฟางเส้นสุดท้ายคือ คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้นายกฯ มีความผิดส่งผลให้พ้นจากตำแหน่ง
"พรรคเพื่อไทย ควรจะต้องเสียสละไม่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่เป็นนายกฯ ไม่ฉุดลากประเทศให้ตกต่ำเดือดร้อนเสียหายไปมากกว่านี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อันจะนำไปสู่การยุบสภาฯ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนกำหนดอนาคตของตัวเองอีกครั้งในเร็ววัน" นพ.ภูมินทร์กล่าว
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ไม่เลือก เพื่อไทย เด็ดขาด ถ้ายังเป็นกรรมการบริหารพรรค ดิฉันจะตัดสินใจบนฐานคิด 6 ข้อนี้ 1.เพื่อไทยเคยฉีก MOU อย่างหน้าด้านๆ มาแล้ว เป็นแผลสดที่ความเจ็บยังไม่จางหาย เปลี่ยนขั้วการเมืองทรยศประชาชน 2.เพื่อไทย มีกองทัพ iO ทำลายพรรคประชาชนอย่างต่อเนื่อง 3.สว.เป็นของสีน้ำเงิน ไม่ใช่สีแดง มีโอกาสผ่านเรื่องประชามติแก้ รธน.มากกว่า 4.ภูมิใจไทยจะเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ที่ควบคุมง่ายกว่า ถ้าไม่โหวตอะไรให้รัฐบาลภูมิใจไทยก็ล้มทันที ตรงข้ามกับเพื่อไทยที่มีเสียงมากกว่า ถ้าเบี้ยวก็ควบคุมยากกว่ามีโอกาสจะไม่ยุบสภาในกำหนด 4 เดือนสูงกว่า 5.เปลี่ยนแกนนำรัฐบาลมีผลดีกับสถานการณ์ชายแดนมากกว่าให้เป็นรัฐบาลเดิม 6.เพื่อไทยไม่ใช่พรรคการเมือง แต่ชัดเจนว่าเป็นเพียง “บริษัทจำกัด” ที่ทุกคนเป็นลูกจ้างทักษิณ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


