งัดกม.ขู่เขมรป่วนบ้านหนองจาน

กกล.บูรพาส่ง ตร.คฝ.คุม “บ้านหนองจาน” หลังกัมพูชาป่วน เหตุไม่พอใจไทยปักป้ายขอคืนพื้นที่ ด้านแม่ทัพภาค 1 เช็กความพร้อมจัดระเบียบชายแดน ทบ.อึ้ง “ลูกปราย”  กระสุนปืนใหญ่กระจายพื้นที่พลเรือน "แม่ทัพภาค 2" ยังเดินสายปลุกรักชาติ ย้อนปม “เสียม-เหมน” ขณะที่ ทอ. รับ AT-6 เข้าประจำการ 8  เครื่อง พร้อมโครงการช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐ

เมื่อวันที่ 4 กันยายน ภายหลังจากจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ติดป้ายประกาศให้ประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนกว่า 170 ครัวเรือน ย้ายออกจากพื้นที่รุกล้ำบริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ปรากฏว่ามวลชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เคลื่อนเข้ามาชุมนุมประท้วงใกล้หลักเขตแดนที่ 46 โดยกองกำลังเฉพาะกิจที่ 12 ได้เข้าตรวจสอบและจัดกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมประสานผู้บังคับกองพลน้อยราบที่ 51 ให้จัดกำลังฝ่ายกัมพูชาควบคุมประชาชนฝั่งตนเอง เพื่อมิให้เกิดการยั่วยุหรือความรุนแรงในพื้นที่ชายแดน โดยฝ่ายไทยได้จัดกำลังควบคุมฝูงชนจากตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วเข้ารักษาการณ์ในพื้นที่ เพื่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน

ขณะที่ พล.ต.สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 1 ย้ำว่า หาก 170 ครัวเรือนกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ของไทยยังคงเพิกเฉยไม่ดำเนินการ จะต้องถูกดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมาย ดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท

พล.ต.สุรวิชญ์กล่าวว่า ทหารไทยไม่อยากที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับประชาชนชาวกัมพูชา จึงได้มีการประสานไปกับฝ่ายกัมพูชาให้เข้ามาจัดระเบียบคนของตัวเอง ไม่ให้รุกล้ำเข้ามาฝั่งไทย หรือทำลายป้าย แต่หากยังฝ่าฝืน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายไทยอย่างถึงที่สุด โดยแนวทางการจัดระเบียบชายแดนอยู่ระหว่างการหารือในการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทยทั่วไปไทย-กัมพูชาอีกครั้งต่อไป เพื่อกำหนดกติกา กรอบการปฏิบัติที่ชัดเจน

ขณะที่ กองทัพบก ได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 พบว่าประชาชนบางส่วนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ  ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วงหากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า การกระทำในครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการจากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา โดยกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันถึงความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ หากตรวจพบการกระทำผิดของประชาชนชาวกัมพูชา ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ เพื่อดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติ ไม่ให้มีใครมารุกราน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมด้วยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และคณะ เดินทางลงพื้นที่บ้านหนองจาน เพื่อพบปะประชาชนและตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณแนวชายแดนถนนศรีเพ็ญ จากนั้นเเดินทางต่อไปยังบริเวณหลักเขตแดนหมุด 46-47 เพื่อตรวจสอบพื้นที่ข้อพิพาท ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า การทำงานร่วมกันระหว่างกองกำลังบูรพาและจังหวัดสระแก้วมีความแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง โดยเป้าหมายของกัมพูชาดึงนานาชาติมาปิดล้อมเรา กดดันเรา  แต่เราไม่หลงกล และเราต้องย้อนกลับไปว่าจะทำอย่างไรให้นานาชาติมากดดันกัมพูชาแทน เช่น ปัจจุบันเราปิดด่าน ทำให้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ลดน้อยลง รวมถึงชาวกัมพูชาที่พยายามลักลอบเข้ามาไทย การที่เห็นผู้นำกัมพูชาไปปรากฏตัวที่จีนบ้าง สหรัฐบ้าง เพื่อต้องการแสดงออกว่ามีมหาอำนาจให้ความดูแล ซึ่งตรงนี้เราต้องไม่เดินไปตามเกมของเขา ต้องให้เขาเดินเข้ามาในเกมของเรา

กระสุนปืนใหญ่หวังฆ่าพลเรือน

สำหรับการจัดระเบียบชายแดนผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ประเทศไทยมีขั้นตอนอยู่แล้ว  โดยวันที่ 10 ก.ย.นี้ จะมีการประชุม GBC เกิดขึ้น ซึ่งได้รวบรวมผลการประชุม RBC พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ไปทำข้อเสนอและยื่นกับกัมพูชา เพื่อพูดคุยร่วมกันให้ได้ข้อสรุป ซึ่งปัญหาของสองพื้นที่มีมูลเหตุแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นแนวทางแก้ไขปัญหาต้องแตกต่างกัน แต่ทุกอย่างต้องบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ เพื่อเป็นประโยชน์ของชาติ ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ เพราะเราต้องไม่เดินไปในเกมของเขา ต้องให้เขาเข้ามาในเกมของเรา

สำหรับปัญหาทุ่นระเบิด ได้ไปดูพื้นที่ที่มีระเบิดตกค้าง ซึ่งทางกัมพูชารับข้อเสนอของกองทัพภาคที่ 1 ในการเก็บกู้ระเบิด ต้องเรียนว่าทุ่นระเบิดไม่รอเวลาว่าจะหยุดจริงหรือไม่หยุดจริง  สามารถระเบิดได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากใครเดินไปเหยียบ หรือเข้าไปในพื้นที่ที่คิดว่าปลอดภัยแล้วบางครั้งมันยังไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น รวมทั้งพื้นที่ทางทหารเราจะพยายามควบคุมไม่ให้มีการวางระเบิดใหม่ขึ้น ซึ่งเราสามารถควบคุมได้ทุกพื้นที่

จากนั้น เวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้ตรวจพบว่ามีการระดมชาวกัมพูชานอกพื้นที่ โดยทำการปิดถนนหมายเลข 58 ฝั่งกัมพูชา และเกณฑ์คนที่สัญจรไปมาให้เข้ามาสมทบมวลชนกัมพูชาประท้วงทหารไทยใกล้บริเวณหลักเขตแดนที่ 46 เหตุไม่พอใจฝ่ายไทยติดป้ายเตือนให้ประชาชนชาวกัมพูชา 170 หลังคาเรือนย้ายออกจากพื้นที่รุกล้ำประเทศไทย บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

วันเดียวกัน กองทัพบกร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จัดชุดพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ภายหลังเกิดเหตุกระสุนจากอาวุธวิถีโค้งของฝ่ายกัมพูชาตกลงมาในหมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.30 เมตร บริเวณหน้าบ้านที่ได้รับความเสียหาย จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำและดินจากบริเวณหลุม เพื่อนำไปตรวจสอบองค์ประกอบของสารระเบิดในห้องปฏิบัติการต่อไป

นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานสำคัญคือ “ลูกเหล็กทรงกลม” หรือ Ball Bearing (ลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด/ลูกปราย) จำนวนมากปะปนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นว่า ลูกเหล็กเหล่านี้ถูกบรรจุไว้ในวัตถุระเบิด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มอานุภาพการสังหารบุคคลในวงกว้าง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่าเศษสะเก็ดระเบิด (Fragment) ที่เกิดจากการแตกตัวของโลหะทั่วไป เมื่อกระสุนประเภทนี้ตกลงในพื้นที่ชุมชนพลเรือน ย่อมส่งผลทำลายชีวิตประชาชนอย่างร้ายแรงเป็นวงกว้าง และหากเป็นการยิงโดยเจตนา หรือยิงโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อพลเรือน ก็ถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล และเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม (War Crime) ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์จะถูกส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประท้วงและเรียกร้องด้านมนุษยธรรมในเวทีระหว่างประเทศต่อไป

สำหรับภารกิจของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปบรรยายพิเศษหัวข้อ “อาชีวะอาสา เสริมสร้างอธิปไตย ประเทศไทยให้มั่นคง” ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ ร.9 วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ถึงเวลาร้องเพลงชาติเราร้องด้วยใจหรือไม่ เราลองหลับตานึกถึงคนที่เขาไม่มีแผ่นดินอยู่ เขาจำเพลงชาติของตัวเองแทบไม่ได้ บางประเทศบ้านแตกสาแหรกขาด แล้วพวกเรายังอายอยู่หรือที่จะร้องเพลงชาติ ในโรงหนังอายเหลือเกินที่ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พระเจ้าอยู่หัว บรรพบุรุษของเรารักษาแผ่นดินไว้ อายเหลือเกินที่จะร้องเพลงเทิดทูนพระองค์ท่าน ตนเข้าไปในโรงหนังมีคนยืนอยู่ไม่เกิน 5 คน หนึ่งในนั้นก็คือตน จะไปอายทำไม บรรพบุรุษกูเป็นแบบนี้

ทอ.รับ AT-6 เข้าประจำการ

“สักวันหนึ่งพวกท่านจะเข้าใจว่าทำไมผมถึงยืน นี่คือความสำนึกในบ้านเกิด ในแผ่นดินเกิด ที่ผมแต่งชุดลายพรางเพื่อเป็นการสดุดีให้กับทหารกล้าที่เสียสละ ในชุดนี้จะมีธงชาติอยู่ เพื่อให้รู้กูนี่แหละทหารไทย น้องๆ ต้องมีความภูมิใจในความเป็นชาติไทย ร้องดังๆ ร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี ร้องไปเลยในโรงหนัง ไม่ต้องอาย เราร้องให้บรรพบุรุษ ร้องให้อดีตพระมหากษัตริย์ ท่านมองเราอยู่ พระนเรศวรฯ พระเจ้าตากสินฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 มองลูกหลานอยู่ว่าลูกหลานท่านทำอะไรอยู่ เราร้องให้กับพวกท่านเหล่านั้นว่าพวกเรายังคิดถึง และพวกเราจะรักษาแผ่นดินนี้ไว้ วันนี้ยังไม่จบ เป็นเพียงแค่หยุดยิงชั่วคราว ยังไม่จบศึกเขมร เขมรเรียกเราว่า เสียม กูก็เรียกมึงว่า เมร เหมือนกัน เสียม ภาษาอีสานแปลว่า แหลมคม ขอบใจนะที่เรียกกูเสียม กูจะเอาไปทิ่มแทงพวกมึงนี่แหละ หารู้ไม่ว่าเสียมบ้านกูคมมากเลย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

ทางด้าน พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีบรรจุประจำการเครื่องบินโจมตีเบาแบบที่ 8 AT-6TH นามเรียกขาน "วูล์ฟเวอรีน" จำนวน 8 เครื่อง ณ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้สังเกตการณ์ภายใต้ข้อตกลงคุณธรรม ผู้แทนส่วนราชการ ตลอดจนผู้แทนจากบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด,  บริษัท Textron Aviation Defense LLC, บริษัท Sam Teltech และบริษัท RVC เข้าร่วมพิธี

กองทัพอากาศได้ดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินโจมตีเบา (AT-6TH) จำนวน 8 เครื่อง จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าประจำการ ณ ฝูงบิน 411 กองบิน 41 ทดแทนเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ 1 (L-39 ZA/ART) ที่ปลดประจำการไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 โดยการจัดหาดังกล่าวได้มีการลงนามสัญญากับบริษัท Textron Aviation Defense LLC เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ภายใต้ข้อตกลงคุณธรรม เพื่อให้การใช้งบประมาณของรัฐเป็นไปด้วยความโปร่งใส คุ้มค่า มีประสิทธิผล และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

นอกจากอากาศยานแล้ว โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ การฝึกอบรม และการปรับปรุงอาคารสถานที่สนับสนุนจากโครงการช่วยเหลือทางทหารแบบให้เปล่า  US Title 10 Chapter 16 Section 333 Authority to Build Capability ของรัฐบาลสหรัฐ  เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ อาทิ การโจมตีทางอากาศ การค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่รบ การลาดตระเวน การสนับสนุนการรบภาคพื้น การสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนและขนส่งยาเสพติด ตลอดจนการปฏิบัติภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น การควบคุมไฟป่าและบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น

ผู้บัญชาการทหารอากาศได้กล่าวย้ำว่า การจัดหาในครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความโปร่งใส โปร่งประโยชน์ และคุ้มค่าอย่างแท้จริง โดยปัจจุบันฝูงบิน 411 ได้รับมอบเครื่องบินครบจำนวน 8 เครื่องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เครื่องบินโจมตีเบา AT-6TH ได้รับการพิจารณาในการปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนติดอาวุธและสนับสนุนการป้องกันประเทศอย่างเต็มศักยภาพ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม