โปรดเกล้าฯ “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนที่ 32 "อนุทิน" รับสนองพระบรมราชโองการพร้อมทำหน้าที่ ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใครนอกจาก ปชช. เผยนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ประกาศเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างกางบนโต๊ะ โปร่งใสไม่กลั่นแกล้งใคร คนไทยต้องไม่เสียดินแดนแม้ตารางเซนติเมตร สั่งล่วงหน้า ครม.เวลาน้อยแค่ 4 เดือนเพื่อยุบสภาไม่มีเวลาทดลองงาน ต้องไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย-ไม่ลา-ทำงานไม่มีวันหยุด "ครม.อนุทิน 1" รื้อยกพวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำ ภท.ต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” ด้าน “หญิงอ้อ-เศรษฐา” ส่งช่อแจกันดอกไม้แสดงความยินดี "พท." ขู่หากแทรกแซงคดี "เขากระโดง-ฮั้ว สว." ยื่นซักฟอกแน่
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ และประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 เห็นชอบด้วย ในการแต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เวลา 11.33 น. ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคฯ โดยได้เชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการ
จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการว่า ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายสัตย์ว่า จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกําลังความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม ให้สมกับที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย เพื่อความผาสุกของประชาชนชาวไทย และความวัฒนาสถาพรของประเทศชาติ ตามพระราชปณิธาน และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสำหรับพิธีรับพระบรมราชโองการ มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นางทัศนีย์ ชาญวีรกูล บิดาและมารดานายอนุทิน บุตรชายนายเศรณี ชาญวีรกูล คู่สมรส น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ และครอบครัวชาญวีรกูล สส. พรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เลขาธิการพรรค และแกนนำกลุ่มการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคกล้าธรรม (กธ.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กลุ่ม 16 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และสส.พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี, นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นต้น มาร่วมแสดงความยินดี
จากนั้นนายอนุทินได้คุกเข่ากราบบิดาและมารดา ก่อนเข้าสวมกอดและหอมแก้มบุตรชาย เดินทักทายหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เลขาธิการพรรค แกนนำกลุ่มการเมือง สส.พรรคร่วมรัฐบาล ก่อนจะถ่ายภาพหมู่ร่วมกับครอบครัวและพรรคร่วมรัฐบาล
เวลา 12.10 น. นายอนุทินแถลงว่า การเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อาจมีข้อจำกัดหลายประการหลายด้าน ในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า ตนและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของผมทุกคน จะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานด้วยความไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังสมอง เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่างๆ โดยเร็วที่สุด วันนี้ด้วยเวลาที่มีอยู่ เราจะเร่งแก้ไขปัญหา 4 ด้านที่เป็นภัยคุกคามและส่งผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชนชาวไทย ได้แก่
เรื่องที่ 1 ปัญหาเศรษฐกิจเราจะเร่งดำเนินมาตรการลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพ ลดค่าพลังงาน ค่าเดินทาง และค่าขนส่งต่างๆ ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ แก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อยหาทางมาตรการต่างๆ ดำเนินความสะดวกตามกฎหมายให้กับประชาชน ตลอดจนทำให้รายได้ของชุมชนท้องถิ่นซึ่งเป็นฐานรากของสังคมไทย ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
เรื่องที่ 2 ปัญหาความมั่นคงซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันนี้ จะเริ่มดำเนินมาตรการแก้ไขกรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อให้เกิดการลดความสูญเสียของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ประเทศไทยจะต้องยึดหลักการที่เราจะต้องไม่มีวันเสียดินแดนแผ่นดินของเรา แม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว คนไทยจะต้องไม่เสียประโยชน์ จะต้องดำเนินชีวิตด้วยความเป็นปกติสุข และรัฐบาลจะเร่งดำเนินการชดเชยให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย
เรื่องที่ 3 ภัยธรรมชาติ เราจะเร่งจัดทำระบบเตือนภัย ซึ่งเคยจัดทำมาแล้วช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องเร่งให้มีการชดเชยค่าเสียหายให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยไปธรรมชาติอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที สมเหตุสมผล และเป็นธรรม ซึ่งผมจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะผมจะควบตำแหน่ง รมว.มหาดไทยด้วย ดังนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะไม่มีการหยุดชะงัก
ไม่มีเวลาทดลองงาน
เรื่องที่ 4 ปัญหาภัยสังคม รัฐบาลจะเร่งปราบปรามกระบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์การพนันและการพนันออนไลน์อย่างจริงจัง โดยสร้างความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน เพื่อกำจัดภัยสังคมทุกรูปแบบ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าตนไม่ได้มาด้วยบุญคุณของใคร เว้นแต่บุญคุณของประชาชนชาวไทย โดยผ่านผู้แทนราษฎร ที่ตนจะต้องตอบแทนบุญคุณ การแก้ไขปัญหาทั้งหลายที่ตนได้กล่าวมาใน 4 ปัญหาหลัก ขอความมั่นใจว่าจะต้องได้รับความร่วมมือในการประสานงาน มั่นใจว่าประสบการณ์ที่ตนและคณะรัฐมนตรีได้คัดสรรมา จะไม่มีเวลาที่ทำการทดลองงาน สามารถทำงานทันทีได้หลังจากการถวายสัตย์ปฏิญาณตน
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ไม่ว่าเรื่องใด ๆ ที่เป็นความกังขาทั้งเรื่องของจริยธรรม กฎหมาย ที่บางครั้งพวกตนก็ไม่ได้รับความยุติธรรม มีการกลั่นแกล้งใส่ร้าย แต่ถือว่าวันนั้นได้ผ่านไปแล้ว เรื่องที่เป็นสิ่งที่กังวลใจของประชาชน ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะทำงานโดยยึดความถูกต้องของกฎหมายเป็นหลักเท่านั้น และขอย้ำจะไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตามที่มีผู้ห่วงใย ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปตามรัฐธรรมนูญ
"ความยุติธรรมจะต้องมีกับผู้คนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการยัดเยียด ปรุงแต่งหรือการแกล้งใส่ร้ายอย่างที่เคยมีผู้ปฏิบัติมาขอให้ประชาชนได้มีความมั่นใจ จะเข้าไปเปิดเผยกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างต้องอยู่บนโต๊ะ สามารถอธิบายให้กับพี่น้องประชาชนที่สงสัยทราบ ตรงไหนผิดต้องดำเนินการด้วยกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่"
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ยังมีสิ่งที่ สส.ภาคประชาชนห่วงใย และได้กำหนดอยู่ในข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลคือรัฐบาลจะมีจุดมุ่งหมายในการแก้ไขให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้น ตามกระบวนการที่กำหนดไว้ ในหมวดของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่วมกับกระบวนการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย และหลังจากนั้นตนจะยุบสภาภายในกรอบเวลา 4 เดือน เพื่อที่จะได้คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจอนาคตของประเทศ แม้จะมีเวลาไม่มาก มั่นใจว่าตนจะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย จะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่
"รัฐบาลนี้มีเวลาน้อย ผมพร้อมคณะรัฐมนตรีจะไม่มีวันหยุด ไม่มีพักร้อน และเป็นไปได้จะไม่มีการเจ็บป่วย จะไม่มีวันพักผ่อนกับครอบครัว เว้นแต่จะเป็นวันพักผ่อนตามร่างกายต้องการ ยืนยันว่าจะมีสุขภาพยืนหยัดทำงานเพื่อประชาชน ให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตในเวลาที่มีอยู่ พร้อมจะสร้างรากฐานมั่นคงให้รัฐบาลชุดต่อไปจะสานต่อ โดยดำรงเจตนารมณ์ให้พี่น้องประชาชนมีความอยู่ดีมีสุข มีความมั่นคงในชีวิตด้วยความยั่งยืนตลอดไป รวมทั้งจะสร้างความสามัคคีให้คนในชาติ เป็นพลังในการพัฒนาประเทศไทยสืบต่อไป จะไม่ทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนที่ไว้วางใจต้องสูญเปล่า จะทุ่มเทอย่างสุดความสามารถที่จะทำงานตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มุ่งมั่นตั้งใจที่รับใช้พี่น้องประชาชนให้สมกับความไว้วางใจที่ท่านได้กรุณามีให้แก่ตนในการเป็นนายกรัฐมนตรี" นายอนุทินกล่าว
ต่อมาเวลา 13.40 น. นายอนุทินได้เปิดตัวนายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย และประธานที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร อดีต รมว.การคลัง ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยนายอนุทิน เปิดเผยว่า นายวรภัคจะมาดำรงตำแหน่ง รมช.การคลัง ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวโควตารัฐมนตรีคนนอกรายที่ 4 นับตั้งแต่มีการเปิดตัวรัฐมนตรีโควตาคนนอกเมื่อวันที่ 6 ก.ย.
โผ ครม.เสร็จแล้ว 99.97%
ด้านนายวรภัคกล่าวว่า รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติที่นายกฯ ชวนตนมาร่วมงาน ในชีวิตนี้เป็นครั้งแรกที่เดินเข้าพรรคการเมือง ตนไม่ได้เป็นนักการเมือง มาทางสายตลาดเงินตลาดทุน แต่เห็นนายกฯ มีความตั้งใจ และโดยส่วนตัวรู้จักกันมานานแล้ว และศรัทธาท่านมานานอยู่แล้ว ก็เลยเต็มใจที่จะมาช่วยงาน
จากนั้นนายอนุทินได้เข็นรถวีลแชร์บิดามาส่งที่รถ และนางทัศนีย์ มารดา ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ โดยนายเศรณี ได้หอมแก้มคุณปู่ด้วย ก่อนที่นายอนุทิน จะขอตัวไปประชุมต่อ โดยนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงโผ ครม.ว่า ตอนนี้ 99.9725 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เริ่มลงตัวแล้ว เหลือแค่ปรับเปลี่ยนและเขย่าอีกเล็กน้อยเพื่อให้ลงล็อกอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด โดยเฉพาะรายกระทรวงอย่างเช่นกระทรวงยุติธรรม เพราะ ครม.ต้องนำรายชื่อทั้งหมดทูลเกล้าฯ ถวาย ตราบใดที่ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมา ยังไม่สามารถพูดหรือวิพากษ์วิจารณ์ได้
เมื่อถามว่า จะมีรายชื่อรัฐมนตรีคนนอกเพิ่มเติมเซอร์ไพรส์อีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี มีแต่เชิญผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ และความทุ่มเทเสียสละเข้ามาทำงาน ส่วนคุณสมบัติของรัฐมนตรีต้องมีความพร้อมในการทำงาน ทุกคนมีความทุ่มเทและเสียสละ และบางคนต้องทิ้งอาชีพราชการเข้ามาทำงาน เช่น นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่ รมว.การคลัง ที่ยังมีอายุราชการอีก 6 ปี ต้องตัดสินใจสละเข้ามาช่วยทำงาน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ทุกอย่าง โดยเฉพาะในส่วนของคุณสมบัติ ซึ่งมีการตรวจอย่างละเอียด ส่วนบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ต้องเป็นคนที่มีความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง
เมื่อถามย้ำว่า ต้องจับตาเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะต้องกำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่ทำเรื่อง สว. นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องจับตา ทุกคนก็ทำงานตามหน้าที่ โดยนึกถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักจะไม่มีปัญหา ส่วนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้เมื่อไหร่นั้น ต้องเร็วที่สุด แต่เนื่องจากการตรวจสอบประวัติ มีขั้นตอนมาก ต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 5-6 หน่วยงาน
เมื่อถามว่า ตอนนี้เหมือนในส่วนของเศรษฐกิจค่อนข้างจะแน่นปึ้กแล้ว ในส่วนของความมั่นคงเป็นอย่างไรบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า เรามีว่าที่ รมว.การต่างประเทศที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ตั้งแต่มีการตอบมาร่วม ครม. ตนได้รับกระแสความมั่นใจจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงงานการแก้ไขปัญหาแนวชายแดน เพราะเป็นบุคคลที่มีความสามารถมาก บุคคลที่จะมานั่ง รมว.กลาโหม หากจะแต่งตั้งใครเพราะเกรงใจ ก็ต้องเกรงใจประชาชน เพราะรู้ว่าทำเพื่อใคร ต้องเป็นคนที่ดีที่สุดแน่นอน
"ทำตามกรอบกฎหมาย อย่างที่สื่อ เคยเห็นว่าผมป็นคนคิดดีทำดี ไม่เคยโกรธแค้นใคร และไม่ต้องให้อภัยใคร เพราะไม่เคยโกรธใคร อาจจะมีโมโหบ้าง แต่ในช่วงข้ามคืนก็หายไป ยกมือไหว้การยิ้มให้กันก็หาย คิดมาตลอดปีหน้าก็ 60 ปีแล้ว ก็จะคิดเช่นนี้ ทำให้เห็นได้ว่าผมได้รับความร่วมมือจากบุคคลหลายหลายคนที่ไปเชื้อเชิญมา" นายอนุทินกล่าวถึงหลักคิดในการทำงาน
ผูัสื่อข่าวรายงานด้วยว่า ได้มีอดีตอธิบดี 3 คน ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตอธิบดีกรมที่ดิน, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และอดีตอธิบดีกรมการปกครอง และนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และอดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อมาแสดงความยินดีกับนายอนุทิน ทั้งนี้ อดีตอธิบดีทั้ง 3 คนถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งอธิบดีในยุคที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รมว.มหาดไทย
'หญิงอ้อ' ส่งช่อดอกไม้ยินดี
จากนั้นเวลา 14.40 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทยเช่กัน โดยนำแจกันดอกไม้เข้าร่วมแสดงความยินดีด้วย
เวลา 15.10 น. คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และมารดาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ให้ตัวแทนนำช่อแจกันดอกไม้มาแสดงความยินดีกับนายอนุทิน โดยที่ช่อแจกันดอกไม้มีนามบัตรตัว P เขียนว่า พจมาน ดามาพงศ์ ก.ย. รวมทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ได้ส่งแจกันดอกไม้มาแสดงความยินดีให้กับนายอนุทินในการเป็นนายกฯ ครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรีควบ รมว.หาดไทย, นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่ง รมช.มหาดไทย, น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่ง รมว.วัฒนธรรม, นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล จะได้นั่งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คือ นางศุภมาส อิศรภักดี และนายภราดร ปริศนานันทกุล ส่วนนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ จะนั่ง รมว.คมนาคม, นายนภินทร ศรีสรรพางค์ นั่ง รมช.คมนาคม
สำหรับโควตาคนนอกที่ชัดเจนแล้ว คือ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ที่จะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ที่จะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รมว.การคลัง, นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ จะได้รับการเสนอชื่อเป็น รมว.พลังงาน, นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.การคลัง ส่วนตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ยังเป็นโควตาคนนอก ซึ่งมีกระแสข่าวว่าเป็นตำรวจระดับอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 คือ ระหว่าง พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล หรือ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์
ในส่วนของพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ มีการขยับโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อว่าจะนั่ง รมว.กลาโหม เปลี่ยนเป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.ศึกษาธิการ, นายอัครา พรหมเผ่า เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ขณะที่ นายไผ่ ลิกค์ และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ จะได้นั่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ ยังมีชื่อของนายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี นั่งรมช.ศึกษาธิการ
ส่วนพรรคพลังประชารัฐได้ 4 เก้าอี้ ซึ่งตอนนี้มีรายชื่อปรากฏคือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นางตรีนุช เทียนทอง นั่ง รมว.แรงงาน ส่วนอีก 2 รัฐมนตรีช่วยยังไม่เคาะทั้งชื่อ และกระทรวง
สำหรับกลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น ชัดเจนแล้วว่า ได้ 3 เก้าอี้ โดยเจ้าตัวได้นั่งรองนายกรัฐมนตรีควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ คนสนิทนายสุชาติได้โควตา รมว.อุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีชื่อของนายธนกร วังบุญคงชนะ จะไปดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย
ในส่วนกลุ่มของนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ได้โควตารัฐมนตรีว่าการ 1 ตำแหน่ง ซึ่งนายศักดิ์ดาจะนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการเอง ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ 1 ตำแหน่ง มีชื่อของนายนริศ ขำนุรักษ์ แต่ยังไม่ระบุว่าจะได้ตำแหน่งไหน ขณะที่กลุ่มของนายนิพนธ์ บุญญามณี จะได้รับเก้าอี้ รมช.พาณิชย์ ซึ่งมีชื่อของ น.ส.นิธิยา บุญญามณี ลูกสาวของนายนิพนธ์
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีเดิมของพรรคภูมิใจไทย ได้ตำแหน่งใน ครม.อนุทิน 1 ทั้งหมด ส่วนที่โผขยับในครั้งนี้เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัสไม่ได้คุมกระทรวงกลาโหม ทำให้อยากได้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงต้องมีการขยับเก้าอี้ทั้งหมด
ทางด้านพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บินออกนอกประเทศ 1 วันก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกฯ ทำให้กำลังใจของ พท.หายไปว่า ไม่ ทุกวันนี้ทุกคนกำลังใจดี ซึ่งนายทักษิณก็ได้ออกมาโพสต์แล้วว่าท่านจะกลับมา ฉะนั้นจึงไม่ได้กระทบการทำงานหรือขวัญกำลังใจของ สส.หรือสมาชิกแต่อย่างใด ทุกคนเมื่อเปลี่ยนบทบาทมาทำหน้าที่เป็น สส.พรรคฝ่ายค้านแล้ว เราก็ต้องมาวางยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากำลังจะทำ
เมื่อถามถึงกรณีที่มี สส.พท.ไปโหวตสนับสนุนนายอนุทิน น.ส.ขัตติยากล่าวว่า สำหรับ สส. 8 คนนั้น เราไม่ได้แปลกใจอะไร เป็นสิ่งที่คาดเดาได้อยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ก็ให้ สส.ที่เหลืออยู่ของพรรคทำหน้าที่เป็น สส.ของพรรคฝ่ายค้าน
น.ส.ขัตติยากล่าวว่า การดำเนินคดีกับการบุกรุกที่ดินเขากระโดง และการตรวจสอบการฮั้วการเลือกตั้ง สว. ซึ่งพท.จะตรวจสอบและจับตาทุกฝีก้าวว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะดำเนินการกับสองเรื่องนี้อย่างไร หากพบว่ามีความพยายามที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือทำให้คดีมีความล่าช้า พท.จะใช้ทุกช่องทางการตรวจสอบที่มีอยู่เพื่อเป็นการหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว พท.พร้อมเข้าชื่อเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีโดยทันที แม้ว่าจะยังไม่ครบกำหนด 4 เดือนตามบันทึกข้อตกลงส้ม-น้ำเงิน
“รัฐบาลอาจเปลี่ยนขั้ว แต่พรรคเพื่อไทยไม่เปลี่ยนหัวใจ เพราะหัวใจของเรายืนอยู่ข้างประชาชนเสมอ” น.ส.ขัตติยา กล่าว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า รัฐบาลนายอนุทิน คาดหวังความสําเร็จยากมาก พรรคประชาชน จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค แต่พลังอนุรักษ์ใหญ่กว่าใครแล้วตอนนี้ รัฐบาลจะยุบสภาตามที่ประกาศไว้หรือไม่ หลายๆ คนก็เชื่อ แต่ผมไม่เชื่อ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง


