ราชทัณฑ์เผย คืนที่สาม "ทักษิณ" นอนคุก พบความดันสูงแต่มียาติดตัว หลับนอนปกติ ไม่เครียด "อิ๊งค์" บอกเยี่ยมพ่อได้เมื่อไหร่ก็จะไปเยี่ยมหลังครบกำหนดกักตัว 5 วันจันทร์นี้ คปท. ชุมนุมหน้า "ราชทัณฑ์" ร้องปรับโทษ "ทักษิณ" เป็นนักโทษชั้นเลว กกต.ยกคำร้อง “ทักษิณ” ครอบงำ 6 พรรคกินมาม่าตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เหตุไม่เข้าเกณฑ์
จากกรณีเรือนจำกลางคลองเปรมรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไว้คุมขัง หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้บังคับโทษจำคุกแก่จำเลย โดยให้จำคุก 1 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีการควบคุมนายทักษิณภายในเรือนจำกลางคลองเปรมเป็นคืนที่ สาม (11 ก.ย.) ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานการหลับนอนยังคงปกติ ไม่มีอาการเครียด สามารถทานอาหารได้ครบทุกมื้อ แต่พบมีความดันขึ้นสูงมากกว่าปกติ และนำยาประจำตัวเข้ามาไว้ทานเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนการอยู่กับผู้ต้องขังอื่นทราบว่าได้พูดคุยตามปกติทั่วไป ไม่มีการเก็บตัวแต่อย่างใด
พ.ต.ท.เชนเผยว่า นายทักษิณอยู่แดนกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ตามมาตรการเรือนจำ จากนั้นค่อยพิจารณาจำแนกผู้ต้องขังย้ายแดนตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ที่มีกระแสข่าวเรื่องการพิจารณาช่วยงานสาธารณะของทางเรือนจำนั้น มีขั้นตอนระเบียบเรื่องการเขียนโครงการฝึกทักษะ ความสามารถ และใช้ระยะเวลามากกว่า 30 วัน ทำให้ช่วงแรกนายทักษิณยังคงอยู่ในเรือนจำไปก่อน
ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางออกจากที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถึงการไปเยี่ยมนายทักษิณที่เรือนจำกลางคลองเปรมในวันที่ 15 ก.ย.นี้หรือไม่ หลังกักโรคครบ 5 วัน ว่าเยี่ยมได้เมื่อไหร่ก็จะไปเยี่ยม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ย. มีรายงานว่านายทักษิณความดันสูง น.ส.แพทองธารพยักหน้ารับก่อนกล่าวว่า ไม่ทราบเลย
เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้เป็นห่วงอะไรนายทักษิณหรือไม่ น.ส.แพทองธารยิ้มแต่ไม่ตอบคำถาม ก่อนจะเดินทางออกจากพรรคทันที
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีผู้นำจิตวิญญาณอย่างนายทักษิณยอมรับกระบวนการยุติธรรม จะทำให้กระแสของพรรคดีขึ้นหรือไม่ว่า ไปประเมินตรงนั้นไม่ได้ แต่เชื่อว่านายทักษิณได้ดำเนินการมาทั้งหมด
“ผมคิดว่าท่านแมนนะ เป็นสุภาพบุรุษนักสู้คนหนึ่ง ซึ่งท่านมีโอกาสที่จะหนีได้อยู่แล้ว เพราะท่านอยู่นอกประเทศ และหลายคนก็เห็นว่าท่านบินออกไปแล้ว แต่ท่านก็กลับมา เพราะท่านเชื่อมั่นว่าไม่ได้มีความผิดมากอะไร ท่านก็มารับและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"
นายภูมิธรรมกล่าวว่า เพราะฉะนั้นกระบวนการตัดสินใจอย่างไรท่านก็พร้อมปฏิบัติ ซึ่งตนคิดว่าเป็นหัวใจของนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ยังกล้าเผชิญกับสิ่งต่างๆ สำหรับตนถือว่าได้ใจ แต่สำหรับคนอื่น คนที่เห็นใจและเข้าใจท่านก็มีเยอะ จะมากหรือน้อยก็ไปดูตามโพลเอาก็ได้ เดี๋ยวเขาคงทำ
เขายังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอคณะรัฐมนตรีทบทวนระเบียบราชทัณฑ์ กันการเอื้อประโยชน์นักโทษบางราย ซึ่งตรงกับช่วงที่นายทักษิณถูกจำคุกว่า ก็ไม่เป็นไร เป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ใครมีอำนาจหน้าที่อย่างไรก็พิจารณาทำไปให้ดีที่สุด ซึ่งคงไม่ทันคณะรัฐมนตรีชุดตน ก็ให้รัฐบาลใหม่ว่ากันไป
เมื่อถามย้ำว่า เป็นการบังเอิญในช่วงที่นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ความบังเอิญมีเยอะเหลือเกิน ถ้าตอบคำถามความบังเอิญคงเหนื่อยแย่
ที่กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นำมวลชนเคลื่อนไหวมาปราศรัย และเข้ายื่นหนังสือถึงนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอคัดค้านการนำนายทักษิณออกไปคุมขังนอกเรือนจำ จากคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี โดยมีนายมานุช สร้อยเพ็ชร ผู้ตรวจราชการกรม รักษาราชการหัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายพิชิตกล่าวว่า มายื่นเรื่องคัดค้านการพักโทษหรือให้ไปคุมขังนอกเรือนจำ รวมทั้งให้กรมราชทัณฑ์ปรับชั้นนายทักษิณเป็นนักโทษชั้นเลว เนื่องจากพฤติการณ์ของนายทักษิณที่หลบเลี่ยงไม่ยอมรับโทษในเรือนจำ ไม่ใช่นักโทษชั้นกลางเหมือนผู้ต้องขังเข้าใหม่ เพราะกระทำผิดซ้ำจนศาลสั่งบังคับโทษเข้าเรือนจำอีกครั้ง โดยเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ปรับโทษนายทักษิณเป็นนักโทษชั้นเลว และให้ออกเป็นประกาศหรือแถลงการณ์ออกมา
"ทั้งนี้ บอกว่าหากอธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าว จะเป็นการช่วยเหลือนายทักษิณ และสุ่มเสี่ยงที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์และพวกอาจถูกดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ"
เบื้องต้นผู้แทนกรมราชทัณฑ์กล่าวว่า หลังรับเรื่องจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการต่อไป
วันเดียวกันนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง ยินยอมให้นายทักษิณซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ชี้นำ ครอบงำการจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร โดยผู้ร้องอ้างเหตุที่แกนนำพรรคการเมืองเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารและมาม่ากับนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ยกคำร้อง ภายหลังได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาตามข้อเท็จจริงแล้ว จากการตรวจสอบและเชิญ 6 พรรคเข้าชี้แจง ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้ขาดความอิสระ หรือสูญเสียการตัดสินใจ ซึ่งองค์ประกอบพฤติการณ์การครอบงำนั้นจะต้องทำให้พรรคขาดความเป็นอิสระ
เลขาธิการ กกต.ยังยอมรับว่า การครอบงำพรรคการเมืองเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และมีคำร้องระหว่างการพิจารณาอีกมาก ซึ่งข้อเท็จจริงส่วนใหญ่เป็นการไปพูด ปราศรัย แต่การครอบงำจะต้องพิจารณากฎหมายอย่างละเอียด ซึ่งหากมองผ่านๆ หรือความรู้สึกอาจเป็นการครอบงำ แต่ตามกฎหมายนั้น พรรคการเมืองจะต้องยินยอมและบุคคลนั้นได้ครอบงำ ชี้นำ รวมถึงการครอบงำชี้นำนั้นจะต้องทำให้กิจกรรมของพรรคการเมืองขาดความเป็นอิสระ เมื่อพิจารณากฎหมายครบองค์ประกอบแล้ว ผลการครอบงำนั้นจะต้องทำให้พรรคหรือสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน


