"นายกฯ" สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้ศาลหลักเมือง-วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ "ครม.อนุทิน 1" ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แย้มชื่อ 36 รัฐมนตรี "โสภณ ซารัมย์” คัมแบ็กรองนายกฯ "มัลลิกา" นั่ง "รมช.คมนาคม" ตั้ง "รมต.สำนักนายกฯ" 4 คน "ภท." ชูนโยบายเรือธงรัฐบาลลุยฟื้น ศก.-แก้ปัญหาชายแดน ยันระงับบัญชีม้าไม่กระทบคนละครึ่ง "รทสช." ร้าวหนัก! "เอกนัฏ" ไขก๊อกเลขาฯ หอบก๊วนทิ้ง กก.บห.-โฆษกพรรค "เท้ง" ขอพิสูจน์บทผู้นำฝ่ายค้านฯ เตรียมถล่มรัฐบาลแถลงนโยบายเต็มที่ "สว.สำรอง" ร้อง "ปชน." ตรวจสอบคดีฮั้ว สว. "วิโรจน์" ฮึ่ม ตั้ง รมว.ยุติธรรมใกล้ชิดปราสาทสายฟ้า แล้วบอกไม่แทรกแซง อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 16 ก.ย. เวลา 12.30 น. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เดินทางมายังตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อทยอยนำรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี มาส่งให้ น.ส.ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตรวจสอบคุณสมบัติ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีได้เดินทางมาที่ตึก สลค. คาดว่ามาช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจคุณสมบัติ อาทิ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมถึงตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
เวลา 13.08 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้นั่งรถยนต์ส่วนตัวโรลส์-รอยซ์ ทะเบียน วอ 3333 เข้ามายังตึก สลค.
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาประชุมกับหน่วยงานต่างๆ ที่ทาง สลค.ส่งชื่อไปตรวจสอบให้เป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นการประชุมรอบสุดท้าย และคาดว่าเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะทำเอกสารเพื่อกราบบังคมทูลเพื่อขอพระกรุณาให้มีพระบรมราชวินิจฉัยในเรื่องการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. คิดว่าเย็นนี้น่าจะทำเสร็จ
เมื่อถามว่า รายชื่อรัฐมนตรีที่เสนอมีปัญหาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้ไม่มี เมื่อถามต่อว่านายกฯ ลงนามไปแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ยังครับ ตอนนี้รายชื่อครบหมดแล้ว แต่ต้องมีการกรอกแบบฟอร์มให้ตรงกับการนำเสนอเพื่อทูลเกล้าฯ"
ถามว่า เมื่อโปรดเกล้าฯ รัฐมนตรีแล้วจะพามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน อันนี้แล้วแต่ความศรัทธาของแต่ละท่าน ไม่ได้บังคับกันอยู่แล้ว
ซักถึงกระแสข่าวบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีมีความสุ่มเสี่ยงเรื่องคุณสมบัติ นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันได้เลยว่าได้ตรวจสอบทุกอย่าง คนที่ถูกนำรายชื่อทูลเกล้าฯ ถวายให้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อถามย้ำว่าจะไม่มีข้อร้องเรียนตามมาทีหลังใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราไปห้ามตรงนั้นไม่ได้ แต่เรามั่นใจว่าเราได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำตามกฎหมายและทำตามรัฐธรรมนูญ
พอถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่รายชื่อรัฐมนตรีล่าช้าเพราะมีการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก นายกฯ กล่าวว่า “อย่าไปตั้งข้อสังเกตเลย ทำไมบอกว่าล่าช้าล่ะ ผมก็ไปนั่งเทียบอยู่ทุกวันกับ ครม.ชุดเดิมๆ นั่งเช็กกับเลขาฯ ครม. มันมีขั้นตอนของมัน ของเรายังเร็วกว่าคนอื่นอยู่”
หลังการหารือนานกว่า 1 ชม. นายอนุทินเดินทางออกจากตึก สลค.ในเวลา 14.15 น. ผู้สื่อข่าวถามว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยหรือไม่ นายอนุทินพยักหน้ารับ เมื่อถามอีกว่าจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้วันนี้หรือไม่ นายอนุทินยิ้มและพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า วันนี้ๆ
ต่อมาเวลา 14.25 น. นายอนุทินเดินทางมายังศาลหลักเมือง โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รอต้อนรับ จุดแรกนายกฯ ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพลที่เดินตามข้างหลังได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพลได้ลุกอย่างรวดเร็วและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ได้ร้องอุทานด้วยความตกใจ
จากนั้นนายอนุทินได้ผูกผ้าแพร 3 สี และได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ท่ามกลางประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลหลักเมืองต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน "นายกฯ สู้ๆ" ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ
ทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ครม.หนู
นายอนุทินกล่าวถึงกรณีประชาชนเดือดร้อนเรื่องที่ธนาคารอายัดบัญชีว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาตรงนี้แล้ว จะไปสงสัยคนใดคนหนึ่งแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนมันไม่ใช่วิธีการทำงาน
"เรื่องการอายัดบัญชีไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล เพราะทุกรัฐบาลก็จะมีโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ที่ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ เพื่อทำให้เกิดขึ้นให้ได้" นายอนุทินกล่าว
จากนั้นนายอนุทินได้เดินข้ามถนนจากศาลหลักเมืองมายังวัดพระแก้ว และเดินเข้าทางประตูสวัสดิโสภา เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมมหาราชวัง ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเดินทางออกมาพร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า "นำบุญมาฝาก" ผู้สื่อข่าวจึงสาธุพร้อมกัน
ถามว่า เสร็จภารกิจจากวัดพระแก้วจะเดินทางไปที่ไหนต่อนั้น นายอนุทินระบุว่า ต้องรอลงนามรายชื่อ ครม. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ส่วนสถานที่จะใช่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งอีกครั้ง พร้อมกับปล่อยมุกและพูดติดตลก "ไปร้านลาบมั้ง"
เมื่อถามว่า วันนี้รู้สึกสดชื่นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็วันนี้เสร็จภารกิจที่เกี่ยวกับการทูลเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีแล้ว ก็ถือว่าผ่านไปอีกเปลาะ แต่ก็ยังมีอื่นๆ อีกมากมายที่ยังต้องทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอนุทินจะขึ้นรถออกจากบริเวณหน้าวัดพระแก้ว มีนักท่องเที่ยวชาวตุรกี ซึ่งพอทราบว่านายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีจึงเข้ามาขอถ่ายรูป และเมื่อรถเคลื่อนออกไปจากบริเวณหน้าวัดพระแก้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวได้โบกมือให้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทินได้เซ็นส่งรายชื่อ ครม. ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย 36 รายชื่อ ดังนี้ 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย 2.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย 3.น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย 4.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม 5.นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี 6.น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม 7.นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 8.นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษาฯ 9.น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกฯ 10.นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ 11.นภินทร ศรีสรรพางค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ 12.น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม
โควตาคนนอก 13.นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย 14.นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ 15.นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง 16.นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน 17.นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.การคลัง 18.พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม
19.นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ 20.พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม 21.พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม
พรรคกล้าธรรม 22.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ 23.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 24.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ 25.นายอัครา พรหมเผ่า รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 26.นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 27.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 28.นายองอาจ วงษ์ประยูร รมช.ศึกษาธิการ
พรรคพลังประชารัฐ 29.นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข 30.น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน 31.นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รมช.สาธารณสุข 32.นายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกฯ
กลุ่มสุชาติ 33.นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 34.นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม 35.จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม และกลุ่มการเมืองอื่น
36.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย
ชู 'ฟื้นศก.-ชายแดน' เรือธงรบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบฯ ด้วยว่า ในเวลา 16.25 น. สลน.ได้ขนเฟอร์นิเจอร์ชุดทำงานมาเปลี่ยนในห้องคณะทำงานของทีมงานบนตึกไทยคู่ฟ้า หลังรัฐบาลนายเศรษฐาได้ให้นำออกไปเก็บไว้ที่บ้านพิษณุโลกจนถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร โดยได้ให้ทยอยขนย้ายมาไว้บนตึกไทยคู่ฟ้าสำหรับคณะทำงานเช่นเดิม
ขณะที่โต๊ะทำงานนายกฯ ได้ถูกนำมาไว้ที่ห้องทำงานนายกฯ แล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโต๊ะทำงานที่ใช้ตั้งแต่รัฐบาลนายทักษิณ และใช้ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กระทั่งมาเปลี่ยนในรัฐบาลนายเศรษฐาและรัฐบาล น.ส.แพทองธาร โดยโต๊ะนายกฯ ได้จัดให้หันหน้าไปทางทิศเดิมคือทิศตะวันออก ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วนหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า พรรค ภท.มีนโยบายเรือธงคือโครงการคนละครึ่ง ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก แต่ก็มีเสียงตอบรับที่ดีเช่นกัน โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่ รมว.การคลัง ก็มีการทำการบ้านอย่างหนัก เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ย. ประมาณเวลา 23.00 น. ยังมีการส่งข้อความว่ามีการประชุมแนวทางโครงการนี้อยู่ เรียกได้ว่าทำงานกันอย่างหนัก
นายสิริพงศ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่นายอนุทินได้ไปพูดในที่ประชุมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เรื่องการควบคุมราคาพลังงาน ที่มีแนวโน้มว่าไตรมาสแรกของปีหน้าค่าไฟฟ้าจะลดลงได้ พร้อมปรับลดค่าเชื้อเพลิงที่กำลังดูแนวทางว่าจะสามารถปรับลดได้ขนาดไหน รวมถึงนโยบายชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นปัญหาที่พรรคภูมิใจไทยปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนมีความเดือดร้อนมาก ซึ่งแนวทางที่นายกฯ ให้ไปมีความชัดเจนว่าจะไม่เปิดด่านอย่างแน่นอน จนกว่าประเทศกัมพูชาจะทำให้สถานการณ์ชายแดนกลับมาเป็นปกติ
ถามถึงนโยบายรถไฟฟ้า 40 บาท นายสิริพงศ์กล่าวว่า เป็นแนวทางที่พรรค ภท.มีแนวคิดว่าจะเริ่มตั้งแต่รถเมล์ไฟฟ้า 20 บาทก่อน ซึ่งเป็นการกำหนดเพดานราคาคล้ายกับเป็นตั๋วบุฟเฟต์ ยกตัวอย่างจากในราคาตามระยะทาง และกำหนดที่สูงสุด สมมติตัวเลขที่ 30 บาท ก็จะไม่มีการจ่ายเพิ่มจากนี้อีก ซึ่งรถไฟฟ้าก็จะเป็นลักษณะแนวคิดคล้ายกัน ซึ่งในวันนี้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตั๋วร่วม อยู่ในขั้นพิจารณาของวุฒิสภา หากวุฒิสภาส่งกลับแล้วไม่มีการแก้ไข และสภาสามารถเดินหน้าต่อได้ทันที พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ก็จะทำให้ราคารถไฟฟ้าถูกลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมผ่านแล้ว คิดว่านโยบายรถไฟฟ้า 40 บาทก็จะมีความเป็นไปได้
"ร่างแถลงนโยบายตอนนี้กำลังปรับปรุง ซึ่งจะมีนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ที่ดูแลแต่ละกระทรวงมาหารือกัน พรรค ภท.จะต้องมาดูว่านโยบายที่เขียนมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะแถลงต่อรัฐสภา โดยยืนยันว่าเสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือนนี้" นายสิริพงศ์กล่าว
ถามถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตโฆษกรัฐบาล ระบุรัฐบาลนายอนุทินระวังจะเป็นรัฐบาลเต้าหู้ยี้ รองหัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า ยี้หรือไม่ยี้อยู่ที่สังคม ดูจากหน้าตารัฐมนตรีเศรษฐกิจ ตนคิดว่ารัฐบาลนี้ดีกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ เท่าที่รับฟังจากประชาชน
เมื่อถามว่า มีนักกฎหมายยื่นคำร้องที่มีการปรับปรุงแก้ไขให้กับพรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเอาผิดพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เรื่องบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement) รองหัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า เป็นเรื่องของความคิดเห็นที่อาจจะมองแตกต่างกัน เราคิดว่าลักษณะของ MOA นั้นเป็นความเข้าใจและข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งอาจจะไม่ได้มีผลทางกฎหมาย แต่มีผลทางความรู้สึกและมีผลต่อการรับรู้ ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะดำเนินการได้ และเป็นเรื่องธรรมดาที่เข้าใจว่าท่านไม่เห็นด้วยแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยยืนยันที่จะรับเงื่อนไข MOA ของพรรคประชาชนเช่นกัน
รทสช.ร้าว! ขิงลาออกเลขาฯ
ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีรายงานว่า ภายหลังการโหวตเลือกนายอนุทินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้พรรค รทสช.แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. โหวตงดออกเสียง, กลุ่มของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. โหวตสนับสนุนนายอนุทิน เพื่อรักษาจุดยืนอนุรักษนิยมเอาไว้ โดยไม่ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี และกลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น อดีต สส.บัญชีรายชื่อ โหวตสนับสนุนนายอนุทิน โดยเปิดตัวร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดกระแสความขัดแย้งภายในพรรคอย่างหนัก
ทั้งนี้ ในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา นายพีระพันธุ์และนายเอกนัฏได้มีการโต้เถียงกันอย่างหนักในที่ประชุม ทำให้นายเอกนัฏได้ประกาศกลางวงประชุมขอลาออกจากคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ซึ่งวันที่ 16 ก.ย. ช่วงค่ำกลุ่ม สส.ฝั่งนายเอกนัฏ ประกอบด้วย นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี, น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ สส.สุราษฎร์ธานี เขต 3, น.ส.กานสินี โอภาสรังสรรค์ สส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 และนายธานินท์ นวลวัฒน์ สส.สุราษฎร์ธานี เขต 7 ได้นัดพูดคุยกัน
โดยมีรายงานข่าวว่า เป็นการพูดคุยกรณีที่นายเอกนัฏและนายดวงฤทธิ์จะลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค รวมถึงนายอัครเดชจะลาออกจากการเป็นโฆษกพรรค รทสช.ด้วย
นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีความเคลื่อนไหวของ สส.และสมาชิกพรรคออกมาแสดงความไม่พอใจท่าทีของนายพีระพันธุ์มากขึ้น โดยมีกระแสข่าวว่า กลุ่มชุมพร ซึ่งนำโดยนายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี ได้ลาออกจากพรรค รทสช. และจะย้ายไปเปิดตัวสมัครสมาชิกพรรค ภท.ในวันที่ 17 ก.ย.นี้
"คงต้องจับตาท่าทีนายเอกนัฏ แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะอยู่ต่อกับพรรค รทสช.หรือไม่ แต่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมพรของนายชุมพลซึ่งมีความสนิทสนมกับนายเอกนัฏ อาจจะส่งสัญญาณในทางการเมืองระดับหนึ่ง" แหล่งข่าวระบุ
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้มอบคำร้องฉบับแก้ไขในการร้องนายอนุทิน และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน เกี่ยวกับข้อตกลงทางการเมืองระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย หรือ MOA หลังจากที่พรรค พท. ถอนร่างคำร้องจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนางมนพร เจริญศรี แกนนำพรรค พท.เป็นผู้รับ
ที่อาคารอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในฐานะฝ่ายค้านในการอภิปรายวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า มีการเริ่มกระบวนการมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งในส่วนของพรรคมีการเปิดลงชื่อให้ สส.แสดงความประสงค์ในการอภิปราย ซึ่งมีการแบ่งเนื้อหาและประเด็นวิพากษ์วิจารณ์บุคคลที่จะมาดํารงตําแหน่งใน ครม. รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเราเห็นว่าภายใต้กรอบ MOA การยุบสภาภายใน 4 เดือนนั้น หากทําให้การดําเนินนโยบายหลายๆ อย่าง ที่อาจสร้างภาระผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไปมีความเสี่ยงซึ่งจะทําให้ประเทศตกอยู่ใต้ผลผูกพัน รวมทั้งจะอภิปรายคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาดํารงตําแหน่ง ครม. ใครที่มีประวัติไม่ดีหรือที่วิญญูชนเห็นได้ว่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องผลประโยชน์หรือคดีต่างๆ ก็จะอภิปราย
ถามถึงการเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งภายหลังมีการยุบสภา นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคเตรียมพร้อมมากๆ แล้ว และพร้อมจะเปิดตัวโฉมหน้า ครม.ชุดถัดไป ถ้าเราได้รับความไว้วางใจเข้ามาบริหารประเทศ ยืนยันแต่ละคนจะเป็นคนที่ได้รับการยอมรับแน่นอนของแต่ละวงการ พร้อมเป็น ครม.ที่ดีที่สุดในการบริหารประเทศ เพียงแต่ในตอนนี้ยังไม่ได้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มตัว เพราะฉะนั้นอาจจะยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อออกมาได้ ณ ตอนนี้
ปชน.ขู่แทรกคดีฮั้ว สว.เจอแน่
"มีการเตรียมพร้อมไว้เกือบครบหมดแล้ว ตําแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ก็คงหนีไม่พ้นผม ส่วนคนอื่นๆ ยืนยันว่าส่งมากกว่าหนึ่งคน แต่จะเป็นคนในพรรคหรือเป็นคนนอกพรรคนั้น ใน ครม.มีทั้งคนในและคนนอก สําหรับตําแหน่งนายกฯ คงต้องให้ข่าวอีกครั้งในภายหลัง" นายณัฐพงษ์กล่าว
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กล่าวถึงกรณีถูกกล่าวหาเป็นนั่งร้านให้พรรค ภท.จัดตั้งรัฐบาลว่า น้อมรับเคารพเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคเป็นนั่งร้าน ยกมือโหวตให้นายกฯ จากพรรค ภท. แต่พรรคก็ต้องตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลสีน้ำเงิน รัฐบาลสีแดง ซึ่งหากยกมืออีกฝ่ายก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นนั่งร้านให้อีกฝ่ายหนึ่งอยู่ดี
ถามถึงการอภิปรายวันแถลงนโยบายรัฐบาล นายวิโรจน์กล่าวว่า เตรียมกรอบในการอภิปรายไว้แล้ว โดยประเด็นการประคับประคองเศรษฐกิจในระยะเวลา 4 เดือน รับผิดชอบโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค รวมถึงท้วงติงรัฐบาลเพื่อเตือนหรือส่งสัญญาณว่าสิ่งใดไม่ควรกระทำ ซึ่งตนเองเป็นผู้รับผิดชอบ
"เรื่องคดีฮั้ว สว. เขากระโดง และการเข้ามาของนายทุนที่เชื่อมโยงไปถึงทุนฝั่งกัมพูชา ผมและ สส.อย่างน้อย 36 คน จะรวบรวมข้อมูลและอภิปรายท้วงติง พร้อมปักหมุดตรวจสอบ ครม.อนุทิน 1 ไว้ล่วงหน้า" นายวิโรจน์กล่าว
วันเดียวกัน กลุ่ม สว.สำรอง นำโดยนายธนวัฒน์ ศรีสุข และคณะ เข้ายื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรค ปชน. โดยมีนายวิโรจน์เป็นตัวแทนรับ เพื่อขอให้ติดตามตรวจสอบนายอนุทินเกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นผู้กล่าวหาในคดีฮั้ว สว.
นายธนวัฒน์แสดงความห่วงใยต่อคดีฮั้ว สว. เนื่องจากกังวลเรื่องการแทรกแซงคดี พร้อมอ้างอิงว่า ปัจจุบันยังมีบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ข้อมูลข่าวว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อไปสอบปากคำพยาน 1,200 ปาก แต่ถูกสกัดด้วยมือที่มองไม่เห็น และปัจจุบันในวันที่ 16 กันยายนนั้น พบว่าเจ้าหน้าที่เดินทางกลับมาหมดแล้ว
"คดีฮั้ว สว.เป็นคดีความมั่นคง เหตุพบองค์ประกอบพิเศษ ที่ทำให้ไม่ใช่การทุจริตปกติ แต่กระทบต่อโครงสร้างรัฐและเสถียรภาพของประเทศ และยังพบว่ามีการจัดตั้งเครือข่ายผู้ควบคุมอำนาจนิติบัญญัติและบริหารในทางที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายกระทำผิดมาตรา 113 และ 114 ของประมวลกฎหมายอาญา ฐานกบฏล้มล้างการปกครองหรือไม่ รวมถึงการไต่สวนของคณะกรรมการ ชุดที่ 26 ดำเนินการล่าช้า ซึ่งเรื่องอยู่ที่เลขาธิการ กกต." นายธนวัฒน์ระบุ
นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนได้ย้ำในหลายเวทีว่า พรรคติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิด หาก รมว.ยุติธรรมอยู่ในเครือข่ายใกล้ชิดกับปราสาทสายฟ้าหรือพรรค ภท.ที่อยู่ในกระบวนการถูกกล่าวหา หากบอกไม่แทรกแซง คงไม่มีคนในสังคมเชื่อ ที่ได้ย้ำและพูดตลกร้ายว่า ไม่ใช่แค่อมพระมาพูด อมพระประธานมาพูดก็คงไม่มีใครเชื่อ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


