"นายกฯ อนุทิน” เรียกคืนความเชื่อมั่นอาเซียน รับคำเชิญ "อันวาร์” ต่อสายร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ ลั่นไม่มีใครแทรกแซงอธิปไตยของไทยได้ พร้อมลุ้นตัวโก่งได้โผล่ประชุม UN แจงข้อเท็จจริงจากไทยปมพิพาทเขมร ขณะที่กองทัพเรือฮึ่ม! ขีดเส้นรื้อบ่อนกัมพูชาล้ำแดนไทย ด้านเวทีรัฐสภาอาเซียนร้อนฉ่า ไทยคว่ำบาตรเขมรกลางวง “บัวแก้ว” ฟาดเต็มหน้า หยุดปลุกระดม ปชช.มาเป็นโล่มนุษย์
เมื่อวันศุกร์ ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่านายอันวาร์กล่าวว่าหากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว หวังว่าจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งตนพร้อมเดินทางไปอยู่แล้ว
เมื่อถามกรณีนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โทร.หานายกรัฐมนตรีมาเลเซียให้เข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งไทย-กัมพูชานั้น นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีใครเข้ามาแทรกแซงอธิปไตยของประเทศไทยได้ เรื่องการพูดคุยก็เป็นคนที่รู้จักกันทั้งนั้น แต่เมื่อมาถึงจุดที่เราต้องรักษาประโยชน์ ขอให้มั่นใจว่าเมื่อตนเข้ารับตำแหน่งแล้วต้องยึดประโยชน์ ศักดิ์ศรี อธิปไตย เกียรติภูมิของประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลักอยู่แล้ว ไม่มีใครเคลียร์ได้
ขณะที่ สำนักข่าวเบอร์นามา มาเลเซีย ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเน้นย้ำความสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะรักษาสันติภาพและหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และขอให้มีการแก้ไขประเด็นต่างๆ ผ่านการเจรจาในการประชุมสมัยวิสามัญของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-กัมพูชา
นายอนุทินยังระบุถึงการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า โดยกำหนดการหากไปในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย.นี้อาจจะไม่ทัน เพราะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ รวมถึงต้องอ่านแถลงร่างนโยบายก่อน เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอภิปรายร่างนโยบายที่แถลงต่อสภาให้สมบูรณ์ จึงคิดว่าไม่น่าจะทันในวันที่จะเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ
นายอนุทินกล่าวต่อว่า หากประเทศไทยไม่เดินทางไปร่วมประชุม ในช่วงที่เกิดกรณีพิพาทกับประเทศกัมพูชานั้น ในขณะที่ประเทศกัมพูชาเขียนจดหมายถึงผู้นำฯ สหรัฐว่าเราละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เราจึงจำเป็นต้องไปชี้แจงด้วย
ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า มีโอกาสที่จะเดินทางไปเองใช่หรือไม่ นายอนุทินระบุว่า มีแนวโน้ม แต่ต้องตรวจสอบให้ดีว่าหากไปแล้วต้องไปเป็นตัวแทนของประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์ แต่หากไปแล้วยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่นั้น ประเด็นนี้ตนมีเงื่อนไขของตนเองเหมือนกัน ซึ่งไปต้องมีอาวุธให้ไปเจรจาความเมืองด้วย
ด้านนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ โดยระบุว่า ตามหลักมนุษยชน การปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางต่างจากไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง
“ฝ่ายไทยรู้สึกผิดหวังที่กัมพูชาเลือกเส้นทางแห่งความขัดแย้งและไม่ก่อให้เกิดสันติภาพอย่างแท้จริง เพราะการดำเนินการของกัมพูชาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งการปลุกระดมประชาชน รวมทั้งการบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือแม้แต่ผู้นำกัมพูชา ที่นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับนานาชาติ สะท้อนให้เห็นถึงการจัดฉากไว้ล่วงหน้า สร้างสถานการณ์เพื่อนำไปฟ้องต่อประชาชนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่สร้างสรรค์ ขาดความสุจริตใจ” นายนิกรเดชกล่าว
นายนิกรเดชระบุว่า หวังว่ากัมพูชาจะใช้เวทีระหว่างประเทศต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งการประชุมสหประชาชาติ การประชุมสุดยอดอาเซียน การประชุมเขตเศรษฐกิจพิเศษเอเปก ในการพิสูจน์ความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
“จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และการกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดและการหาทางออกร่วมกัน” นายนิกรเดชระบุ
ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงภายหลังการประชุมผู้บัญชาการทางทหารและผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า ได้ฝากภารกิจให้กับ ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ คือเรื่อง ‘ปิด-สร้าง-สู้’ โดยที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งด่านถาวรและด่านชั่วคราว ซึ่งเราได้เสนอไปยังรัฐบาลเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงท่าทีมีความพร้อมสู้ถ้าไทยรุกกัมพูชา ฝ่ายไทยมีการเตรียมพร้อมอย่างไร พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวว่า ที่เราปฏิบัติตั้งวันที่ 24 ก.ค.เป็นต้นมา ฝ่ายไทยเตรียมพร้อมตลอดเวลา เมื่อถามถึงแนวรั้วลวดหนามที่เราสร้างในเขตไทย แต่ฝ่ายกัมพูชาเอาโล่มนุษย์มารื้อ จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวว่า ได้คุยกับ ผบ.ตร. โดยรอง ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่ไป เพื่อดูเรื่องกฎหมายและวิธีการปฏิบัติตามที่ศาลของไทยได้ตัดสินเรื่องการควบคุมฝูงชน 7 ขั้นตอน ซึ่งจะมีวิธีที่เสริมเติมขึ้นมา โดย ผบ.ตร.ให้คำมั่นจะร่วมงานกับกองกำลังป้องกันชายแดน
ที่ จ.สระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ประท้วงเป็นทางการ ต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายและไม่เป็นมิตรของพลเรือนกัมพูชา และการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาละเลย ไม่ห้ามปรามการกระทำดังกล่าว
ขณะที่ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีพื้นที่พิพาทชายแดนจันทบุรีและตราด โดยเฉพาะการสร้างกาสิโนที่รุกล้ำพื้นที่อ้างสิทธิ์ของไทยว่า ขณะนี้อยู่ในโหมดของการเจรจา เราก็ต้องเคารพกติกา แต่หากเจรจากันไม่รู้เรื่อง ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะปรับโหมดหรือไม่ รวมถึงนานาชาติจะให้ทำอย่างไรต่อไป เพื่อให้แต่ละประเทศรู้ว่าอาณาเขตของตัวเองเป็นอย่างไร และกัมพูชาจะเข้ามาร่วมสำรวจเส้นเขตแดนที่ชัดเจนหรือไม่ ซึ่งหากเข้าร่วมก็จะเป็นช่องทางที่ดี และจะนำไปสู่แนวทางที่สันติ แต่หากไม่ร่วม เราจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าไทยปล่อยให้มีการสร้างกาสิโนขนาดใหญ่มาได้อย่างไร อีกทั้งมีการตัดถนนเชื่อมต่ออีก ผบ.ทร.ระบุว่า ทั้งหมดอยู่ที่ข้อตกลง หากคุยกันรู้เรื่อง ต้องการจะรื้อหรือทุบครึ่งหนึ่ง หรือใช้อาคารร่วมกันคนละครึ่ง ก็ต้องรอการเจรจา
วันเดียวกัน น.อ.อุดม กุลศิริปัญโญ เสนาธิการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (เสธ.กปช.จต.), น.อ.ภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) นำสื่อมวลชนท้องถิ่นส่วนกลางลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงกรณีพื้นที่ทับซ้อน 17 จุด ชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดตราด ที่บริเวณฐานโอพี (OP) หรือฐานตรวจการณ์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของฐานกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 535 บ้านชำราก ต.ชำราก อ.เมืองฯ จ.ตราด ซึ่งเดินทางไปถึงบริเวณกั้นลวดหนามหีบเพลง เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับทราบสถานการณ์ ยืนยันสถานการณ์จริง และพบว่าทางฝ่ายทหารนาวิกโยธินตราดสามารถให้อยู่ในการควบคุม และไม่มีการสู้รบ ทั้งที่ทหารกัมพูชาตั้งฐานทหารอยู่ในพื้นที่ห่างจากฐานโอพีประมาณ 1 กม.
น.อ.ภริศวร์กล่าวว่า สถานการณ์โดยรวมยังอยู่ภายใต้การควบคุม ไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะนำไปสู่การสู้รบ โดยทั้งสองฝ่ายมีการเฝ้าระวังซึ่งกันและกัน และมีกระบวนการแก้ไขปัญหาร่วมกันผ่านเวทีการประชุม GBC และ RPC มาโดยตลอด ในทุกจุดที่ตรวจพบการรุกล้ำ ทางการไทยได้ทำหนังสือประท้วงมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีกาสิโนบ้านท่าเส้นที่สร้างล้ำแดนไทยนั้น น.อ.อุดมระบุว่า ทางการไทยก็ได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว ส่วนกระบวนการที่จะได้พื้นที่คืนนั้น จำเป็นต้องรอให้ “คณะกรรมการปักปันเขตแดน" ดำเนินการจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเสียก่อน จึงจะทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของไทยอย่างแน่ชัด และจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ และด้วยเหตุนี้ ทางฝ่ายความมั่นคงจึงยังไม่อนุมัติให้เปิดจุดผ่านแดนถาวร ณ บริเวณบ้านท่าเส้น จนกว่าปัญหาการล้ำแดนจะได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและเด็ดขาด
ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย กล่าวถ้อยแถลงบนเวที AIPA ภายหลังที่กัมพูชาได้กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างไทยและกัมพูชา กรณีที่ชาวบ้านกัมพูชามีการรื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยมีการติดตั้งบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในอธิปไตยของไทย และมีความพยายามขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนได้รับบาดเจ็บ มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวาง อันเป็นการละเมิดกฎหมายไทย ไทยจึงจำเป็นต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากลและหลักสิทธิมนุษยชน
“การที่กัมพูชาพยายามนำเสนอประเด็นขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาอาเซียน จึงถูกปัดตกไป เพราะเหตุผลของฝ่ายไทยมีหลักฐานน่าเชื่อถือมากกว่า และที่ประชุมเห็นชอบให้เป็นการแก้ปัญหาในกรอบทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ไม่ควรนำมาสู่เวทีระดับภูมิภาค” นายฉลาดระบุ
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาน่าจะนำเสนอข้อมูลต่างๆ ในเวทีต่างประเทศผิดพลาด จึงจะมีการประสานกระทรวงการต่างประเทศต่อไป จึงขอเรียกร้องให้สื่อสารไปยังเวทีต่างประเทศด้วยความโปร่งใสสุจริต ตรงไปตรงมา นอกจากนี้ จะให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปยังนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่ายังมีข้อมูลของฝ่ายไทย เพื่อป้องกันไม่ให้มาเลเซียถูกมองว่าไม่มีความเป็นกลาง จึงอยากให้รอข้อมูลจากฝั่งไทย มุมมองของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอาจจะเปลี่ยนไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
พร้อมหน้า นายกฯหนู โพสต์ภาพพาครอบครัวกินห่านพะโล้ในวันพ่อแห่งชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พาพ่อ แม่เมีย น้อง หลาน ไปกินห่านพะโล้เนื่องในวันพ่อ #ฉั่วคิมเฮง

