"ในหลวง-พระราชินี" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ครม.ใหม่ เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ มีพระราชดำรัส “ขอให้มีจิตใจเข้มแข็ง มานะบากบั่น ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ” นายกฯ เสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ ลั่นพร้อมทำงานด้วยความดีสุดชีวิต สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ สุดฟิต! ถก ครม.นัดพิเศษทันที เห็นชอบร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภา "วันนอร์" นัดวิป 3 ฝ่ายหารือ 25 ก.ย. เคาะวันแถลงนโยบาย "อดิศร" ลั่นกลางสภา "พท." ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านแท้จริง ไม่ใช่ไม้ค้ำรัฐบาลแบบ ปชน.
ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล มีการตัดหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า รวมทั้งติดตั้งสแตนด์สำหรับให้ช่างภาพถ่ายรูปหมู่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่
เวลา 12.12 น. บรรดารัฐมนตรีทยอยเดินทางมาตึกสันติไมตรีเพื่อตรวจ ATK และถ่ายรูปเดี่ยวทำบัตร โดยนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข เดินทางมาถึงตึกสันติไมตรีเป็นคนแรก จากนั้น น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาตามลำดับ
ต่อมาเวลา 14.10 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เดินทางด้วยรถยนต์ Lexus LM 350h Executive 7-Seater สีขาว ทะเบียน พม 28 กรุงเทพมหานคร ถึงทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงได้ทักทายนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม ที่มารอต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทินได้ช่วยติดตะขอที่ปกคอเสื้อให้นายไชยชนก ผู้สื่อข่าวจึงแซวนายกฯ ว่าทำหน้าที่แทนพ่อ นายกฯ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “อาๆ” จากนั้นนายกฯ เดินเข้าตึกสันติไมตรีเพื่อไปเปลี่ยนชุดปกติขาว โดยนายกฯ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าด้วยว่า ไปย้อมผมสีดำมา
จนเวลา 14.40 น. น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เดินทางมาถึงตึกสันติไมตรีเป็นคนสุดท้าย
กระทั่งเวลา 15.30 น. คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่ด้านหน้าสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลัง ครม.ถ่ายภาพหมู่เสร็จสิ้น นายอนุทินและ ครม.ได้เดินไปยังห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 เพื่อรวมตัวกันก่อนไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เดินมายังตึกบัญชาการ 1 นายกฯ ได้กวักมือเรียก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มาเดินด้วยกันข้างๆ ก่อนนายกฯ กล่าวแซวอย่างอารมณ์ดีว่า “หนู นัส เฮ้ง” โดยพูด 2 ครั้ง ก่อนจะพูดอีกว่า “หนู นัส เฮง”
ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ
จากนั้นเวลา 16.10 น. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้นัดรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 36 คน ขึ้นรถตู้เพื่อไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ยังพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยมีนายอนุทินเป็นผู้นำ ครม.ชุดใหม่
เวลา 18.51 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง จำนวน 35 คน เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2568 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะรัฐมนตรีเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ว่า “ก็ขอให้ท่านนายกฯ และคณะรัฐมนตรี มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความมานะบากบั่น และประสบความสำเร็จอันเป็นมงคลที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน และขอให้มีสติปัญญาที่จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องมีอยู่ให้เป็นไปได้ด้วยดี และขอให้มีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน"
ต่อมาเวลา 19.15 น. นายอนุทินนำ ครม.เดินทางกลับถึงทำเนียบรัฐบาล หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 โดยทันทีที่มาถึงผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราโชวาทอย่างไรบ้าง
นายอนุทินกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอว่า คณะรัฐมนตรีทุกคนได้รับพระราชทานพรและพระบรมราโชวาท ตนเชื่อว่าคณะรัฐมนตรีทุกท่านมีความปลื้มปีติ และจะต้องทำงานสนองพระเดชพระคุณ และสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดความสามารถสุดชีวิต สุดสมองของแต่ละท่านที่มีอยู่ เป็นมงคลสูงสุดที่พวกเราได้รับ
ผู้สื่อข่าวกระเซ้านายกฯ ว่าซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ นายอนุทินยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนย้ำว่า “เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สามัญชนอย่างผมพึงจะได้รับ จะไม่มีทางทำอะไรนอกจากทำคุณงามความดีให้กับประเทศ และประชาชน ตามพระราชดำรัสที่ได้รับสั่งไว้"
เมื่อถามว่า ยอมจะสละชีวิตได้ทุกอย่างเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ ซึ่งทำมานานแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม”
ส่วน น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฝากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทำเพื่อประชาชาติ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐมนตรีทุกคนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้กำลังใจในการทำงาน ตนจะตั้งใจทำงานเต็มที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยยึดมั่นในสถาบันหลัก
พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธการตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความกังวลในการเข้ามาดูคดีเขากระโดง โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าจะมีการหารือกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือไม่ พล.ต.ต.รุทธพลยังคงปฏิเสธการตอบคำถามดังกล่าวเช่นกัน
จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชนขู่จะอภิปรายคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีว่า ไม่กังวล ส่วนที่มีกระแสข่าว ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทุจริตประพฤติมิชอบนั้น ตนสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด
ถกร่างคำแถลงนโยบาย รบ.
ต่อมานายอนุทินได้เป็นประธานการประชุม ครม.นัดพิเศษ ซึ่งนางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นประชุม ครม.นัดพิเศษ ส่วนการประชุม ครม.นัดแรกจะเกิดขึ้นภายหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว
"วาระการประชุมจะเป็นการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล เพื่อส่งต่อไปยังรัฐสภา รวมถึงจะมีการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี" เลขาฯ ครม.ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครม.มีมติแต่งตั้งให้ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกฯ ทั้งนี้ น.ส.ไตรศุลีถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 36 ปี
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในกระทรวง ทส.ว่า ได้มีการคุยกับปลัด ทส.แล้ว เมื่อเข้าทำงานได้ก็ดำเนินการได้ทันที โดยอันดับแรกจะคุยกับปลัดและอธิบดีทุกคนว่าข้าราชการที่พวกท่านมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายให้เอาคนที่มีคุณภาพมาทำงาน ถ้าใครมีปัญหาก็ต้องย้าย ปรับหลังบ้านตัวเองให้เร็วที่สุด เอาคนที่มีคุณภาพมาทำงานให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ในเรื่อง PM 2.5 แผนแม่บทกฎหมายที่ต้องเร่ง ขั้นตอนถึงไหน เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่าที่จะต้องคงไว้ และเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น โดยได้คุยกับอธิบดีคร่าวๆ แล้ว ซึ่งตนขอให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพราะตนมาเพียงแค่กำกับนโยบายที่ติดขัดต่างๆ
"ผมจะเดินทางเข้ากระทรวง ทส.ในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย.นี้ พร้อมกับมอบนโยบายและแนวทางการทำงานให้ข้าราชการ ซึ่งยังทำอะไรมากไม่ได้ ต้องรอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน" รองนายกฯ และ รมว.ทส.กล่าว
ถามว่า ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) วางอนาคตการเมืองอย่างไร นายสุชาติกล่าวว่า ตนคนเดียวไม่ได้ไปสังกัดพรรคไหน แต่เพื่อนที่ยังสังกัดพรรคเดิมเราก็ต้องมีมารยาท ถ้าพูดอะไรออกไปทุกคนอาจจะไม่สบายใจ เพราะทุกคนยังต้องลงพื้นที่อยู่ แต่ระยะเวลาอีก 4 เดือนข้างหน้าที่เราตกลงกันไว้ก็มีระยะเวลาในการที่จะไปสังกัดพรรคการเมืองภายใน 30 วันอยู่แล้ว
ซักว่ากลุ่ม 16 สส.มีความชัดเจนหรือไม่จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือยังไม่ได้คิด นายสุชาติกล่าวว่า เราคุยกันทุกวัน หากเราจะเดินหน้าหรือไปสังกัดพรรคใดต้องดูว่าเราไปทับซ้อนกับเขตใครหรือไม่ มันยากตรงที่ว่าเราจะไปทับพื้นที่กัน ซึ่งเราต้องมีการเจรจาหากเราจะไปตรงจุดที่ตั้งเป้ากันไว้
ถามย้ำว่า มีแนวโน้มจะทับซ้อนกับ สส.พรรค ภท.ใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า สส.ไม่ทับซ้อนอยู่แล้ว เพราะ สส. 1 คน ก็ 1 เขตอยู่แล้ว แต่แค่บางจังหวัดอาจจะมีแกนนำ ซึ่งจะต้องไปทำความเข้าใจว่าถ้าเพื่อนเราไปอยู่ด้วยแล้วจะติดขัดอะไรหรือไม่ ถ้าติดขัดตรงนี้ก็ต้องไปหาที่อยู่ให้เหมาะสม
ถามอีกว่า แนวโน้มจะสังกัดพรรคใหม่เพื่อไม่ให้เป็นการทับซ้อนกับพรรค ภท.หรือพรรคอื่นหรือไม่ใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการพูดคุยกันในอนาคต ต้องยอมรับว่า สส.ในกลุ่มตน บางพื้นที่หากอยู่พรรค ภท.ก็มีความง่ายในการหาเสียง แต่บางพื้นที่ก็มีบ้างมีความยากในการจัดสรร หาคน
เมื่อถามว่า ในระยะเวลา 4 เดือน จะมีการประกาศให้ประชาชนรู้หรือไม่ว่า สส.จะอยู่ที่ไหน นายสุชาติกล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะวันนี้เรามาร่วมรัฐบาล เราเชื่อว่าผลงานที่ออกมาในระยะเวลา 4 เดือน สามารถจับต้องได้แน่นอน โดยนายอนุทินเป็นนักการเมือง รู้ความต้องการประชาชน รู้ระบบการบริหารประเทศ รู้ระบบการบริหารพรรคการเมือง รู้ระบบกฎหมาย ครบเครื่องอยู่แล้ว เชื่อว่า 4 เดือนนายกฯ ทำงานได้ และเราที่ทำงานร่วมกับนายกฯ ก็จะมีผลงานเอง ถึงเวลานั้นประชาชนจะเลือกตัว สส.เป็นหลักก่อน เพราะมองแล้วเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้
ซักว่า ในกลุ่ม 16 สส.เวลาไปไปทั้งกลุ่ม หรือแยกกันตามสถานการณ์ นายสุชาติกล่าวว่า น่าจะทั้งหมด เพราะเราอยู่ในฐานะพี่น้องร่วมกันมา เมื่อถามว่า มีคนจะเข้ามาเพิ่มในกลุ่ม 16 สส.หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า มีบ้าง แต่เป้าหมายการเมืองของเราไม่ได้มองที่มีจำนวนคนมากหรือน้อย แต่เรามองคนที่มีคุณภาพและอยู่กันแบบพี่น้อง ซึ่งเราเดินมาขนาดนี้แล้วอาจจะมีคนเข้ามาบ้าง แต่ตนกลัวเรื่องคำพูด หากพูดไปแล้วว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่เป็นไปตามคำพูดเราจะเสียคน
เมื่อถามอีกว่า ฝ่ายค้านระบุว่าจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า สิ่งที่นายกฯ ตกลงก็ต้องเป็นไปตามคำพูด นักการเมืองทุกคนถ้าไม่ทำตามคำพูด ครั้งต่อไปก็ไม่รู้จะไปเดินเจอชาวบ้านได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
วันนอร์นัดวิป 3 ฝ่ายหารือ
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้ารัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น. จะมีการนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการกำหนดวันอภิปรายการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล
นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ในการประชุมวิป 3 ฝ่าย คงจะมีเรื่องหลัก คือกรอบระยะเวลา จากนั้นทางวุฒิสภาจะจัดสรรเวลาให้กับทาง สว.ที่ประสงค์จะอภิปราย ส่วนจะได้คนละกี่นาทีนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราได้จัดสรรเวลามากี่ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจอภิปรายแล้ว 20-30 คน
"ทาง สว.คาดหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำในสิ่งที่เสนอ ไม่เหมือนรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่เสนอมาเป็นเล่ม แต่ไม่ทำตามที่เสนอเลย ส่วนตัวมองว่าระยะเวลา 4 เดือนถือว่าน้อยมาก แต่หากทำชดเชย 2 ปีที่ผ่านมาได้ ถือว่าคุ้ม" สว.รายนี้ระบุ
ขณะที่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 25 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานในที่ประชุม ช่วงก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) หารือถึงการทำหน้าที่ของพรรค พท.
นายอดิศรกล่าวว่า พรรค พท.ทำหน้าที่เป็น สส. แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองต่อการเลือกนายกฯ พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคการเมืองอื่นได้ รวมถึงไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ เพราะพรรค พท.เลือกนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี แต่อีกพรรคเลือกนายอนุทิน
"การทำหน้าที่ระหว่างฝ่ายค้านที่แท้จริงกับฝ่ายค้ำรัฐบาลต้องแยกให้ชัดเจน และการทำงานในสภาต้องแข่งขันอย่างเอาการเอางาน ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ผมอยู่อีสาน บ้านผมเมื่อต้นกล้วยมีเครือต้องเอาไม้ค้ำ ผมไม่อยากทำหน้าที่เป็นไม้ค้ำกล้วย หากทำหน้าที่แบบไม้ค้ำกล้วย เมื่อดึงเขากระโดง เอ๊ยไม่ใช่ไม้ค้ำกล้วยออก กล้วยก็ล้ม พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ไม่ใช่ฝ่ายค้ำ” นายอดิศรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปราย นายอดิศรได้นำภาพต้นกล้วยที่มีไม้ค้ำมาประกอบการอภิปรายด้วย พร้อมเขียนข้อความว่า “อาถรรพ์ไม้ค้ำกล้วย”
จ.ศรีสะเกษ นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง แกนนำครอบครัวพรรค พท. พร้อมด้วย น.ส.ภูริกา สมหมาย ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 5 ศรีสะเกษ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา และแกนนำครอบครัวเพื่อไทย เปิดเวทีพบปะแกนนำและตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อชูนโยบายสำคัญในการหาเสียงศึกเลือกตั้งซ่อม
นายพิพัฒน์ชัยกล่าวว่า ในการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 5 ศรีสะเกษครั้งนี้ ต้องเลือก น.ส.ภูริกาเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของพี่น้องชาว อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ ถือโอกาสสั่งสอนนักการเมืองในพรรค รวมถึงพรรคการเมืองที่มองข้ามเสียงประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง ร่วมกันตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย สร้างความบิดเบี้ยวทางการเมือง เป็นการหวังอำนาจทางการเมืองมากกว่าประโยชน์ของประชาชน ทำให้พื้นที่ศรีสะเกษถูกขนานนามว่าถิ่นงูเห่าทางการเมือง และเป็นโอกาสดีของพี่น้องประชาชนใช้อำนาจปากกาในมือกอบกู้ศักดิ์ศรีของชาวศรีสะเกษ
วันเดียวกัน มีรายงานว่าสถานการณ์ทางการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างเริ่มมีความเคลื่อนไหว หลังรัฐบาลนายอนุทินจะยุบสภาภายใน 4 เดือนตามข้อตกลงกับพรรคประชาชน ทำให้พรรคการเมืองต่างเตรียมพร้อมจัดแถวว่าที่ผู้สมัคร สส. และด้านกองทุนบริหารจัดการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง สำหรับในการจัดแถวการเลือกตั้งทางภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยจะมีความพร้อมมากที่สุดและได้ดำเนินการไปแล้วเสร็จในระยะหนึ่งก่อนแล้ว และยังมีเพียงบางเขตบางจังหวัดรอการเคาะ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์เกิดแรงกระเพื่อมจากการลาออกของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และจะมีการเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.กลับมาแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. และหากนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคได้ ก็จะเลือกนายนิพนธ์ บุญญามณี เป็นเลขาธิการพรรค สส.ปชป.สายนายนิพนธ์ บุญญามณี จ.สงขลา ประมาณ 3 คน จ.ตรัง 2 คน ที่เคาะแล้วและรอการเคาะที่จะย้ายเข้า ภท.จะลงสมัคร สส.ในนามพรรค ภท. เช่น ที่ จ.สงขลา จ.ปัตตานี และ จ.ตรัง ก็จะแกว่งไปมา
“ตอนนี้การจัดแถวการเมืองในภาคใต้โดยเฉพาะ จ.ตรัง พัทลุง และ จ.สงขลา จะเป็นพื้นที่เข้มข้น 3 พรรค ภท.ปชป.และ กธ. แต่ยังแกว่งมีความไม่แน่นอนสูงจนกว่าจะมีการดีลลงตัว แต่พรรคที่มีความพร้อมสูงสุดทั้งผู้สมัคร และกองทุนบริหารจัดการคือ ภท. นอกนั้นบางกลุ่ม กธ.และ ปชป.ก็มีความพร้อมทุกสถานการณ์เช่นกัน” แหล่งข่าวระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


