33ล้านเฮ!ได้สิทธิ์คนละครึ่ง

เตรียมเฮ! รัฐบาลอนุทินจัดเต็มคนละครึ่ง 2 เฟส เฟสแรกเริ่ม ต.ค. 33 ล้านคนใช้จ่าย พ.ย.-ธ.ค.นี้ ส่วนเฟสสองลุ้นต่อ “พิพัฒน์”  สั่ง ขสมก.เร่งหารถแอร์อีวีแทนรถร้อน แต่คิดค่าโดยสารเท่าเดิม 8 บาท

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปาฐกถาพิเศษในงาน  “Thailand - China Cooperation Expo 2025”   ตอนหนึ่งว่า ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ไทยและจีนได้ร่วมกันสร้างฐานความร่วมมือและความมั่นคงในทุกมิติ และในอนาคตจะไม่หยุดอยู่เพียงการค้าและการลงทุนเท่านั้น แต่จะขยายสู่ 5 มิติที่สำคัญเป็นอย่างน้อย ประกอบด้วย 1.มิติการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ 2.มิติพลังงานสีเขียวและพลังงานสะอาด 3.มิติการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล 4.มิติด้านการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และ 5.มิติการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งว่า จะเริ่มภายในเดือน ต.ค.  ส่วนรายละเอียดขอให้สอบถามนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง

นายเอกนิติกล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ต.ค.นี้ ขณะนี้กำลังเตรียมการอยู่

เมื่อถามว่า โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลจะมี 2 เฟสใช่หรือไม่ รมว.การคลังตอบว่า “คิดว่า กำลังดูอยู่”

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.การคลัง กล่าวว่า  รัฐบาลชุดนี้มีอายุการทำงาน 4 เดือน รัฐบาลจึงพยายามเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผ่านการขับเคลื่อนและผลักดันหลายๆ มาตรการตามนโยบายรัฐบาล ส่วนที่ก่อนหน้านี้อาจเห็นคอมเมนต์เรื่องการขยายภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) อย่างเหมาะสมออกมาบ้าง แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้แนะนำให้มีการปรับขึ้นแวตแน่นอน

ขณะที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงนโยบายคนละครึ่งที่จะเริ่มต้นเดือน ต.ค.ว่า ผู้มีสิทธิต้องอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านคน รัฐบาลจะเติมเงินให้อีก 1,700 บาท จากเดิมให้อยู่แล้ว 300 บาท รวมได้เงินทั้งหมด 2,000 บาท 2.ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,000 บาท และ 3.ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 ได้เงินคนละ 2,400 บาท ซึ่งทั้งหมดจ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน คือตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.2568

นายภราดร​ ปริศนานันทกุล​ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ กล่าวว่า งบประมาณปี 2568 ที่จะสิ้นสุดปีในวันที่ 30 ก.ย.นี้ มีงบประมาณเหลืออยู่​ 6 หมื่นล้านบาท​ แบ่งเป็นงบกลางสำรองฉุกเฉิน   และอีกส่วนจะนำไปใช้ในโครงการคนละครึ่งเฟสแรก โดยให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน ประมาณ 13 ล้านคน วงเงินประมาณกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไป รวมไปถึงจะใช้งบประมาณในปี 2569 มาเพิ่มเติม ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ  และ รมว.คมนาคม กล่าวในโอกาสวันคล้ายวันก่อตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ครบรอบ 49 ปี ว่าจะเร่งรัดให้ ขสมก.จัดหารถเมล์ปรับอากาศพลังงานสะอาด (อีวี) เข้ามาให้บริการทดแทนรถเมล์ร้อนที่มีอายุใช้งานเกินกว่า 20 ปี ในจำนวนทั้งหมด 1,520 คัน ซึ่งปัจจุบัน  ขสมก.อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นเอกสารประกวดราคา (TOR) ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนประมูล  คาดว่าจะทยอยได้รับมอบรถล็อตแรก 500 คัน ในเดือน ก.ย.2569

“การนำรถเมล์อีวีมาให้บริการเพื่อทดแทนรถเมล์ร้อน แล้วหากจะต้องปรับราคาค่าโดยสาร ก็จะเป็นการเพิ่มภาระประชาชน ดังนั้นมีนโยบายให้ ขสมก.คงราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 8 บาท ส่วนรถเมล์แอร์ที่ให้บริการอยู่ 1,363 คัน ก็จะศึกษาปรับราคาค่าโดยสารลง ซึ่งการปรับลดค่าโดยสารรถเมล์นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่ต้องการทำแพ็กเกจลดค่าครองชีพของประชาชนในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ” นายพิพัฒน์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม