"บ้านใหญ่โคราช" จ่อสมัครเป็นสมาชิก "ภูมิใจไทย" สัปดาห์หน้า "กล้าธรรม" บุกถิ่น "พท.-ภท." โคราช เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 2 เขต พท.ชูแคมเปญ "ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย" เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. ชมวิสัยทัศน์ "แพทองธาร" 7 ต.ค.นี้ “สุทิน” ยันยังไม่คิดย้ายซบ ภท.-กธ. ลั่นจะตั้งพรรคเองหาก พท.ไปต่อไม่ได้ "อดุลย์" บี้ "อนุทิน" ทำตาม MOA เคร่งครัด วอนหนุนร่างกฎหมายนิรโทษฯ ให้มีผลก่อนเลือกตั้ง "รวมพลังแผ่นดิน" ลั่นไม่เลือกข้างพรรคใด เตือน รบ.ทำเสียหายเจอม็อบแน่ "เต้น" หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 4 กาญจน์ ปลุกเลือก พท. หยุดระบอบสีน้ำเงินกินรวบ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม มีรายงานว่าในงานวันคล้ายวันเกิดนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่สนามช้างอารีนา อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏภาพบุตรชายของนายวิรัช รัตนเศรษฐ บ้านใหญ่นครราชสีมา อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อย่างนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต สส.นครราชสีมา และนายตติรัฐ รัตนเศรษฐ อดีตข้าราชการการเมืองในกระทรวงคมนาคม พร้อมกับมารดา นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต สส.นครราชสีมา สวมเสื้อฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ฯ เข้าร่วมงาน
ส่วนนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ อดีต รมช.คมนาคม บุตรชายคนโตไม่ได้เดินทางมาด้วย โดยมีรายงานว่านายทวิรัฐและนายตติรัฐเตรียมจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าตระกูลรัตนเศรษฐเคยจะเบนหัวซบพรรคประชาชนมาแล้ว หลังจากที่นายวิรัชลาออกจาก พปชร.
ที่โดมอเนกประสงค์ โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อพบประชาชน โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มสตรี และชาวบ้านในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด และ อ.เทพารักษ์ ให้การต้อนรับกว่า 2,000 คน พร้อมกันนี้ ร.อ.ธรรมนัสได้เป็นประธานในพิธีมอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกร 150 ราย รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีไร่ละ 1,000 บาท มอบท่อนมันสำปะหลัง, เมล็ดพันธุ์พืชผัก, มอบพันธุ์ปลา และอาหารปลา ให้แก่เกษตรกรอีกหลายราย
ในงานดังกล่าวนี้ พรรค กธ.ได้วางตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ของพรรคในเขตเลือกตั้งที่ 15 คือ นายมารุต ชุ่มขุนทด นักธุรกิจหนุ่มชาวโคราช เจ้าของร้านการแฟชื่อดัง คลาสคาเฟ่ โดยนายมารุตได้ลงพื้นที่หาเสียงในฐานะที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่เขตเลือกตั้ง 15 อ.ด่านขุนทด อ.เทพารักษ์ และ อ.โนนไทย (เฉพาะ ต.บัลลังก์) มาสักระยะแล้ว โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ยังมีนายรชตะ ด่านกุล สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มบ้านใหญ่โคราชของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลฯ มาร่วมขึ้นเวทีต้อนรับด้วย
หลังจากนั้น นางนฤมลได้แยกตัวเดินทางไปตรวจราชการและมอบนโยบายด้านการศึกษาให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งให้กำลังใจนักศึกษากว่า 500 คน ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ อ.ด่านขุนทด
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมลได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม อ.ห้วยแถลง เพื่อมอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร, มอบพันธุ์มันสำปะหลัง และเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ 1,000 บาท ที่หอประชุมโรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค กธ.ได้เตรียมส่งว่าที่ผู้สมัคร สส.ของพรรคคือ นางธนวรรณ เกษเมธีการุณ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลง และเป็นหลานของภรรยานายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีตแกนนำพรรค พปชร.
สำหรับ อ.ห้วยแถลง อ.จักราช และ อ.ชุมพวง อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 9 ปัจจุบันมีนายพลพีร์ สุวรรณฉวี จากพรรค ภท. เลขานุการนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นเจ้าของพื้นที่อยู่
พท.ตีปี๊บเปิดตัวผู้สมัคร สส.
ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค แถลงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ประกาศจะยุบสภาภายใน 4 เดือนโดยไม่บิดพลิ้วว่า พรรค พท.มีความพร้อมอย่างเต็มที่ต่อการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะครบกำหนด 4 เดือนหรือก่อน 4 เดือนก็ตาม โดยในวันที่ 7 ตุลาคม พรรคจะเริ่มต้นแคมเปญที่ชื่อว่า “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” ซึ่งจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ของพรรค พท. และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ด้วย จึงขอเชิญชวนประชาชนให้ร่วมติดตามกิจกรรมในครั้งนี้ ผ่านทางเฟซบุ๊กและยูทูบของพรรคเพื่อไทย นี่คือจุดเริ่มต้นอีกครั้งในการเดินหน้าใหม่ของ พท. ซึ่งจะเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ พท. ที่จะยกเครื่องพรรคและยกเครื่องประเทศไทยไปพร้อมกัน
"ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเราไม่เคยปฏิเสธคำวิจารณ์ เรารับฟังทุกเสียง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในพรรคหรือบุคคลภายนอกพรรค ขณะนี้พรรคได้มีการรวบรวมทุกความคิดเห็นนำมาศึกษาและถอดบทเรียนในการที่จะปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น เพื่อให้พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมืองที่มีรากฐานมาอย่างนาน ให้ประชาชนสามารถฝากความหวังได้มากขึ้นกว่าเดิม" น.ส.ขัตติยากล่าว
ด้านนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวถึงกระแสข่าวการลาออกจาก พท.ย้ายไป ภท.หรือ กธ.ว่า ยืนยันตนยังอยู่กับ พท. พร้อมถามว่าคนที่นำเสนอข่าวเอาข่าวมาจากไหน วันนี้ตนยังเป็นสมาชิก พท. ยังไม่ลาออก ช่วงนี้มีข่าวออกมาเยอะว่าตนจะย้ายไปอยู่พรรคนั้นพรรคนี้ เพจโซเชียลบางเพจบอกว่าตนลาออกจากพรรคแล้ว ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น และย้ำว่าความคิดที่จะย้ายไปซบพรรคนั้นพรรคนี้ไม่เคยมีอยู่ในสมอง เพียงแค่หาก พท.ไปต่อไม่ได้หรือจะล้มเลิกพรรคจริง ตนก็จะไปตั้งพรรคเอง ไม่เคยคิดจะไปอยู่กับใคร
ส่วนกระแสการดึง-ดูดมาแรง โดยเฉพาะในภาคอีสานนั้น นายสุทินย้ำว่า ยังยืนยันไม่ย้ายแน่นอน หากไปไม่รอดจริงๆ ก็ตั้งพรรคเอง ยอมรับว่าก็มีการมาชวน แต่เป็นในลักษณะแซวเล่น ชวนทีเล่นทีจริง ส่วนใหญ่ไม่กล้าชวนเต็มปาก ขณะที่ความสัมพันธ์กับ พท.ก็ยังดีปกติ พร้อมย้ำอีกครั้งว่า ตนไม่ไปไหนแน่นอน
น.ส.ขัตติยาแถลงกรณีที่รัฐบาล ภท.สานต่อนโยบายเดิมของรัฐบาลเพื่อไทยหลายนโยบายว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นผลดีต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยืดอายุโครงการนำร่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สายสีแดงและสายสีม่วงออกไปอีก 2 เดือน ส่วนนโยบาย 30 รักษาทุกที่ ทราบว่าท่านตั้งใจจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและสามารถทำได้ เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็ได้วางรากฐานไว้หมดแล้ว เช่นเดียวกับการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐให้กับประเทศจีนนั้น นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ก็ได้สานต่องานจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พาณิชย์คนก่อนหน้า ที่ได้เจรจากับทางการจีนไว้ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วได้อย่างดีเยี่ยม
“อยากบอกกับรัฐบาลว่า ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกกล่าวหาว่าเป็นภูมิใจเคลม เพราะท้ายที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอเพียงให้รัฐบาลทำงานอย่างตรงไปตรงมา ให้ตรงปก และเดินหน้าสานต่อโครงการที่เป็นประโยชน์โดยไม่สะดุด” น.ส.ขัตติยากล่าว
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา ’35 อดีตคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า แม้รัฐบาลชุดนี้จะเป็นเสียงข้างน้อยหรือเรียกกันว่าเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ มีเวลาแค่ 4 เดือนตาม MOA แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ประชาชนฝากความหวังไว้อย่างสูง หากผู้นำรัฐบาลมีวิสัยทัศน์และมีภาวะผู้นำมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ก็สามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ให้ดีขึ้นได้ จึงต้องเร่งพิสูจน์ผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ อย่าให้ประชาชนผิดหวังเหมือนรัฐบาลชุดที่แล้ว ต้องปฏิบัติตาม MOA อย่างเคร่งครัด ต้องบริหารบ้านเมืองด้วยความสุจริต โปร่งใส ไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันในโครงการหรือนโยบายรัฐที่ซ่อนเร้นอย่างเด็ดขาด เพราะจะเกิดวิกฤตศรัทธาต่อการเมืองเหมือนรัฐบาลที่ผ่านๆ มา
เตือนรบ.อย่าทำเสียหาย
"คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว และได้ยื่นร่างกฎหมายให้ประธานสภาฯ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 และ 3 ให้ทันเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ จะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมือง ขอให้รัฐบาลและทุกฝ่ายการเมืองเร่งผลักดันให้มีผลบังคับใช้ก่อนเลือกตั้ง เพื่อให้บรรยากาศการเมืองเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริง" นายอดุลย์กล่าว
วันเดียวกัน คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย จัดเสวนาหัวข้อ “ประเทศไทยต้องมาก่อน ต้องหยุดการเมืองไร้คุณธรรม" ที่พีซทีวี ซอยนวลจันทร์ 33/1 โดยมีแกนนำและอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมาร่วมงานอย่างคึกคัก เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 60 ปี ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มฯ
ก่อนเริ่มงานเสวนาได้มีการจัดทำบุญในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 60 ปีของนายจตุพร จากนั้นเหล่าแกนนำขึ้นประกาศจุดยืนบนเวที นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคปท., นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เป็นต้น โดยแถลงจุดยืนในหลายประเด็น อาทิ เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องการยกเลิก MOU 43 รวมถึงยังแสดงจุดยืนชัดเจนที่จะไม่สนับสนุนทุกพรรคการเมืองและนักการเมืองคนใดทั้งสิ้น
นายจตุพรกล่าวว่า อยากให้ประเทศเดินในทางที่ถูกต้อง ถ้าเรามีความเชื่อว่าได้ส่งมอบมรดกบ้านเมือง เราเป็นจิกซอว์เล็กๆ เราสามารถทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนรุ่นต่อไปได้แล้ว ตราบใดที่ปัญหาของบ้านเมืองหมดไป ก็ไม่มีภารกิจใดๆ ส่วนตัวเชื่อว่าคงต้องต่อสู้จากรุ่นสู่รุ่นอยู่
เมื่อถามถึงกรณีคณะรวมพลังแผ่นดินฯ ประกาศจุดยืนว่าไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใด นายจตุพรยืนยันว่า การต่อสู้ที่ผ่านมาไม่ได้ดูหน้าใครไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล แต่ดูพฤติกรรมการกระทำ ไม่ได้สนจุดยืน แต่ถ้าสร้างความเสียหายและสร้างปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองก็ไม่มีข้อยกเว้น ส่วนตัวไม่มีการผูกติดกับพรรคการเมืองใด เนื่องจากตนไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองใดไม่ได้ แต่ยังใช้สิทธิเลือกตั้งได้อยู่ ขอกาช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน
"ส่วนรัฐบาลใหม่เราก็มีจุดยืนชัดว่า สิ่งที่ต้องทำและไม่ควรทำคืออะไร ภาคประชาชนก็มีมาตรฐานเดียวอยู่แล้ว เคยจัดการกับรัฐบาลก่อนหน้านี้อย่างไรเราก็ดำเนินการอย่างนั้น แจ้งเพื่อทราบไว้ก่อนว่ารัฐบาลผู้มาใหม่นั้นต้องรู้ว่ารัฐบาลที่ผ่านมาเขาทำอะไรจนถึงจุดล่มสลาย ถ้าฉลาดก็อย่าไปทำ ถ้าทำก็เจอประชาชนอยู่ดี"
ส่วนที่ว่าการเมืองประเทศไทยมี 3 ก๊ก นายจตุพรกล่าวว่า ที่จริงมี 4 ก๊ก ก๊กที่ 4 คือประชาชน ที่ไม่ได้เข้ากับ 3 ก๊ก เพราะเอาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล จึงสามารถแสดงกำหนดทิศทางการเมืองได้
สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง คนไทยสนใจอยากแก้อะไรก่อน ระหว่างพฤติกรรม สส.กับรัฐธรรมนูญ หรือ พรรคเล็ก พรรคตั้งใหม่ จากกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,167 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม 2568 ผลสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 44.9 มีความเห็น “เห็นด้วย” กับการมีอยู่ของพรรคเล็กและพรรคใหม่ โดยให้เหตุผลว่าเป็น “พลังทางเลือกของประชาชน” ที่ช่วยให้การเมืองหลุดจากกรอบเดิม เป็นกลไกถ่วงดุลพรรคใหญ่ไม่ผูกขาดอำนาจ และเชื่อว่าพรรคใหม่มีแนวคิดทันสมัย ตรงใจคนรุ่นใหม่ รวมถึงมีศักยภาพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ขณะที่ร้อยละ 38.7 ระบุ “ไม่เห็นด้วย” โดยกังวลเรื่องทุนทรัพย์จำกัด ความเสี่ยงที่จะถูกดูดโดยพรรคใหญ่หรือถูกครอบงำโดยกลุ่มทุนขาดประสบการณ์ทางการเมือง
เมื่อวิเคราะห์เชิงแนวโน้มพบว่า กลุ่มที่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่และกลุ่มอาชีพอิสระ ซึ่งเปิดรับพรรคการเมืองรูปแบบใหม่มากกว่ากลุ่มข้าราชการและเกษตรกรที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม
'เต้น' ปลุกหยุดสีน้ำเงินกินรวบ
เมื่อให้ผู้ตอบเลือกพรรคเล็กหรือพรรคใหม่ที่น่าสนใจ พบว่า พรรคไทยก้าวใหม่ (ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรค) ได้รับความสนใจสูงสุด ร้อยละ 41.5 ด้วยจุดเด่นด้านนโยบาย “การศึกษาและการสร้างคน”, พรรคไทยสร้างไทย (คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค) ร้อยละ 22.3 เน้นเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าสู่การเมือง, พรรคปวงชนไทย (นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล หัวหน้าพรรค) ร้อยละ 14.8 โดดเด่นในแนวทาง “สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ แก้เศรษฐกิจ”, พรรคไทยภักดี (นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค) ร้อยละ 13.9 ได้รับคะแนนนิยมจากกลุ่มที่ชื่นชอบความซื่อสัตย์และต่อต้านการคอร์รัปชัน, พรรคเสรีรวมไทย (พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค) ร้อยละ 13.6 เป็นที่ยอมรับในภาพลักษณ์ “คนตรง วีรบุรุษ ต่อต้านอำนาจมืด”
ที่ จ.กาญจนบุรี พล.อ.ดร.ชินวัฒน์ แม้นเดช ผู้สมัคร สส.เขต 4 กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 พร้อมด้วยแกนนำพรรค นำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา, นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ ลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมสนับสนุนให้ พล.อ.ดร.ชินวัฒน์ เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย เป็น สส.กาญจนบุรี
โดยบรรยากาศเวทีปราศรัยหาเสียงที่วัดห้วยกระเจา วัดหนองต่อยอด วัดศรีบัวทอง และวัดเขารักษ์ ในตลอดทั้งวัน มีประชาชนมาร่วมรับฟังอย่างเนืองแน่น โดยนายณัฐวุฒิกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยอยู่มานาน เจ็บมามาก แต่ไม่เคยถอยห่างออกจากการทำงานให้ประชาชน สร้างนโยบายให้เป็นรูปธรรมมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทำให้คนจนลืมตาอ้าปาก เป็นพรรคการเมืองแรกที่ประกาศให้คนไทยหายจน
"รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลสีน้ำเงิน มีความใกล้ชิด สว.สีน้ำเงิน ที่เรียกว่าสีน้ำเงิน เป็นเพราะ สว.และคนสำคัญในรัฐบาลเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. แล้วเขาใช้ สว.สีน้ำเงินตั้งกรรมการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เช่น กกต., ป.ป.ช., ศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังมีการเสนอสูตรเลือก ส.ส.ร. จะเกิด ส.ส.ร.สีน้ำเงิน ซึ่งถ้าได้ตามนี้ก็จะได้รัฐธรรมนูญสีน้ำเงินอีก คำตอบอยู่ที่เขต 4 กาญจนบุรี ว่าจะให้มีการคานอำนาจ ปฏิเสธระบบการเมืองกินรวบอำนาจทุกองค์กรอย่างที่มันกำลังจะเป็นอยู่ได้หรือไม่ ให้ พล.อ.ดร.ชินวัฒน์ เบอร์ 2 ไปเป็น สส. คะแนนของท่านจะส่งสัญญาณทั้งประเทศ" นายณัฐวุฒิกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


