เพื่อไทยเลือดไหลออกอีก “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” อดีตหัวหน้าพรรคโบกมือลา รับน้อยใจมานานตั้งแต่ปี 2566 “สรวงศ์” อ้างช่องว่างระหว่างวัย “พท.” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ล็อต 2 รวม 22 ราย “สุริยะ” ปูด สส.ถูกอำนาจเงินมหาศาลดูด “พปชร.” ย้ายที่ทำการพรรคใหม่ เลือดไหลเข้า “ธรรมรักษ์” เตรียมนั่งที่ปรึกษา
เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมแกนนำพรรค ได้เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพิ่มเติมอีก 22 ราย โดยหลังเปิดตัวแกนนำพรรคได้สวมแจ็กเกตพรรค พท.ให้ผู้เสนอตัวทุกท่าน
นายสุริยะกล่าวว่า เคยประกาศไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าพรรค พท.ตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้าจำนวน 200 คน เราได้เปิดตัวไปแล้ว 183 คน ดังนั้นเพื่อเป็นไปตามเป้าหมาย จึงได้เปิดตัวเพิ่มอีก 22 ท่านใน 12 จังหวัด และเชื่อมั่นว่าการเปิดตัวในครั้งนี้จะได้รับการตอบสนองจากพี่น้องประชาชน
“ผมอยู่กับการเมืองมานานพอสมควร แต่มีหัวหน้าพรรคพรรคหนึ่งบอกว่าช่วงนี้จะมีการย้ายพรรคกันมาก มีการเสนอตัวเลขมาให้ สส.ของพรรคเรา มีบางท่านหวั่นไหวและย้ายพรรคไป ส่วนที่เหลืออยู่เพราะเขายังเชื่อมั่นว่ากระแสเราดี การเมืองที่ต้องใช้เงินใช้ทองซื้อตัว สส.เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ผมหวังว่า สส.ที่อยู่กับเรา ผมเชื่อมั่นว่าเราจะชนะ ส่วนที่เคยย้ายไปในอดีต มีเรื่องที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเมื่อย้ายออกจากพรรคไปแล้วก็สอบตกไปหลายท่าน พี่น้องประชาชนคงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามสื่อสาร” นายสุริยะกล่าว
จากนั้นผู้สมัคร สส.ได้ออกมาแนะนำตัวและกล่าวให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลรับใช้ประชาชน
นายสุริยะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการระบุถึงตัวเลขซื้อ สส.เพื่อไทยจะเปิดเผยตัวเลขได้หรือไม่ ว่าเป็น สส.ของพรรคเพื่อไทยที่ให้ข่าวมาว่าพยายามติดต่อเพื่อขอให้ย้ายพรรค โดยเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างมหาศาล แต่อย่าให้ลงตัวเลขที่ชัดเจน เพราะเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ หากเขาจ่ายขนาดนี้แล้วมีการเลือกตั้งเข้ามา เขาจะถอนทุนคืนขนาดไหน ย้ำว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ
ถามถึงกรณีที่ผู้ที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ววิจารณ์ว่า แม้พรรคยกเครื่อง แต่ก็เป็นเครื่องที่พังแล้ว ยังมั่นใจยุทธศาสตร์เลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า ยังเชื่อมั่นอยู่ เพราะจากการที่ได้คุยกับแกนนำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา ที่ไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจากการที่ได้คุยกับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล แกนนำพรรคเพื่อไทย ท่านก็มั่นใจคนใหม่ของเรามาจะชนะ 100%
ถามถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคช่วงใดจะเหมาะสมเปิดตัว นายสุริยะกล่าวว่า ทางพรรคกำลังพูดคุยกันอยู่ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนกระแสไปพูดคุยกับนายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้มาเป็นแคนดิเดตของพรรค พท.นั้น ไม่ได้ยินตรงนั้น รวมถึงกระแสที่มีชื่อตนเองด้วยก็ไม่มี ขอให้รอถึงตรงนั้น อย่าเพิ่งไปสมมติเลย
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะระบุว่าคะแนนนิยมของพรรค ปชน.ดดลง และจะไปเพิ่มคะแนนให้กับพรรค พท.ว่า เป็นความเห็นของนายสุริยะ คิดว่าคะแนนของพรรคไหนเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับพรรคประชาชน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนายสุริยะ
'สมพงษ์' ไขก๊อกพ้น พท.
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรค ปชน.จะเปิดตัวผู้สมัครเมื่อไหร่ นายพริษฐ์กล่าวว่า กรอบเวลาในการนำเสนอทั้งนโยบายและผู้สมัครรับเลือกตั้ง คงเป็นไปตามกรอบเวลาของการเลือกตั้ง โดยในสัปดาห์หน้าพรรคจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญ คงเป็นจังหวะที่เราสามารถได้สื่อสารกับประชาชนให้เห็นถึงกรอบและแนวทางของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้อยู่บ้าง
ขณะเดียวกัน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค พท. เผยว่า ได้ตัดสินใจลาออกการเป็นสมาชิกพรรค พท. ส่งผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อด้วย โดยให้ทีมงานนำเอกสารใบลาออกไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว โดยการตัดสินใจนี้ไม่เกี่ยวกับที่พรรค พท.เป็นฝ่ายค้านหรือกระแสตก แต่เหตุผลมาการบริหารจัดการภายในที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 เชื่อว่า สส.ส่วนใหญ่ก็อึดอัดกับสถานการณ์ในพรรคและการจัดลำดับความสำคัญที่มีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ผู้บริหารพรรคมองไม่เห็น ทั้งที่การเลือกตั้งทั้งในระดับ สส.หรือท้องถิ่นก็ฟ้องอยู่ว่าพรรคอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่มีส่วนในการบริหารจัดการมาโดยตลอดก่อนจะถูกลดบทบาท กระทั่งไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เลย
นายสมพงษ์กล่าวยืนยันว่า การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเพียงลำพัง ไม่ได้หารือหรือแจ้งให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคทราบแต่อย่างใด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสายสัมพันธ์ครอบครัว ไม่อยากให้มองว่าทิ้งพรรคในวันที่พรรคตกต่ำ เพราะที่ผ่านมาทุ่มเทเต็มที่ให้กับพรรคและกับครอบครัวชินวัตรมาโดยตลอด ยอมรับว่าใจหายเเละเสียใจอย่างยิ่ง เพราะได้ร่วมบุกเบิกมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย สุดท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ รวมถึงอดีต น.ส.ยิ่งลักษ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตลอดจนผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย และขอส่งกำลังและความปรารถนาดีไปยังทุกท่านที่ร่วมเดินทางกันมา
เมื่อถามถึงอนาคตทางการเมือง นายสมพงษ์กล่าวว่า อายุ 84 ปีแล้ว ในความเป็นจริงก็คิดที่จะพักผ่อน ปล่อยให้การเมืองเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ แต่ก็มีหลายๆ เรื่องที่ยังคั่งค้าง อยากผลักดันให้คนเชียงใหม่และคนไทยทั้งประเทศก่อนวางมือทางการเมือง หากมีใครเห็นความสำคัญเห็นความรู้ประสบการณ์ที่มี ที่อาจไปช่วยเสริมในบางมิติให้นักการเมืองรุ่นลูกรุ่นหลานในลักษณะที่ปรึกษา ก็พร้อมและยินดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกพรรคไหนดูด เพราะแม้มีคนรู้จักและสนิทสนมคุ้นเคยหลายพรรคการเมือง แต่คงไม่มีพรรคไหนกล้ามาดูดแน่นอน
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้ พรรค พท.มีความแตกต่างจากพรรคอื่น ในเรื่อง Generation Gap หรือช่องว่างระหว่างวัย นายสมพงษ์ก็เป็นบุคลากรทางการเมือง และเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค เราค่อนข้างเสียใจเหมือนกันที่ตัดสินใจแบบนี้ โดยได้คุยกับนายจุลพันธ์ ก็ได้พูดมาหลายรอบแล้วว่าท่านอยากพัก ด้วยวัยกว่า 80 ปี แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ทำให้ท่านชะลอไว้ และขณะนี้ปลายสมัยประชุมแล้ว และจะยุบสภาในเร็ววัน เลยตัดสินใจลาออก
เมื่อถามว่า เลือดเพื่อไทยจะไหลอีกไหม เพราะระดับอดีตหัวหน้าพรรคลาออก นายสรวงศ์กล่าวว่า ถ้าถามว่าเลือดจะไหลออกไหม อันนี้ห้ามไม่ได้ มันเป็นยุทธจักรทางการเมือง เหมือนวงล้อทางการเมือง ถึงเวลามีคนเข้ามีคนออกตลอดเวลา วันนี้มีเลือดใหม่ๆ เข้ามา คนที่เป็นบุคลากรสำคัญๆ ของพรรค คนที่อยู่ก็ยังคงอยู่ แต่คนที่พิจารณาตัวเองแล้ว เห็นว่าตัวเองไม่มีความสามารถช่วยพรรคแล้วก็ออกไป ถือว่ามีออกก็มีเข้า นี่คือวัฏจักรของการเมือง เป็นเรื่องปกติ
บอกหัวหน้าพักผ่อน
เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มาปรากฏตัวในงานเปิดตัวผู้เสนอตัวสมัครเลือกตั้ง สส. นายสรวงศ์กล่าวว่า หัวหน้าก็พักผ่อนบ้าง หนักหนาสาหัสสากรรจ์มาพอสมควร แต่ว่าก็พร้อมไปชาร์จแบต พร้อมกลับมาทำหน้าที่เป็นผู้นำของพรรคเพื่อไทยในการสู้ศึกต่อไป
นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา ซึ่งเปิดตัวร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า กล่าวถึงกรณีนายสุริยะระบุว่ามีการใช้เงินดูด สส.ว่า ส่วนตัวที่ไม่ได้ไปต่อกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีเรื่องเงินใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น การออกจากพรรคเป็นเรื่องของความรู้สึก เหมือนนายสมพงษ์ที่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะ สส.รู้สึกอึดอัดในการบริหารจัดการพรรค
“ยืนยันว่าการไม่ไปต่อกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ถูกซื้อหรือมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ฝากว่าผู้บริหารของพรรคควรดูแล สส.ให้ดี รับฟังเขา เพราะยังมี สส.ที่รู้สึกไม่อบอุ่น แล้วอนาคตอาจไม่ไปต่อกับพรรคเพื่อไทยอีกหลายคน” นายโกศลกล่าว
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์เฟซบุ๊กภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมข้อความว่า พล.อ.ประวิตรย้ายที่ทำการพรรค พปชร. ไปอยู่ที่สำนักงานบางโพ ถิ่นเก่าของพรรคความหวังใหม่ ซึ่งเชื่อว่ามีภูมิทำเลเป็นศีรษะมังกร และได้ไปดูสำนักงานใหม่ เมื่อบ่ายวันที่ 17 ต.ค.2568 และแสดงความพอใจสำนักงานแห่งใหม่นี้มาก
นายไพศาลโพสต์อีกว่า พล.อ.ประวิตรบอกว่า พระอาจารย์ศิษย์เอกหลวงปู่สรวงได้มาดูสำนักงานนี้แล้ว แนะนำให้ย้ายมาอยู่ที่นี่ ได้พาผู้บริหารพรรคมาดู ทุกคนรู้สึกสบายใจ และตอนนี้พรรค พปชร.มีแต่เลือดไหลเข้า จะไม่มีเลือดไหลออกอีกแล้ว จึงเตรียมที่จะสรุปการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อให้รีบลงพื้นที่ในเวลาอันสมควร และได้บอกว่า ขณะนี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม มืองานด้านความมั่นคงระดับเทพของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรค พปชร.แล้ว โดยจะรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค โดยพรรคจะจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารที่สำนักงานแห่งใหม่ครั้งแรกในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69


