นิรโทษฉลุย‘3นิ้ว’เฮ

สภาเอกฉันท์ผ่านร่าง กม.นิรโทษกรรม เปิดช่องเด็กต่ำกว่า 18 ปีทำผิด ร้อง คกก.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ทำแผนฟื้นฟูการกระทำความผิด ส่งอัยการยุติคดี "กมธ." ยันทำร่างกฎหมายละเอียดรอบคอบ หลังถูกท้วงเลือกนิรโทษกรรมบางกลุ่ม เตรียมส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ 22 ต.ค.นี้

ที่รัฐสภา วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เวลา 12.17 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 32 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ..... วาระ 2-3

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงรายงานต่อที่ประชุมสภา สาระสำคัญช่วงหนึ่งระบุว่า ในประเด็นการนิรโทษกรรมที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง กมธ.รับฟังความเห็นและข้อเสนอจากทุกฝ่าย และกำหนดฐานความผิดอย่างครอบคลุม บางประเด็นมีการปรับแก้ เช่น กรณีมีการนิรโทษกรรมคดีความผิดทางอาญา มีข้อเสนอเพิ่มความผิดทางพินัย เพื่อให้ครอบคลุมชัดเจนมากขึ้น กรณีความผิดทางแพ่ง 3 ร่างหลัง ที่สภารับหลักการกำหนดให้ยุติบังคับคดีในทางแพ่งกับกลุ่มผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ถูกดำเนินคดี ให้คืนเงินทรัพย์สินที่ถูกอายัดหรือยึดไปจากผลแห่งคำพิพากษาในคดีแพ่ง กมธ.มีข้อสรุปร่วมกันว่า การยุติบังคับคดีแพ่งเป็นที่เห็นชอบร่วมกัน แต่การคืนเงินที่ถูกอายัดเป็นเรื่องที่เห็นตรงกันว่าตัดประเด็นนี้ออก และได้วินิจฉัยว่ากลุ่มบุคคลใดบ้างจะเข้าข่ายการนิรโทษกรรมตามกฎหมาย            นอกจากนี้ มีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุข ให้มีนายกฯ หรือรองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน, รมว.ยุติธรรมและปลัดยุติธรรม เป็นกรรมการ, ปลัดสำนักนายกฯ เป็นกรรมการและเลขานุการ รวมทั้งมีองค์ประกอบมาจากภาคประชาชน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มาจากวิปรัฐบาล, วิปฝ่ายค้าน และตัวแทนอธิการบดี จากการเสนอชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีอำนาจหน้าที่ครอบคลุมหลายด้าน การวินิจฉัยชี้ขาด การสื่อสารกับสังคม การรับเรื่องร้องทุกข์อุทธรณ์ ผู้ที่ตกหล่นในการพิจารณา

ประธาน กมธ.กล่าวว่า ที่มีการพูดถึงเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี กระทำการขัดต่อกฎหมาย อาจมาจากมูลเหตุความขัดแย้งทางการเมืองหรือแรงจูงใจทางการเมือง ได้กำหนดไว้ในมาตรา 6 ของกฎหมายนี้ และเพิ่ม 9/1 ระบุว่า กรณีที่เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี กระทำความผิด มีสิทธิ์จะเสนอเรื่องส่งคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุข ไม่ได้เติมอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติไปแทรกแซงตุลาการ แต่ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาเด็กและเยาวชน เพื่อขอเข้ากระบวนการรอการกำหนดโทษ หากคณะกรรมการเห็นชอบ ส่งเรื่องไปเจ้าพนักงานอัยการ หากเรื่องอยู่ในชั้นอัยการก็พิจารณาได้เลย หากเรื่องอยู่ในชั้นศาล อัยการจะส่งเรื่องให้ศาลเพื่อพิจารณาเป็นรายกรณีต่อไป

ส่วนกรณีฐานความผิดในบัญชีแนบท้ายของร่างกฎหมายนี้ พยายามอย่างครอบคลุมและกว้างขวางที่สุด และแน่ใจว่าภายใต้การพิจารณาของกรรมการ จะหยิบยื่นโอกาส ความพยายามเยียวยาบาดแผลความขัดแย้งนี้ไปถึงผู้คนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกค่ายทุกสี และกรณีที่มีกลุ่มขัดแย้งหรือกลุ่มที่ต่อสู้การเมืองบางกลุ่ม เดินเลยสถานการณ์ไปก่อน และคดีเดินเร็วถูกพิพากษาจำคุก คดีถึงที่สุดแล้วเป็นจำนวนมาก เช่น คดีกลุ่มคนเสื้อแดง กมธ.เห็นชอบให้เพิ่มบทบัญญัติในการลบล้างประวัติอาชญากรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังณัฐวุฒิกล่าวนำเสร็จ การพิจารณาจึงเริ่มเข้าสู่การพิจารณารายมาตราต่อไป โดยมีประเด็นหลักๆ ที่มีการถกเถียงในการพิจารณาอยู่ด้วยเช่นกัน

ตีตกนิรโทษฯ ผู้ต้องคดี 112

ในมาตรา 3 น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.พรรคประชาชน ได้สงวนความเห็นในมาตรานี้ไว้ว่า ประเด็นที่ไม่รวมการนิรโทษกรรมมาตรา 112 มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขโดยเพิ่มให้การบังคับตามมาตรา 3 เป็นกรณีที่ผู้กระทำความผิดมีอายุเกิน 18 ปีบริบูรณ์ในขณะกระทำความผิด  เพราะเรื่องนี้ในที่ประชุม กมธ. และสภานี้มีความกังวลว่าจะไปแก้ไขมาตรา 3 ที่เป็นหัวใจของ พ.ร.บ.นี้ ซึ่งแทบไม่มีการแตะในส่วนของคดีมาตรา 112 เลย แต่ข้อความที่เธอเสนอเพิ่มก็คือ เพื่อให้ไม่บังคับกับคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีในขณะเกิดเหตุ เพื่อให้เยาวชนได้รับประโยชน์จากมาตรานี้โดยไม่แตะหัวใจสำคัญของกฎหมาย

เวลา 13.05 น. นายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะ กมธ.ผู้สงวนความเห็นมาตรา 3 อภิปรายว่า ตนได้เสนอให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 อย่างมีเงื่อนไข เนื่องจากได้พูดคุยกับหลายฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่างกันกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และบุคคลที่มาแสดงออกทางการเมือง แต่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112

"ทางออกเพื่อให้เกิดการยุติการแสดงออกทางการเมือง เป็นภาระของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันทำให้การเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เข้ารูปเข้ารอยอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่หาทางออกด้วยการลงทัณฑ์คนรุ่นใหม่ที่รับเอามรดกบาปไป แล้วแสดงความรู้สึกออกมา" นายชัยธวัชกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการอภิปรายของ น.ส.ศศินันท์และนายชัยธวัช มี สส.จากพรรคประชาชนที่ลุกมาอภิปรายเสนอสนับสนุนข้อเสนอของทั้งสองคนด้วย

ต่อมา นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย(ภท.) อภิปรายว่า ในมาตรา 3 นี้ มี กมธ.สงวนความเห็นที่น่าสนใจไว้หลายคนคือ ผู้ที่กระทำความผิดอายุเกิน 18 ปี ในขณะกระทำความผิด ซึ่งถือเป็นประเด็นใหม่ที่มีความแตกต่างจากกรรมาธิการ เนื่องจากกรรมาธิการไม่ได้บอกอายุ ตนจึงอยากทราบเหตุผลของประธาน กมธ.ที่เห็นแตกต่างจากเพื่อนสมาชิก เพราะข้อความดังกล่าวผิดหลักการของร่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ซึ่งถือว่า 1 ใน 3 ของร่างที่สภารับหลักการไป แม้จะไม่ใช่ร่างหลัก แต่ในการพิจารณาก็ต้องไปพิจารณาในหลักการด้วย โดยสาระสำคัญของร่างของพรรค ภท. มีการระบุเอาไว้ว่า ไม่รวมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งจะส่งผลในมาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 8 ที่เราจะมีการพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ หากไม่ได้มีการกำหนดในมาตรา 3 ว่าเรื่องอายุไม่เกิน 18 ปี ก็จะมีอีกหนึ่งมาตราที่จะสามารถบรรเทาได้ ซึ่งมาตรา 9/1 เขียนเอาไว้ว่า  ให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลในขณะที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยขอให้ใช้มาตรการยุติ โดยไม่ต้องมีคำพิพากษาตามกฎหมายว่าด้วยศาลเยาวชนและครอบครัว โดยให้มีวิธีพิจารณาเยาวชนและครอบครัว และให้ศาลมีอำนาจรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการเสริมสร้างสังคมสันติสุขที่กำลังจะมีขึ้น จึงอยากให้ประธานกรรมาธิการ หรือตัวแทนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ช่วยชี้แจงด้วยว่าการแก้ไขมาตรา 3 ขัดต่อต่อหลักการของร่างนายอนุทินหรือไม่

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรค ภท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) อภิปรายว่า ข้อเสนของ น.ส.ศศินันท์ที่จะให้นิรโทษกรรมเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ในเมื่อมีมาตรา 9/1 อยู่แล้ว และตัวเขาเองก็เห็นด้วยกับการให้อภัยเด็ก แต่ก็ไม่ใช่การให้ไปโดยไม่มีขั้นตอนอะไร เขาก็เห็นว่าสำหรับมาตรา 9/1 ให้ลดขั้นตอนลงหน่อย ก็ขอให้มีการพักการประชุมแล้วให้ กมธ.ฝ่ายเสียงข้างน้อยไปคุยกันให้ปัญหาจบ การโหวตจะได้ไปทางเดียวกันทั้งสภา ซึ่งเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 เราก็ต้องดูแล ที่อาจจะทำผิดพลาดได้ แต่ก็มีปัญหาแค่ที่มีการแปรญัตติ โดยที่ กมธ.เสียงข้างมากก็บอกว่ามีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายดังกล่าวไม่สามารถหารือยุติได้ ทำให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะวิปฝ่ายค้าน เสนอให้พักการประชุม ทำให้นายฉลาดต้องขอพักประชุมเพื่อให้วิปและ กมธ.หาข้อยุติร่วมกัน

เวลา 15.30 น. หลังพักการประชุมไปประมาณ 1 ชม. เนื่องจากมีข้อเห็นแย้งระหว่างกรรมาธิการ ในร่างมาตรา 3 ว่าด้วยเงื่อนไขของการไม่ได้รับนิรโทษกรรมในบางคดี ทว่า กมธ.เสียงข้างน้อย ได้สงวนความเห็นให้ปรับเนื้อหาเพิ่มการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข

หลังจากการหารือแล้วเสร็จ นายณัฐวุฒิได้แจ้งว่า ที่ประชุมมีข้อยุติว่า ร่างมาตรา 3 นั้นจะเป็นไปตามที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอ แต่ในร่างมาตรา 9/1 นั้นได้ปรับแก้ไขเนื้อหา ดังนั้นเชื่อว่าสภาจะเห็นชอบ

อย่างไรก็ดี น.ส.ศศินันท์ ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย ยืนยันการปรับแก้เนื้อหาที่เพิ่มการนิรโทษกรรมให้เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะเชื่อว่าไม่ขัดต่อหลักการ อีกทั้งการกำหนดประเด็นเยาวชนไม่จำเป็นต้องดูรายละเอียดขนาด ว่าการถูกดำเนินคดีอยู่ในขั้นตอนใด จากที่ กมธ.พิจารณาคดีปิดสนามบิน คืนสิทธิล้มละลาย ระงับค่าเสียหายหรือการกระทำของผู้ใหญ่ที่หนักกว่ามาก ไม่ต้องถกเงื่อนไขต่างๆ

 “รู้สึกผิดหวังว่าต้องหาทางออกแบบอ้อมๆ  เลียบๆ เคียงๆ และไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าคนที่ได้รับประโยชน์ต้องการอะไรกันแน่ แม้โหวตวันนี้จะไม่ชนะ แต่ฝากที่ประชุมว่า พ.ร.บ.นี้สร้างเสริมสันติสุขไม่ได้ หากมองคนอีกกลุ่มเป็นคนตรงข้าม หาวิธีเลี่ยงบาลี นิรโทษกรรมกับเยาวชน” น.ส.ศศินันท์อภิปราย

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติตัดสิน โดยมติเสียงข้างมาก 184 เสียง เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก ขณะที่ 133 เสียงเห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างน้อย

ฉลุยร่าง กม.นิรโทษกรรม

ต่อมาที่ประชุมได้พิจารณาด้วยความเรียบร้อย มติของเสียงข้างมากของสภา ได้เห็นชอบตามที่ กมธ.เสนอ จนมาถึงร่างมาตรา 9/1 ที่ กมธ.ได้เพิ่มขึ้นใหม่ และปรับแก้ไขตามข้อหารือระหว่าง กมธ. ในช่วงพักการประชุม นายณัฐวุฒิชี้แจงว่า เนื้อหาที่ปรับแก้ไขมีเพียงเล็กน้อย โดยยังยืนยันต่อหลักการที่กำหนดให้บรรดาการกระทำที่ไม่ได้รับการนิรโทษกรรม ถ้าผู้กระทำความผิดซึ่งอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ไม่ว่าถูกดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุขให้พิจารณาทำแผนแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูการกระทำความผิด แล้วส่งแผนพร้อมความเห็นไปยังพนักงานอัยการ เพื่อให้ใช้มาตรการและสั่งยุติคดี โดยไม่ต้องมีคำพิพากษา

อย่างไรก็ตาม กมธ.เสียงข้างน้อยและ สส.ที่สนับสนุนการนิรโทษกรรมให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มองว่าเนื้อหาที่ กมธ.บัญญัตินั้นให้โอกาสกับเยาวชนน้อยเกินไป พร้อมกับเสนอแนะให้ปรับแก้ไขเพื่อให้รอบคอบว่า มาตรการใดที่อยากให้บังคับใช้ หรือเข้าไปสู่กระบวนการ

ขณะที่ น.ส.ศศิกานต์กล่าวว่า กรณีที่ กมธ.แก้ไขนั้น ถือเป็นการเลี่ยงบาลี และเลือกนิรโทษกรรมให้กับคนบางกลุ่ม และเลือกทิ้งคนอีกกลุ่มหนึ่งไว้ข้างหลัง ทำให้นายณัฐวุฒิชี้แจงว่า ไม่ได้มีเจตนาเลี่ยงบาลี แต่ต้องการทำให้กฎหมายเดินหน้าและผ่านความเห็นชอบของ สว. เนื่องจากไม่มีเวลาแล้ว เหลือวันเดียวที่ต้องให้ผ่าน และทำรายงานเพื่อส่งให้ สว. ในวันที่ 22 ต.ค. เพื่อให้เข้าพิจารณาได้ทันสมัยประชุมนี้

 “ผมเสนอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องหารือกันและสร้างความชัดเจนในความเข้าใจตรงกันว่า เมื่อผ่านไปสู่ สว.แล้ว จะพิจารณาผ่านไปได้ เพราะหากถูกส่งกลับมายังสภา ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกตีตก และหลายพันคนที่เข้าข่ายนิรโทษกรรมจะถูกตีตกไปด้วย” นายณัฐวุฒิชี้แจง

ประธาน กมธ.กล่าวว่า หากไปต่อไม่ได้ จะมีคำอธิบายกับคนจำนวนไม่น้อยอย่างไร และในร่างกฎหมายไม่ได้ทอดทิ้งผู้ที่กระทำผิดฐานอื่นๆ ตนคิดต่อไปด้วยว่า หากกฎหมายนี้ผ่าน โดยนิรโทษกรรมความผิดอื่นที่ถูกยกเว้นไว้ หากตนเป็นทนายจะนำไปยื่นปล่อยตัวชั่วคราว เพราะมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง เพราะรัฐสภาเห็นชอบร่างกฎหมาย หากตรวจสอบผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีที่ต้องคดี ที่มีได้ 20 คน โดยแบ่งเป็นอายุ 14 ปี 6 คน ที่เหลืออายุ 15-17 ปี ทั้งนี้ ไม่มีใครถูกจำขัง บางคนคดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งถูกดำเนินการตามสิทธิของกฎหมาย บางคนอยู่ในระหว่างพิจารณาและเข้าเกณฑ์มาตรา 9/1 ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในมาตราดังกล่าวได้ใช้เวลาอภิปรายนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะลงมติตัดสิน โดยพบว่าเสียงข้างมากเห็นด้วยที่ กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่

จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณาบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ ซึ่ง กมธ.แก้ไขเพิ่มคดีความผิดรวม 34 กรณี ซึ่งรวมถึงคดีสำคัญทางการเมือง นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายให้ตัดบัญชีแนบทางออก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา อย่างไรก็ดี นายนิกร จำนง กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า การพิจารณาของ กมธ.มีประเด็นเพิ่มเติมได้ คนที่โดนคดีเสนอเองและพิจารณาเติมให้ มีบางประเด็นที่ทักท้วงกรณีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จึงพิจารณาเว้นคดีที่โกงเลือกตั้ง เท่าที่ทำมาละเอียดที่สุด และใช้เวลาพิจารณาครอบคลุมที่สุด  หากจะมีปัญหาหรือผิดพลาด 0.01% อาจจะมีขึ้นได้ แต่บุคคลที่โดนคดีพยายามติดต่อให้ความเห็นมา ในนาม กมธ.ทำดีที่สุดแล้ว ละเอียดรอบคอบที่สุดแล้ว

ขณะที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสนอให้เพิ่มต่อท้ายด้วยประโยคว่า “รวมถึงคดีมาตราอื่นที่เป็นคดีการชุมนุมทางการเมืองหรือแสดงออกทางการเมืองที่ไม่กล่าวตามบัญชีแนบท้ายนี้” อย่างไรก็ดี นายนิกรชี้แจงว่า หากเขียนปลายเปิด เหมือนตีเช็คเปล่าอาจเกิดผลเสียมากกว่า จึงยืนยันตามการพิจารณาของ กมธ.

ต่อจากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในวาระ 3 ว่าจะเห็นชอบทั้งฉบับหรือไม่ โดยมติที่ประชุม 280 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ขั้นตอนจากนี้จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม