"ในหลวง-พระราชินี" ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง” วันที่ 3 คณะบุคคล ประชาชน เข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ต่อเนื่องวันที่สอง "พิพัฒน์" นำถก ครม. เผย "นายกฯ" ฝากข้อสั่งการ รมต. ช่วยกันชี้แจง จัดกิจกรรมได้ตามประเพณี แต่ปรับรูปแบบให้เหมาะสม-สมพระเกียรติ ให้ "กต." เตรียมต้อนรับประมุข-แขก ตปท. “บวรศักดิ์” แนะนักการเมืองดูกาลเทศะ ครม.ตั้ง คกก.จัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ 8 คณะ รมว.วธ.คาด 2 เดือนร่างแบบพระเมรุมาศแล้วเสร็จ และจัดสร้างไม่เกิน 9 เดือน รมว.ท่องเที่ยวย้ำลอยกระทง-ปีใหม่-สงกรานต์จุดพลุได้ แต่ปรับโทนให้เหมาะ
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลา 19.22 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประดิษฐานพระบรมศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังมุขหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ด้านตะวันออก และด้านตะวันตก ทรงคม แล้วประทับพระราชอาสน์ เมื่อพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม จบแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าไตรพระราชาคณะ 1 รูปที่ถวายอดิเรก และพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 8 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าพระโกศ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ก่อนหน้านี้ เวลา 16.34 น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
และในเวลา 11.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
แจ้งขั้นตอนขอเป็นเจ้าภาพ
สำนักพระราชวัง ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ https://www.royaloffice.th เรื่อง การขอเป็นเจ้าภาพพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ผู้ประสงค์ขอเป็นเจ้าภาพพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.2569 เป็นต้นไป นั้น
ขอให้ผู้ที่มีความประสงค์จะขอเป็นเจ้าภาพ ทำหนังสือเรียน เลขาธิการพระราชวัง ตามแบบฟอร์ม ที่กำหนด และนำส่งสำนักพระราชวังได้ 3 ช่องทาง ดังต่อไปนี้ 1.ส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ด้วยตนเอง ที่แผนกสารบรรณ กองกลาง อาคารสำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง โทรศัพท์ 0-2224-3273, 0-2224-3333 และ 0-2623-5500 ต่อ 2121-2129 2.ส่งหนังสือแจ้งความประสงค์ทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้ เรียน เลขาธิการพระราชวัง สำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. 10200 3.ส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) ที่ [email protected] โดยสแกนหนังสือเป็นไฟล์ PDF ทั้งนี้ สำนักพระราชวังจะได้มีหนังสือตอบรับ พร้อมแจ้งรายละเอียดในการเป็นเจ้าภาพก่อนวันและเวลาที่ท่านเป็นเจ้าภาพล่วงหน้า 15 วันทำการ สามารถโหลดตัวอย่างหนังสือการขอเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้ที่ : https://www.royaloffice.th/.../2025/10/281068-13.22.pdf
ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์พระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมลงนามถวายความอาลัยในสมุดหลวง เป็นวันที่สอง ตั้งแต่เวลา 08.30 น.-16.00 น.
ในการนี้ มีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล คณะทูตานุทูต พระภิกษุสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระและ ประชาชนทั่วไป ซึ่งแต่งกายในชุดสีดำ เดินทางเข้ามาถวายสักการะและลงนามถวายความอาลัยด้วยความจงรักภักดี จำนวนมาก อาทิ พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรง อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชาชนได้ลงนามถวายความอาลัยพระบรมศพฯ แล้ว ประชาชนส่วนหนึ่งได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยมีคณะเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกการเยี่ยมชม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากนายกฯ ติดภารกิจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
โดยนายพิพัฒน์กล่าวเปิดการประชุม ครม.ว่า นายกฯ มีข้อสั่งการฝากตนให้ช่วยชี้แจง 1.นายกฯ ได้ฝากเน้นย้ำกับ ครม.ทุกคน เพื่อช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจกับหน่วยงานในสังกัดและประชาชนว่ารัฐบาลไม่เคยมีมติหรือข้อสั่งการให้หน่วยงานราชการ รวมไปถึงภาคเอกชน งดการจัดกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ เพราะรัฐบาลมีความเข้าใจดีว่าภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวมีการวางแผนกิจกรรมล่วงหน้า และมีต้นทุนในการจัดกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นการจัดกิจกรรมทั้งของส่วนราชการและเอกชน โดยเฉพาะกิจกรรมที่จัดขึ้นตามวัฒนธรรมและประเพณีก็ยังคงจัดได้ โดยขอความร่วมมือให้ใช้ดุลพินิจ ปรับรูปแบบให้เหมาะสมและสมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทั้งนี้ ฝากให้ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้องให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงด้วย
2.การมอบหมายหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องเหมาะสม นายกฯ จึงเห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 1.ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย ปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ อย่างเข้มแข็ง ทั้งในเรื่องการเดินทาง สุขภาพอนามัย อาหาร น้ำดื่ม และที่พัก รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย 2.ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับส่วนราชการเก็บรวบรวมข้อมูล การดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจัดงานพระราชพิธีทั้งหมด เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติต่อไป 3.ให้กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมกับสำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประสานขอความร่วมมือให้สื่อโทรทัศน์และวิทยุ พิจารณาเสนอรายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ตามแนวพระราชดำริในเรื่องต่างๆ เช่น การศิลปาชีพ การพัฒนาฝีมือแรงงาน การเกษตร การชลประทาน การศึกษา การสาธารณสุข การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
เตรียมรับประมุข-แขกต่าง ปท.
4.มอบหมายให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี สำนักงานราชบัณฑิตยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำออกพระนาม การใช้ถ้อยคำภาษาเรียกขาน หรือเรื่องต่างๆ ที่เหมาะสม 5.ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนด้านการจราจร การถวายอารักขา และการรักษาความปลอดภัย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 6.ให้กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมการเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุ โดยขอพระราชวินิจฉัยจากองค์ที่ปรึกษาที่จะดำเนินการแต่งตั้งตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2568 และให้ส่วนราชการอื่นๆ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการเต็มไปด้วยความเรียบร้อย 7.ให้กระทรวงการต่างประเทศดูแลและจัดเตรียมการต้อนรับกรณีที่มีพระประมุข ประมุข และพระราชวงศ์ หรือผู้นำแห่งรัฐต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย และ 8.ให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดพิมพ์หนังสือพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เพื่อแจกจ่ายให้แก่ ครม. และประชาชน
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จำนวน 8 คณะ ได้แก่ 1.คณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการ โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ เป็นประธาน 2.คณะกรรมการฝ่ายจัดขบวนพระบรมราชอิสริยยศและงานพระราชพิธี โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม เป็นประธาน 3.คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพาหนะมาศ โดยมีนายบวรศักดิ์เป็นประธาน 4.คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธี โดยมี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 5.คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจรในงานพระราชพิธี โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เป็นประธาน 6.คณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกในงานพระราชพิธี มี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธาน 7.คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้งบประมาณในงานพระราชพิธี มีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน 8.คณะกรรมการศูนย์ประสานการจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
"รัฐบาลขอยืนยันว่าจะดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบ สมพระเกียรติ และเป็นไปตามโบราณราชประเพณี เพื่อให้การถวายพระเกียรติสูงสุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมบูรณ์ที่สุด" นายบวรศักดิ์กล่าว
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการจัดกิจกรรมช่วงงานพระราชพิธี นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้ห้ามใดๆ ทั้งสิ้น ที่ไปตีความกันเอาเอง ขอให้ประชาชนดำเนินกิจกรรมที่เหมาะสม โดยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณฯ ที่พูดกันในโซเชียลอย่างนู้นอย่างนี้ไม่ถูก ขอความเข้าใจตรงนี้ด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปทำให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจของประชาชนต้องหยุดชะงัก นั่นไม่ใช่เรื่องที่พึงประสงค์ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า การทำกิจกรรมทางการเมืองยังสามารถทำได้หรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ไม่อาจแนะนำพรรคการเมืองได้ คำตอบนี้ในนามส่วนตัว ต้องดูเทศกาลบ้านเมือง ดูกาละ ดูเทศะ และเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไม่ต้องพูดอะไรมาก
ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกหน่วยงานราชการ และผู้ที่มีความเกี่ยวข้อง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 06-2201-7232 หรือสายด่วน 1111 ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทุกส่วนราชการ ร่วมพลังแห่งความภักดีส่งภาพการจัดกิจกรรมไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรวบรวมส่งให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร เพื่อจัดทำหนังสือต่อไป
น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร อยู่ระหว่างการตรวจสอบความพร้อมของราชรถและพระยานมาศ โดยจะต้องมีการตกแต่งให้สวยงาม สมพระเกียรติ และมีความแข็งแรง จากนั้นจะมีการทำแบบพระเมรุมาศ โดยคาดว่าจะใช้เวลาร่างแบบ 2 เดือน ก่อนจะนำขึ้นให้องค์ที่ปรึกษามีพระราชวินิจฉัย และจะใช้เวลาในการก่อสร้างพระเมรุมาศไม่เกิน 9 เดือน
ส่วนเรื่องการจัดงานประเพณีต่างๆ สามารถจัดได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าของพื้นที่ ว่าจะจัดอย่างไรให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และจัดให้อยู่ในกรอบของประเพณีอันดีงาม
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เราจะไม่ห้ามหรือไปกำหนด แต่ขอความร่วมมือกับเอกชนให้ปรับ ยืนยันว่างานที่ได้มีการตกลงกันไว้แล้วหรือลงทุนไว้แล้ว ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะพยายามให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ งานเคาต์ดาวน์ปีใหม่และสงกรานต์ในปีหน้ายังคงมี ซึ่งยิ่งใหญ่เหมือนปีที่ผ่านมา แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดอย่างไรให้เหมาะสม ส่วนเรื่องการจุดพลุเป็นสิ่งที่พยายามจะขอ อะไรที่แสดงออกถึงความรื่นเริงจนเยอะเกินไป จะพยายามปรับโทนลงมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


