‘สี’ปลื้มรบ.ไทย ยกเลิก‘กาสิโน’ ลุนดีลขาย‘ขาว’

นายกฯ ชูไทยเป็นสะพานการค้า การลงทุน และความเชื่อมโยงภูมิภาคในเวทีเอเปก หารือ “สี จิ้นผิง” ชมไทยไม่เอากาสิโน รับไม่คิดแทรกแซงนโยบาย แต่จะใช้มาตรการภายในไม่สนับสนุนให้ชาวจีนมาเที่ยวแหล่งอบายมุข “อนุทิน” เชื่อปิดดีลขายข้าวไทย 5 แสนตันได้

เมื่อวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ ห้อง 300C ศูนย์ประชุม Hwabaek International Convention Centre (HICO) เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 รอบที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “Towards a More Connected, Resilient Region and Beyond” พร้อมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม โดยนายกฯ เห็นว่า ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ความร่วมมือไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น พร้อมย้ำว่า เอเปกต้องคงไว้ซึ่งความเปิดกว้าง การมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต เพื่อสร้างภูมิภาคที่มีความเข้มแข็งและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

ต่อมาในเวลา 12.30 น. นายอนุทินเข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders) โดยเป็นผู้แทน ABAC จากชิลี บรูไน จีน และมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางส่งเสริมศักยภาพของไทยด้านเศรษฐกิจ และบทบาทของเอเปกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ในหัวข้อเรื่องศักยภาพของไทยในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และความเชื่อมโยงในภูมิภาค  โดยนายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเสนอ 3 แนวทางดังนี้ 1.การเสริมสร้างความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค โดยไทยตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชีย จึงเป็นสะพานเชื่อมโยงเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และอาเซียน 2.การลงทุนเพื่ออนาคต ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ที่มุ่งเน้นการดำเนินการระยะสั้นเพื่อผลลัพธ์ระยะยาว และ 3.การขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียวและยั่งยืนภายใต้เป้าหมายกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Goals on the Bio-Circular-Green Economy

ในตอนเย็น นายอนุทินหารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยืนยัน และพร้อมผลักดันความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงระดับประชาชน ขณะที่นายกฯ เห็นถึงศักยภาพในการขยายความร่วมมือด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานสะอาด และเกษตรเพื่ออนาคต

นายอนุทินยังชื่นชมความจริงจังของประธานาธิบดีสี ที่ให้คำมั่นกับไทยในการร่วมกันปราบปรามภัยไซเบอร์ที่ถือว่าเป็นอาชญากรรมทั้งทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ซึ่งไทยถือเป็นวาระแห่งชาติ และจะระดมความร่วมมือจากภูมิภาคเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้ด้วย

ในการหารือ นายอนุทินยังยืนยันกับท่านประธานาธิบดีสีว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้กาสิโนมาเป็นเครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถของคนไทย ผลิตภัณฑ์ไทย สินค้าไทย รวมทั้งเทคโนโลยีที่ไทยมีอยู่ ไทยมีทางเลือกอื่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ดีขึ้น จึงได้หยุดการนำเสนอกฎหมายการพนันทุกชนิด และขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งประธานาธิบดีสีกล่าวชื่นชมนโยบายไทย และย้ำว่า ไม่คิดแทรกแซงการดำเนินนโยบายภายในของประเทศใดๆ แต่จะใช้มาตรการภายในของตนในการหยุดยั้งไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวกาสิโนเท่านั้น เพราะจีนเห็นว่าธุรกิจการพนันมีผลเสียอย่างมากต่อวิถีชีวิตของคน ซึ่งนายกฯ ย้ำถึงนโยบายรัฐบาลชุดนี้ และความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการมีการพนันที่ถูกกฎหมายเช่นกัน

นายอนุทินยังถือโอกาสนี้ติดตามการเจรจาการซื้อข้าวไทย 500,000 ตัน ซึ่งจีนบริโภคข้าวทั้งประเทศเกือบ 150 ล้านตัน ชื่อว่ามีแนวโน้มในทางที่ดี และยังเชิญมาร่วมประชุมแม่โขง-ล้านช้างที่ไทยในช่วงปลายปีนี้ด้วย

“ภาพรวมการหารือกับประธานาธิบดีจีน สังเกตได้ถึง บรรยากาศฉันมิตร ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ที่หยุดชะงักไป ได้รื้อฟื้นกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ดีต้องมาจากพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดี ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน”

วันเดียวกัน นายสิริพงศ์กล่าวกรณีโลกโซเซียลได้แชร์ข้อความร้านค้าขึ้นป้ายราคาสินค้า โดยระบุว่า “เงินสด 159 คนละครึ่ง 169” ซึ่งมีส่วนต่างราคาสินค้า 10 บาท ว่ากระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบเป็นร้านค้ารายย่อยขนาดเล็กแห่งหนึ่ง โดยได้ตักเตือนและให้นำป้ายสินค้าออกแล้ว พร้อมกำชับให้ดำเนินการขายสินค้าตามราคาจริง หากฝ่าฝืนอีกจะถูกดำเนินคดี พร้อมถูกตัดสิทธิจากโครงการคนละครึ่งพลัส รวมถึงโครงการอื่นๆ ของรัฐบาลในอนาคตด้วย

 “ขอย้ำเตือนร้านค้า ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสให้จำหน่ายสินค้าในราคาเดียวกัน ทั้งกรณีชำระด้วยเงินสด และชำระผ่านสิทธิคนละครึ่ง ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำ เนื่องจากโครงการก็ไม่ได้มีการส่งข้อมูลภาษีให้นำมาใช้เป็นข้ออ้าง หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.กำกับดูแลสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในการติดป้ายแสดงราคา ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และการฉวยโอกาสหรือบิดเบือนราคา โทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท ซึ่งหากประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นการขายเกินราคาจริง หรือการกระทำใดๆ ที่ฝ่าฝืนผิดวัตถุประสงค์โครงการ ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ”

ขณะที่ น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์ในโครงการคนละครึ่งพลัสที่ประชาชนใช้สิทธิไม่ถึงวันละ 200 บาท จะถูกตัดสิทธิ์ ว่าไม่เป็นความจริง ประชาชนสามารถใช้สิทธิได้เต็มจำนวน ไม่มีกำหนดยอดขั้นต่ำต่อวัน และหากยอดใช้จ่ายในวันใดไม่ถึง 200 บาท ระบบจะยกยอดไปใช้ได้ในวันถัดไป ภายในระยะเวลาโครงการ ซึ่งเปิดให้ใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2568.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง