ปราบธุรกิจสีเทาคึกคัก! "อภิสิทธิ์" ยื่น ปปง.สอบ "2 อดีต รมต." ในรัฐบาลชุดนี้-ชุดที่ผ่านมา อาจเอี่ยวสแกมเมอร์ หลังพบความผิดปกติ ทำธุรกรรมเริ่มจากทุนจดทะเบียน 10 เหรียญสหรัฐ แต่เข้าซื้อกิจการมูลค่าสูงกว่าล้านเท่า จนเชื่อมโยงบริษัทพลังงานหลักของไทย เป็นเหตุขัดแย้งไทย-เขมร "เท้ง" ยันไทยเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน "อนุทิน" โชว์ผลงาน 2 ยุทธการใหญ่ "ตัดหมอกเวียงแหง-สกัดยานรก" ทลายแก๊งส่วยสัญชาติ ฟันนายอำเภอและเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อจีนเทา ลั่นไม่ปกป้องคนผิด
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค และนายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรค เดินทางเข้ายื่นหลักฐานเส้นทางธุรกรรมการเงินของกระบวนการสแกมเมอร์
โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมีรายชื่อของคนที่อยู่ในกฎหมายของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังพบว่ามีความผิดปกติของการทำธุรกรรม เริ่มต้นเพียงแค่ 10 เหรียญสหรัฐ หรือ 330 บาทไทย ที่เป็นทุนจดทะเบียนของบริษัท ที่มีอดีตรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สามารถเข้ามาซื้อกิจการซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าเป็นล้านเท่า จนในที่สุดบริษัทเหล่านี้ก็มาเชื่อมโยงกับบุคคลที่มีรายชื่อในสหรัฐอเมริกา และปลายทางยังเชื่อมโยงมาถึงบริษัทพลังงานหลักของประเทศไทย ที่เคยตกเป็นข่าวมาแล้วว่าอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา
โดยธุรกรรมที่พบผิดปกติ จะมีตั้งแต่เรื่องของการซื้อขายหลักทรัพย์ราคาเกินจริงกว่าในตลาด มีการจัดทำโครงสร้างบริษัท เพื่อหลบเลี่ยงการห้ามทำกิจกรรม เพราะเป็นบริษัทต่างชาติ และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย
“วันนี้ที่เรามายื่นที่ ปปง. เพราะว่ามีความผิดปกติทางธุรกรรม ตามกฎหมาย ปปง. มีเหตุผลเพียงพอที่ ปปง.จะสามารถเริ่มต้นกระบวนการตรวจสอบได้ และสิ่งที่ต้องการให้ ปปง.ทำคือ ใช้ความผิดปกติของธุรกรรมเหล่านี้ ซึ่งมีหลักฐานแล้วนำไปขยายผล เชื่อมโยงไปยังรายชื่อของบุคคลต่างๆ และเพิ่มชื่อบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในตรงจุดนี้ เพื่อนำไปสู่การระงับการทำธุรการ อายัดทรัพย์ และการประสานงานกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงสถาบันการเงินอื่นๆ ให้ค้นหาได้ว่าธุรกรรมที่ผิดปกติ เจ้าของเงินที่ได้ประโยชน์ที่แท้จริงคือใคร เราเชื่อว่าจะสามารถขยายผลไปยังคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนรายชื่อที่มีการส่งให้ ปปง.ในวันนี้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเอกสารที่มีชื่อบุคคลเหล่านี้ ซึ่งเป็นเอกสารสาธารณะที่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากธุรกรรมหลายธุรกรรมต้องดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น ตามกระบวนการจะต้องทำรายงานในการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า อดีตรัฐมนตรีเคยเป็นประธาน ก.ล.ต.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ประธาน ก.ล.ต.ไม่ใช่นักการเมือง ส่วนในระดับรัฐมนตรีมีกี่คนที่เกี่ยวข้องนั้น นายอภิสิทธิ์ย้ำว่า มี 2 ทั้งอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้และอดีตรัฐมนตรีชุดที่แล้ว
"แม้จะมีรายชื่ออดีตรัฐมนตรี 2 ท่าน เราก็มั่นใจว่ามีร่องรอยหลายอย่างน่าจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ไทยเป็นศูนย์กลางฟอกเงิน
ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม Inside the Whale Hunting Investigation: A Conversation With Tom Wright
โดยมีนักวิชาการ สื่อมวลชนหลายสำนัก ร่วมรับฟังการบรรยายผลงานการสืบสวนเรื่องราวของ เบน สมิธ หรือ เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ซึ่ง ทอม ไรต์ ผู้สื่อข่าวสอบสวนที่มีผลงานการเปิดโปงการทุจริตเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ (1 MDB) ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากผู้ที่สนใจเครือข่ายของเบน สมิธ ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ และความสัมพันธ์ของเบน สมิธ กับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
ช่วงหนึ่ง ทอม ไรต์ บรรยายถึงที่มาของเบน สมิธ ตลอดจนความสัมพันธ์ของเบน สมิธ กับบุคคลระดับสูงในประเทศไทยอย่างนายทักษิณ ชินวัตร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมทั้งแสดงข้อมูลหลักฐานจากการสืบสวนติดตามเครือข่ายของเบน สมิธ ในฐานะเจ้าพ่อสแกมเมอร์ในประเทศกัมพูชา
นายณัฐพงษ์ได้ให้ความเห็นว่า ข้อมูลของเบน สมิธ ที่ทอม ไรต์ เปิดเผย เราต้องยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่แค่เหยื่อ แต่เป็นศูนย์กลางของการฟอกเงินให้ขบวนการเหล่านี้ด้วย ประเทศไทยไม่ใช่แค่ผู้ได้รับผลกระทบ แต่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เพราะมีนักการเมือง นักการเงิน และข้าราชการไทยสมรู้ร่วมคิดในกระบวนการฟอกเงิน และถ้าหากไม่มีการฟอกเงิน กระบวนการทั้งหมดก็จะไม่ครบวงจร
ไม่ว่าจะเป็น 1.การตั้งศูนย์สแกมเมอร์ในประเทศที่ผู้มีอำนาจยอมให้จัดตั้งได้ 2.ได้รับอานิสงส์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ดีจากประเทศไทย เช่น สนามบิน ถนนหนทาง ไฟฟ้า เชื้อเพลิงน้ำมัน และสัญญาณอินเทอร์เน็ต 3.เริ่มโกงเงินคนทั้งโลก รวมทั้งคนไทยด้วย 4.เมื่อได้เงิน ก็ใช้วิธียักย้ายถ่ายโอนและนำเงินใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน ซึ่งประเทศไทยเข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะเครื่องจักรฟอกเงิน 5.เมื่อเงินมาอยู่บนดินแล้ว ก็สามารถยักย้ายถ่ายเทไปลงทุนเป็นหุ้นส่วนในบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยและต่างประเทศได้
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นำแถลงผลการปฏิบัติการ "ยุทธการตัดหมอกเวียงแหง" โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และภาคีเครือข่าย และ "ยุทธการสกัดยานรก" โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคีเครือข่าย
นายอนุทินกล่าวว่า จากกรณีเรียกรับผลประโยชน์คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือที่สื่อมวลชนเรียกว่า "ส่วยสัญชาติ" บ่อนทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโดยทันที โดยมีกรมการปกครอง, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บูรณาการเปิดปฏิบัติการ "ตัดหมอกเวียงแหง" เพื่อตรวจสอบปฏิบัติการขบวนการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิอาศัยถาวรแก่คนต่างด้าวโดยมิชอบ และได้ทำการสืบสวนขยายผลโดยพบว่าขบวนการนี้มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มจีนเทาซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
โชว์ผลงาน 2 ยุทธการใหญ่
นายกฯ ระบุว่า มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการเร่งรัดให้สัญชาติไทยแก่กลุ่มเป้าหมาย 480,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์และชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในไทยมานาน รวมถึงบุตรที่เกิดในไทยเรื่องสัญชาติดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย และในช่วงที่เป็นการเริ่มขบวนการยื่นขอสถานะที่ทำให้เกิดเหตุนี้ขึ้นในช่วงที่ตนพ้นจากตำแหน่งไประยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง และพ่วงตำแหน่งนายกฯ จึงได้จัดการให้กรมการปกครองเร่งดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดต่อผู้กระทำผิดโดยเร็วที่สุด
นายอนุทินย้ำว่า เป็นความน่าอับอายและเลวร้ายยิ่ง เพราะกระบวนงานนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐบางรายเกี่ยวข้องด้วย โดยได้หาผลประโยชน์จากสิทธิของประชาชนกลุ่มเปราะบางที่มีกว่า 4.8 แสนคน ที่รอคอยสถานะทางกฎหมายและสัญชาติไทย หลายคนรอระยะเวลา 30-40 ปี ซึ่งเปิดทางให้อาชญากรรมข้ามชาติและธุรกิจผิดกฎหมายเข้ามาปลอมแปลงตัวตน และมีผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของประเทศ ที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีการกระทำการทุจริตลักษณะนี้มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2554 โดยได้มีการจับกุมปลัดอำเภอในคดีลักษณะเดียวกันนี้ บางคนถูกลงโทษจำคุก 5 ปี รวมถึงคดีในปี 2563 แต่ยังเกิดขึ้นอีกในปีนี้ และนี่คือเหตุผลที่กระทรวงมหาดไทยจึงได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานทำการ "ล้างบางให้สิ้นซาก" ไม่ให้เกิดการทำผิดซ้ำขึ้นมาอีก ทั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กระทรวงมหาดไทยออกหมายจับระดับนายอำเภอ
"เรามีความตั้งใจจริงที่จะไม่ปกป้องคนผิด และปราบปรามกระบวนการที่ก่อให้เกิดความเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ขอยืนยันว่า ในรัฐบาลชุดนี้ หน่วยงานราชการที่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องการป้องกันและปราบปราม และสร้างความมั่นคงให้กับบ้านเมืองและรักษากฎหมาย ไม่ข้องแวะกับเรื่องเหล่านี้เด็ดขาด" นายอนุทินระบุ
จากนั้น นายกฯ ได้แถลงผลการปฏิบัติการยุทธการ "สกัดยานรก" ปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยสามารถยึดของกลางยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยาบ้าและยาไอซ์ จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาในกระบวนการลำเลียงและผู้เกี่ยวข้องพร้อมพยานหลักฐานที่สามารถนำไปขยายผลต่อยอดได้ เป็นปฏิบัติการตัดวงจรทั้งระบบ ทั้งผู้ผลิต ผู้ลำเลียง ผู้ค้ารายย่อย ไปจนถึงเครือข่ายการเงินที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อนำคนทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมสูงสุด ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาทั้งหลาย บัญชีม้า สแกมเมอร์ การลักลอบเข้าเมือง ขอให้ความมั่นใจในการปฏิบัติการของทุกท่านว่า เราประกาศตัวเป็นศัตรูกับผู้ค้ายาเสพติดและผู้กระทำผิดกฎหมายต่อความมั่นคงของประเทศไทยในทุกรูปแบบ
สำหรับผลการปฏิบัติ "ยุทธการตัดหมอกเวียงแหง" ออกหมายจับ 28 ราย โดยจับได้ทั้งหมด 12 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 10 ราย กลุ่มนายหน้า 1 ราย และบุคคลต่างด้าว 1 ราย และยึดของกลางจำนวนมาก ส่วน "ยุทธการสกัดยานรก" ระหว่างวันที่ 13-19 พ.ย.2568 จับกุมยาเสพติดได้ 3 คดี ยาบ้ารวม 11 ล้านเม็ด ไอซ์ จำนวน 500 กิโลกรัม และอายัดทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติดได้หลายรายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราชกิจจาฯ ประกาศ ป.ป.ง. ‘บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง’
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเรื่อง บุคคลที่มีสถานภาพทางการเมือง
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


