"อนุทิน" รับสภาพการเมืองถึงจุดไปต่อไม่ได้ ชี้รัฐบาลเสียงข้างน้อยอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไรก็แพ้ ลั่นหากรอไม่ไหว 12 ธ.ค.พร้อมยุบสภา โยนหลายเรื่องไม่เสร็จไปโทษกันเอง "จุลพันธ์" พลิ้วไม่ตอบยื่นซักฟอกมาตรา 151 บอกแค่ไม่ได้เตรียมยื่นมาตรา 152 ดักทางนายกฯ แค่ยื่นญัตติอภิปรายก็ยุบสภาหนีไม่ได้ "พท." คึก "วราเทพ" คืนถิ่น มั่นใจปักธงกำแพงเพชร "อภิสิทธิ์" แย้ม "ปชป." ยุคใหม่เสนอ "แคนดิเดตนายกฯ" ครบ 3 คน อุบแย้มชื่ออีก 2 ราย อ้างเปิดก่อนเสียเปรียบ "ณัฐวุฒิ" ระบุ "ปชน." มุ่งแก้ รธน.ก่อนซักฟอก หวัง ครม. 25 พ.ย.ไฟเขียวเปิดสมัยวิสามัญ ทันถกวาระ 2 ห้วง 8-11 ธ.ค. "อิ๊งค์" เยี่ยม "ทักษิณ" บอกพ่อเครียดเยอะ ถ้าได้สิทธิ์ออกมาพักก็คงจะดี "อัยการ" ยื่นขยายอุทธรณ์คดี "แม้ว" หมิ่นเบื้องสูงครั้งที่ 3
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาช่วงกลางเดือน ธ.ค. ก่อนไทม์ไลน์วันที่ 31 ม.ค.69 ว่า ไม่ทราบกระแสข่าวมาจากไหน จึงไม่รู้จะตอบอย่างไร ซึ่งความเป็นนายกฯ ต่างจากรัฐมนตรีคนอื่นๆ คือการมีไว้ซึ่งอำนาจการทูลเกล้าฯ ถวายออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภา ส่วนกระแสข่าวจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่
"ตัวนายกฯ เขาไม่ยุบก็คือไม่ยุบ หรือจะไม่มีกระแสข่าว แต่นายกฯ เห็นว่าควรจะยุบก็ยุบ ตรงนี้เป็นสิทธิ์ และเป็นอำนาจที่นายกฯ มีอยู่แล้วภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่อย่างไรก็ทำงานทุกวัน ไม่มีปัญหาอะไร" นายอนุทินกล่าว
ถามว่า ประเมินหรือไม่กระแสข่าวมาได้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ประเมินไปก็ป่วยการ เสียเวลาทำงานเปล่าๆ
ถามถึงการเปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มีชื่อนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ มีนักวิชาการออกมาให้ความเห็นว่าจะสามารถช่วยดึงคะแนนของกลุ่มคนวัยทำงานได้เพิ่มมากขึ้น ถือว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกเรื่องเป็นเรื่องที่ดีหมด แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดตัวอะไรทั้งสิ้น
"ผู้สื่อข่าวถามมาก็เพียงตอบความคิดตัวเองไป ใครก็ตามที่มีความสามารถ ผลงาน และมีความตั้งใจในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพรรค ภท. ต้องเร่งหาคนที่มีฝีมือ หากเขามีความยินดีที่จะมาช่วยเหลือบ้านเมือง ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนางศุภจีแต่อย่างใด" นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า มีการส่งสัญญาณยุบสภาไปยังพรรคร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ต้องส่งสัญญาณ ตนเคยพูดมาเรื่องยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ ที่จะเสนอ แต่สุดท้ายก็เป็นพระราชอำนาจ คนที่ทูลเกล้าฯ ถวายให้ทรงวินิจฉัยคือนายกฯ ไม่ต้องไปหารืออะไรกับใคร
ซักว่าการเปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ครบทั้ง 3 คน อาจเป็นการส่งสัญญาณชิงจังหวะยุบสภาก่อนกำหนดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราเป็นการเมือง เราเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ต้องมีความพร้อมในการดำเนินการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด และต้องบริหารจัดการบ้านเมืองโดยรู้ว่ามีระยะเวลาที่จำกัด ซึ่งก็ต้องทำให้ดีที่สุด
เมื่อเวลา 16.15 น. นายอนุทินกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Change for the Future” ตอนหนึ่งระบุว่า เรื่องการเมืองไม่ต้องไปฟัง เพราะไม่นานตนก็ยุบสภา แล้วจะคืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะสภาพการเมืองที่ดำรงมาจนถึงจุดนี้ต้องยอมรับตรงๆ ว่าไปต่อไม่ได้ เพราะรัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่ต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะอภิปรายไปก็แพ้
รอไม่ไหว 12 ธ.ค.พร้อมยุบสภา
"เบื้องต้นก็ยังว่า 31 ม.ค.จะยุบสภา แต่หากรอไม่ไหวจะให้ยุบวันที่ 12 ธ.ค.ก็พร้อม แต่หากมีอะไรที่ทำไว้แล้วไม่เสร็จหลายอย่างก็ต้องไปเบลม (ตำหนิ) คนนั้นมาว่าผมไม่ได้ ผมมองว่าต่อให้อภิปรายดีหรือตอบโต้ดีแค่ไหนรัฐบาลก็แพ้ เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะไม่มีทางวินวิน วันนี้ผมไม่ได้ให้วินวินกับทางการเมือง แต่อยากให้วินวินกับประชาชน" นายอนุทินระบุ
ที่รัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายกฯ ระบุการยุบสภาต้องเอาตามอนุทินว่า ท่านใช้คำว่าเอาตามอนุทิน แต่ตนมองว่าน่าจะเข้าใจผิด เพราะกระบวนการในการยื่นอภิปรายตามมาตรา 151 ถูกกำหนดชัดว่าเมื่อถูกยื่นแล้วและใช้คำว่าเสนอญัตติไม่ใช่การบรรจุญัตติสู่สภา จะไม่สามารถยุบสภาได้ ฉะนั้นจะไม่มีข้อบังคับการประชุมหรืออะไรที่ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญชัดเจนในเรื่องนี้กำหนดว่าเมื่อมีการเสนอญัตติแล้วจะยุบสภาไม่ได้ เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงการตรวจสอบ
"คงไม่ใช่การตามใจนายอนุทิน แต่กระบวนการในการยื่นตามมาตรา 151 หรือ 152 อันนี้ต้องตามใจจุลพันธ์ ต้องตามใจพวกผม เพราะพวกผมเป็นฝ่ายค้าน เรามีหน้าที่ในการตรวจสอบ ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องมาดูว่า ความผิดและความเสียหายต่อประเทศอยู่ในขั้นไหน" นายจุลพันธ์กล่าว
ถามว่า หากดูไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 คือช่วงสิ้นเดือน ธ.ค. และตามกรอบยุบสภาของรัฐบาลคือช่วงสิ้นเดือน ม.ค. จึงเหลือประมาณ 1 เดือน กรอบเวลาในการยื่นอภิปรายจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ปัญหาไม่ใช่เรื่องกรอบเวลา ต่อให้เหลือเวลา 3 วันแล้วมีความเสียหายต่อประเทศ มีการทุจริตคอร์รัปชัน จะให้พวกตนหยวนๆ ไปเถอะ เราคงทำไม่ได้ เราก็ต้องตรวจสอบก็แค่นั้น
ซักว่า จะเป็นการยื่นญัตติอภิปรายตามมาตรา 151 แน่นอน ไม่ใช่ 152 ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดแบบนั้น แต่ขณะนี้ไม่ได้มีการเตรียมที่จะยื่นมาตรา 152 จากนั้นผู้สื่อข่าวได้แซวว่า พูดขนาดนี้ก็บอกมาเลยว่ายื่นมาตรา 151 ทำให้นายจุลพันธ์ หัวเราะแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับ
นายจุลพันธ์ยังกล่าวถึงกรณีพรรค ภท.เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ ว่า เป็นความพยายามและเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค ที่พยายามผสมภาพที่ไม่ได้เป็นฝ่ายการเมืองเข้ามา แต่รู้อยู่ดีว่าในข้อเท็จจริงตัวจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือนายอนุทิน ซึ่งคงสลัดภาพความเป็นภูมิใจไทยเก่าไม่ได้
ถามว่า พรรค พท.จะใช้จังหวะไหนเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราอยากให้คนรู้สึกอยากรู้เพื่อที่จะได้ติดตาม แต่คาดว่าภายในเดือน ธ.ค.นี้จะมีความชัดเจน และเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพูดคุย หารือ และสรุปผล แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นคนนอกหรือคนใน
"ขอให้รอดูทีเดียว หากให้ข้อมูลก่อนก็จะไปคาดเดากัน เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ แต่หากเปิดมาคงจะตื่นเต้นกัน และจะเป็นที่ประทับใจ ขอให้รอเวลา" นายจุลพันธ์กล่าว
พท.คึก 'วราเทพ' เสริมแกร่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุลพันธ์พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และรองหัวหน้าพรรค, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ร่วมเปิดตัวผู้สมัคร สส. เป็นรอบที่ 5 จำนวน 3 คน คือ 1.นายธนากร รัตนากร (ลูกชายนายวราเทพ) 2.นายนพพล ผลอำนวย (ลูกชายนายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ) และ 3.นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ รวมทั้งมีนายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีสมัยรัฐบลทักษิณกลับเข้ามาอยู่พรรค พท.ด้วย
นายจุลพันธ์กล่าวว่า นายวราเทพเป็นอดีต รมต.ในสมัยของนายทักษิณ วันนี้เราได้ความเข้มแข็งของกำแพงเพชรกลับมา พร้อมกับนายวราเทพ รวมถึงผู้สมัครที่มีแนวโน้มว่าจะชนะการเลือกตั้งได้สูงมาก และทำให้พรรค พท.มั่นใจว่าเราจะปักธงที่กำแพงเพชรได้อย่างแน่นอน
ส่วนนายวราเทพกล่าวว่า อยากกลับมาบ้านที่เคยอยู่มานานแล้ว แต่ไม่มีจังหวะ ซึ่งได้คุยกับผู้บริหาร และทำงานร่วมกับ สส.พรรค พท.มาตลอด จึงเชื่อมั่นจะสามารถได้ที่กำแพงเพชรมาเติมให้ด้วย ซึ่งยังเชื่อมั่นว่าที่หลายคนมองว่าพรรค พท.เป็นขาลงนั้น แต่วันนี้อาจจะมองแค่วันนี้และในบางมิติ แต่หากมองภาพรวมทั้งหมดจนวันเลือกตั้งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ และมั่นใจว่าทีมกำแพงเพชรจะได้ สส. 4 คน ไปรวมในเป้าหมาย 200 คนตามที่นายสุริยะหวังไว้
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการเตรียมพร้อมผู้สมัคร สส.ว่า พรรคเพิ่งเริ่มประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้เราเร่งเฟ้นหาผู้สมัครที่เชื่อในแนวทางการเมืองที่เราอยากจะทำให้เร็วที่สุด ซึ่งแคนดิเดตนายกฯ หาไม่ยาก ชวนใครก็รับทั้งนั้น
ถามว่า พรรค ปชป.จะเสนอคนเดียวหรือ 3 รายชื่อ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในอดีตเราจะเสนอคนเดียว แต่ได้พูดคุยกันในเบื้องต้นว่าเอาเข้าจริงๆ การเสนอชื่อคนเดียวไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงทางการเมือง เพราะเคยเจอมาแล้วตอนปี 2562 ที่ตนมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ เมื่อตนลาออกจากหัวหน้าพรรค พรรคก็ไม่มีแคนดิเดตนายกฯ หัวหน้าพรรคคนใหม่ก็ไม่มีชื่ออยู่ในแคนดิเดต ครั้งนี้จึงเห็นตรงกันเบื้องต้นว่าน่าจะไม่ใช่คนเดียว ต้องเป็น 3 คน
"พรรค ปชป.ยังไม่ได้รายชื่อทั้ง 3 คน เพราะเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค แต่ในใจผมมีรายชื่อแล้ว เพื่อนๆ แถวนี้ก็มีอยู่ แต่ไม่รู้ว่าตรงกันหรือไม่" นายอภิสิทธิ์กล่าว เมื่อผู้สื่อข่าวชี้ไปที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ปชป. แล้วถามว่าใช่คนนี้ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนจะบอกว่า เขาช่วยตนคิดอยู่
ซักว่า พรรค ปชป.จะไม่เปิดรายชื่อเพื่อชิงความได้เปรียบใช่หรือไม่ เนื่องจากพรรค ภท.เปิดไปแล้ว หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า “ผมเป็นคนชอบดูกีฬา แล้วพอดีทำอะไรก่อนมันเสียเปรียบ”
ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ พรรค กธ.เตรียมจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.บางส่วน โดยเฉพะในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ที่เดิมพรรค กธ.มี สส. 2 รายคือ นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรค สส.กำแพงเพชร เขต 1 และนายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.กำแพงเพชร เขต 2 แต่การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง พรรค กธ.จะส่งครบทั้ง 4 เขต โดยนายไผ่และนายเพชรภูมิจะลงในเขตเดิม ส่วนเขต 3 และเขต 4 เดิมเป็น สส.สังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในกลุ่มของนายวราเทพ ที่เพิ่งเปิดตัวกับพรรค พท. ซึ่งพรรค กธ.จะส่งผู้สมัครลงไปแข่งด้วย โดยในเขต 3 จะส่ง น.ส.พิชญา อาภรณ์รัตน์ พี่สาวของนายเพชรภูมิ ไปแข่งกับลูกชายของนายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร ที่จะลงสมัครในนามพรรค พท. ส่วนเขต 4 เตรียมจะส่งนายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร เขต 4 ลง ที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพรรค กธ.
นอกจากนี้ มีรายงานอีกว่า นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ ในกลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมจะมาเปิดตัวกับพรรค กธ.ด้วย โดยไม่ได้ตามนายสันติไปอยู่กับพรรค ภท.ด้วย เนื่องจากผิดหวังเรื่องการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายจองชัย เที่ยงธรรม สมาชิกพรรค ชทพ. กล่าวถึงกระแสข่าวนายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ชทพ. จะย้ายไปร่วมงานการเมืองกับพรรค ภท.ว่า ตนเป็นพวกอนุรักษนิยม ไม่อยากให้ไป ในตอนที่นายวราวุธรับช่วงต่อดูแลพรรค ชทพ.จากนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ในฐานะบิดา เคยระบุจะรักษามรดกของพ่อบรรหารไว้ ซึ่งตนอยากให้ทบทวนคำพูดดังกล่าวให้ดีและให้ลึกซึ้ง
ปชน.นิ่งซักฟอกมุ่งแก้ รธน.
ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐสภาได้รับหลักการมาว่า ขณะนี้กระบวนการและหลักการที่กรรมาธิการกำหนดไว้ทั้งกลไกร่างรัฐธรรมนูญ การรับฟังความเห็น กระบวนการรัฐสภา หลักการพื้นฐานและข้อห้ามบางประการ สาระสำคัญทั้งหมดกรรมาธิการจะพิจารณาให้แล้วเสร็จทั้งหมดในวันที่ 21 พ.ย.นี้อย่างละเอียดรอบคอบ
"มั่นใจจะแล้วเสร็จตามกำหนด ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ที่แปรญัตติมาชี้แจง และจัดทำรายงานสรุปให้แล้วเสร็จในวันพุธที่ 26 พ.ย.นี้ ก่อนแจ้งให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา ได้รับทราบ เพื่อได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อมาพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อในวาระที่ 2 ของที่ประชุมรัฐสภา" นายณัฐวุฒิกล่าว
ประธาน กมธ.ร่าง รธน.แก้ไขเพิ่มเติมกล่าวว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 25 พ.ย.นี้ หวังว่าที่ประชุมจะมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภา สมัยวิสามัญ ให้ที่ประชุมรัฐสภาสามารถเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 2 ได้ในห้วงวันที่ 8-11 ธ.ค.นี้ ก่อนการเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญต่อไป เพื่อไม่ให้กระทบกรอบเวลาการลงมติทั้งวาระ 2 และวาระ 3 รวมถึงคำถามในการออกเสียงประชามติ ที่คณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาตั้งคำถาม โดยมีญัตติคำถามที่จะตั้งจากรัฐสภาต่อไป
ถามถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ช่วงนี้พรรค ปชน.ได้ให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก แต่หากมีพรรคการเมืองใดเริ่มต้นในการยื่นอภิปราย พรรค ปชน.ในฐานะฝ่ายค้านก็พร้อมทำหน้าที่เต็มที่
วันเดียวกัน ที่เรือนจำกลางคลองเปรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ซึ่งเป็นการเยี่ยมครั้งที่ 18
น.ส.แพทองธารกล่าวหลังเข้าเยี่ยมว่า การเยี่ยมคุณพ่อวันนี้ได้ทราบว่าทาง ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรมได้ชวนคุณพ่อเข้าร่วมโครงการธรรมนาวา “วัง” ก็เห็นว่าจะแบบนั้น ซึ่งช่วงนี้คุณพ่อก็โอเค ส่วนสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงนั้น คุณพ่อก็สุขภาพร่างกายโอเค แต่สุขภาพใจก็อาจมีความเครียดเยอะหน่อย
ถามถึงกรณี รมว.ยุติธรรมให้กรมราชทัณฑ์พิจารณาทบทวน 3 ประเด็นสำคัญเพื่อปรับปรุงกฎ ระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ และแนวทางการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ สังคมวิจารณ์เหมือนการสกัดไม่ให้นายทักษิณได้ออกมา น.ส.แพทองธารนิ่งคิดสักครู่ก่อนตอบว่า ก็หวังว่าจะเป็นไปตามกระบวนการ แต่คุณพ่ออายุเยอะแล้ว ถ้าได้สิทธิ์ออกมาพักก็คงจะดี เพราะว่าจริงๆ อยู่ข้างในก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว
"ถ้าพูดถึงตอนนี้ดิฉันเองก็ถอยออกจากการเมืองเยอะมากๆ แล้ว แทบจะถอยทั้งหมดแล้ว ก็ปล่อยทั้งพรรคลุยไป ก็คงต้องดูแลจิตใจคุณพ่อ" น.ส.แพทองธารระบุ
มีรายงานด้วยว่า ในคดีดูหมิ่นสถาบันที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้ยกฟ้องนายทักษิณ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะเอาผิดได้ ต่อมาพนักงานอัยการได้ขอขยายอุทธรณ์คดีมา 2 ครั้ง ถึงวันที่ 21 พ.ย. ล่าสุดพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เจ้าของสำนวนคดี ได้มายื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอขยายเวลาอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 3 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาว่าจะอนุญาตให้ขยายอุทธรณ์ครั้งที่ 3 คดีนี้หรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


