หนูกินรวบบ้านใหญ่ ให้พรรคร่วมฯฟังสัญญาณ12ธ.ค./ปชน.เปิด3แคนดิเดต

"ภูมิใจไทย" คึกคักเปิดตัว "ชทพ.-บ้านใหญ่ชลบุรี-บ้านใหญ่ระยอง” เข้าซบ "อนุทิน"  ฟุ้งวันประวัติศาสตร์ ฝันกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง  ลั่นมีแต่ "ก๊วนหนู" ด้าน “วราวุธ” ปัดทิ้งมรดกเตี่ย  รับพรรคเล็กไปต่อยาก “สนธยา” จับมือ “เฮ้ง” ลืมอดีตทำงานให้เมืองชล "2 สส.หญิง พท." โผล่แสดงตัวมา ภท. “นิกร” ยัน ชทพ.ไม่ล่มสลายแค่ปรับยุทธศาสตร์ ดัน “กัญจนา” คัมแบ็กนั่งหัวหน้าพรรค  "ปชน." เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ "ณัฐพงษ์-ศิริกัญญา-วีระยุทธ" ลั่นต้องได้เกิน 250 เสียงจัดตั้งรัฐบาล นายกฯ แจ้งพรรคร่วมฯ สแตนด์บายรอฟังสัญญาณ 12 ธ.ค.นี้ จ่อชง ครม.จัดทำประชามติร่างแก้ รธน.ก่อนเสนอ ปธ.สภาฯ เปิดสมัยวิสามัญแก้ รธน.10-11 ธ.ค.นี้ "เต้น" หนุน พท.ยื่นซักฟอก

เมื่อวันอาทิตย์ มีความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอย่างคึกคัก โดยเมื่อเวลา 09.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2568 แกนนำพรรคทยอยเข้าพรรคอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะเป็นนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม, นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรค ภท. พร้อมทั้งยังมีนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง พี่ชาย นายสาธิต ปิตุเตชะ ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมาร่วมประชุมด้วย กระทั่งเวลา 10.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ได้เดินทางมาถึงที่ทำการพรรค          

ต่อมาเวลา 11.15 น. นายสนธยา คุณปลื้ม  อดีต รมว.วัฒนธรรม ในฐานะแกนนำกลุ่มชลบุรี  และนายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี ได้เดินทางมาที่พรรค ภท. ก่อนที่เวลา 11.25 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมด้วยนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค ชทพ.  และ สส.ชทพ. ประกอบด้วย นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สส.ร้อยเอ็ด, นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สส.สุพรรณบุรี, นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ และนายศุภโชค ศรีสุขจร สส.นครปฐม เดินทางมาที่พรรค ภท. โดยมีอดีต สส.ชทพ. อาทิ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี, นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง, นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ รอให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองอื่นๆ ที่เดินทางมา ภท.ด้วย  อาทิ นายประสาท ตันประเสริฐ สส.นครสวรรค์ ชทพ., นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต รมช.มหาดไทย  รวมถึงนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง และกลุ่มอดีต สส.ระยอง

จากนั้นเวลา 12.15 น. นายอนุทินเปิดเผยว่า  วันนี้ ภท.มีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงต้นปีหน้า จึงต้องเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ แล้วมีผู้แสดงเจตจำนงจะมาทำงานร่วมกัน อย่าง จ.เพชรบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรฯ จะช่วยดูแลคัดสรรที่จะมาร่วมงานกัน  ได้พานายชัยยะ อังกินันทน์ นายก อบจ.เพชรบุรี, นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1, นายฤกษ์ อยู่ดี สส.เพชรบุรี เขต 2, จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่จะมาร่วมงาน และการเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่งลงสมัคร ซึ่งเป็น สส.อยู่แล้ว เพชรบุรีมี สส.ได้ทั้งหมด 3 คน หากได้มาทำงานร่วมกันเชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา ภท.มีความเป็นเอกภาพ แต่ขณะนี้มีหลายกลุ่มการเมืองเข้ามาร่วมงาน จะสามารถคุมพรรคให้เป็นเอกภาพได้ต่อไปหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า "ไม่มีกลุ่มมีก๊วน มีก๊วนเดียว ก๊วนหนูนี่แหละ ทุกคนเรียกผมพี่หมด และนายสุชาติก็บ้านติดกัน คุยกันทุกคืน จะไปไหนผมก็ตามถึงบ้าน"

"ฝันต่อไปคือขอให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มาก นั่นคือความฝันอันสูงสุด"  นายอนุทินกล่าวเมื่อถามว่าฝันต่อไปคือการได้กลับมาเป็นนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่

เมื่อถามถึงกลยุทธ์ที่จะทำให้ ภท.เป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายอนุทินกล่าวว่า เราร่วมกันทำงานและทำงานกันอย่างเต็มที่ นโยบายอะไรที่สัญญาไว้กับประชาชนก็ทำให้เต็มที่ ให้ประชาชนเห็น เห็นแล้วก็คงจะมั่นใจและได้รับความไว้วางใจ

ฟุ้ง! วันประวัติศาสตร์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมใหญ่สามัญวันนี้มีการพูดถึงการวางตัวแคนดิเดตนายกฯ ของ ภท.แล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ต้องเป็นไปทีละขั้นตอน ยังไงก็มาแน่ ส่วนกรณีของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ก็เริ่มพูดคุยซึ่งวันนี้ ก็มาร่วมประชุมที่ ภท. เราก็ต้องคุยในรายละเอียด เพราะตามรัฐธรรมนูญสามารถเสนอชื่อนายกฯ ได้ 3 คน เราต้องเติมเต็มและเตรียมความพร้อมไว้ เพื่ออนาคตเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ทั้งนี้ ทิศทางของพรรค แนวนโยบายของพรรค บุคลากรของพรรค ที่เข้ามาจะทำให้เป้าหมายของเราได้บรรลุเป้าหมาย เพราะมีแต่คนมีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ

เมื่อถามถึงกรณี สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) บางคนมาปรากฏตัวในการประชุมใหญ่ ภท.ในวันนี้ ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่จะร่วมงานกัน นายอนุทินกล่าวว่า มาถึงวันนี้แล้ว และการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะเกิดขึ้นภายในเดือน 2 เดือนนี้ คงไม่มีอะไรต้องหลบๆ ซ่อนๆ ซึ่งไม่ดีหรอก จะเห็นได้ตั้งแต่ตั้งรัฐบาล ใครมาก็เปิดให้ประชาชนเห็นเลย ไม่ใช่แอบๆ มาแล้วโผล่ชื่อในภายหลัง คนไหนคุยเรียบร้อยหมดแล้วก็เอามาเปิดเผย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายอนุทินกำลังให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่า น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พท. และ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พท. ซึ่งสวมเสื้อฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มาปรากฏตัวที่หน้า ภท. โดยภายหลังนายอนุทินให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นได้นำทั้งสองคนมาเปิดตัวกับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า “โอเคนะ ให้ภาพเล่าเรื่อง” เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามความชัดเจนของทั้งสองคน นายอนุทินได้ตัดบทและพาทั้งสองคนขึ้นไปพูดคุยต่อ โดยบอกว่า "เซฟลูกพรรค"

ต่อมาเวลา 14.20 น. นายอนุทินแถลงเปิดตัวนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ., นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มชลบุรี, นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ร่วมงานกับ ภท. โดยนายอนุทินกล่าวว่า วันนี้พรรค ภท.มีโอกาสต้อนรับผู้ที่จะมาร่วมการทำงานการเมืองด้วยกันในนาม ภท. ภายหลังจากการมียุบสภาและมีการเลือกตั้งครั้งหน้าที่ใกล้จะถึงนี้ เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ วันนี้ถือโอกาสมายืนยันว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ภท.จะมีกลุ่มของนายวราวุธ มาพร้อมกับสมาชิกที่สังกัด ชทพ. และมีทางนายสนธยาที่จะทำการเมืองร่วมกันในนาม ภท. ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ส่วน จ.ระยอง มีนายปิยะ ที่จะมาทำงานการเมืองร่วมกับ ภท.

"ทุกท่านล้วนแต่มีเป้าหมาย จุดประสงค์ และเจตนารมณ์เดียวกัน คือตั้งใจเข้ามาอาสาทำงานรับใช้ประเทศชาติ ประชาชน และทำความเจริญก้าวหน้าให้ประเทศไทยมากที่สุด ด้วยประสบการณ์ ศักยภาพ และเครือข่ายต่างๆ ที่เรามีอยู่ ซึ่งชัดเจนว่าเมื่อมีการยุบสภา ท่านทั้งหลายจะมาทำงานด้วยกัน" นายอนุทินกล่าว

ด้านนายวราวุธกล่าวว่า ขอชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวศิลปอาชาทิ้ง ชทพ.ว่า วันนี้ยังมีศิลปอาชาอยู่ และผู้ใหญ่ของ ชทพ.ยังดำเนินกิจกรรมของพรรคอยู่ ไม่ได้ทิ้งไปไหน ส่วนเหตุผลที่ยกกลุ่มมาร่วมงานกับ ภท. เดี๋ยวถึงเวลาพอยุบสภาจะได้เห็นถึงความชัดเจนอย่างที่นายอนุทินกล่าว แน่นอนเราอยากทำงานให้ประชาชนให้มีประสิทธิภาพ

'ท็อป' ปัดทิ้งมรดก 'บรรหาร'

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าเรื่องพรรคเล็กอาจจะไปได้ยาก และจะย้ายเข้าพรรคใหญ่ นายวราวุธกล่าวว่า ไม่ผิด เพราะจริงๆ แล้วในระบบการเมือง ไม่ว่าจะในประเทศไหนก็ตาม การที่มีพรรคการเมืองจำนวนมากจะทำให้เกิดพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นจำนวนมาก หากดูจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษ ที่มีพรรคการเมืองหลักอยู่ 2-3 พรรค ทำให้การทำงานมีความราบรื่นมากขึ้น และเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่สุพรรณบุรีเข้าใจ ถ้าได้มีโอกาสช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ ประชาชนจะเห็นถึงการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว เป็นการเห็นพ้องต้องกันของสมาชิกที่อยู่ในพรรค

 “พรรค ชทพ. พ่อบรรหารเองรับไม้ต่อจากราชครู และที่ผมกล่าวไปคือ ศิลปอาชายังอยู่คู่กับพรรค ชทพ.อยู่ ที่สำคัญการตัดสินใจดำเนินการทางการเมืองแบบนี้เป็นการรักษามรดกของผมเองไว้ด้วย” นายวราวุธกล่าวเมื่อถามว่าเป็นทิ้งพรรคซึ่งเป็นมรดกของบิดาหรือไม่

ขณะที่นายสนธยากล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ถูกกับนายสุชาติ ชมกลิ่น จริงหรือไม่  ว่าการทำงานทางการเมืองหรือวิถีทางการเมือง  บางครั้งในเรื่องการแข่งขันมันก็มีเป็นเรื่องปกติของการเมือง ณ วันนี้ เรื่องการทำงานในนามของ ภท.ทำให้เห็นชัดเจนว่าวิถีกับวิธีการทำงานทางการเมืองที่ จ.ชลบุรี เราทำงานในนามของ ภท.ชลบุรี ทำงานด้วยกัน เดินหน้าไปด้วยกัน เพื่อที่จะสร้างความไว้วางใจ หรือทำให้เห็นว่าทีม ภท.ชลบุรีมีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน โดยมีนโยบายของพรรคเป็นหลัก และมีพวกเราเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคในพื้นที่

ด้านนายปิยะกล่าวถึงการร่วมงานกับ ภท.ว่า  วันนี้ก็อยู่ด้วยกัน มีความคุ้นเคยกัน ดีใจที่มาคุยกัน ทราบว่านายกฯ มีนโยบายที่กระจายอำนาจผลักดันให้ท้องถิ่น ส่วนกรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.ระยอง ปชป. จะย้ายตามมา ภท.ด้วยหรือไม่นั้น ปัญหาครอบครัวนายสาธิตเป็นลูกน้องนายกฯ  พี่น้องอาจจะคุยกันยากหน่อย เจ้านายกับลูกน้องอาจจะคุยกันได้ เลยยกให้นายอนุทินเป็นคนไปคุย ก็ไม่มีปัญหาอะไร เรายังเป็นสายเลือดเดียวกัน 

ขณะที่นายอนุทินกล่าวเสริมว่า “เอาน่ะ พี่เฮ้ง (นายสุชาติ ชมกลิ่น) กับพี่แป๊ะ (นายสนธยา คุณปลื้ม) ยังมาดีกันได้เพราะน้องหนู (นายอนุทิน)” วันนี้อาจจะเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางการเมือง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาทำการเมืองมาด้วยการแตกแยก มีแต่คิดถึงตัวเองเป็นหลัก วันนี้เราสามารถเปลี่ยนบริบททางการเมือง คนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือประชาชน ถ้าผู้แทนราษฎรไม่ถูกกัน ทะเลาะกัน คือประชาชนแตกแยกกัน ไม่มีประโยชน์ใดๆ กับประชาชนและประเทศชาติ วันนี้มาเป็นพลังเดียวกันเพื่อทำให้เกิดการพัฒนา เกิดความสงบเรียบร้อย ความสามัคคี ทำให้ประเทศไทยของเรากลับมาเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้

เมื่อเวลา 14.50 น. ภายหลังนายอนุทินเดินทางออกจากที่ทำการพรรค  ภท. ปรากฏว่านายสนธยา คุณปลื้ม ได้เรียกนายสุชาติ ชมกลิ่น พูดคุยเป็นการส่วนตัวบริเวณหน้าลิฟต์ชั้น 1 ของที่ทำการพรรค ภท.ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นอกจากนี้ ยังมีนายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี มาร่วมสมทบพูดคุยด้วย ซึ่งมีข้อสังเกตว่า การที่บ้านใหม่และบ้านใหญ่ชลบุรีมาร่วมงานกับ ภท. เป็นที่จับตาเรื่องการแบ่งเขตการเลือกตั้ง เป็นสัญลักษณ์ของบ้านใหญ่แสนสุข ตระกูลคุณปลื้ม และเป็นบ้านใหม่ของนายสุชาติ ซึ่งเคยเป็น สส.ในเขตดังกล่าว จึงต้องจับตาว่าจะมีข้อตกลงอย่างไร ว่าจะให้นายสนธยา หรือนายสุชาติ เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องผู้สมัครในพื้นที่เขต 1 ชลบุรี

'สนธยา-เฮ้ง' เคลียร์ใจ

มีรายงานว่า การเลือกตั้งสมัยหน้า นายสุชาติ ขอเขต 1 แต่นายสนธยาไม่ยอม เพราะถือเป็นฐานเสียงเดิม นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ แสดงความประสงค์จะส่งคนของตัวเองลงสมัครเขต 8 และเขต 9 แต่นายสนธยาไม่ยอม เนื่องจากต้องการดูแลรับผิดชอบด้วยตัวเอง

ต่อมานายสนธยาเปิดเผยหลังหารือกับนายสุชาติ เมื่อสื่อมวลชนสอบถามประเด็นที่พูดคุย  นายสนธยาได้เชิญนายชาดามายืนคั่นกลางระหว่างนายสนธยากับนายสุชาติ ก่อนที่นายสนธยากล่าวว่า เราลงสมัครในนาม ภท.ชลบุรีอยู่แล้วตามที่นายอนุทินหัวหน้าพรรคแถลง เป็นการทำงานร่วมกันของกลุ่มชลบุรีในนาม ภท.

เมื่อถามว่า พื้นที่เขต 1 ชลบุรีลงตัวแล้วใช่หรือไม่ นายสนธยากล่าวว่า พื้นที่เขต 1 ยังต้องคุยกันกับทีมงาน ซึ่งทั้งหมดชลบุรีมี 10 เขต กำลังคุยกันในเรื่องตัวบุคคลที่จะลงสมัคร ชลบุรีไม่มีปัญหา ยืนยันเขต 1 ไม่ควรจะมีปัญหาอะไร มันควรจะลงตัว  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า 2 คนจับมือโชว์ได้หรือ นายสุชาติปรี่เข้ามายกมือไหว้พร้อมจะจับมือ แต่นายสนธยาเพียงแต่รับไหว้และตบไหล่นายสุชาติ ไม่ได้จับมือด้วยแต่อย่างใด

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ  และ รมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำ ภท. ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ ได้แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 3 เขต จ.พัทลุง ประกอบด้วย เขต 1 น.อ.อธิคุณ คงมี, เขต 2 นายวรท เทอดวีระพงศ์ และเขต 3 นายเขมพล อุ้ยตยะกุล สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ จะมีนายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต รมช.มหาดไทย เป็นอีกแรงหนุนในพื้นที่ จ.พัทลุง รวมถึงนางนาที รัชกิจประการ จะเป็นแม่งานหลักในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะที่ จ.พัทลุง  มั่นใจว่าจะขอคะแนนเสียงจากประชาชนในพื้นที่ ช่วยเลือก สส.ของพรรคทั้ง 3 เขต เพื่อเป็นตัวแทน สส.เข้าสภา ขับเคลื่อนการพัฒนา จ.พัทลุงต่อไป

น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ในฐานะโฆษก ภท.  แถลงภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญว่า ที่ประชุมมีการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาในส่วนตัวแทนประจำจังหวัด และหัวหน้าสาขาพรรค สัดส่วน 11 คน โดย 5 คนมาจากกรรมการบริหารพรรค และอีก 6 คนมาจากการเลือกตั้ง เพื่อเตรียมทำไพรมารีโหวต และเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งต่อไป   นายอนุทินกำชับในที่ประชุมว่า ให้เตรียมตัวในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จากที่มีข่าวมาหลายๆ แง่มุม และบอกในที่ประชุมว่า ให้เตรียมตัวฟังสัญญาณในวันที่ 12 ธ.ค. ว่าอาจมีอะไรหรือไม่ นอกจากนี้ยังแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่ากรณี MOA กับ ปชน. หนึ่งในข้อตกลงที่ระบุไว้ว่าจะจัดให้มีการทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทินจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ ครม.อนุมัติการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และจะขอให้ประธานรัฐสภาเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พรรค ชทพ. นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค ชทพ. แถลงว่า ได้รับมอบหมายจากนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้า ชทพ. ให้เปิดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและทิศทางในอนาคตของ ชทพ. ปรากฏการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่การยุบพรรค หรือการล่มสลายของ ชทพ. แต่เป็นการปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ เพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชน ยืนยันว่า ชทพ.จะยังคงดำรงสถานะความเป็นพรรคการเมืองและสถาบันทางการเมืองสืบต่อไป โดยเตรียมเสนอชื่อ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรค ให้หวนกลับมารับตำแหน่งหัวหน้า ชทพ.อีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่เป็นเสาหลักในการรักษาบ้านหลังเดิมที่นายบรรหาร ศิลปอาชา และสมาชิกอาวุโสในอดีตได้สร้างไว้ ให้ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจของสมาชิก ชทพ.และประชาชนทั่วไปที่ยังศรัทธาอยู่

นายนิกรกล่าวว่า ความจำเป็นสำคัญที่คณะ  สส.ต้องตัดสินใจไปร่วมงานกับ ภท. จำแนกเป็นประเด็นหลัก 4 ประการ ดังนี้ 1.การก้าวข้ามข้อจำกัดของพรรคขนาดเล็ก 2. อุปสรรคทางด้านการทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาปากท้องและความเดือดร้อนของประชาชน 3.อุดมการณ์ร่วมในการปกป้องสถาบันหลักของชาติ 4.การร่วมสร้างภารกิจประวัติศาสตร์ เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนฉบับใหม่ให้สำเร็จ ส่วนการเลือกตั้งในปี 2569 ชทพ.จะส่งผู้สมัคร สส.ด้วยหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่

ปชน.เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ    

ที่อาคารอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาชน โดยมี 3 คน ได้แก่ นายณัฐพงษ์, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย และนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคฝ่ายยุทธศาสตร์ โดยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตามนโยบายของพรรค เราเลือกคนที่เหมาะสมกับตำแหน่ง และยึดมั่นตามไทยไม่เทา ไทยเท่ากัน ไทยทันโลก ซึ่งนายวีระยุทธทำนโยบายด้านเศรษฐกิจ ส่วน น.ส.ศิริกัญญามาดูแลเรื่องการปฏิรูประบบราชการ

"นี่เป็นโฉมหน้าทำงานของพวกเราในอนาคต เราทำงานเป็นทีม และบอกลำดับชัดเจน เพราะเราเชื่อว่า การนำเสนอตัวในการเลือกตั้ง เราไม่อยากให้เป็นนายกฯ กล่องสุ่ม ไม่ใช่ให้ประชาชนเข้าคูหา และเดาว่าใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป เราต้องการตรงไปตรงมากับประชาชน และหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ใครจะเป็นเบอร์สองและเบอร์สาม"

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ครั้งหน้าเราต้องได้ 20 ล้านเสียง ถ้าเราได้ครึ่งหนึ่ง ปชน.จะไม่มีใครปฏิเสธการเป็นรัฐบาลของพวกเราได้อีก จึงขอการเลือกตั้งครั้งหน้า ขอให้ทุกคนช่วยกัน ส่งต่อพลังรณรงค์ ช่วยกันทำความเข้าใจ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงแล้วจริงๆ

เมื่อถามถึงกรณีนายวราวุธ หัวหน้า ชทพ. เปิดตัวร่วมงานกับ ภท. จะถือว่าผิด MOA หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ในกรอบ MOA อยู่ ตราบใดที่ถ้ามีข่าวมาว่าจะมีการยื่น 151 หรือชิงยุบสภาก่อน แปลว่า ภท.ยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอยู่ เรายังมีอํานาจในการกํากับดูแลตรงนั้นอยู่ หากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดจาก พท. ต้องขอดูเนื้อหาในการอภิปรายก่อน หากมีข้อมูลที่ทุจริตคอร์รัปชันก็คงไม่สามารถหนุนได้อยู่แล้ว

 เมื่อถามว่า หลังผลการเลือกตั้งออกมาแล้วหวั่นใจกับอะไรมาก โดย น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า  เราหวั่นใจเรื่องเดียวที่น่าจะเป็นปมในใจเราตั้งแต่ปี 66 คือการชนะเลือกตั้งแล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้นไม่น่าแปลกใจว่าทําไมเราถึงมีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานขนาดนี้ ที่อยากจะได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว เพราะการที่ได้ต่ำกว่า 250 นั้น แทบจะเป็น 80-90 เปอร์เซ็นต์ ที่เราอาจจะเป็นฝ่ายค้านอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนอยากให้เราเป็นรัฐบาลจะแย่แล้ว

'เต้น' หนุนพท.ยื่นซักฟอก

ที่พรรคเพื่อไทย นำโดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และรองหัวหน้าพรรค, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค, นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรค พร้อมสมาชิก ร่วมเปิดตัวนายภูมิพัฒน์ โหสกุล ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขตดอนเมือง โดยมีประชาชนเขตดอนเมืองประมาณ 500 คน เข้าฟังร่วมแสดงความยินดี           

นายสรวงศ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีการปรากฏภาพ น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น และ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี ของ พท. ไปร่วมการประชุมใหญ่วิสามัญของ ภท.ว่า เหมือนที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้า พท. ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งสองคนนี้เป็นบุคลากรที่พรรคเสียดาย แต่ด้วยความที่ทั้งสองคนไม่ได้ให้ความชัดเจนกับพรรค จึงเป็นไปตามที่เห็น เราให้เกียรติซึ่งกันและกันในการที่ตัดสินใจ ถือว่าทั้งสองคนไม่ได้ร่วมงาน ไม่ได้เป็นผู้สมัครของพรรคในอนาคตอีกต่อไป

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนสนับสนุนให้ พท.ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่ เพราะมีสิทธิตามกฎหมายในการใช้กลไกสภาตรวจสอบรัฐบาล  อีกทั้งความเสียหายที่เกิดจากรัฐบาลไม่มีเวลาที่มาจะรอได้ นายกฯ คนนี้ไปพูดว่าคนไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว หาก ปชน.ไม่เห็นว่าเรื่องนี้ได้สร้างความเสียหายต่อประเทศ ก็มีสิทธิที่จะยกมือสนับสนุนให้นายอนุทินเป็นนายกฯ  ต่อไปได้                 

ที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ พรรคไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรค แถลงข่าวเปิดนโยบายเรือธง ภายใต้หัวข้อ “ยกเครื่องประเทศไทย ด้วยการเมืองสีขาว” พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ทั้งระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ประมาณ 100 คน โดยยืนยันความพร้อมที่จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งปี 2569

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์แต่งตั้งรองโฆษกคนใหม่ เพื่อรับฟังและสะท้อนเสียงของประชาชนให้ดังยิ่งขึ้น ประกอบด้วย 1.นายอภิมุข ฉันทวานิช 2.นายจิรวัฒน์ จังหวัด 3.น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร 4.นายณัฐกานต์ ชูชนะ โดยพรรคมีความตั้งใจที่จะทำให้ทุกเสียง ทุกความเห็น ถูกส่งต่ออย่างตรงไปตรงมาจากทุกคน สู่การตัดสินใจทางการเมืองที่สะท้อนเสียงของทุกคน.