แพทย์แผนไทย ตั้งจุดดูแลปชช. ใน‘สนามหลวง’

พระราชวงศ์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย "สมเด็จพระพันปีหลวง" แพทย์แผนไทยเข้ากราบพระบรมศพ สำนึกพระเมตตายิ่งใหญ่รักษาชาวบ้านด้วยพืชสมุนไพร เปิดจุดนวดแผนไทย-แจกยาดมสูตรดอกมะลิสัญลักษณ์วันแม่ ชายพิการปั่นวีลแชร์จากฉะเชิงเทราเข้า กทม.ร่วมถวายความอาลัย

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.44 น. พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรมจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามและวัดสระเกศ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้าวันละ 8 รูป รับพระราชทานฉันเพลวันละ 8 รูป

เวลา 11.00 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี  เป็นประธานในการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ซึ่งเป็นพระพิธีธรรมจากวัดสุทัศนเทพวรามและวัดจักรวรรดิราชาวาส

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมาชิกในราชสกุลและราชินิกุลร่วมในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ ซึ่งในช่วงเวลา 10.30 น.-11.30 น. เป็นราชสกุลในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้แก่ ราชสกุลสนิทวงษ์, นิลรัตน, อรุณวงษ์, กปิตถา และราชสกุลปราโมช

วันเดียวกัน สำนักพระราชวังรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศของวันที่ 16 เปิดให้เข้ากราบตั้งแต่เช้าถึงบ่าย มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศใช้โอกาสวันหยุด พร้อมใจกันแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระโกศอย่างต่อเนื่อง โดยปิดจุดคัดกรองเวลา 13.00 น. นอกจากนี้มีคณะบุคคลจากจังหวัดต่างๆ อาทิ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, ปัตตานี, พระนครศรีอยุธยา, พังงา, คณะครูและนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ, คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต, สมาคมบัณฑิตคนตาบอดไทย, สมาคมสตรีตาบอดในประเทศไทย, สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ, สมาคมส่งเสริมอาชีพและสวัสดิการคนตาบอด, สมาคมคนตาบอดกรุงเทพ, สภาการแพทย์แผนไทย และนักศึกษาแพทย์แผนไทยรุ่น 22 โรงเรียนภัทรเวชสยามการแพทย์แผนไทย เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ และวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ดร. พท.ภัทราภรณ์ เอกวิทยาเวชนุกูล จิตอาสาสภาการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า คณะจิตอาสาสภาการแพทย์แผนไทยเข้ากราบพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เมื่อครั้งที่สมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จฯ ไปต่างจังหวัดหรือท้องถิ่นที่ห่างไกล จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานตรวจรักษาประชาชน และทรงสนับสนุนการใช้สมุนไพรไทยในการรักษาชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงทรงมีโครงการพระราชดำริอนุรักษ์ป่า  ซึ่งป่าที่อุดมสมบูรณ์ถือเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะสมุนไพรธรรมชาติมากมาย อดีตคนในชนบทเข้าถึงการแพทย์ได้ยาก ซึ่งแพทย์แผนไทยอยู่ใกล้ชิดประชาชน มีแพทย์พื้นบ้านแนะนำสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคแก่ชาวบ้าน แม้แต่พืชผักสวนครัวก็นำมาใช้ดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาวได้ โดยเริ่มต้นจากดูแลตัวเอง ครอบครัวและชุมชน

 "สมเด็จพระพันปีหลวงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล ส่งเสริมการใช้แพทย์แผนไทย นำสิ่งใกล้ตัวมารักษา ปรับสมดุลร่างกายก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิต โดยที่ต้นทุนไม่มาก รวมถึงเป็นต้นทุนที่มีอยู่ในท้องถิ่นต่างๆ ช่วยเหลือประชาชนให้มีสุขภาพที่ดี พึ่งพาตัวเองได้ ชุมชนดูแลชุมชน โดยไม่เป็นภาระของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ซึ่งมีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างให้แก่เหล่าแพทย์แผนไทย ทุ่มเททำงานเพื่อดูแลสุขภาวะของประชาชน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระพันปีหลวง ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้สภาการแพทย์แผนไทยจัดทีมจิตอาสาแพทย์แผนไทย ตั้งจุดบริการประชาชนในพื้นที่สนามหลวง เพื่อดูแลสุขภาพประชาชนที่เดินทางมาเข้ากราบ แจกจ่ายยาดมสมุนไพรสูตรดอกไม้หอม มีส่วนประกอบสำคัญคือดอกมะลิ ซึ่งนอกจากมีสรรพคุณบำรุงหัวใจ ลดอาการวิงเวียนศีรษะแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของแม่แห่งชาติ สื่อถึงความรักบริสุทธิ์ ความกตัญญู แล้วยังมียาดมสมุนไพรเปลือกสมุลแว้งที่มีกลิ่นหอมเฉพาะ ประชาชนที่เดินทางมาเข้ากราบจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุ รวมถึงคณะเดินทางไกลจากต่างจังหวัด พบมีอาการวิงเวียนศีรษะและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สามารถมารับยาดมและใช้บริการนวดแผนไทยได้ เหล่าจิตอาสาแพทย์แผนไทยจะทำหน้าที่ดูแลประชาชนด้วยหัวใจเพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ท่าน" ดร. พท.ภัทราภรณ์กล่าว

นายพรชัย หาญศรี อายุ 54 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้พิการจากอุบัติเหตุ กล่าวว่า ตนปั่นวีลแชร์มาจาก อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา โดยออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.มาถึงท้องสนามหลวงเที่ยงคืนของวันที่ 23 พ.ย. เช้าวันนี้เฝ้าคอยที่จุดคัดกรอง จากนั้นปั่นวีลแชร์มา มีจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก ตั้งใจถือพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระพันปีหลวงทรงอุ้มในหลวง ร.10 ตอนทรงพระเยาว์ สื่อความหมายแม่รักลูก ตนรักและเทิดทูน รู้สึกว่าเป็นลูกของพระองค์ท่าน สมัยพ่อหลวง ร.9 ก็มากราบ ครั้งนี้มากราบแม่แห่งแผ่นดิน พระองค์พระราชทานอาชีพ ตนไปฝึกอาชีพจักสานและเย็บปักถักร้อยที่โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งในหลวง ร.9 และสมเด็จพระพันปีหลวงทรงให้สร้างไว้ มีการพัฒนาดินที่เป็นดินทรายและส่งเสริมการปลูกป่า การสร้างอาชีพให้เกษตรกร ผ่านการฝึกอบรมการเกษตรทฤษฎีใหม่ ปัจจุบันตนทำอาชีพเกษตรกรเพื่อสร้างรายได้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.