
"หาดใหญ่" วิกฤตหนัก ผวจ.สงขลาสั่งปิดเมืองอพยพประชาชน รัฐบาลเร่งเคลียร์คนติดบ้านสูง ขณะที่นายกฯ ระดมเครื่องจักร-เครื่องสูบน้ำทั่วประเทศกู้สถานการณ์ ยกอำนาจให้ "ธรรมนัส" คุมพื้นที่ พร้อมนำเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วย สั่งจังหวัดเตรียมเรือลาดตระเวน 24 ชม. "ศอ.บต." ตั้งครัวกลางดูแลพี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ "พัทลุง-สตูล" อ่วมหนักรับน้ำทะลักจากเทือกเขาบรรทัด
เมื่อวันจันทร์ ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2568 โดยระบุว่า ตนได้มอบให้หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เรื่องดำเนินการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
นายอนุทินกล่าวว่า กรมชลประทานกำลังเร่งบริหารจัดการสถานการณ์น้ำอย่างเต็มที่ และเมื่อช่วงเช้านี้ตนได้ขอให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. เกษตรสหกรณ์ เดินทางลงไปอำนวยการ เพื่อที่จะลดระดับของความเป็นภัยพิบัติให้ได้มากและเร็วที่สุด และในฐานะที่รัฐบาลมีคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานานแล้วเพื่อป้องกันบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสก็เป็นประธานบริหารจัดการสถานการณ์ภัยพิบัตินั้น และได้เดินทางลงไปบูรณาการความร่วมมือกับทุกฝ่าย
“ผมได้รับรายงานในเบื้องต้นว่าได้ไปขอความร่วมมือฝ่ายกองทัพภาคที่ 4 และกรมชลประทาน ที่ ร.อ.ธรรมนัส กำกับดูแลโดยตรง ขณะเดียวกันส่วนของฝ่ายปกครอง ผมได้ขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับฟังข้อสั่งการของ ร.อ.ธรรมนัส เพื่อบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงาน ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี จึงมีความคาดหมายว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงด้วยความรวดเร็ว" นายกฯ ระบุ
นายอนุทินกล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอหาดใหญ่มีบริเวณกว้างครอบคลุมหลายอำเภอ หนักที่สุดคืออำเภอหาดใหญ่เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของภาคใต้ ดังนั้นต้องเร่งฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับมาโดยเร็ว ส่วนเรื่องมาตรการฟื้นฟูต้องขอทางนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ โดยยืนยันว่าได้สั่งให้ ผวจ.ทำการสำรวจผู้ประสบภัยที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเข้าเกณฑ์ทุกหลังคาเรือนบวกกับทรัพย์สินที่เสียหาย มีความชัดเจนเข้าเกณฑ์ช่วยเหลือเยียวยา ฉะนั้น อยากให้เร่งฟื้นฟูให้ประชาชนขั้นต้น เรื่องการเยียวยาอย่างที่ดำเนินการมาตลอด ขอให้เร่งดำเนินการและนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
โดยในเวลา 15.17 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ว่า ตอนนี้ระดมทรัพยากรจากทุกหน่วยงานหลักๆ ลงไปในพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เสริมเฮลิคอปเตอร์เข้าไป เพื่อไปขนสิ่งของเอาไปไว้ให้คนในจุดที่ถนนถูกตัดขาด และตอนนี้ ร.อ.ธรรมนัสได้ลงไปในพื้นที่แล้ว
เมื่อถามถึงปัญหาเรื่องเรือที่จะไปรับประชาชนออกมาไม่เพียงพอ นายกฯ กล่าวว่า เรืออย่างเดียวไม่ได้เพราะน้ำมีความเชี่ยว บางทีเรือใหญ่หรือเรือเครื่องเข้าไปตามซอกไม่ได้ ต้องใช้รถยกสูงพยายามเข้าไปให้ได้มากที่สุด แต่ส่วนที่เป็นพื้นที่ประสบภัยหนักๆ น้ำท่วมมากจนถูกตัดไฟ ประชาชนส่วนใหญ่ออกมาที่ศูนย์พักพิงและหลายคนได้ไปอยู่ตามบ้านญาติ
เมื่อถามอีกว่า รถยกสูงจะใช้ได้ผลจริงหรือไม่ เพราะมีภาพปรากฏว่าน้ำท่วมครึ่งคันรถ นายกฯ กล่าวว่า รถทหารก็มีที่ยกระดับขึ้นมา เขาจะเข้าไปในที่ที่สามารถปฏิบัติการได้ แต่เรื่องที่ยังเป็นปัญหาคือปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามาตรงนี้ เราต้องไปเร่งติดตาม เพราะได้ข่าวว่ายังมีคนติดอยู่ในบ้านชั้นสอง
“ผมจึงสั่งการให้ทางจังหวัดระดมคนหาวิธีช่วยเหลือออกมา ร.อ.ธรรมนัสระดมเฮลิคอปเตอร์ ถึงขั้นเตรียมอุ้มออกจากบ้านโดยเฮลิคอปเตอร์เลย แต่สภาพอากาศแบบนี้ถ้ามีฝนอยู่ด้วยก็ไม่น่าจะสะดวก แต่เราก็เตรียมความพร้อมไว้ทุกทรัพยากรที่มีอยู่ตอนนี้” นายอนุทินระบุ
ตั้ง 'ธรรมนัส' ผอ.ศนภ.
ต่อมาเวลา 15.20 น. นายอนุทินเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ครั้งที่ 2/2568 โดยกล่าวว่า การประชุมวันนี้ ร.อ.ธรรมนัสขณะนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา จะคอนเฟอเรนซ์เข้ามาร่วมประชุม ซึ่งตอนนี้เราได้มีการระดมความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงเครื่องมือเครื่องจักรเพื่อบรรเทาสาธารณภัย ระดมเครื่องสูบน้ำจากทุกภาคทั่วประเทศเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ และเน้นย้ำให้ดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนให้มีความปลอดภัยเป็นลําดับแรก
ขณะที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทินในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ได้ลงนามจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ เพื่อกำกับดูแลการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยพิบัติได้อย่างทันที ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยนายสิริพงศ์กล่าวว่า ล่าสุดจังหวัดสงขลาได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทั้ง 16 อำเภอ พร้อมให้อพยพประชาชนด่วนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของทางราชการที่จัดเตรียมไว้
ขณะที่นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง (กสม.), ศอ.บต. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และมูลนิธิสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ร่วมกับสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ได้จัดตั้งครัวกลางเพื่อเป็นฐานการผลิตอาหารปรุงสุกใหม่ที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ และถูกต้องตามหลักฮาลาล ก่อนระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาสอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ที่ จ.สงขลา สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.บางกล่ำ พื้นที่รอยต่อสถานการณ์น่าเป็นห่วงที่สุด โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ลึกเข้าไปในซอย ระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและติดคลองอู่ตะเภา
นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานมูลนิธิเพชรเกษม เปิดเผยว่า สถานการณ์ด้านในตอนนี้ค่อนข้างโกลาหลมาก เราต้องการพาคนออกมาอย่างเดียว เนื่องจากระดับน้ำขึ้นเร็วและปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักมาก ประชาชนเองก็วิตกกังวล ยังต้องการเรืออีกจำนวนมากในการอพยพ โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านบางแฟบซึ่งมีเรือเพียง 2-3 ลำ และไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือประชาชนที่ตกค้าง
นายณัฐวุฒิ โสะเบ็ญอาหลี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์พักพิงหรือศูนย์อพยพเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์อพยพขาดแคลนน้ำและอาหารเป็นจำนวนมาก หากประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาสามารถนำมาบริจาคได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ศูนย์แห่งนี้ยังเป็นจุดที่ชาวบ้านสามารถมารับอาหารและชาร์จแบตเตอรี่ได้
หาดใหญ่สั่งอพยพ
วันเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast เมื่อเวลา 14.49 น. ระบุว่าน้ำยังคงไหลลงมาเพิ่มใน อ.หาดใหญ่ โดยคาดว่าจะขึ้นสูงสุดประมาณ 1.25-1.45 ม.ในวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) เวลา 06.00 น. จังหวัดสงขลาขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมอพยพออกนอกพื้นที่ หรืออพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวใกล้บ้านทันที และเชื่อฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
ด้านนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ประกาศคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ อพยพทันที เข้าสู่จุดอพยพที่ราชการจัดเตรียมไว้ ได้แก่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และกองทัพเรือภาคที่ 2 จังหวัดสงขลา โดยกำชับให้เร่งเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงอย่างรวดเร็วที่สุด เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมมีความรุนแรงและคาดว่าจะทวีความหนักหน่วงมากขึ้น
ขณะที่เพจเทศบาลเมืองหาดใหญ่โพสต์ข้อความว่า “นี้คือสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อยู่ในระดับ #วิกฤตสูงสุด โดยระดับน้ำได้ท่วมถึงบริเวณโรงกรองน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ สูงกว่า 3 เมตร จากระดับพื้นโรงกรอง ซึ่งสูงกว่าน้ำท่วมปี 2553 ส่งผลให้ไม่สามารถเดินเครื่องผลิตน้ำประปาและจ่ายน้ำให้ประชาชนได้"
ที่ จ.ปัตตานี สถานการณ์ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี น้ำจากแม่น้ำปัตตานีได้พังแนวป้องกันและทะลักเข้าสู่ถนนแทบทุกสาย ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 40-50 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ทำให้การจราจรแทบเป็นอัมพาตทันที
ที่ จ.ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,753 ครัวเรือน บริเวณหน้าโรงแรมยะลารามา มีน้ำท่วมสูงประมาณเกือบ 3 เมตร ชาวบ้านต่างเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นไปยังที่ปลอดภัย
ที่ จ.สตูล น้ำยังคงไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองอำเภอละงู รวมถึงขยายวงสู่ตัวอำเภอเมืองสตูล ทั้งนี้น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอครั้งนี้ สาเหตุหลักคือน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด เป็นภูเขากั้นเขตระหว่าง จ.ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ที่น้ำบนภูเขาไหลทะลักลงมา ล่าสุดถนนยนตรการกำธร-รัตภูมิ ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง
ที่ จ.พัทลุง น้ำล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าสู่สวนยางพารา บ้านเรือนของประชาชนอีกระลอกตั้งแต่เวลา 13.00 น. ในเขตเทศบาลตำบลควนเสาธง ขณะที่ อ.แม่ขรี เตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอีก 2 เครื่อง และมีแผนเตรียมการอพยพประชาชน
ส่วนหมู่บ้านริมทะเลสาบระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ลำปำ เขตเทศบาลเมืองพัทลุง ชาวบ้านต้องเร่งเคลื่อนย้ายอพยพผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุออกจากพื้นที่เสี่ยงโดยด่วน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


