จัดทัพครม.ช่วยใต้ แบ่ง4โซนกู้หาดใหญ่ คร่า33ศพอพยพ9พัน

นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงาน  “รัฐมนตรี” คุมเยียวยาน้ำท่วมใต้รายจังหวัด  พร้อมยกคณะบินลงหาดใหญ่รอบ 3 ลั่นกลางห้องประชุม จะอยู่สั่งการในพื้นที่จนกว่าจะคลี่คลาย ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อบอกไปๆ กลับๆ ลุยน้ำขึ้นรถทหารดูสถานการณ์รอบเมือง รับรู้สึกกดดันเป็นห่วง ปชช. หลังมีเสียงสะท้อนชาวบ้านอดทนมา 5 วันแล้ว ไม่ตอบโดนวิจารณ์ตั้งศูนย์ซ้ำซ้อน “โฆษก ศป.กฉ.” แจงยอดจมน้ำเสียชีวิต 33  รายใน 7 จว.ใต้ ปชช.แจ้งขอความช่วยเหลือ 7.7  หมื่นคน เปิดลงทะเบียนอาสาสมัครช่วยน้ำท่วมผ่านแอปทางรัฐ รบ.ซัปพอร์ตค่าใช้จ่าย เผย สทนช.คาด 5 วันสถานการณ์คลี่คลายลง “ศป.กฉ.ส่วนหน้า” ตั้ง “เสธ.เบิร์ด” โฆษกฯ แบ่งพื้นที่หน่วยทหารรับผิดชอบ 4 เขต แย้มยอดชาวหาดใหญ่อพยพแล้ว 8,515 คน “หลายพรรค”  เปิดรับบริจาคช่วยภาคใต้ “ไอติม” เสนอรัฐบาลประสานต่างชาติเข้าช่วยเหลือ “ปัตตานี-พัทลุง”  น่าห่วงระดับน้ำสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย  ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 11/2568 เรื่อง มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย ดังต่อไปนี้

1.มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรับผิดชอบกำกับดูแลในพื้นที่ ดังนี้ 1.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและปัตตานี 2.นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดยะลา 3.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดสงขลา 4.นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี  รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 5.นายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดตรัง 6.นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดพัทลุง 7.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดสตูล 8.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รมช.เกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส

2.มอบหมายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1.รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง รับผิดชอบการกำหนดมาตรการด้านการเงินการคลัง เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ 2.นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบการประสานงานภาคเอกชน และภาคประชาชนในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบโดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่าย 3.น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบการจัดตั้ง และปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสื่อสารมวลชนและการรับข้อมูลจากประชาชน 4.รมว.สาธารณสุข รับผิดชอบการจัดระบบสาธารณสุขในการดูแลประชาชน 5.รมว.กลาโหม รับผิดชอบการประสานงานฝ่ายความมั่นคงในการเข้าปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ และ 6.รมช.กลาโหม รับผิดชอบการจัดตั้งและปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานรับ-ส่งต่อความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

เวลา 08.00 น. นายอนุทินพร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล​ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ​(อว.), นายชาดา​ ไทยเศรษฐ์​ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล)​, น.ส.ไตร​ศุลี​ ไตร​สร​ณ​กุล​ เลขาธิการนายกฯ และปลัดกระทรวงมหาดไทย​ ขึ้นเครื่องที่กองบิน 6 ดอนเมือง เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ช่วงเหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วม

อย่างไรก็ดี การเดินทางครั้งนี้นายกฯ ได้นำทีมกู้ชีพจากหลายหน่วยงาน คนขับเจ็ตสกี ร่วมคณะขึ้นเครื่องบินไปลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย พร้อมกับนำสิ่งของอุปโภคบริโภค เจ็ตสกี ใส่เครื่อง​บิน C130 ไปอีกลำหนึ่งด้วย

อนุทินรับกดดันห่วง ปชช.น้ำท่วม

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายอนุทินเดินทางถึงกองบิน 56 จ.สงขลา เป็นประธานการประชุมผ่านระบบออนไลน์ไปที่ห้องประชุมเสนาณรงค์  มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ ซึ่งมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม, พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4  ร่วมประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ครั้งที่ 1/2568 พร้อมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์และการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

นายอนุทินกล่าวช่วงหนึ่งในที่ประชุมว่า จะยังคงอยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หากไม่มีเหตุจำเป็นอื่นจะไม่บินกลับโดยเด็ดขาด

จากนั้นนายอนุทินพร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามระดับน้ำบริเวณสะพานข้ามคลองชลประทาน บ้านบางแฟบพัฒนา ต.ควนลัง ซึ่งมีประชาชนบางส่วนเข้ามาร้องเรียนว่าพยายามโบกรถขอความช่วยเหลือจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 2 คัน แต่ไม่มีใครจอด จนวันนี้นายกฯ มาลงพื้นที่หาดใหญ่ ถึงจะจอดเจอประชาชน ทำให้นายกฯ หันไปสั่งการผู้ว่าฯ  สงขลา ก่อนนายกฯ จะพูดคุยกับประชาชนและมอบเครื่องอุปโภคบริโภค และกล่าวให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัย

เวลา 10.30 น. นายอนุทินได้นั่งรถยกสูงของทหารตระเวนดูพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยรอบที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มให้แก่ประชาชน ตั้งแต่บริเวณสะพานโคกพระ อ.หาดใหญ่ ก่อนนั่งรถต่อไปยังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า (มณฑลทหารบกที่ 42) ค่ายเสนาณรงค์ เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยนายกฯ ได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 4 และสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชน

จากนั้นเวลา 11.00 น. นายกฯ เดินทักทายประชาชนที่เข้ามาพักในศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่อาคารศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยระหว่างทาง น.ส.ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ หรือ เจ๊เอ๋ เจ้าแม่เงินกู้ จิตอาสา ที่มาบริจาคของให้กับประชาชน ได้ตะโกนว่า “นายกฯ เอ๋อยู่นี่ ช่วยเอ๋หน่อย  เอ๋ไม่ไหวแล้ว นายกฯ ยังไหวอยู่ไหม ดีใจจังเลยได้เจอนายกฯ ตัวเป็นๆ แล้ว ขอให้กำลังใจนายกฯ แก้ไขให้ได้นะ" ก่อนที่นายกฯ ตอบกลับว่า "ยังไหว" และอวยพรให้คนที่มาบริจาคเจริญๆ ยิ่งขึ้น

ต่อมานายกฯ ตรวจเยี่ยมโรงครัวของกองทัพภาคที่ 4 ซึ่งประกอบอาหารแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย และได้พูดคุยให้กำลังใจกับจิตอาสาที่เข้ามาทำงานภายในโรงครัวของศูนย์พักพิงฯ ด้วย

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการที่หลายฝ่ายมองว่าล่าช้าว่า ตอนนี้เราดูแลคนจำนวนหลายหมื่นคน มีศูนย์พักพิงและศูนย์อพยพอยู่ตามชุมชนต่างๆ ซึ่งในวันเดียวกันนี้ นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้สั่งการและดูแลพื้นที่ ซึ่งงบประมาณมี เพราะได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย สามารถใช้เงินได้เลย โดยวันนี้ที่ตนลงมากับ ผบ.ทสส. ก็เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างสั่งการภายใต้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ดำเนินการทุกอย่างโดยทันที ผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือ ผบ.ทสส. รัฐบาลก็ได้มอบอำนาจให้ และให้การสนับสนุนทุกอย่าง

“วันนี้ผมก็ลงมาเพื่อที่จะช่วยท่านด้วย ยอมรับว่ากดดันมากๆ และเป็นห่วงประชาชน หลังมีเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนที่อดทนมานานกว่า 5 วันแล้ว” นายอนุทินกล่าว

ถามถึงเรื่องเงินเยียวยาครอบครัวละ 9,000 บาท ที่อาจจะไม่เพียงพอ นายกฯ กล่าวว่า เราทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ในขณะนี้ และเมื่อตนกลับไปก็จะเร่งเรียกประชุมด่วน สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้โดยเฉพาะ เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู เพราะตอนนี้ความเสียหายเยอะมาก เมื่อถามว่าสำหรับผู้ป่วยตามโรงพยาบาลมีความน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทยอยลำเลียงผู้ป่วยที่อยู่ไอซียูและผู้ป่วยที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ ได้ลำเลียงมาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์และโรงพยาบาลสงขลา ส่วนโรงพยาบาลหาดใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งฟื้นฟู

ซักว่า นายกฯ ประกาศในห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยว่าจะไม่กลับจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นายอนุทินกล่าวว่า จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อบัญชาการทุกอย่างร่วมกัน โดยมี ผบ.ทสส.บัญชาการในพื้นที่ ส่วนตนจะไปๆ มาๆ เพราะ ศป.กฉ.อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล

เมื่อถามถึงกรณีมีการสั่งอพยพประชาชน ที่อำเภอละงู จังหวัดสตูล เนื่องจากฝนยังตกอยู่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ตนมอบให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดดำเนินการอย่างเต็มที่ และถ้าจังหวัดไหนประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย ก็จะมีงบประมาณในการจัดการ เมื่อถามอีกว่ากรณีมีหลายคนวิจารณ์ว่ารัฐบาลตั้งศูนย์ต่างๆ ทับซ้อนกัน นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนจะขอตัวเข้าไปประชุมทันที

ยอดจมน้ำเสียชีวิต 7 จว.ใต้ 33 ราย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) เป็นประธานการประชุม ศป.กฉ. ครั้งที่ 1/2568 เพื่อกำหนดหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลที่ได้รับร้องเรียนมาทั้งหมดจากทุกช่องทาง รวมถึงรวบรวมข้อมูลและประเมินผลประมวลผลที่ทำเนียบรัฐบาล และจะมีการแบ่งสีให้กับหน่วยงานหน้างานให้ปฏิบัติงานได้คล่องตัวมากขึ้น โดยจะแบ่งเป็นสองสีคือ สีแดง หมายถึงผู้ที่จำเป็นต้องอพยพโดยด่วน เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยด่วน สีเหลือง คือเป็นเคสที่สามารถพักอาศัยอยู่ในบ้านได้ และส่งข้อมูลเรียลไทม์ไปที่ ศป.กฉ.ส่วนหน้า ที่มี พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผบ.ทสส. เป็นผู้บัญชาการอยู่ โดย ผบ.ทสส.ได้มีการแบ่งโซนรับผิดชอบพื้นที่ไว้ และ ผบ.ทสส.จะแจ้งว่าใครรับผิดชอบโซนใด จากนั้นเราจะรู้ว่าแต่ละพื้นที่ต้องประสานกับใคร ก่อนจะส่งข้อมูลเคสสีแดง สีเหลือง ให้แต่ละโซนที่รับผิดชอบ

นอกจากนี้ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ได้ไปประจำการอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ เพื่อรอประชาชนที่มีจิตศรัทธาต้องการนำสิ่งของไปให้ผู้ประสบภัย  รัฐบาลได้ประสานกองทัพอากาศในการขนสิ่งของ โดยใช้เครื่อง C130 วันส่งไปยังพื้นที่ภาคใต้ 5 เที่ยวบินต่อวัน โดยสิ่งที่จำเป็นที่สุดคือเจ็ตสกีและเรือเครื่องพร้อมคนขับ

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษก ศป.กฉ. แถลงผลประชุม ศป.กฉ.ว่า สถานการณ์น้ำภาพรวมปริมาณน้ำฝนที่เติมเข้ามามีปริมาณที่ลดน้อยลง แนวโน้มของน้ำในพื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มลดลง แต่อย่างไรก็ตาม บางจังหวัดที่ถัดออกไปจาก จ.สงขลา เริ่มมีการแจ้งเตือนแล้ว เช่น สตูล นครศรีธรรมราช บางจังหวัดได้มีการแจ้งอพยพตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ย.แล้ว ทั้งนี้ พบว่าหลังมีการแจ้งเตือนให้มีการอพยพ ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ประมาทต่อสถานการณ์ คิดว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องอพยพ ซึ่ง ศป.กฉ.มีความกังวลว่าหากแจ้งเตือนให้อพยพแล้ว ยังไม่เร่งรีบที่จะอพยพ อนาคตอาจจะเกิดความยากลำบากในการอพยพได้ ทาง ศป.กฉ.จึงสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดำเนินการสำรวจกลุ่มเปราะบาง ไปเชิญชวนประชาชนให้ไปอยู่ในศูนย์พักพิงเลย เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดในอนาคต

ถามถึงกรณีมีข่าวโรงพยาบาลหาดใหญ่มีจำนวนผู้เสียชีวิต 80 คน นายสิริพงศ์กล่าวว่า ขอยืนยันข้อมูลนั้นไม่ตรงกับความจริง โดยได้รับรายงานจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตครึ่งหนึ่ง 40 คน เป็นผู้เสียชีวิตที่อยู่ในโรงพยาบาลอยู่แล้ว 14 คน เป็นผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้มาจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่เสียชีวิตจากการรักษาพยาบาล ดังนั้นข้อมูลที่ออกมาไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ปัตตานี และยะลา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 33 คน ใน 7 จังหวัด แบ่งเป็น นครศรีธรรมราช 9 ราย, พัทลุง 4 ราย, สงขลา 6 ราย, ตรัง 2 ราย, สตูล 2 ราย, ปัตตานี 5 ราย และยะลา 5 ราย สาเหตุการเสียชีวิต เช่น ถูกน้ำพัด ไฟฟ้าชอร์ต ดินถล่ม ตกน้ำ และจมน้ำ

“เช่นเดียวกับข่าวเฮลิคอปเตอร์ตกใกล้กับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ก็ไม่เป็นความจริง ตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่มีเหตุการณ์ ฮ.ตกแต่อย่างใด” นายสิริพงศ์กล่าว

โฆษก ศป.กฉ.กล่าวว่า ข้อมูลแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชน ที่รวบรวมจาก Traffy Fondue, hatyaiflood.com และจิตอาสา รวมทั้งสิ้นมี 4 หมื่นเคส เป็นประชาชน 7.7 หมื่นคน แบ่งเป็นผู้สูงอายุ 2,000 คน เด็กเล็ก 1,000 คน ถามว่ามีการคาดการณ์หรือไม่ว่าอีกกี่วันสถานการณ์น้ำจะลดลง โฆษก ศป.กฉ.กล่าวว่า สทนช.คาดการณ์ว่า ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ภายใน 5 วัน สถานการณ์จะคลี่คลายไปกว่านี้มาก แต่อาจจะมีบางจุดที่เป็นแอ่งเล็ก เป็นพื้นที่ต่ำ อาจจะลงไม่หมด แต่ในภาพรวมถ้าเทียบกับสถานการณ์วันนี้ จะเห็นว่าสถานการณ์เริ่มลดลงแล้ว

อพยพเข้าศูนย์พักพิง 8.5 พันคน

มีรายงานจากกองทัพไทยแจ้งว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัยส่วนหน้า หรือ ศป.กฉ.ส่วนหน้า ได้แต่งตั้ง พล.ท.วันชนะ สวัสดี ทำหน้าที่โฆษก ศป.กฉ.ส่วนหน้า เพื่อทำหน้าที่ในการแถลงข่าว สื่อสารสถานการณ์ และเผยแพร่มาตรการต่างๆ ที่ต่อสาธารณชนอย่างเป็นระบบ

พล.ท.วันชนะแถลงว่า ปัจจุบันได้มีการแบ่งพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ เป็นพื้นที่ที่วิกฤตหนัก  เพราะเป็นจุดที่น้ำไหลมารวมตัวกัน โดยในส่วนพื้นที่รอบอำเภอหาดใหญ่ จะมีกองพันประจำอำเภอของกองทัพบกในการดูแล และมีกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยร่วมด้วย โดยจะมีการแบ่งพื้นที่เป็น 4 เขต ประกอบด้วย เขตที่ 1 กรมพัฒนาที่ 4 และกองพันพัฒนาที่ 4, เขตที่ 2 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 (ร.5 พัน.1), เขตที่ 3 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 (ป.5 พัน.5), เขตที่ 4 กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 42 (พัน.ร.มทบ.42) นอกจากนี้ มีการบริหารจัดการ 4 ลักษณะ 1.การบริหารจัดการคน ซึ่งจะเร่งอพยพคนมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยคือ ศูนย์พักพิง 2.การบริหารจัดการสิ่งของ และการส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชน 3.การบริหารจัดการน้ำ และ 4.การบริหารจัดการเรื่องข้อมูลข่าวสาร

โฆษก ศป.กฉ.ส่วนหน้ากล่าวว่า ปัจจุบันมีศูนย์อพยพ 9 แห่งคือ 1.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับผู้อพยพได้ 3,000 คน ปัจจุบันมีผู้อพยพ 5,000 คน 2.สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านพรุ รับผู้อพยพได้ 100 คน ปัจจุบันมีผู้อพยพ 600 คน 3.วัดเทพชุมนุม รับผู้อพยพได้ 600 คน ปัจจุบันมีผู้อพยพ 1,500 คน 4.โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองบ้านพรุ รับผู้อพยพได้ 200 คน ปัจจุบันมีผู้อพยพ 800 คน (กลุ่มเปราะบาง 8) 5.วัดชินวงศ์ประดิษฐ์ รับผู้อพยพได้ 400 คน   ปัจจุบันมีผู้อพยพ 100 คน 6.วัดภูผาเบิก รับได้ไม่จำกัด ปัจจุบันมีผู้อพยพ 200 คน 7.บริษัทหาดทิพย์ รับได้ไม่จำกัดปัจจุบันมีผู้อพยพ 200 คน 8.ศูนย์บริการ เน้นผู้ป่วยติดเตียง ปัจจุบันมีผู้อพยพ 15 คน และ 9.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3 รับผู้อพยพได้ 200 คน ปัจจุบันมีผู้อพยพ 200 คน รวมอพยพทั้งสิ้นมีจำนวน 8,515 คน

ส่วนความเคลื่อนไหวนักการเมืองเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.)  พร้อมด้วย สส.พรรค ปชน. ร่วมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมรวบรวมข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ โดยพบปะประชาชนที่ศูนย์อพยพมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ค่ายเสนาณรงค์

ปัตตานี-พัทลุงน่าห่วงน้ำสูงขึ้น

นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ขอเสนออีกครั้ง ศูนย์บริหารสถานการณ์ที่ตั้งขึ้นมาควรต้องมีการรวมศูนย์ข้อมูลที่เป็นไปในทิศทางเดียว คำสั่งต้องแน่ชัด เป็นทิศทางเดียวกัน กระจายกำลังทุกส่วนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่รัฐต้องเร่งบริหารจัดการอย่างเร่งด่วนตอนนี้คือ  ต้องมีแผนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก เร่งตรวจสอบว่ามีบ้านไหนที่ยังตกค้างจากการอพยพออกมาจากบ้านที่พักอาศัย ให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และอาหาร รวมทั้งสำรวจพื้นที่พักพิงแต่ละแห่งว่าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่

“ที่สำคัญไปกว่านั้น นอกจากรัฐบาลไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองที่มีการแจ้งเตือนไม่ชัดเจน และไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว  รัฐบาลยังชี้แจงราวกับเป็นการกล่าวโทษประชาชน ปัดภาระให้พ้นตัว หรือหากจะไม่ยอมรับความผิด อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะเน้นสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มากกว่าที่จะปัดภาระและโทษประชาชนเช่นนี้” หัวหน้าพรรค ปชน.กล่าว
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ปชน. กล่าวว่า ตนมีข้อเสนออยู่ 4 ข้อคือ 1.รัฐบาลต้องสามารถทำงานโดยบูรณาการทุกหน่วยงานให้ได้ 2.เป้าหมายในวันนี้คือต้องมีการอพยพคนออกจากพื้นที่ให้ได้มากที่สุด 3.แม้จะอพยพได้รวดเร็วมากที่สุด แต่อาจจะไม่สามารถอพยพทุกคนได้ในวันนี้ ฉะนั้น สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือ จะทำอย่างไรให้อาหารและน้ำเข้าถึงประชาชนให้ได้เยอะ 4.ตนคิดว่าปัญหานี้ใหญ่มาก ที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่าเกินขีดกำลังความสามารถของภาคประชาชน รัฐบาลต้องเข้าไป แต่วันนี้ตนคิดว่าอาจจะมีบางส่วนที่รัฐบาลต้องระดมทรัพยากรจากต่างประเทศทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศต้องยกหูหาประเทศอื่นๆ เพื่อเปิดทางและประสานให้เขา สามารถนำเอาทรัพยากรและอุปกรณ์เข้ามาช่วยเหลือคนในพื้นที่

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดงาน "ฟังจริง คิดจริง ทำจริง เรื่อง โลกร้อน น้ำท่วม วิกฤตธรรมชาติ ที่เราต้องจัดการ" ว่า รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว แต่ตนขอสารภาพว่ายังงงว่าเมื่อประกาศภาวะฉุกเฉิน มีการตั้งศูนย์ประสานงานเฉพาะกิจ โดยให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นหัวหน้ารับผิดชอบ แต่รัฐบาลก็มีอีกศูนย์อยู่ที่ทำเนียบฯ   และกระทรวงต่างๆ ก็ยังจะเปิดศูนย์ ซึ่งน่าเป็นห่วงเรื่องความเป็นเอกภาพ ดังนั้นในเรื่องนี้คือสิ่งที่เป็นโจทย์ใหญ่ว่าที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร

ที่พรรคไทยก้าวใหม่ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ แถลงข่าวนำคาราวานช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ รวมถึงเปิดข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน และข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ตอนหนึ่งระบุว่า ขอเสนอมาตรการเร่งด่วนระบายให้เร็วที่สุด ออกจาก อ.หาดใหญ่ให้ไ โดยที่น้ำไม่สามารถไหลไปที่ทะเลสาบสงขลานั้น เพราะติดคันถนนลพบุรีราเมศวร์ คันถนนขวางน้ำอยู่ ทางแก้คือต้องเปิดพื้นที่เล็กๆ ให้น้ำไหลสะดวก เพื่อให้ไปถึงทะเลสาบสงขลา รัฐจะต้องดูแลชาวสงขลาอย่างเป็นธรรม เจาะจุดขวางทางน้ำและมีสะพาน ส่วนข้อเสนอที่ยั่งยืน ต้องมีการปฏิรูปผังเมือง ทำอุโมงค์ลอดใต้เมือง ซึ่งไม่ต้องเวนคืนที่ดินด้วย

ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ร่วมกับทีมไทยสร้างไทย เปิดศูนย์ประสานงานพรรคไทยสร้างไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล่าช้าของรัฐบาล ที่เพิ่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ว่า ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนในโลกได้รับคำชม แต่เกิดขึ้นแล้วจะแก้ไขอย่างไร หลังจากนั้นจะได้รับคำชม ว่าจะเยียวยาอย่างไร เรื่องที่อยู่อาศัยจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่ได้วางแผนไว้ทั้งหมดแล้ว

จ.ปัตตานี สถานการณ์น้ำท่วมภาพร่วมของจังหวัดปัตตานียังคงวิกฤตหนัก ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เนื่องจากมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากพื้นที่ต้นน้ำจังหวัดยะลาไหลมาสมทบในแม่น้ำปัตตานีอย่างต่อเนื่อง ก่อนไหลลงสู่ทะเล ทำให้เกิดการเอ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่เป็นวงกว้าง หลายชุมชนมีระดับน้ำสูงเฉลี่ย 2-3 เมตร และบางหมู่บ้านมีน้ำลึกถึง 4 เมตร

จ.พัทลุง พื้นที่ 11 อำเภอฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง โดย 8 อำเภอที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมหนักสุดคือ อ.เมืองพัทลุง, เขาชัยสน, บางแก้ว, ตะโหมด, ป่าบอน, ปากพะยูน, กงหรา และ อ.ควนขนุน ระดับน้ำยังไม่ลดลง และมีน้ำฝนบวกน้ำป่า  เส้นทางคมนาคมระหว่างจังหวัดสายหลักยังคงมีน้ำท่วมจากพัทลุงไปยังอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา

จ.สตูล นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าฯ สตูล ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าฯ สตูล กล่าวว่า  พื้นที่จังหวัดสตูลได้รับผลกระทบไม่มาก โดยจังหวัดสตูลได้รับน้ำมาจากจังหวัดใกล้เคียงคือ จังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุง บางส่วนรับน้ำจากจังหวัดตรัง

ช่วงค่ำ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามคำสั่งกรมการปกครอง ที่ 3033/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการช่วยราชการ โดยให้นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ตำแหน่งนายอำเภอ (ผู้อำนวยการสูง) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ช่วยราชการ วิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง เป็นการประจำ ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง