ธปท.รอประเมินผลมหาอุทกภัย

“แบงก์ชาติ” เร่งประเมินผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ สั่งสถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ด้ามขวาน “บสย.” คลอด 2   มาตรการหลักดูแลชาวหาดใหญ่ “กรมการค้าภายใน” เล็งจัดธงฟ้าราคาประหยัดลุยพื้นที่น้ำท่วมขัง

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2568 น.ส.ปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยอย่างไรว่า ธปท.อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะนำมาพิจารณาพร้อมกับพัฒนาการทางเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ   โดยจะประกาศประมาณการเศรษฐกิจในช่วงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 17 ธ.ค.2568

“มูลค่าเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ ทั้งปีมีจีดีพีคิดเป็น 2.6% ของจีดีพีโดยรวมของทั้งประเทศ ซึ่งความเสียหายต่อเดือน ผลกระทบก็ต้องมีสเกลออกมา และที่มองอีกส่วนคือผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ซึ่งปกติแล้วจะมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาเฉลี่ยวันละประมาณ 1 หมื่นคน ซึ่งเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจหลักๆ ที่เราประเมิน รวมถึงเรื่องการเยียวยา การซ่อมสร้าง ซึ่งกิจกรรมก็จะตามมา”  น.ส.ปราณีระบุ

เมื่อถามถึงผลกระทบเรื่องหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น ต้องเพิ่มมาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ น.ส.ปราณีกล่าวว่า ผลกระทบต่อประชาชนมีค่อนข้างมาก ธปท.เห็นว่าลูกหนี้มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งได้เน้นย้ำและกำชับให้สถาบันการเงินเร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้แนวทางของการผ่อนปรน ซึ่งมีหลักเกณฑ์เรื่องการให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติอยู่แล้ว

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งรวมถึงพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา บสย.ได้ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้า บสย. และลูกหนี้ที่ บสย. จ่ายเคลมที่ได้รับผลกระทบ โดยพักชำระค่าธรรมเนียม-ค่างวดอัตโนมัติสูงสุด 12 เดือน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1.มาตรการช่วยเหลือลูกค้า สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อ ที่จะครบกำหนดชำระตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. ถึงวันที่ 15 ธ.ค.2568 พักชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ และค่าจัดการค้ำประกันสินเชื่อ เป็นเวลา 12 เดือน นับจากวันถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียม โดยเป็นผู้ประสบอุทกภัยและมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และพักชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ และค่าจัดการค้ำประกัน เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับผู้ประสบอุทกภัยและมีพื้นที่ตั้งอยู่ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

​2.มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่ บสย.จ่ายเคลม ซึ่งอยู่ระหว่างผ่อนชำระตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ พักชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 12 เดือน โดยเป็นผู้ประสบอุทกภัย และมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และพักชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับผู้ประสบอุทกภัยและมีพื้นที่ตั้งอยู่ตามประกาศของ ปภ.

ส่วนนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทำความสะอาดบ้านเรือนและวัสดุก่อสร้าง เพื่อขอความร่วมมือจัดสินค้ามาจัดโครงการธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยขณะได้สำรวจพื้นที่จัดงานแล้ว และตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะเริ่มดำเนินการได้ทันที  โดยจะเน้นไปยังพื้นที่ที่น้ำลดแล้วก่อน จังหวัดไหนลดก็จะเข้าไปทันที โดยจุดที่จัด จะดูว่าตรงไหนท่วมมากก็ไปจัดตรงนั้น หากท่วมในจังหวัดก็จัดในจังหวัด แต่ถ้าท่วมอำเภอก็จัดในอำเภอ  จังหวัดหนึ่งอาจจัดหลายที่ก็ได้ ต้องดูตามความเหมาะสม แล้วช่วงที่จัดจะมีสถานที่หลักที่หนึ่ง เพื่อให้ประชาชนมาซื้อสินค้า แล้วจะจัดให้มีรถโมบาย 3-4 คันออกวิ่งไปรอบๆ ด้วย ซึ่งอาจวิ่งในอำเภอหรือข้ามอำเภอ

สำหรับสินค้าที่จะนำมาจัดจำหน่ายในราคาถูกเป็นพิเศษ ได้แก่ สินค้ากลุ่มอาหาร อาทิ ไข่ไก่ ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาสระผม และสินค้าทำความสะอาด อาทิ ไม้ถูพื้น น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อโรค และสินค้าวัสดุก่อสร้าง

นายวิทยากรกล่าวอีกว่า ได้ร่วมกับภาคเอกชนจัดส่งสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพและถุงยังชีพไปให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย  โดยวันที่ 1 ธ.ค.2568 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะเป็นผู้รับมอบ และส่งต่อไปให้ผู้ประสบภัย และบางส่วนจะมอบให้กับสภากาชาดไทย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยต่อไป เพราะสิ่งของที่ได้รับบริจาคมามีเป็นจำนวนมาก

 “กำลังรวบรวมความเสียหายของร้านค้าธงฟ้า และร้านอาหารธงฟ้า ที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมว่าได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน  โดยในพื้นที่ 10 จังหวัดที่น้ำท่วม มีประมาณ 24,355 แห่ง เฉพาะ จ.สงขลา 3,502 แห่ง เมื่อได้รับข้อมูลแล้ว ก็จะหาทางช่วยเหลือต่อไป เช่น การเชื่อมโยงสินค้า เพื่อนำไปจำหน่าย การประสานซื้อสินค้าทำความสะอาด สินค้าซ่อมแซมในราคาถูก และอื่นๆ”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.