นายกฯ นำทีมลงหาดใหญ่รอบที่ 5 ตั้งวงถกเอกชนวางแผนเร่งฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ ต่อรอง "เอกนิติ" ปรับเงินกู้ 1 แสนปลอดดอกเบี้ยเป็น 1 ปี "นายกแป้น" โผล่รับร่วมคณะ ก่อนขึ้นรถยกสูงเข้าพื้นที่ โอดไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว ยันทำเต็มที่ที่สุด แล้วแต่ ปชช.หากจะล่ารายชื่อขับไล่ "โสภณ" ไม่สนกระแสปลุกปั่น ย้ำถ้ายื่นซักฟอกก็ยุบสภา "พท." ให้โอกาส รบ.ช่วย ปชช.ก่อน "โฆษกรัฐบาล" แจงนายกฯ สั่งเข้มลดขั้นตอนเอกสารเยียวยาน้ำท่วมทั้งจังหวัด ไม่ต้องถ่ายหลักฐานให้ลำบาก ใช้เพียงการยืนยันตัวตน ศป.กฉ.บูรณาการทุกภาคส่วน ฟื้นฟูทุกมิติ ให้ระบบพื้นฐานกลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด สธ.เผยน้ำท่วมภาคใต้เสียชีวิตสะสม 170 ราย สงขลา 131 ราย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง, นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์, นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย, อธิบดีกรมธนารักษ์, อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง, อธิบดีกรมการค้าภายใน, เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.), ผู้บริหารธนาคารออมสิน, ผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และรักษาการเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา โดยเป็นการเดินทางลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นครั้งที่ 5
ต่อมาเวลา 14.36 น. นายอนุทินพร้อมคณะเดินทางถึงกองบิน 56 โดยนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายณรงค์พร ณ พัทลุง (นายกแป้น) นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา รอต้อนรับและร่วมคณะด้วย
จากนั้นนายกฯ เดินทางไปที่มณฑลทหารบกที่ 42 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนนายกฯ และคณะได้นั่งรถยกสูงของทหารเข้าไปในตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อสำรวจความเสียหายในช่วงที่ประชาชนเข้าไปทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆ 2 ข้างทางในตัวเมืองหาดใหญ่เต็มไปด้วยขยะ เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งของต่างๆ ที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม เพื่อให้ทางเทศบาลนครหาดใหญ่เก็บเพื่อนำไปทำลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั่งบนรถยกสูง นายกฯ ได้พูดคุยกับนายเอกนิติ, นายรัฐศาสตร์ และนายนิพนธ์ ที่ร่วมคณะมาด้วยถึงการทำความสะอาดบ้านของประชาชนและการให้ความช่วยเหลือในการดำรงชีพ ซึ่งนายนิพนธ์บอกกับนายกฯ ว่า ชาวบ้านต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า เตาแก๊ส เพื่อประกอบอาหารเอง
จากนั้นเวลา 15.20 น. นายกฯ ได้ลงจากรถยกสูงบริเวณหน้าวัดโคกสมานคุณ และเดินนำอาหาร น้ำดื่ม และยาไปแจกให้แก่ประชาชนที่ออกมาทำความสะอาดบ้านหลังจากน้ำลด ระหว่างนั้นนายกฯ ได้เดินเข้าไปสำรวจความเสียหายในบ้านของประชาชน สอบถามถึงความเสียหาย พร้อมทั้งให้กำลังใจ และบอกถึงมาตรการเงินกู้ 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0% 6 เดือน-1 ปี พร้อมกันนี้นายกฯ ได้สอบถามประชาชนทุกคนที่ขับรถผ่านว่า “ทานข้าวแล้วหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกนายกฯ ว่า ให้เร่งอนุมัติเงินเยียวยา 9,000 บาทเร็วๆ หน่อย ซึ่งนายกฯ ได้ตอบสั้น ๆ ว่า สัปดาห์หน้าพร้อมให้ไปลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และจะมีเงินกู้ดอกเบี้ย 0% ด้วย
โดยตลอดเส้นทางรถยกสูงของนายกฯ ได้จอดเพื่อแจกอาหารและน้ำดื่มแก่ประชาชนตลอดทาง โดยช่วงหนึ่งได้มีชาวบ้านที่บ้านหลังหนึ่งตะโกนว่า “นายกฯ มาไม่ต้องกินข้าวแล้ว อิ่มแล้ว"
จากนั้นเวลา 17.00 น. นายอนุทินและคณะเดินทางถึงโรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ เพื่อเป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการจังหวัดสงขลา หอการค้าจังหวัดสงขลาและภาคธุรกิจ โดยนายกฯ กล่าวเปิดการประชุมว่า วันนี้มาน่าจะเป็นครั้งที่ 5 และทุกครั้งที่กลับไปก็จะไปหามาตรการเยียวยาเพื่อให้ประชาชนได้รับการเยียวยาอย่างเร็วที่สุด ช่วงนี้ต้องถือว่าเป็นช่วงฟื้นฟู เราจะไม่พูดถึงที่ผ่านมา ทุกคนเห็นสภาพกันหมดแล้ว และที่ได้เชิญทุกท่านลงมา เพราะเชื่อว่าต้องเห็นสภาพจริงก่อน ถ้าไม่เห็นสภาพจริงจะคิดกันไม่ออก และไปจินตนาการกัน วันนี้อยู่ในโหมดฟื้นฟู ต้องเร่งช่วยเหลือต่างๆ หน้าที่ของรัฐบาลต้องฟื้นฟูและเยียวยาประชาชน ในเรื่องของการเร่งฟื้นฟูสภาพเมืองสงขลา โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ ตนได้เร่งบูรณาการทุกภาคส่วน ทหาร ตํารวจ พลเรือน ฝ่ายปกครอง ระดมทุกสรรพกําลังทั้งหมด หรือเรียกว่าล้างเมือง ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด
กู้ซ่อมบ้านปลอดดอกเบี้ย 1 ปี
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการอนุมัติวงเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ตามการประสบเหตุอุทกภัย หลังคาเรือนละ 9,000 บาท ซึ่งตนได้รับทราบมาว่า จ.สงขลาได้เร่งทําการสํารวจลงทะเบียนแล้ว 5.2 แสนราย ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งโอนเงินให้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว เพราะขณะนี้เงินพร้อมแล้ว สิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายปกครองต้องเร่งดำเนินการให้เร็วคือในส่วนของเรื่องบ้านเช่า เพราะยังมีความสับสนระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้เช่า ว่าเงินจะไปอยู่ในส่วนไหน ซึ่งผู้เช่าบางรายเช่ากันมานาน จนเอกสารเช่าไม่มี แต่สิ่งที่เป็นหลักฐานชี้ชัดคือ หลักฐานการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ดังนั้นเงินเยียวยาจะเป็นของผู้เช่า แต่เงินค่าซ่อมแซมบ้านเรือนจะเป็นของเจ้าของบ้าน
"มาตรการช่วยเหลือประชาชนในส่วนมาตรการปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ ผมอยากให้เรียกว่าเป็นการให้ยืมมากกว่าการกู้ เนื่องจากไม่มีการคิดดอกเบี้ย ซึ่งการให้ยืมดังกล่าวมี 2 ประเภทคือ การกู้ยังชีพปลอดดอกเบี้ย 6 เดือน และการกู้ซ่อมแซมบ้านปลอดดอกเบี้ย 1 ปี ซึ่งขณะนี้ตนกำลังต่อรองกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ขอให้ยืดเป็น 1 ปีเท่ากัน" นายกฯ กล่าว
ด้านนายณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้สัมภาษณ์ประเด็นที่ประกาศว่า หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมแล้วจะไม่ลงการเมืองแล้ว ว่า “ไม่เล่นอะไรแล้ว ไม่เล่นอะไรอีกแล้วครับ แค่นั้นเอง” เมื่อถามย้ำว่าจะลาออกแค่สมัยนี้เพียงอย่างเดียว หรือจะลาออกก่อน และจะลาออกไปเลี้ยงหลานเมื่อไร นายกแป้นกล่าวแค่ว่า ขอดูก่อน
ส่วนที่ชาวหาดใหญ่เตรียมตัวจะขับไล่นั้น กังวลใจหรือเสียกำลังใจหรือไม่ นายกแป้นบอกว่า เต็มที่แล้ว เต็มที่จริงๆ พร้อมย้ำว่าทำดีที่สุดแล้ว ส่วนที่ประชาชนจะล่ารายชื่อขับไล่ นายกแป้นตอบว่า ก็แล้วแต่ประชาชน
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า หากถูกฟ้องร้องกังวลหรือไม่ นายกแป้นกล่าวว่า แล้วแต่อะไรจะเกิด ส่วนจะอยู่ครบวาระหรือจะลาออกหรือไม่นั้น นายกแป้นไม่ได้ตอบคำถาม
ที่ศูนย์ประสานงานรับ-ส่งต่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ ดอนเมือง นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นำส่งถุงยังชีพธารน้ำใจจากพี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ (ผอ.) ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้การต้อนรับ โดยนายโสภณกล่าวว่า วันนี้ จ.บุรีรัมย์ได้นำถุงยังชีพมาส่งต่อเพื่อส่งไปให้ผู้ประสบภัยภาคใต้ ซึ่งประชาชนได้เห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน อยากจะมีส่วนช่วยเหลือ แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลืออย่างไร รัฐบาลจึงตั้งศูนย์นี้ขึ้นมาเป็นสื่อกลางเพื่อให้ผู้ที่มีความประสงค์ช่วยเหลือสิ่งของเงินทองไปยังผู้ประสบภัย โดย จ.บุรีรัมย์ได้นำสิ่งของมามอบให้เพื่อส่งต่อ จ.สงขลา มูลค่า 140,000 บาท และ จ.ยะลา 200,000 บาท ส่วนประชาชนที่ประสงค์จะบริจาคหรือจะร่วมเหมือนที่บุรีรัมย์นำมาครั้งนี้ก็ส่งมาที่ศูนย์นี้ได้
เมื่อถามว่า การบริหารงานของรัฐบาลอาจจะส่งผลกระทบกับความรู้สึกประชาชน อย่างผลโพลวันนี้นายกฯ ก็หล่นมาแล้ว นายโสภณกล่าวว่า ตนไม่ห่วงเรื่องกระแสการเมือง เพราะประชาชนส่วนใหญ่เขารับรู้กันเอง แต่ต้องเรียนประชาชนว่า ถ้าเราเอาสถานการณ์มาปั่นเป็นกระแสแห่งความสามัคคี เฟกนิวส์ จริงบ้างหรือไม่จริงบ้าง เพื่อให้ประชาชนหลงผิด เวลาและการกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำของรัฐบาล
"พวกผมไม่ได้ Worry กับเรื่องกระแส เรื่องโพล วันนี้ก้าวข้ามเรื่องนั้นแล้ว สิ่งที่จะต้องทำก็คือเราจะเยียวยาจิตใจกันอย่างไร แล้วในระยะยาวจะทำกันอย่างไร มันไม่เพอร์เฟกต์ เราก็รู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีรัฐบาลไหนที่จะทำให้สมบูรณ์ได้ มันเกินคาด แต่จะทำอย่างไรในส่วนที่บกพร่องก็เป็นอุทาหรณ์ ส่วนความนิยมทางการเมือง ถ้าบอกว่าพวกผมทำผิด ประชาชนก็ต้องตัดสิน ไม่ใช่คนบางกลุ่มที่ไปปั่น" นายโสภณกล่าว
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วนายกฯ ยุบสภาในสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วม จะส่งผลกระทบในเชิงลบกับภูมิใจไทยมากกว่าหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า ภูมิใจไทยไม่เกี่ยว แต่เราประกาศแล้วว่า ถ้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยุบสภา ส่วนที่ประชาชนบอกว่าจะยุบแล้วจะมีผลกระทบกับน้ำท่วม ก็เป็นเรื่องของคนที่ยื่น ถ้าคนที่ยื่นไม่เห็นความสำคัญของความเดือดร้อนของประชาชน
"เพราะผมประกาศมาก่อนหน้านี้แล้ว คุณยื่นมา ผมก็ยุบ ส่วนที่เราเป็นรัฐบาลรักษาการ เราก็เดินหน้าทำเต็มที่ แต่อาจจะลดลงหน่อยหนึ่ง ในฐานะเป็นรัฐบาลรักษาการ" นายโสภณกล่าว
ขอเยียวยาไม่ต้องถ่ายเอกสาร
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงกรณีดรามามาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยว่า ตั้งแต่วันแรกที่มีการประชุม นายกฯ ได้สั่งการชัดเจนให้ทุกหน่วยงาน ลดขั้นตอนเอกสารให้มากที่สุด เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมครอบคลุมทั้งจังหวัด ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนถ่ายเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งสร้างความลำบากในภาวะวิกฤต การเยียวยาจะไม่ใช่เฉพาะเจ้าบ้านเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงผู้พักอาศัยที่เป็นผู้เช่า ห้องเช่า หรือผู้ที่อาศัยอยู่จริง โดยให้ใช้เพียงการยืนยันตัวตนเป็นหลัก
"ส่วนกระแสดรามาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ คนแห่ถ่ายเอกสาร คาดว่าสาเหตุเกิดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง หากพบหน่วยงานใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือสร้างภาระแก่ประชาชนโดยไม่จำเป็น จะต้องถูกดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง" นายสิริพงศ์กล่าว
ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ในฐานะกรรมการและโฆษกศูนย์ และ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการและโฆษกศูนย์ เข้าร่วมด้วย
นายสิริพงศ์กล่าวว่า พล.อ.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร ผู้แทน ศป.กฉ.ส่วนหน้า ได้รายงานการฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนหลังภัยพิบัติว่า ขณะนี้ส่วนหน้าได้ปรับภารกิจจากการกู้ภัยเป็น “การฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชน” โดยภายใน 48 ชั่วโมงย้อนหลังได้นำระบบ Jitasa.care มาช่วยเสริมในการตรวจสอบ (double check) พบว่าได้ช่วยเหลือประชาชนไปแล้วกว่า 1.8 หมื่นราย แม้ว่าน้ำลดลงแล้ว ยังมีการแจกอาหารน้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง ได้ดำเนินการตั้ง “คลินิกเยียวยาจิตใจ” ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มเติมด้วย ด้านการแก้ไขระบบสาธารณูปโภคนั้น ได้ประสานและติดตามความคืบหน้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกระบบกลับมาใช้การได้ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2568
ผู้อำนวยการ ศป.กฉ.ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพิ่มจุดพักขยะใน 4 โซนที่ได้แบ่งไว้ และให้ดำเนินการขนย้ายขยะในตอนกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรในช่วงกลางวัน ตำรวจในพื้นที่ได้รับมอบหมายจาก ศป.กฉ.ส่วนหน้า ทำภารกิจย้ายรถที่กีดขวาง ปัจจุบันมีพื้นที่รองรับการขนย้ายแล้ว ส่วนการควบคุมอาชญากรรม ได้มีการระดมกำลังตำรวจนอกพื้นที่มาช่วยควบคุม ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ประสานบริษัทประกันภัยต่างๆ แล้ว เรื่องรถยก สำหรับการเคลมประกันภัยขณะนี้ ประชาชนผู้เอาประกันภัยทยอยแจ้งเคลมมาเป็นระยะ
ส่วนกรมโยธาธิการและผังเมือง รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการซ่อมแซมอาคารหลังน้ำลดได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานสำหรับการตรวจสอบอาคาร” กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ระดมช่างฝีมือในเครือข่ายลงพื้นที่ไปให้บริการซ่อมแซม รถจักรยานยนต์ ซ่อมเครื่องมือ เครื่องยนต์เล็กการเกษตร สร้างอุปกรณ์ไฟฟ้า และตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้าน สำหรับการกำจัดซากสัตว์ กรมปศุสัตว์สามารถกำจัดซากสัตว์ได้แล้ว ส่วนเรื่องการจ่ายน้ำประปาในพื้นที่หาดใหญ่ ได้ดำเนินการแล้วประมาณ 45% ของพื้นที่ ครอบคลุมโรงพยาบาลหาดใหญ่ รวมทั้งบริเวณตลาดกิมหยง และจะเพิ่มการจ่ายน้ำประปาไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมสถานีสูบน้ำให้ครบทั้งหมด คาดว่าจะสามารถจ่ายน้ำได้ครบทั้งหาดใหญ่และสงขลาในอีก 2-5 วันข้างหน้า
ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับความช่วยเหลือ ปภ.รายงานว่ามีแนวโน้มลดลงอย่างมาก เตรียมนำแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เข้ามาใช้สำหรับยืนยันข้อมูลของผู้ประสบอุทกภัย ส่วนการจ่ายเงินเยียวยานั้น กรมการปกครองจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด สำหรับความคืบหน้าการจ่ายกระแสไฟฟ้าคืนให้กับประชาชน สามารถจ่ายไฟได้แล้ว 85-86% และเหลือผู้ใช้ไฟประมาณกว่า 23,500 ราย ที่อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการ โดยพื้นที่สำคัญๆ อย่างโซนธุรกิจ ได้มีการฟื้นฟูระบบไฟฟ้าเกือบสมบูรณ์ 100% แล้ว ทั้งนี้ภายใน 1-2 วันข้างหน้า ล่าสุดการไฟฟ้านครหลวงจะเข้าร่วมฟื้นฟูระบบไฟฟ้าร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคด้วย
สธ.แจงสงขลาตาย 131 ราย
ด้านกองทัพเรือรายงานว่า เรือหลวงอ่างทองได้กำหนดเวลาออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ เวลา 08.00 น. หากหน่วยงานใดมีความประสงค์จะฝากสิ่งของบริจาคเพื่อส่งต่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือของสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงว่า มีโครงการสินเชื่อส่งเสริมการจ้างงานเพื่อผู้ประกันตน ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่กรกฎาคม 2568 ด้าน กสทช.รายงานว่า ในพื้นที่ที่ยังไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ได้ใช้ระบบดาวเทียมเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนสามารถสื่อสารและติดต่อกันได้ หาก กฟภ.สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ครบทั้ง 8 จุด ระบบสื่อสารจะสามารถกลับมาครอบคลุมได้เต็ม 100% ภายในวันนี้
นายสิริพงศ์กล่าวถึงกรณีนักวิชาการแนะให้ยกเลิกคำสั่งมอบหมายหน้าที่รองนายกฯ ดูแลน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ภาคใต้ จะเป็นการซ้ำซ้อนกับการตั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ว่า คำสั่งที่มอบหมายรองนายกฯ ให้ไปกำกับดูแลในแต่ละ 8 จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยส่วนนี้ จะแยกกับการมอบหมายรองนายกฯ แต่ละคนไปดูแลในแต่ละจังหวัด ในส่วนนี้เป็นการดูแลทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งฝ่ายนี้จะดูเรื่องของแนวทางการนำนโยบายมาปฏิบัติแต่ละจังหวัด ส่วนใน จ.สงขลา ที่ได้มีการแต่งตั้ง ผบ.ทสส. ซึ่งแต่งตั้งโดยนายกฯ ภายใต้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีหน้าที่บริหารจัดการสถานการณ์ในภาพรวม จึงไม่มีความซ้ำซ้อนกัน
ส่วนการแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาดูแลพื้นที่ในจังหวัดสงขลานั้น นายสิริพงศ์ยืนยันว่า ไม่ซ้ำซ้อน เพราะ ร.อ.ธรรมนัสกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ที่ควบคุมดูแลกรมชลประทานตรง ส่วนที่ไม่ใช้กฎหมายของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กฎหมาย ปภ.กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แตกต่างกัน จากสถานการณ์อุทกภัยใน จ.สงขลา ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งจังหวัด เพื่อดึงสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนทั่วประเทศ สามารถดูแลกำกับช่วยเหลือ ข้ามกระทรวงได้ หลักเกณฑ์ข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคสามารถประกาศยกเว้นได้ รวมถึงการชดเชยเยียวยา เพราะถือเป็นกฎหมายพิเศษ
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส กินพื้นที่ 89 อำเภอ 595 ตำบล 4,227 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,162,551 ครัวเรือน 2,963,894 คน
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สรุปสถานการณ์ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุทกภัยภาคใต้ โดยเป็นข้อมูลจากระบบ GIS และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สรุป วันที่ 30 พ.ย. เวลา 08.00 น. มีรายงานผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 20-30 พ.ย.2568 จำนวน 170 ราย แยกเป็นกรณีพลัดตกน้ำ จมน้ำ 160 ราย ที่เหลือคือเสียชีวิตจากการถูกไฟชอร์ต ถูกน้ำพัด ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 102 ราย ทั้งนี้ ในรายละเอียดสามารถจำแนกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ จ.นครศรีธรรมราช มีผู้เสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย, พัทลุง เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย, สงขลา เสียชีวิต 131 ราย บาดเจ็บ 37 ราย, ตรัง เสียชีวิต 2 ราย, สตูล เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 33 ราย, ปัตตานี เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 7 ราย, ยะลา เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 22 ราย และนราธิวาส เสียชีวิต 4 ราย
สำหรับรายงานความเสียหายต่อสถานพยาบาล เฉพาะพื้นที่สงขลา มีสถานพยาบาลได้รับผลกระทบ 70 แห่ง โดยยังสามารถเปิดให้บริการได้ปกติ 42 แห่ง ปิดบริการบางส่วน 6 แห่ง และปิดบริการ 22 แห่ง
ที่หอประชุมสิริสวัสดิธร ต.ท่าสาป อ.เมืองฯ จ.ยะลา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พร้อมด้วยนายสุไลมาน บือแนปีแน, นายซูการ์โน มะทา สส.พรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมรับฟังปัญหาและมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยประธานรัฐสภากล่าวว่า หากไม่มีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าความเสียหายน่าจะมากกว่านี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนหวังว่า "ยะลาโมเดล" แม้ไม่ใช่โมเดลที่ดีที่สุด แต่เป็นโมเดลที่ใช้ในการรองรับกับปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลาในปีนี้ได้เป็นอย่างดี
พท.ให้โอกาสรบ.ช่วยปชช.
ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 จังหวัดสงขลา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและแนวทางปฏิบัติจากหน่วยงานในพื้นที่ ประกอบด้วย แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด สวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัด และประกันสังคมจังหวัด พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงาน 5 เสือแรงงาน ดำเนินงานให้ความช่วยเหลือทุกอย่างโดยเร่งด่วนที่สุด อะไรที่สามารถลดขั้นตอนได้ ขอให้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เร็วที่สุด
น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่หาดใหญ่ สงขลา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดยวันนี้ได้นำเครื่องปั่นไฟไปบริการพี่น้องประชาชนที่คลองแห จากนั้นได้มีโอกาสได้พบกับนางตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ที่มาเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จึงได้ทวงถามและหารือ โดยย้ำกับ น.ส.ตรีนุชว่า “อย่าแยกกันคิด” “รัฐบาลต้องวางกรอบร่วมกัน” ประชาชนจะได้ฟื้นตัวแล้วกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้ง
ส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร สส.และสมาชิกพรรค เดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ให้กำลังใจประชาชนในศูนย์อพยพ และสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัย
นายจุลพันธ์กล่าวว่า ในฐานะฝ่ายค้าน เราเตรียมตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เวลานี้คงไม่ใช่เวลาไปโจมตี ซึ่งรัฐบาลคงรู้ตัวอยู่แล้วว่าสิ่งที่ดำเนินการมันบกพร่องล้มเหลว พวกเราเองแม้จะไม่สบายใจกับการทำงานของรัฐบาล แต่ยังไม่ถึงเวลา อยากให้เวลารัฐบาลปรับปรุงแก้ไข เข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที รวมถึงอยากให้รัฐบาลเข้าไปจัดการเรื่องเครื่องบินโดยสารที่จะมาสนามบินหาดใหญ่ ที่มีราคาดีดตัวสูง และมีจำนวนเที่ยวบินไม่พอกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการมาช่วยเหลือครอบครัว
“อยากเตือนรัฐบาลว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ผ่อนคลาย ยุติกลไกการเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จนกว่าสถานการณ์น้ำจะลดลง รวมถึงการฟื้นฟูสิ่งต่างๆ" นายจุลพันธ์กล่าว
สำหรับเรื่องการโยกย้ายข้าราชการนอกฤดูกาลของนายกฯ ที่มีการย้ายผู้ว่าฯ สงขลาก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมไม่กี่วันนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นข้อสังเกตของทั้งสังคมไทยอยู่แล้ว ทางพรรคก็ตรวจสอบอยู่ การมาเป็นรัฐบาลในระยะเวลาชั่วคราว ได้โยกย้ายข้าราชการจำนวนมาก มากกว่ารัฐบาลปกติด้วยซ้ำ เป็นการเตรียมการเลือกตั้งหรือไม่ ฝ่ายค้านพร้อมจะสะท้อนปัญหาผ่านช่องทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
โดยช่วงบ่าย นายจุลพันธ์และคณะได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชน ให้กำลังใจผู้ประสบภัย พร้อมแจกอาหารและสิ่งของจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
นายวีระพงษ์ ประภา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงแผนพลิกฟื้นหาดใหญ่ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และตนได้ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ไปสังเกตการณ์และให้กำลังใจผู้ประสบภัย ทุกองคาพยพต้องกลับมาช่วยกันสร้างหาดใหญ่ให้กลับมาเป็นเส้นเลือดเศรษฐกิจหนึ่งของประเทศให้ได้ และต้องสร้างเศรษฐกิจใหม่ Build Back Hat-Yai ไปให้ไกลกว่าฟื้นฟูเยียวยา
ส่วนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ นำคณะลงพื้นที่สงขลา โดยได้เยี่ยมชมศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน จากวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี ที่ออกให้บริการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ซึ่งเปิดอาสาซ่อมรถจักรยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหาย ก่อนที่จะมอบของจากคาราวานไทยก้าวใหม่ให้แก่ผู้ประสบภัย
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อรัฐบาลมีความผิดพลาดทางการบริหาร สามารถทำได้ 2 แนวทาง ไม่ยุบสภาก็ลาออก แต่ถ้านายอนุทินลาออก โอกาสก็ตกอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีแคนดิเดตนายกฯ เหลืออยู่อีก 1 คน คือนายชัยเกษม นิติสิริ ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆ โอกาสไม่มีแล้ว จึงทำให้พรรคเพื่อไทยอยู่ในอาการละล้าละลัง ตนเสนอให้ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน ถ้าหากนายอนุทินตัดสินใจลาออก และเลือกนายกฯ ใหม่ ก็ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ต้องล้างไพ่ใหม่ คือยุบสภา แต่ละพรรคจะเสนอแคนดิเดตนายกฯ ให้ประชาชนตัดสินใจว่า จะให้พรรคการเมืองใดเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้ความเห็นต่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่หาดใหญ่ว่า รากของปัญหาอยู่ที่โครงสร้างระบบราชการรวมศูนย์ และสมรรถนะของท้องถิ่นที่อ่อนแอ ซึ่งสะสมต่อเนื่องมานานหลายสิบปี จากระบบการปกครองแบบไทยๆ ที่ลดทอนความเข้มแข็งของท้องถิ่นเป็นทุนเดิม เหตุการณ์ครั้งนี้ควรถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่การโยนความผิดให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ต้องมองว่าโครงสร้างที่มีอยู่ไม่เอื้อต่อการรับมือภัยพิบัติยุคใหม่ เมืองใหญ่ต้องมีอำนาจตัดสินใจที่เร็วกว่า งบประมาณที่คล่องตัวกว่า และระบบข้อมูลที่แม่นยำกว่า เพื่อให้ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ และเพื่อให้การสนับสนุนจากส่วนกลางลงสู่พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
"หากไม่เริ่มปรับโครงสร้างระบบราชการ กระจายอำนาจ และยกระดับองค์กรปกครองท้องถิ่น เมืองใหญ่อย่างหาดใหญ่ก็จะยังต้องเผชิญเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต ไม่ว่าจะมีใครเป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่ระบบที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง" รศ.ดร.โอฬารระบุ
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และอดีตกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยว่า น้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่และภาคใต้ สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารจัดการภัยพิบัติขนาดใหญ่ของสังคมไทยอย่างชัดเจน ต้องมีการถอดบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและความผิดผลาดซ้ำเดิมอีก ปรับยุทธศาสตร์เป็นพัฒนาแบบยั่งยืนมากขึ้น เดินหน้าลงทุนระบบการบริหารจัดการน้ำ ป้องกันกรุงเทพฯ จมลงต่ำกว่าระดับน้ำทะเล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน
'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา


