พระราชทาน2หมื่น/ศพ ช่วยครอบครัวเหยื่อน้ำท่วม/คลอดมาตรการใหญ่ฟื้นฟู

นายกฯ เผย "ในหลวง" พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ช่วยผู้เสียชีวิตน้ำท่วมหาดใหญ่รายละ 2 หมื่นบาท ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น ครม.เศรษฐกิจคลอด 4 มาตรการใหญ่ฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม ทั้งพักหนี้-ปล่อยเงินกู้-ชดเชยรายได้ ชงเข้า ครม. 2 ธ.ค. หลังพบกระทบ 2.9 ล้านคน เสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท “อนุทิน” ลั่น 14 วันหาดใหญ่ต้องกลับสู่ปกติ วางนโยบายทำงบปี 2570 เน้นรับมือภัยธรรมชาติ ลดเรื่องความเจริญอย่างก่อสร้างถนน “สธ.” ดีดปากโจ๊กมั่วตัวเลขผู้เสียชีวิต

เมื่อวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงขั้นตอนการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้เอกสารสำคัญสูญหายว่า ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการแล้ว ไม่ช้าแน่นอน

ถามว่า ในพื้นที่ที่ไม่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน  การให้ความช่วยเหลือเยียวยาจะเหมือนกันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า มันมีหลักเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อยู่ในส่วนของพื้นที่ที่ไม่มีการประกาศ ส่วนจะมีการประกาศขยายพื้นที่เพิ่มเติมหรือไม่นั้น โดยเฉพาะ จ.สตูล ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์และพิจารณา เพราะอยู่ในอำนาจของ ผวจ.อยู่แล้ว

ต่อมานายอนุทินเป็นประธาน ในงานมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงเรื่องภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า รัฐบาลจะพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติ เช่น  พื้นที่น้ำท่วมประจำและพื้นที่มีความเสี่ยงสูง ส่วนเรื่องการเยียวยาจะขอให้ดำเนินการโดยด่วนที่สุด และขอความร่วมมือทุกท่านพิจารณา หากจะจัดประชุม งานอีเวนต์ สัมมนา อบรม ปฐมนิเทศต่างๆ ในช่วงนี้ อยากให้เลือกจังหวัดที่เกิดภัยพิบัติเหล่านี้ เช่นหาดใหญ่

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ภัยธรรมชาติ พายุ น้ำท่วม  จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เราต้องทำให้งบประมาณสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เป็นงบประมาณที่มีเป้าหมายเพื่อประชาชนเป็นสำคัญ และเป็นลำดับแรกในปี 2570 นี้ เราต้องทบทวนการพัฒนาหลายๆ อย่าง เพราะการพัฒนาความเจริญแต่จริงๆ แล้วทำลายตัวเองในอนาคต ยกตัวอย่างที่ อ.หาดใหญ่ ทำถนนเยอะแยะไปหมด เพื่อให้เข้าถึงหาดใหญ่ได้ แต่ถนนนี้อาจไปทำลายเส้นทางน้ำ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นในหลายจังหวัด

“ที่ผ่านมาเราก็ให้ความสำคัญกับการคมนาคมขนส่ง แต่ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการภัยพิบัติจากธรรมชาติ มีกฎหมายหลายๆ อย่างต้องเร่งแก้ไข เรามีนโยบายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่คำว่าป้องกันไม่ใช่ซื้ออุปกรณ์อย่างเดียว กฎหมายวันนี้จังหวัดไม่สามารถประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยได้จนกว่าจะเกิดเหตุ อันนี้ไม่ใช่ป้องกัน รัฐบาลต้องไปเร่งแก้ปัญหา อาจต้องเปลี่ยนกฎเกณฑ์หรือกฎระเบียบต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดได้รับสัญญาณต่างๆ ของพื้นที่” นายอนุทินกล่าว

ในเวลา 13.50 น. นายอนุทินเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2568 โดยนายกฯ กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญพระราชกระแสเนื่องด้วยเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบเหตุ โดยเฉพาะครอบครัวผู้เสียชีวิต จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับศพผู้เสียชีวิตทุกรายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และจิตอาสา ทั้งนี้ได้พระราชทานเงินจำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์แก่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ทดแทนที่เสียหาย และพระราชทานโดรนสำหรับค้นหาและส่งอาหาร ยุทธภัณฑ์ต่างๆ ให้แก่กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อใช้ในการช่วยเหลือประชาชน ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

พระราชทานเงินช่วยเหลือ

นายกฯ กล่าวว่า ในการนี้ได้รับการแจ้งย้ำว่า ขอให้ดำเนินการรับศพผู้เสียชีวิตทุกรายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งหมายความว่าในส่วนของผู้ที่เป็นชาวพุทธจะมีการพระราชทานเพลิงให้ทุกราย ส่วนผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามจะมีการพระราชทานดินฝังศพ ตามประเพณีและวัฒนธรรมที่ดำเนินกันมาอยู่แล้ว ฉะนั้นตรงนี้ขออนุญาตแจ้งผ่านปลัดกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอที่มีผู้เสียชีวิตได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด อย่าให้ตกหล่น

 “ผมได้รับแจ้งมาว่าจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินช่วยเหลือแก่ผู้เสียชีวิตรายละ 20,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ตรงนี้ขอให้กำชับว่าให้ดำเนินการตามประเพณีและให้ทำรายงานแจ้งกลับราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนำความกราบบังคมทูลให้ทรงทราบว่าได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว" นายกฯ กล่าว

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 2 ธ.ค.นี้จะประชุมเพื่อเตรียมมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟู ต้องเร่งสปีดไปข้างหน้าเพื่อให้ประชาชนพลิกฟื้นความเลวร้ายต่างๆ ของพวกเขาให้กลับมาสู่การมีโอกาสต่างๆ ให้มากขึ้นโดยเร็ว ซึ่งไม่ได้มีแค่เพียงมิติเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องเร่งดูแลฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานอย่างถนน ไฟฟ้า ประปา และอินเทอร์เน็ต ให้กลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพจิต  สุขภาพกายของผู้ประสบอุทกภัย โดยขอให้ รมว.สาธารณสุขเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ ต้องเกณฑ์จิตแพทย์และนักจิตวิทยาลงไปดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดด้วย

 “ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่ได้หารือ เช่นการปรับปรุงการเตือนภัยอย่างเร่งด่วน การจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิต ซึ่งเรื่องการเตือนภัยเร่งด่วนได้หารือกับ รมว.ดีอีแล้ว  ซึ่งรัฐมนตรีจะได้ไปหาหนทางและวิธีการ และหาแพลตฟอร์มอัปเกรดการเตือนภัยให้เร่งด่วนและมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนเรื่องสำคัญอย่างการจ่ายเงินเยียวยารายครัวเรือนและผู้เสียชีวิต จะให้ รมว.การคลังเสนอให้ที่ประชุมได้รับทราบ และได้สั่งให้มหาดไทยเร่งนำเสนองบประมาณเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้ประสบภัยเข้า ครม.ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจการประกาศจะเยียวยาผู้เสียชีวิต 2 ล้านบาท แต่นอกพื้นที่จะจ่ายเหมือนกันหรือไม่ว่า ขึ้นอยู่กับภัย ซึ่งมีระดับและขั้นตอนอยู่ ส่วนเรื่องเอกสารการยื่นต่างๆ ได้สั่งการให้แก้ไขแล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่มีอะไรยุ่งยากแล้ว นายกฯ ตอบว่า "ครับ ปลัดกระทรวงมหาดไทยไม่ให้กลับมากรุงเทพฯ ให้อยู่ในพื้นที่เพื่อบัญชาการ ซึ่งต้องมีหน่วยสนับสนุนเยอะหน่อย เพราะสถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง  ทั้งอธิบดี ปภ., อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมถึงรองปลัด มท.อยู่ที่นั่นเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะการสำรวจและเร่งโอนเงิน ซึ่งวันนี้เริ่มทยอยโอนเงินลงไปแล้ว

“ผมได้กำหนดไปว่าภายใน 14 วันหรือ 2 สัปดาห์  สถานการณ์ทุกอย่างที่อำเภอหาดใหญ่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยสมบูรณ์” นายอนุทินระบุ

ทั้งนี้ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2568 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, ตรัง และสตูล เรื่องเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 9 จังหวัด ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติ ครม.ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเน้นย้ำตามแนวทางของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ให้เก็บเอกสารหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นการยืนยันตัวตนและมีการจ่ายเงินจริง เช่น 1.ใช้เลขประจำตัวประชาชน (ID) และหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน 2.บันทึกภาพถ่ายขณะมอบความช่วยเหลือ  ซึ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้บันทึกได้เอง และ 3.หรือให้ผู้รับลงนามยืนยันว่าได้รับเงินจริงก่อนดำเนินการโอนเงิน

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง แถลงผลประชุม ครม.เศรษฐกิจว่า ที่ประชุมเห็นชอบการออกมาตรการฟื้นฟูเยียวยาน้ำท่วม 4 มาตรการใหญ่ โดยจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.ในวันที่ 2 ธ.ค.พิจารณาให้ความเห็นชอบ เพราะเหตุการณ์น้ำท่วมได้สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจและทรัพย์สินเป็นวงกว้างโดยกระทบกับประชาชนมากกว่า 2.9 ล้านคน และส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจในพื้นที่กว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่ง 4 มาตรการใหญ่จะแยกออกเป็นกลุ่มหลัก 2 กลุ่ม นั่นคือ มาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี

คลอด 4 มาตรการฟื้นฟู

นายเอกนิติกล่าวว่า มาตรการที่ 1.การลดภาระหนี้ โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจดำเนินมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 เดือน โดยยกเว้นการคิดดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้ (คิดดอกเบี้ย 0%) รายละไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะผ่อนเกณฑ์ไม่เป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ด้วย ขณะเดียวกันยังให้สินเชื่อเพื่อเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เป็นสินเชื่อเพิ่มเติมภายใต้วงเงินกู้เดิมกับธนาคาร (ลูกหนี้เดิม) รายละไม่เกิน 1 แสนบาท ปลอดดอกเบี้ย 12 เดือนแรก และให้สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย  ปลอดดอกเบี้ย 12 เดือนแรก

2.การเก็บเงินไว้ในกระเป๋า โดยนายกฯ กำชับเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยตามเกณฑ์ครัวเรือนละไม่เกิน 9,000 บาท กระทรวงมหาดไทยจะเสนอที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ เพื่อของบกลางและเร่งเบิกจ่าย ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังได้ขยายเงินทดรองจ่ายให้ ผวจ.นำไปใช้จ่ายต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น จังหวัดละ 100 ล้านบาท พร้อมผ่อนเกณฑ์เบิกจ่ายให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อนำมาช่วยประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ ส่วนด้านการประกันภัยสำหรับประชาชนที่ทรัพย์สินเสียหาย บริษัทประกันจะเร่งจ่ายค่าชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกิน 20,000 บาท โดยร้านค้าต่างๆ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน 30,000 บาท ส่วนรถยนต์จะเร่งเคลมให้รวดเร็ว และกระทรวงแรงงานได้ขยายเวลาเงินนำส่งประกันสังคมทั้งหมด ขณะที่ลูกจ้างจะจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในกรณีไม่สามารถทำงานได้ในอัตรา 50% ของค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 180 วัน และจัดสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ในกิจการที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน กู้ได้ไม่เกินรายละ 15 ล้านบาท

3.การลดภาระค่าใช้จ่าย โดยขยายเวลาชำระภาษีและค่าธรรมเนียมเพื่อลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่ประสบภัย พร้อมลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับซ่อมแซมทรัพย์สินตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อซ่อมแซมรถยนต์ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการที่มีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมทรัพย์สิน สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักได้ 2 เท่า นอกเหนือจากนั้นผู้ที่บริจาคช่วยผู้ประสบภัย และองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

4.ด้านอื่นๆ เช่น รัฐวิสาหกิจตรวจสอบความปลอดภัยตามที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้างระบบท่อน้ำ ระบบไฟฟ้า รางรถไฟ เป็นต้น การอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด การจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตร โดยลงพื้นที่ให้คำปรึกษาและบริการต่างๆ

“ได้มอบหมายให้ ธปท.พิจารณาแนวทางที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และผู้ให้บริการทางการเงินอื่นๆ ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ประสบอุทกภัย ได้รับความช่วยเหลือที่สอดคล้องกับแนวทางการให้ความช่วยเหลือของสถาบันการเงินเฉพาะกิจต่อไป”

รองนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ยังได้มอบหมายให้ถอดบทเรียนจากภัยพิบัติครั้งนี้ โดยให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ เป็นประธานถอดบทเรียนต่างๆ ทั้งการแก้ปัญหาในระยะสั้น และการเตรียมความพร้อมระยะยาว โดยกระทรวงการต่างประเทศจะขอความช่วยเหลือจากประเทศที่มีปัญหาประสบอุทกภัย เช่นประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาวางระบบในการดูแล นอกจากนี้ยังได้มอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังจากฟื้นฟู และให้หน่วยราชการต่างๆ จัดสัมมนาในจังหวัดที่ประสบภัย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไป ส่วนมาตรการลดค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับไปดำเนินการต่อไป

14 วันสงขลาต้องสะอาด

ส่วนนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) แถลงผลการประชุมว่า ภาพรวมมหาอุทกภัยที่ จ.สงขลา ขณะนี้เข้าสู่โหมดการฟื้นฟูเยียวยา น้ำประปาสามารถจ่ายได้แล้ว  80% คาดว่าจะกลับมาใช้ได้ 100% ในวันที่ 3 ธ.ค. พร้อมกันนี้ได้ประสานให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีรถเก็บขยะ 100 คัน ใช้วิธีจ้างเหมาบริการให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทันที ซึ่งได้ตั้งเป้าหมาย 7 วัน ประชาชนต้องเข้าไปอยู่ในบ้านได้ และ 14 วัน จ.สงขลา รวมถึง อ.หาดใหญ่ต้องสะอาด

 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการและโฆษก ศป.กฉ. แถลงว่า เงินเยียวยา 9,000 บาทนั้น นายกฯ กำชับว่าต้องถึงมือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยภายในวันนี้ ขณะนี้ตัวเลขของกระทรวงมหาดไทยมีผู้ประสบภัย 2.6 หมื่นครัวเรือน ที่มีการยืนยันเลขที่บัญชีผูกกับพร้อมเพย์ได้แล้ววงเงิน 239 ล้านบาท ซึ่งธนาคารออมสินพร้อมโอนให้

โดย ปภ.รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย 9 จังหวัดภาคใต้ว่า ภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในหลายพื้นที่ แต่ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา ปัตตานี,  ยะลา และนราธิวาส กินพื้นที่ 79 อำเภอ 508 ตำบล 3,394 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,093,723 ครัวเรือน  2,752,723 คน

ปภ.ยังรายงานการโอนเงินเยียวยาว่า ธนาคารออมสินได้โอนเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยที่ได้ลงทะเบียน และผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ รวม 26,571 ครัวเรือน ได้แก่ สงขลา (4,563 ครัวเรือน) สตูล (8,772 ครัวเรือน) และปัตตานี (13,236 ครัวเรือน) เป็นเงินทั้งสิ้น 239,139,000 บาท

นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัด สธ. แถลงสถานการณ์ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วม​จังหวัดสงขลา​ว่า จะยึดข้อมูลที่​โรงพยาบาลสงขลานครินทร์​เป็นหลัก เพราะเป็นศูนย์​รวบรวมศพผู้เสียชีวิต​ ซึ่งข้อมูลปัจจุบัน​ ณ​ เวลา​ 16.00​ น. มีผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบ 140 คน​  เพิ่มขึ้นจากวาน​นี้​ 2 คน​ แบ่งแยกเป็นเสียชีวิตในโรงพยาบาล 65 คน​ นอกโรงพยาบาล 75 คน ซึ่งขณะนี้​มีการพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ 104 คน​ เหลืออีก 36 คน​ที่รอการพิสูจน์ตัวบุคคล และตอนนี้ได้นำศพคืนสู่ญาติไปแล้ว 23 คน​ เหลือที่ศูนย์​ฯ 117 คน​

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์​ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ออกมาเปิดเผยว่ามียอดผู้เสียชีวิตหลัก​พันคน​ นพ.ศักดา​กล่าวว่า​ จะเป็นได้อย่างไร ไม่ได้อยากให้มีผู้เสียชีวิตเยอะ เฉพาะวันแรกสามารถรวบรวมศพได้ 85-110 คน  ก่อนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ และเพิ่มสูงมากที่สุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา

“หากไม่เชื่อก็ไปดูที่หน้าตู้ อยากจะเปิดให้ดู แต่เป็นสถานที่หวงห้ามสำหรับกระบวนการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งมีข้อจำกัดของการเข้าถึง อยากจะให้ดูทุกอย่าง และอยากจะบอกพี่น้องประชาชนทุกท่าน ความจริงหน้างาน หากอยากรู้หรือมีข้อสงสัย ไปหาข้อมูลพื้นที่หน้างานจะดีที่สุด” นพ.ศักดากล่าวและว่า​ ถ้าดูตามสถิติและสถานการณ์ หากจะเพิ่มขึ้น​ก็เพิ่มขึ้น​หลักหน่วย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เคยระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 500-1,000 คน ซึ่งสาเหตุที่รัฐบาลพยายามกดยอดตัวเลขตรงนี้ให้ต่ำลง เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำนวนเงินที่ต้องเยียวยาผู้เสียชีวิตศพละ 2 ล้านบาท 1,000 ศพก็เป็นเงิน 2,000 ล้าน ที่สำคัญนี่เป็นภาพจำของทางการเมืองว่าประชาชนอาจตั้งฉายาให้เป็นนายกฯ 1,000 ศพ

ร้องฟันนายกแป้น

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคได้รวบรวมข้อเสนอที่อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคือ 1.เร่งดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต กำหนดเรื่องเกณฑ์เยียวยาให้ชัดเจน โปร่งใส 2.กระบวนการเยียวยาทางด้านจิตใจ 3.เร่งจัดการมาตรการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ให้กลับไปเป็นปกติได้เร็วที่สุด ทั้งระบบสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า และการจัดการขยะ 4.ต้องมีกลไกในการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อให้เศรษฐกิจของพื้นที่กลับมาอยู่ในภาวะปกติ

ที่ศูนย์ดำรงธรรม นายสนธิญา สวัสดี มายื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายอนุทิน ให้ดำเนินคดีเอาผิดนายณรงค์พร ณ พัทลุง หรือนายกแป้น นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กรณีปล่อยปละละเลย เพิกเฉยต่อการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมหาดใหญ่จากส่วนกลาง ทำให้สถานการณ์บานปลายมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่เริ่มคลี่คลายลงแล้ว บรรยากาศที่ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 พบว่าประชาชนและผู้ประกอบการห้างร้าน คลินิก และโรงแรมต่างๆ ทยอยออกมาทำความสะอาดครั้งใหญ่ ส่วนกรมการขนส่งทางบกร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.หาดใหญ่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รถยกและรถสไลด์กว่า 10 คัน เข้าดำเนินการเคลื่อนย้ายรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่บนสะพานพิทักษ์คุมพล ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นภารกิจต่อเนื่องจากการเคลียร์ฝั่งขาเข้าเมืองที่ดำเนินการไปแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อให้สะพานข้ามคลองอู่ตะเภาแห่งนี้สามารถกลับมาใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ส่วนที่ จ.พัทลุง ขณะนี้พื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบริเวณ อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน อ.ศรีบรรพต อ.ป่าพะยอม ระดับน้ำเข้าสู่ปกติ แต่ในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาบริเวณ อ.ควนขนุน อ.เมืองพัทลุง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน ยังมีระดับน้ำที่สูงมาก จากกระแสคลื่นลมในทะเลสาบสงขลายังพัดหนุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำลดลงเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.เกาะหมาก ต.เกาะนางคำ ที่เป็นพื้นที่เกาะนั้นระดับน้ำยังคงสูง ถนนภายในหมู่บ้านยังถูกตัดขาด ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา ในส่วนของพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง โดยเฉพาะชุมชนในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง น้ำยังคงท่วมสูงใน 5 ชุมชน เช่น ชุมชนบ้านท่าน้ำหัวนอน ชุมชนบ้านออก ชุมชมบ้านไร่ ชุมชนลำปำ และชุมชนตลาดเก่าลำปำ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง