แบะท่าอาจยื้อยุบสภา

"อนุทิน" ทุบโต๊ะ ยุบสภาขึ้นกับสถานการณ์ ถ้าช่วงมีภัยพิบัติฉุกเฉิน รบ.จะทำงานช่วยเหลือ ปชช.ลำบาก ยันถ้าจำเป็นก็ต้องมีความพร้อม ขณะที่ “กกต.” โยนระเบิดเวลาประชามติยังลูกผีลูกคน หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง “วิทยา” เตือนอันตรายทิ้ง 3 ปัญหาใหญ่คาประเทศ ยกบทเรียนจลาจลใหญ่เมืองคอน ดึงสติหากชาวบ้านหาดใหญ่เดือดหลังน้ำลด ขณะที่ "เพื่อไทย" หาทางลงวิน-วินไม่ยื่นอภิปราย อยากให้มีสมาธิดูแลวิกฤตหาดใหญ่ "หนิม" มุบมิบ "ลูกสมชาย" โผล่แคนดิเดตนายกฯ

 เมื่อวันจันทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค.ว่า เรื่องยุบสภาอยู่ที่สถานการณ์ทางการเมือง ทุกท่านทราบอยู่แล้วว่าสภาชุดนี้อยู่ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. 2569

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวรัฐบาลประสานกับพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องการยุบสภา นายอนุทินกล่าวว่า ยังเลย ยังไม่มีครับ ตนยังไม่ได้คุยกับผู้บริหารพรรคไหนเลย อย่าว่าแต่พรรคเพื่อไทยเลย พรรคไหนก็ไม่ได้คุย เราบริหารราชการไปโดยมีไทม์ไลน์ของเรา อย่างไรก็รักษาคำพูด

"เรามี MOA ผมเชื่อว่าตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ได้ทำทุกอย่างตามเงื่อนไข MOA กับพรรคประชาชน วันนี้เราเป็นรัฐบาลแล้วก็ไม่อยากพูดคำว่า MOA เยอะ เพราะเป็นเรื่องของสองพรรค วันนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลและประเทศแล้ว ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เราบอกแล้วว่าวันที่ 31 ม.ค. 69 เราจะยุบสภา ตอนนี้มีสถานการณ์อะไรต่างๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากขอให้พวกเราทุกคนไปช่วยพี่น้องประชาชนบรรเทาทุกข์ เอาเขาออกจากความทุกข์ร้อน เอาเขากลับบ้านฟื้นฟูคืนบ้านเมืองให้เขา หายใจอีกแป๊บเดียวก็ยุบสภาแล้ว" นายอนุทินระบุ

เมื่อถามว่า ล่าสุดพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตอนนี้ นายอนุทินยิ้มก่อนกล่าวว่า ถ้ายุบสภา ถ้าช่วงมีภัยพิบัติเรื่องฉุกเฉินต่างๆ รัฐบาลจะทำงานช่วยเหลือประชาชนลำบาก แต่ถ้าเกิดมีความจำเป็น หากไม่มีทางเลือกมันก็ไม่มีทางเลือก เราก็ต้องมีความพร้อม

เมื่อถามว่า กำลังใจตอนนี้เป็นอย่างไรเพราะมีกระแสดรามามากเหลือเกิน นายอนุทินกล่าวว่า “ผมไม่มีปัญหาอะไรกับกระแสดรามาเลยแม้แต่น้อย เพราะผมและคณะรัฐมนตรีของผมยึดถือความทุกข์ของประชาชน ประชาชนทุกข์หนึ่งเท่า พวกผมทุกข์สิบเท่า เพราะเราต้องดูแลเขา และแสวงหาความร่วมมือช่วยพวกเขา"

ถามว่า ได้ประเมินกระแสนิยมพรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า "ไม่ได้ประเมินเลยพูดจริงๆ ผมก็ทำงานของผม ตั้งแต่ทำงานการเมืองมา 20 ปีไม่เคยประเมิน  เวลาสื่อถามว่าประเมินคะแนนตัวเองเท่าไหร่ ก็พูดเล่นๆ ว่าให้ 10 เต็ม 10 เพราะผมทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดเลย  จริงๆ คนประเมินผมคือประชาชน"

 "ไม่รู้สึก เพราะคนพูดเช่นนี้อาจติดตามข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง อย่างพวกผมก็ไปลุยน้ำเท่าอกเหมือนกัน ยังมีปัญหาเรื่องผิวหนังอยู่เลย แต่ไม่มีปัญหาเพราะลงไปแล้วเราก็รู้งาน  ใครพูดอะไรก็ตอบได้ แต่ไม่ต้องการไปเถียงเพราะทุกคนมีสิทธิ์พูด แต่ถ้าจะพูดเรื่องน้ำที่หาดใหญ่ในการช่วยเหลือประชาชนและมาตรการต่างๆ รัฐบาลต้องมั่นใจว่ามาถูกทางและทำทุกอย่างที่ต้องทำ" นายอนุทินกล่าวถึงกรณีประชาชนอาจมองว่ารัฐบาลติดลบในการแก้วิกฤตน้ำท่วม บั่นทอนความรู้สึกหรือไม่

เมื่อถามถึงผลโพลล่าสุดในพื้นที่ภาคใต้ ที่นายอนุทินมาเป็นอันดับ 3 นายอนุทินกล่าวว่า ก็สาธุ พร้อมพนมมือท่วมหัว ก่อนกล่าวว่า เช่นเดียวกับคะแนนพรรคภูมิใจไทยที่ตกมาเหลือ 11% ก่อนหน้านี้เราเคยอยู่ 0.21% ก็ขอบคุณมากแล้ว ได้แค่นี้ก็ดีใจตายแล้ว

วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าที่ร้อยตรี ภาสกร สิริภคยาพร รองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรอบเวลาในการจัดการเลือกตั้ง สส.พร้อมกับการจัดให้มีการออกเสียงประชามติว่า เวลานี้ กกต.ไม่อาจบอกได้ว่าการทำประชามติจะเกิดขึ้นหรือไม่ เกิดขึ้นเมื่อไร หรืออย่างไร ขึ้นอยู่กับว่ารัฐสภาและคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้ง กกต.มาเมื่อใด รวมถึงไม่อาจบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมการเลือกตั้ง สส.หรือไม่ เพราะไม่ทราบว่าจะยุบสภาเมื่อไร ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กำหนดให้วันออกเสียงประชามติเป็นวันเดียวกับวันเลือกตั้ง สส.เป็นการทั่วไป หรือวันเลือกตั้งท้องถิ่น เนื่องจากดำรงตำแหน่งครบวาระได้ แต่ต้องไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วัน นับแต่วันที่ กกต.ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภา หรือวันที่ ครม.มีมติ แล้วแต่กรณี

 “จากกรอบเวลาเดิมที่มีการกำหนดยุบสภาในวันที่ 31 ม.ค. และกำหนดให้ 29 มี.ค.เป็นวันเลือกตั้งพร้อมการจัดทำประชามตินั้น แต่เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป โจทย์ของเราคือยุบสภาวันไหน และรัฐสภาแจ้งให้มีการทำประชามติเมื่อไร ต้องนำ 2 อย่างนี้มาผนวกกัน เพื่อดูว่าต้องใช้เวลาตามกฎหมายเท่าใด ซึ่งไม่ใช่อำนาจของ กกต.  ไม่สามารถก้าวล่วงรัฐบาลหรือรัฐสภาได้” ว่าที่ ร.ต.ภาสกร ระบุ

ว่าที่ ร.ต.ภาสกรย้ำว่า กกต.มีหน้าที่รับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำ และ กกต.จะแจ้งให้ประชาชนทราบเท่านั้น รวมถึงการดูแลกระบวนการจัดทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่พร้อมกัน กกต.ก็ต้องมีความพร้อมดำเนินการอยู่ดี แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน โดยคาดว่าเพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลาเดิม อย่างช้ารัฐบาลต้องแจ้ง กกต.มาภายในประมาณ 15 ธ.ค. ซึ่งเป็นการกำหนดคร่าวๆ ตามแผนเดิม แต่ในความเป็นจริงยังมีเวลาเพียงพออยู่ตามกฎหมายประชามติ

เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค.จะส่งผลให้การเลือกตั้ง สส.และการจัดทำประชามติไม่ได้เป็นวันเดียวกันหรือไม่ ว่าที่ร้อยตรี ภาสกรกล่าวว่า กกต.ไม่สามารถตอบได้ ซึ่งหากลองไล่เวลาดูว่าในระยะเวลาภายใน 45 วัน และไม่เกิน 60 วันนั้นจะตรงกับวันไหน ยังไม่นับที่รัฐสภาจะต้องแจ้งมายัง กกต.ก่อน ซึ่ง กกต.ไม่ก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลและรัฐสภาต้องคิด

ถามอีกว่า หากมีการยุบสภาก่อนกำหนดที่รัฐสภาได้ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะยังสามารถจัดทำประชามติโดยถามคำถามเดียวก่อนได้หรือไม่ แทนที่จะเป็น 2 คำถามพร้อมกันในครั้งเดียวตามแผนเดิม ว่าที่ร้อยตรี ภาสกร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ โจทย์อยู่ที่ไม่ว่าจะกี่คำถาม เป็นอำนาจของ ครม.และของรัฐสภา

ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ  พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา ระบุถึงกรณีของการยุบสภาระหว่างที่การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่แล้วเสร็จว่า หากนายอนุทินจะยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. นั้น รัฐธรรมนูญไม่ได้อะไร ได้ยุบสภาอย่างเดียว หากยุบก่อน 25 ธ.ค.ก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านวาระสาม ดังนั้น เวลานี้ความรู้สึกของประชาชนอยากเร่งรัดรัฐบาลเรื่องแก้ปัญหา 3 เรื่องหลัก คือ 1.น้ำท่วมภาคใต้ 2.ปัญหาชายแดน และ 3.ปัญหาสแกมเมอร์ ทุจริต

 “รัฐบาลควรทำเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จ ถ้าไม่ทำผมคิดว่ารัฐบาลลำบาก ถ้ายุบสภาวันที่ 12 ธ.ค.แล้วทิ้งปัญหาทั้งหมดไว้ โดยรัฐบาลไปเผชิญหน้ากับการเลือกตั้ง ผมว่าคิดดูให้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากเกิดเหตุการณ์จลาจลในพื้นที่หาดใหญ่จะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะปี 2518 น้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราช เกิดเหตุเผาจวนผู้ว่าฯ และปี 2531 มีการปิดป่า จนคนตาย 300-400 คน ดังนั้นขอให้เป็นบทเรียนที่รัฐบาลต้องนำมาพิจารณาและทำให้เกิดความกระจ่าง” นายวิทยากล่าว

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ในช่วงนี้ขออนุญาตยังไม่พูดคุยเพราะเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม รัฐบาลจะต้องขับเคลื่อนเรื่องการแก้ไขน้ำท่วม อยากให้เขาได้มีสติสมาธิ กลับไปทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้สมบูรณ์กว่านี้อย่างเต็มที่ เรื่องกระบวนการยื่นซักฟอกเป็นการตรวจสอบ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่รัฐบาลจะต้องยุบสภาเพื่อหนีการซักฟอก เพราะฉะนั้นหากพรรคเพื่อไทยยื่น รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการตอบเท่านั้น

เมื่อถามว่า นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นักวิจัยด้านสมองและวิศวกรรมชีวการแพทย์ ลูกของนายสมชาย เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยในประเด็นนี้

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “ปชป.ภาคใต้ คืนชีพจริงหรือ?” ว่า ผลการสำรวจของนิด้าโพลอาจวัดความนิยมของพรรคการเมือง และจะบ่งบอกถึง สส.ในระบบบัญชีรายชื่อ  แต่สำหรับ สส.ในระบบเขต ยังเชื่อว่าพรรคการเมืองที่มีทรัพยากรพร้อม มีกระสุนดินดำเป็นจำนวนมาก และยิงเข้าเป้า ก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้ได้

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุถึงกระแสข่าวเตรียมลาออกจากพรรคเพื่อไทยในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ว่า เป็นข่าวจริงไม่ใช่ข่าวลวง และจะไปสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 12 ธ.ค.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง