'ราเมศ' ฟาดปาก 'สุทิน' อภิปรายงบฯ คิดแค่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล ควรยึดปชช.เป็นที่ตั้ง

ราเมศ
แฟ้มภาพ

“ราเมศ” ฟาด “สุทิน” พิจารณางบประมาณ ควรคิดเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่คิดแค่การเมือง เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล แต่ต้องยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง

29 พ.ค.2565 – นายราเมศ  รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 เปรียบเทียบด้วยถ้อยคำเหมือนคนขอทานมาจัดเลี้ยงวันเกิด ว่า หลักการในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีของฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส. ทราบดีว่าเป็นเรื่องสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นในทางการเมือง เมื่อรัฐบาลเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ต่อสภา เป็นหน้าที่หลักโดยตรงของ ส.ส.ที่จำต้องพิจารณาอย่างตั้งใจยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง

นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนไหนที่เห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถอภิปรายท้วงติงในวาระที่หนึ่ง เพื่อชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมของการจัดงบประมาณเพื่อจะได้นำความเห็นส่งต่อไปพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการคือวาระที่สองที่ ส.ส.ทุกคนสามารถแปรญัตติได้ และที่สำคัญส.ส.ทุกพรรคร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ สามารถช่วยปรับช่วยแก้ให้สมบูรณ์ที่สุดได้

“ ฝ่ายค้านไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ของฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลด้วยเหตุด้วยผล ถ้าคิดเพียงว่าฝ่ายค้านต้องเป็นปฏิปักษ์กับฝ่ายรัฐบาลเสมอไป ก็น่าเสียดายโอกาสของประชาชนที่ฝ่ายค้านมีอคติ ทั้งๆที่เรื่องงบประมาณแผ่นดินเป็นเรื่องของบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องการเมือง” นายราเมศ ระบุ

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคได้มีการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายอย่างเต็มที่ ยึดหลักประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง มีหลายส่วนเช่นกันที่ต้องชี้ให้เห็นถึงข้อดีข้อเสีย ความเหมาะสมของงบประมาณบางส่วนเพื่อจะได้ส่งต่อไปพิจารณาในชั้นกรรมาธิการต่อไป

นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า ที่นายสุทิน คลังแสง ได้เปรียบ ร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่ายประจำปี ว่าเสมือนคนขอทานมาจัดเลี้ยงวันเกิด เป็นการกล่าวหาที่แรงเกินไป งบประมาณจัดทำเพื่อประชาชน อย่าเหมารวมให้คนอื่นตีความได้ว่าเป็นการดูถูกประชาชนด้วย เพราะประชาชนไม่ใช่ขอทาน เชื่อว่าคนที่เป็นนักการเมืองมืออาชีพจะรู้ดีถึงหลักการในการจัดงบประมาณ เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดงบกระจายไปให้พรรคร่วมรัฐบาล เพราะรัฐบาลและสำนักงบประมาณย่อมมีส่วนสำคัญในการกำหนดให้เป็นไปตามภารกิจ ความรับผิดชอบ ความจำเป็นของแต่ละหน่วยงาน ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องซื้อใจพรรคร่วมรัฐบาล และที่บอกว่าส่อให้เกิดการทุจริต ในเรื่องนี้ไม่มีใครเห็นด้วยกับการทุจริต หากมีหน่วยงานใดก็ต้องช่วยกันตรวจสอบจัดการให้เด็ดขาด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศึก“วางคน-วางเกม”รับมือ สะท้อนผ่านวอรูม“เมียนมา”

ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจาก นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ชี้ 'บิ๊กทิน' กินยาผิด! ยันทหารไม่อยากยึดอำนาจถ้านักการเมืองไม่โกง

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart หัวข้อ

เปิดภาพนักการเมืองหลายพรรคร่วมประชุม 'ผู้ช่วยรัฐมนตรี'

นายสุทิน คลังแสง รมว.กห. ให้การต้อนรับคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ในการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2567 ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ โดยมี พล.อ.อ.สุรพล พุทธมนต์ และ นายจำนงค์ ไชยมงคล ผช.รมต.ประจำ กห. เป็นประธาน

'ก้าวไกล' หนุนแก้กฎหมายสกัดรัฐประหาร ลั่นกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีข้อเสนอให้สภากลาโหมเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…)

นักวิชาการชม 'บิ๊กทิน' แก้กฎหมายป้องกันรัฐประหาร ชี้เป็นสารตั้งต้นปรับภาพลักษณ์กองทัพ

นักวิชาการ มอง 'สุทิน' เป็นหน้าเป็นตาให้รัฐบาล ถ้าจะปรับออกถือว่าคิดพลาด ชี้แก้กฎหมายป้องกัน รปห. เป็นสารตั้งต้นปรับภาพลักษณ์กองทัพ เพิ่มความสง่างาม ทำได้เพราะผู้นำเหล่าทัพมีหัวสมัยใหม่

‘วิโรจน์’ หนุน ‘สุทิน’ แก้กฎหมายกลาโหม สกัดรัฐประหาร ลั่นต้องทำให้ถึงแก่น

‘วิโรจน์’ เห็นด้วยในหลักการ หลัง ‘สุทิน‘ เสนอแก้ ’กฎหมายกลาโหม‘ สกัดรัฐประหาร แต่ต้องแก้ให้ถึงแก่น ไม่ใช่แค่ผิว ชี้ เป้าหมายสูงสุด คือทำให้กองทัพไม่อยู่ในฐานะรัฐอิสระ แนะ ควรปรับสัดส่วน ‘สภากลาโหม’ ให้เหลือแค่ 11 คน-มีทหารไม่เกินกึ่งหนึ่ง