'อมรัตน์' หมายหัวศาลรธน. ตัดงบ 100% ซัดไม่เข้าใจปฏิรูป-ล้มล้าง อัดประยุทธ์ติดใจวิถีโจร

1 มิ.ย.2565 - เวลา 14.03 น. นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ นอกจากเหมือนช้างป่วยแล้ว ควาญช้างยังโง่เขลาเบาปัญญา พาช้างไปอยู่ขอบเหวลึกไปทุกทีๆ งบประมาณไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม จัดงบแบบไม่แยแสปัญหาเดือดร้อนเฉพาะหน้า จัดแบบอยู่ไปวันๆ ในส่วนของงบตำรวจปีนี้ได้ 1.15 แสนล้านบาท แต่ 70% เป็นงบบุคลากรหรือเงินเดือน อีก 20% เป็นงบสร้างกับซื้อ ทั้งสร้างแฟลต สร้างโรงพัก เหลือแค่ 10% ที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชน และบังคับใช้กฎหมาย งบปฏิรูปตำรวจ 3 พันกว่าล้านบาท เป็นงบที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตรงนี้ถามว่าพัฒนาระบบงานปฏิรูปตำรวจตรงไหน งบตำรวจที่อุ้ยอ้ายทุกวันนี้เกิดจากตำรวจต้องแบกภาระงานที่ไม่ใช่งานของตำรวจ หัวใจของงานตำรวจจริงๆคืองานสอบสวน ที่ทุกวันนี้มีแต่คนอยากออกไม่มีคนอยากเข้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่ง 7/2559 ตัดแท่งความก้าวหน้าพนักงานสอบสวนออกไปจนหมด ทั้งที่ พ.ร.บ.ตำรวจปี 2547 กำหนดให้พนักงานสอบสวนไม่ต้องผ่านการประเมิน และเลื่อนไหลได้เลย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ เพราะพนักงานสอบสวนมีแรงกดดันสูง แต่คสช.มาถึงกลับยกเลิก

นางอมรัตน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของศาลการให้ผู้พิพากษาไปร่วมหลักสูตรกับวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ขอให้เลิกเสียที เราทุ่มงบเพื่อให้ศาล และอัยการ มีอิสระ แต่กลับจัดหลักสูตรสร้างคอนเนคชั่น รวมถึงหลักสูตรภายใน หลักสูตรละ 1 เดือน ก็สิ้นเปลือง ไม่จำเป็นต้องจัดฝึกอบรมให้เสียงบประมาณอีก อีกส่วนที่หากตัดออกได้หมดจะช่วยประหยัดงบประมาณได้คือศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลการเมืองแต่วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ และยังไม่เข้าใจคำว่าปฏิรูปกับคำว่าล้มล้าง ตนไม่ยอมรับศาลแบบนี้ ขอให้ตัดงบไปเลย 100% ขณะที่การเลือกตั้งครั้งหน้าคือความหวังเดียว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงเป็นความหวังเดียว แต่เมื่อเห็นงบ กกต.ก็ต้องตกใจ ถ้าผู้ชายคนนั้นซึ่งตนไม่อยากเอ่ยชื่อ ไม่ยุบสภาเราจะได้เลือกตั้งในปี 66 แต่กกต.กลับตั้งงบไม่เพียงพอ หรือพล.อ.ประยุทธ์ติดใจวิถีโจร หรือคิดว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนางอมรัตน์ อภิปรายถึงตรงนี้ ประธานฯได้ตักเตือน ทำให้นางอมรัตน์ ถามกลับว่าผิดตรงไหน ก็เขาเป็นโจรปล้นประชาธิปไตย และเป็นโจรจริงๆ ประธานฯ จึงชี้แจงว่าถ้อยคำใดที่หนักเกินไปก็ไม่เหมาะไม่ควร ไม่ต้องถอน แต่ขอเตือนว่าไม่เหมาะสม ทำให้นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงประธานฯ ว่าผู้อภิปรายกล่าวร้าย โดยประธานฯ ตักเตือนหลายครั้งแล้ว ขอให้ประธานฯ สั่งให้นางอมรัตน์ถอนคำพูด เพราะรัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งตามกฎหมาย สุดท้ายขอฝากเตือนผู้อภิปรายถึงสุภาษิตไทย ว่าสำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุลจริงๆ ก่อนที่นางอมรัตน์ จะพูดว่า “ดิฉันไม่นับญาติกับโจร”

จากนั้น การอภิปรายจึงดำเนินต่อไป โดยนางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า รูปแบบการเลือกตั้งต้องมีรายละเอียด เพื่อลดจำนวนบัตรเสีย และให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิการเลือกตั้ง สุดท้ายขอให้ข้อสังเกตว่า งบสนับสนุนการมีส่วนร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ถูกตัดหายไปหลังการรัฐประหารปี 2557 อยากให้กกต. สร้างองค์กรเครือข่ายสังเกตการณ์เลือกตั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งนี้ ตนขอสรุปว่าไม่สามารถสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

'ชลน่าน' คาดถกแก้ รธน. วาระสอง ใช้เวลา 2 วันพอ แม้มีประเด็นให้เถียงกันหนัก

“ชลน่าน” ประเมิน ถกแก้รธน.วาระสอง 2 วันเพียงพอ แม้มีรายละเอียดมาก- ถกกันหนัก แต่ยุติด้วยเสียงข้างมาก เผยสงวนความเห็นไปสู้ในรัฐสภา ทวงคืน “สสร.- โละสูตร20 หยิบ1

ครม. เห็นชอบ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญ 10-11 ธ.ค. ลุยแก้ รธน. ให้เสร็จทันสิ้นปี

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกสมัยประชุมวิสามัญ รัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และวาระ 3

คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์