'โรม' เปิดตั๋วช้างภาค 2 แฉ 'พล.ต.ต.ก.' ทุจริตงบซ่อมบำรุงกองบินตำรวจ ทำรัฐเสียหายพันล้าน กังขา ไม่ถูกลงโทษ แถม 'ประยุทธ์' ยอมควักงบกลางจ่ายหนี้แทนให้การบินไทย
22 ก.ค.2565- เวลา 09.35 น. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีการทุจริตในกองบินตำรวจ ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่พล.ต.ต. ก. ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองบินตำรวจดำเนินการเซ็นสัญญาโครงการซ่อมบำรุงอากาศยาน กับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ดำเนินการซ่อมและจัดหาอะไหล่ ตามงบประมาณปี 2563 จำนวนกว่า 950 ล้านบาท แต่ต่อมาการบินไทยได้ยื่นหนังสือทวงหนี้มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงทำให้พบว่ากองบินตำรวจ โดยพล.ต.ต.ก . และพวกได้สั่งจ้างสั่งซื้อเพิ่มเติมเกินกว่างบประมาณที่วางไว้ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการเป็นจำนวนถึง 2,774 ล้านบาท ซึ่ง 2 ใน 3 ของทั้งหมดนี้ กองบินตำรวจไม่สามารถเบิกจากคลังมาจ่ายได้ และกว่า 784 ล้านบาท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซ่อมเครื่องบินเลย เช่น ซื้อถังน้ำดับไฟป่า 8 ล้านบาท หรือซื้อตะขอเกี่ยวสินค้า 6.3 ล้านบาท เป็นต้น
นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบกลับถูกเตะถ่วง พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยปละละเลยไม่เร่งรัดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งกรมบังคับคดีซึ่งดูแลเรื่องการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยส่งหนังสือทวงหนี้ 1,824 ล้านบาทมายังสตช. อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะปฏิเสธหนี้ก้อนนี้ได้ เพราะตามขั้นตอน สตช. มีเวลาในการปฏิเสธหนี้ภายใน 14 วัน แต่กลับทำหนังสือปฏิเสธหนี้ตอบกลับไปเกินเวลาที่กำหนด ทำให้ สตช. ต้องชำระหนี้การบินไทยเป็นจำนวนถึง 937 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่หนี้ลดลงจากเดิม เนื่องจากทางตำรวจไปขอต่อรองกับการบินไทยให้ยกเลิกรายการบางส่วนที่ยังไม่ได้รับพัสดุมาได้
นายรังสิมันต์ อภิปรายอีกว่า ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ จึงใช้วิธีอนุมัติงบกลาง ในส่วนเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้หนี้ในวันที่ 23 ก.พ. 2565 และในวันที่ 12 เม.ย.2565 ครม.ก็อนุมัติอีกที รวมถึงยังอนุมัติให้ สตช. สามารถก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในงบประมาณปี 2563 ด้วย มตินี้จึงเหมือนเป็นทั้งการฟอกขาวให้ไปในตัว ทั้งยังนำเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายให้กับการทุจริตที่เกิดขึ้นในกองบินตำรวจอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ พล.ต.ต. ก. ไปทำสัญญาแลกเปลี่ยนอะไหล่อากาศยานด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง โดยรวบรวมเอาอะไหล่เก่าๆ ที่เสื่อมสภาพแล้วไปแลกกับชุดใบพัดหางเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ชุด ซึ่งในเรื่องนี้จากคำสั่งตร. ระบุว่าตำแหน่งระดับผู้การกองบินมีอำนาจอนุมัติวงเงินได้แค่ 5,000,000 บาทเท่านั้น หรือในระเบียบกระทรวงการคลัง ระบุไว้ว่าวงเงินต้องไม่เกิน 500,000 บาท แต่เมื่อมีการประเมินราคาของที่พล.ต.ต. ก. นำไปแลกจำนวนทั้งหมด 6,622 ชิ้น นั้นพบว่า ราคารวมกันสูงถึง 1,157 ล้านบาท และในจำนวนนี้ยังพบด้วยว่ามีคำสั่งให้เอาอะไหล่ของเครื่องบิน Skyvan 1 ลำ 4 ชิ้น ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเครื่องยนต์ 2 ชิ้น และอะไหล่ของเฮลิคอปเตอร์ Bell 3 ลำ อีก 21 ชิ้น ไปยำรวมกับเศษเหล็กด้วย โดยอะไหล่ดังกล่าวที่สวมเข้ามาในบัญชีแลกเปลี่ยนนี้ยังใช้งานได้ทั้งหมด ประเมินแล้วมีมูลค่าประมาณ 111,000,000 บาท แต่เมื่อนำไปยำรวมกับเศษเหล็กมูลค่าจึงเหลือเพียง 2,500,000 บาทเท่านั้น และกรณีนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบก็มีการเตะถ่วง ตั้งคณะกรรมการสอบวนไปวนมาเช่นเดิม จากพฤติกรรมที่ส่อทุจริตในกองบินตำรวจมีความชัดเจนทั้ง 2 กรณี
นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ รู้ปัญหาดีมาตลอด เพราะเป็นผู้เซ็นรับทราบด้วยตัวเอง แต่กลับไม่ได้ดำเนินการอะไรต่อพล.ต.ต. ก. จึงทำให้เกิดความสงสัย และไปตรวจสอบต่อว่าเป็นเพราะเหตุใดบุคคลนี้ใหญ่มาจากไหน ทำไมจึงไม่มีใครแตะต้อง จนได้ไปพบข้อมูลว่าพล.ต.ต. ก. มีฐานะเป็นผบ.ศปก.ถปภ.ขบวน ฮ.เดโชชัย 5 ซึ่งจากเดิมถูกให้ไปดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ แต่หลังจากได้หนังสือตอบจากสำนักราชวังให้ปฏิบัติงานต่อตามที่ขอได้ กรณีนี้จึงเหมือนเป็นการเอาหนังสือจากสำนักพระราชวังมาอ้าง โดยบอกว่าเพื่อวางแผนถวายความปลอดภัยฯ แบบนี้จึงเท่ากับ ‘ตั๋วช้าง’ อีกประเภทหนึ่งใช่หรือไม่
นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือบุคคลสำคัญที่สุดที่เป็นผู้สานต่อวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดวัฒนธรรมทุจริตแล้วได้ดิบได้ดี ให้แผ่ไพศาลไปทั่วทุกระบบราชการ ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่รวมทั้งทหาร, ครู, ศาล, อัยการ และราชการอื่นๆ ใดๆ ทั้งหมดทั้งปวง ฉุดลากเอาระบบราชการของประเทศนี้ที่ตกต่ำอยู่แล้วให้ตกต่ำลงไปอีก ในแบบที่ไม่อาจเห็นได้เลยว่าก้นบึ้งของความตกต่ำนี้จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน หวังว่าการอภิปรายของตนรอบนี้จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ สำเหนียกว่าตัวเองไม่คู่ควรอีกแล้วที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศจากนี้และตลอดไป แล้วจงพิจารณาตัวเองไสหัวของท่านออกไปเสีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ปธ.กมธ.มั่นคง’ จี้รัฐทบทวนนโยบายฟรีวีซ่า หลังพบต่างชาติยังมาแม่สอดอื้อ
'ปธ.กมธ.ความมั่นคงฯ' ชี้ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแนวชายแดนยังมีจุดอ่อนด้านนโยบาย-กฎหมาย-อุปกรณ์ แต่อย่าพึ่งสรุปเหยื่อค้ามนุษย์สมัครใจมา เหตุ ต้องให้ความสำคัญในกระบวนการคัดกรอง หลังพบข้อจำกัดเรื่องภาษา ลั่น เพื่อให้ได้ข้อมูลสาวถึงตัวการใหญ่ ถอนรากถอนโคกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มองหากออกหมายจับ 'หม่องชิตตู่' ไม่ได้ ต้องมีคนรับผิดชอบ
‘โรม’ นำทีม ‘กมธ.ความมั่นคงฯลุยแม่สอด ถกปัญหา 'คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์'
‘โรม’ นำทีม 'กมธ.ความมั่นคงฯ' ปิดห้องคุยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ถกปัญหา 'คอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์' พร้อมให้กำลังเจ้าหน้าที่ บอก กำลังต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หวัง ร่วมมือกันช่วยอุดช่องโหว่แก้ปัญหาระยะยาว
'รังสิมันต์' จี้เพิ่มมาตรการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพิ่มเติมหลังตัดไฟ
'กมธ.ความมั่นคงฯ' เรียกหน่วยงาน ถามความคืบหน้า หลังตัดไฟ 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ชี้ เป็นเพียงก้าวแรก ควรเพิ่มมาตรการอื่นอีก ขยายผลถึงคนมีสี เป็นลมใต้ปีกหนุนทุนเทา ย้ำต้องทลายทั้งโครงสร้าง
'รังสิมันต์' ข้องใจมหาดไทยไม่ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์สงสัยเจอตอ!
'กมธ.ความมั่นคงฯ' ถก ปัญหาแรงงานข้ามชาติ เผยขั้นตอน CI อาจเอี่ยวทุจริต 'โรม' สงสัยทำไม 'อนุทิน' ต้องให้ 'กฟภ.' ส่งหนังสือมาก่อนแล้วจึงตัดไฟ ถามที่ทำไม่ได้เหตุเจอตอหรือไม่
แฉนอมินีซื้อไฟฟ้าส่งเมืองบาป
“โรม” จี้ กฟภ.ตัดไฟฟ้าเมืองคอลเซ็นเตอร์ อย่าปล่อยให้ไทยถูกมอง “ชาร์จแบต”
ทั่นโรมเตรียมบี้หน่วยงานขายไฟฟ้าเร่งตัดไฟสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์
'กมธ.ความมั่นคงฯ' เชิญหน่วยงานหารือขายไฟฟ้าแถวชายแดน เหตุต้นตอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้ 'มหาดไทย' มีอำนาจตัดไฟได้ทันที ถามทำไมไม่ทำ