'สุวัจน์' ชูพรรค 'ชาติพัฒนา' เดินสายกลาง พร้อมปรับตัวรับทุกสูตรการเลือกตั้ง

7 ส.ค. 2565 – นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ จ.นครราชสีมา ภายหลังเป็นประธานเปิดงานด๊ะด๊าดดนตรีโคราช เทศบาลนครนครราชสีมา และกล่าวถึงเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองเกี่ยวกับสูตร หาร 500 หาร 100 มีการเล่นเกมไม่เข้าร่วมประชุมสภาว่า ตอนนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเลือกตั้ง ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนก็คงสับสน เพราะพวกเราเองก็ยังสับสนเลย โดยเฉพาะเดี๋ยว หาร 100 เดี๋ยวหาร 500ก็ยังไม่ทราบว่าจะหารอะไรแน่น แต่ที่สุดแล้วก็คงจะต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญด่านสุดท้ายที่จะเป็นผู้วินิจฉัยผลที่เกิดขึ้นจากสภา ที่สุดแล้วสภาตัดสินอย่างไร รัฐสภาให้ความเห็นชอบอย่างไร ไม่ว่าจะเห็นชอบ หาร 500 หรือหาร 100 ก็ต้องไปจบที่ศาล รธน.อยู่แล้ว เพียงแต่ว่ากลไกก่อนที่จะไปศาล รธน. ตนคิดว่าสภาถือว่าเป็นองค์กรหลัก

สถาบันหลักของประเทศถือว่าเป็นองค์กรที่จะต้องมีมาตรฐาน มีความเชื่อถือ พี่น้องประชาชนหวังได้ เชื่อได้ ฉะนั้นตนว่ากฎเกณฑ์อะไรก็แล้วแต่ที่จะออกไปจากสภา สภาต้องยึดเป็นบรรทัดฐานที่อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง มาตรการฐานของสภาเป็นหลัก ส่วนผลของการวินิจฉัย การตัดสินอย่างไรเป็นเรื่องของเสียงส่วนใหญ่ที่จะดำเนินการ แต่ว่ากลไก ขั้นตอน วิธีการต่างๆตนอยากให้โปร่งใสและพี่น้องประชาชนให้การยอมรับ เพราะที่สุดแล้วปัญหาของบ้านเมืองก็ต้องอาศัยสภา ฉะนั้นสภาต้องมีมาตรฐาน ส่วนจะ 100 หรือ 500 อะไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งก็แล้วแต่เสียงส่วนใหญ่จะพิจารณากันว่าจะว่าอย่างไร

ส่วนทาง ดร.วิษณุ เครืองาม ระบุว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่พิสดารยิ่งขึ้นไปอีกนั้น ตนคิดว่าถ้าเกิดเราทำอะไรนั้นดูง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน ชัดเจน ไม่เวียนหัว มันก็จะไม่มีปัญหา ตนคิดว่าเรื่อง 100 หรือ 500 ตนเปรียบเหมือนกติกาที่จะออกมาใช้แล้วพรรคการเมือง นักการเมืองทุกคนก็เป็นนักกีฬาเราก็เล่นตามกติกา กติกาออกมาอย่างไรเป็นเรื่องที่เราต้องไปปรับกลยุทธ์ในการที่อยากที่จะแพ้ หรืออยากที่จะชนะ ขอให้เป็นกติกาที่เป็นธรรมและออกมาด้วยขั้นตอนต่างๆที่ถูกต้องและได้รับการยอมรับ

ส่วนที่มีการตั้งพรรคเกิดขึ้นรองรับตรงนี้เป็นพรรคนั่งร้านให้นายกรัฐมนตรีนั้น ตนคิดว่าก็แล้วแต่มุมมอง แต่ว่าช่วงนี้ก็มีพรรคใหม่ๆเกิดขึ้นเยอะมาก ตนก็คิดว่าเป็นสัญญาณที่ดี อย่างน้อยก็ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ไม่ต้อลุ้นแล้วว่ามีการเลือกตั้งหรือไม่มีเลือกตั้ง แสดงว่าทุกคนสบายใจกันแล้วว่า เรามีเลือกตั้งแน่ๆ มันก็เป็นสัญญาณที่ดีกับระบอบประชาธิปไตยของประเทศ ส่วนพรรคใดจะได้รับมากน้อยจะไปสนับสนุนใครก็เป็นเรื่องของอุดมการณ์นโยบายของแต่ละพรรค ซึ่งในที่สุดแล้วพี่น้องประชาชนก็จะรู้จะเห็นพรรคนี้มีอุดมการณ์อย่างนี้มีนโยบายอย่างนี้สนับสนุนคนนี้ คนตัดสินใจคนสุดท้ายอยู่ที่พี่น้องประชาชน ฉะนั้นถ้าเกิดผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรแล้วทุกพรรคแสดงอดมการณ์นโยบายที่ชัดเจนออกไปแล้วพี่น้องประชาชนตัดสินมาอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ยอมรับกัน

ตอบข้อถามถึงขณะนี้หลายพรรคการเมืองลงพื้นที่กันประกาศว่าจะได้ ส.ส.ทั้งจังหวัด ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาพร้อมมากน้อยนั้น นายสุวัจน์ฯตอบว่า “ ผมคิดว่าเราก็จะทำให้ดีที่สุดเที่ยวนี้ ต้องคัมแบ็คกลับมาด้วยเสียง ส.ส.ที่มากเพียงพอที่จะมาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เที่ยงนี้พรรคฯมีความมุ่งมั่นที่จะต้องเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดและเราคิดว่าเรามีแประสบการณ์และคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ฉะนั้นถ้าเกิดเราได้เสียงน้อยการทำงานมันก็ผลักดันอะไรเพื่อพี่น้องประชาชนได้ยาก แต่ถ้าเรามีเสียงมาก ได้รับความไว้วางบใจมาก นโยบายมาตรการต่างๆทางด้านเศรษฐกิจเรามั่นใจ ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้เราอยากที่จะให้ได้รับผลการเลือกตั้งที่เสียง มีเสถียรภาพเพียงพอที่เราจะได้เข้าไปช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง

ส่วนจะได้เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ส่วนกระแสตอบรับการเปิดสาขาพรรคฯ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคนั้นตอนนี้เราก็เริ่มทยอย อย่างการเปิดตัวว่ารที่ผู้สมัคร ส.ส. อ.แถลง จ.ระยอง เราก็พยายามผสมผสานระหว่างการเมืองใหม่กับการเมืองเก่า วันนี้ตนว่าเราต้องช่วยกันออกแบบส่วนผสมทางการเมืองที่เหมาะสมกับบรรยากาศของประเทศ ทำอย่างไรที่เราก็มีคนรุ่นใหม่ มีเลือดใหม่ มีนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามา จุดแข็งของนักการเมืองรุ่นใหม่ เขามีไฟ เขามีความฟิตซ้อม มีสุขภาพที่แข็งแรง มีมันสมอง มีวิชาการ มีเทคโนโลยี นี่เป็นจุดแข็ง แต่ขณะเดียวกันการเมืองก็ยังต้องการคนรุ่นเก่าที่สั่งสมประสบการณ์ทางการเมือง ประสบการณ์การบริหาร หรือเรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางการเมืองว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ วัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันทางการเมืองที่ทำให้การเมืองมีความปรองดองรักใคร่สามัคคี ฉะนั้นตนว่าถ้าเรามีส่วนผสมของการเมืองรุ่นเก่าบวกกับการเมืองรุ่นใหม่แล้วให้ลงตัวแล้วก็มีการถ่ายทอด คนรุ่นเก่าก็ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ก็ส่งผ่านเทคโนโลยีความรู้ใหม่ๆไปยังคนรุ่นเก่าแล้วเกิดการตกผลึกของความคิดที่เป็นส่วนผสมที่เป็นกลางและเป็นประโยชน์ให้ประเทศชาติ “

นายสุวัจน์ฯ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคชาติพัฒนาก็มองประเด็นทางการเมืองอย่างนี้ว่า เราเองก็ถือว่าเป็นพรรคที่เดินสายกลาง ประนีประนอมเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงานให้กับประเทศ ฉะนั้นโครงสร้างของการจัดสรรผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเราก็จะมีสัดส่วนของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีก็คือ ผู้ชาย กับผู้หญิงที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความเสมอภาคแล้วก็สัดส่วนของคนรุ่นใหม่กับสัดส่วนของนักการเมืองรุ่นเก่าที่จะช่วยกันทำงานช่วยกันระดมสมอง เพื่อให้เกิดผลลัพท์ทางการเมืองที่ดีที่สุดจะได้เป็นพลังในการขับแคลื่อนนโยบายของพรรคฯทำงานให้กับประเทศได้ อย่างการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร อ.แถลง จ.ระยองเป็นคนหนุ่มไฟแรงที่เราอยากได้อย่างนี้ และเขาก็ไม่ใช่คนใหม่ที่ไม่รู้เรื่องการเมือง เพราะคุณพ่อเขาเคยเป็นอดีตวุฒิสมาชิก และเป็นรองหัวหน้าพรรคฯ ฉะนั้นเราก็พยายามผสมผสานให้ได้คนที่ดีที่สุดที่จะมาทำงานให้กับประเทศชาติ ตอนนี้เราก็จะทยอยเปิดไปทุกสัปดาห์ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมาตอนนี้ก็คิดว่าถ้าเป็นไปตามที่ กกต.กำหนดไว้ 16 เขตตอนนี้เราเตรียมผู้สมัครไว้ได้เกิดครึ่งแล้ว โคราชยังไงเราก็ต้องส่งครบทุกเขตทั้ง 16 เขต เพราะโคราชถือว่าเป็นเรือนตาย เป็นบ้านของพรรคชาติพัฒนา ฉะนั้นที่โคราชต้องส่งครบแล้วคุณภาพต้องเป๊ะ ประกาศชื่อมาแล้วพี่น้องประชาชนไว้วางใจได้ เพราะเราจะใช้พลังของคนโคราชจะเป็นพลังหลักในการสร้างพรรคชาติพัฒนาให้คัมแบ็คกลับมา เพท่อทำงานให้กับประเทศอีกครั้งหนึ่ง

ต่อข้อถามว่า ส่วนจะได้สัก 10 เก้าอี้นั้น นายสุวัจน์ฯกบ่าวว่า เราก็อยากได้มาก แต่ทุกพรรคก็มากก็มากันมากก็ยังไม่ทราบว่าจะได้เท่าไหร่ แต่พูดตรงไอยากได้เยอะ ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี ตอนยึคที่พรรคฯได้ ส.ส.มากที่สุดสนโคราช ตอนที่ พล.อ.ชาติชายฯ ตอนนั้นท่านถูฏปฏิวัติแล้วท่านก็กลับมาก็ตั้งพรรคชาติพัฒนา ตอนนั้นมีกระแสว่าจะเอานากยรัฐมนตรีไว้ที่โคราช กระแสเอาพล.อ.ชาติชายฯคัมแบ็ค ตอนนี้พรรคชาติพัฒนาได้ 15 คนจาก 16 คน ตอนนี้เป็นกระแสนายกฯไว้โคราช เพราะทุกคนก็เห็นวันที่นายกฯอยู่โคราช โคราชเจริญ โคราชเป็นประตูสู่อีสาน โคราชเจริญทางด้นเศรษฐกิจมาก ฉะนั้นความรู้สึกนึกคิดอย่างนั้นอันนี้เป็นเรื่องของอดีต อันนี้ตอบคำถามว่าเราไปได้ถึง 15 คน แต่ไม่ได้หมายความว่าเที่ยวนี้เราจะได้ 15 คน แต่ว่าประวัติศาสตร์เราเคยมี ฉะนั้นเราก็จะทำให้ดีที่สุดทั้งนโยบายในการพัฒนาโคราช นโยบายที่จะนำเศรษฐกิจยุคทองของโคราชกลับมา ท่านชาติชายฯเคยทำไว้อย่างไร โคราชยิ่งใหญ่อย่างไร ติพัฒนาจะนำสิ่งนั้นกลับมาสู่พี่น้องประชาชนชาวโคราชอีกครั้งหนึ่ง ขอเพียงอย่างเดียวว่าให้เรามีเสียเยอะๆ เราจะนำสิ่งนั้นกลับมา “ นายสุวัจน์ฯกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

วุฒิสภา นัดถกรายงานเสนอ กกต. แก้กฎหมายเลือกตั้ง-พรรค ใช้โซเชียลหาเสียง

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมในวันที่ 9 เม.ย. โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ คือ การพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.

ดร.เสรี บอก 'สลิ่ม' อย่าเพิ่งดีใจว่าก้าวไกลจะโดนยุบพรรค

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า "สลิ่มอย่าเพิ่งดีใจไปว่าพรรคก้าวไกลจะโดนยุบพรรค เพราะเขา

'จตุพร' ชี้ 1% 'ก้าวไกล' รอดยุบพรรค

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงศาล รธน.ไม่รับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยไว้พิจารณา เพราะคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยื่นนั้น แตก

เพื่อไทยได้ครูดี! 'ฮุนเซน' แนะพรรคการเมืองจะประสบความสำเร็จได้ ต้องทำงานเพื่อประชาชน

ที่ประเทศกัมพูชา นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรค และคณะกรรมการ