ถกแก้รัฐธรรมนูญระอุ! 'ถวิล' ซัดผู้ทรงเกียรติระวังเผด็จการจากพ่อสู่ลูก

'ส.ว.มณเฑียร' รับพร้อมโหวตไม่เอา มาตรา 272 แต่เตือนอย่าสร้างเงื่อนไขให้กลับมาอีก 'ถวิล' อัดแรงระวังเผด็จการสืบทอดอำนาจจากพ่อสู่ลูก ฉะผู้ทรงเกียรติพูดจาและกระทำให้สมคำดังกล่าว

07 ก.ย.2565 - ในการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายถึงการแก้ไขมาตรา 272 ให้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ว่า ไม่มีข้อโต้แย้งใด เราก็รู้กันอยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ว่าการเมืองโครงสร้างอำนาจส่วนบนมีแต่การแย่งชิง และช่วงชิงโอกาสในการเข้าสู่อำนาจ ทุกครั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ ก็จะพูดจาทับถมให้ร้ายฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ เช่น สมาชิกที่เห็นว่าการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลชุดนี้มาโดยมิชอบ ก็จะพูดถึงภัยเลวร้ายของความเป็นเผด็จการ ซึ่งไม่ได้โต้แย้ง เอาทฤษฎีไหนมาอธิบายก็ถูกหมด แต่คงลืมไปว่าในยามที่ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยใกล้จะสมบูรณ์เกิดอะไรขึ้น เข้าตำราตาอินกับตานา ซึ่งจะไม่วิจารณ์ใครให้ได้รับความเจ็บปวด เพราะถ้าภาคการเมืองทำงานอยู่ในความพอดี ไม่เข้าสู่โหมดของผู้ชนะกินรวบโอกาสที่จะมีการยึดอำนาจแทบจะเป็นศูนย์

“ผมไม่ติดใจที่จะแก้ไขมาตรา 272 และยินดีโหวตให้ ซึ่งที่ผ่านมาผมโหวตให้ทุกร่างที่ขอแก้ไขหรือตัดมาตรา 272 เพราะไม่มีความจำเป็น และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรักษาสิทธิในส่วนนี้ ที่ผมเคยได้ใช้ไปแล้ว ซึ่งในสถานการณ์ขณะนั้นคนที่ใช้ก็บอกว่าจำเป็น คนที่ไม่อยากให้ใช้ก็บอกว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ แต่ในขณะนี้ผมคิดว่าหมดความจำเป็นแล้ว ผมจึงยืนยันว่าจะสนับสนุนให้แก้ไขมาตรา 272 เหมือนที่เคยทำมา ไม่ได้รู้สึกหน้าบาง หรือรู้สึกว่าสิ่งที่ทำไปแล้วในอดีตผิดหรือดีหรือชั่วประการใด แต่พิจารณาตามเหตุการณ์ ตามเงื่อนไขและผลของการกระทำ และหวังว่าเราจะไม่มีความจำเป็นและไม่สร้างเงื่อนไขให้สิ่งที่ปรากฏในมาตรา 272 กลับมาอีก”นายมณเฑียรกล่าว

จากนั้นนายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายว่า เรื่องการปิดสวิตซ์ ส.ว.มีพูดกันมาตลอด ฟังแล้วถ้ายกเหตุผลมาอภิปรายกันคงไม่มีอะไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเมื่อวานจนวันนี้ก็คือท่วงท่าการให้ความเห็นเรื่องการตัดอำนาจ ส.ว. ถ้าพูดด้วยเหตุผลก็เป็นเรื่องที่พึ่งรับฟังได้ แต่ตลอดการอภิปรายเมื่อวานนี้ ส.ส.หลายคนได้พูดถึง คำหนึ่งก็เผด็จการ สองคำก็บ้าอำนาจ หวงอำนาจ สืบทอดอำนาจ โจมตีด้วยถ้อยคำคุมเครือ มีการยกความประพฤติ จริยธรรม คุณธรรมของ ส.ว.บางคนมากล่าวอ้าง ซึ่งจริงหรือเท็จอย่างไรก็ยังไม่ชัดเจน เพราะยังมีการสอบข้ามสภากันอยู่ นำมาตีขุม ส.ว.ทั้ง 250 คนเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล ในกลุ่มคนหลากหลายย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ในพวกท่านก็มีคนแบบนี้ ดังนั้นจะไปว่ากล่าวเขาควรรอให้มีความชัดเจนเสียก่อน ไม่ควรนำมาตัดสินคนทั้ง 250 คน ส่วนคำว่าเผด็จการและสืบทอดอำนาจ ในชีวิตเห็นมาหลายรูปแบบ รวมถึงแบบซ่อนเร้น แอบแซง ตีเนียนห่มผ้าประชาธิปไตย ท่องคำว่ามาจากประชาชนวันละ 3 เวลา แต่พฤติกรรมพฤติการณ์เป็นเผด็จการรวบอำนาจ ยิ่งกว่าเผด็จการตามรูปแบบเสียด้วยซ้ำไป ไม่ฟังเสียงใคร มุ่งแต่จะให้ได้อย่างที่ตนเองต้องการ

“พวกเราก็เคยเห็นมาแล้วในสภาแห่งนี้เมื่อตอนตีสามตีสี่หลายปีที่ผ่านมา เผด็จการสืบทอดอำนาจจากพี่มาน้อง จากพี่ไปน้องเขย ต่อไปก็ไม่แน่ใจว่าจะเห็นจากพ่อไปลูกหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันดู ขออย่าว่ากล่าวรังเกียจเดียดฉันท์กันเลย เพราะเดี๋ยวจะเข้าตำราว่าว่าแต่เขา ท่านยังกล่าวหาว่าพวกผมเป็นพวกที่ผลัดกันเกาหลัง ผมก็ไม่ทราบว่าผมคันหลังอะไรกันมากกมาย บอกว่าแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ตอบแทนบุญคุณ ถามว่าตอบแทนหมดหนี้หมดสินหรือยัง ผมยอมรับว่าเรามีจุดอ่อนเรื่องที่มา เราไม่ได้มาจากภาคประชาชน แต่การเกาะเกี่ยวประชาชนในการรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ผมรับรองได้ว่าพวกเราไม่น้อยหน้าใครแน่ รวมถึงผู้ที่กล่าวหาพวกเราด้วย แม้แต่การเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เราเลือกด้วยเหตุผล และเลือกเพราะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ดีกว่าชื่อที่เสนอมา ไม่ได้คิดเรื่องตอบแทน เพราะไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใครเป็นตัวบุคคล แต่เราเป็นหนี้ประเทศที่จะต้องชดใช้ไปกว่าชีวิตจะหาไม่”

นายถวิลกล่าวว่า ท่านขอแก้มาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว. ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญต้องอาศัยเสียง ส.ว. ท่านไปขอของเขาจากผู้ครอบครอง แล้วท่านก็ตะโกนด่าเขาหยาบคาย ท่านลองนึกดูว่าแล้วจะให้เขามาเห็นดีเห็นงามกับท่านได้อย่างไร หรือการเสนอครั้งนี้บางคนไม่ได้หวังผล แต่คิดจะเอามัน ขอให้ได้ด่า เหน็บแนม เสียดสีประชดประชัน ขอให้พวกท่านไปทำข้างนอก ไม่ใช่ในสภาที่ทรงเกียรติแห่งนี้ ที่จะต้องพูดกันด้วยเหตุผล และเรียกตัวเองว่าผู้ทรงเกียรติ