'ทิพานัน' ปลุกสังคมรู้เท่าทันเล่ห์ฝ่ายค้าน เจตนาใช้คำวินิจฉัย สร้างเงื่อนไขการเมือง

'ทิพานัน' ชี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด ผูกพันทุกองค์กร ขอทุกฝ่ายพิทักษ์กระบวนการยุติธรรม ย้อนฝ่ายค้านเหมือนรู้ข้อกฎหมาย แต่ยื่นตีความเพื่อโหนกระแสสร้างเงื่อนไขทางการเมือง วอนสังคมรู้เท่าทัน

30 ก.ย.2565 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามคำร้องของฝ่ายค้านที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญว่า “ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 2 ประกอบมาตรา 158 วรรค 4 หรือไม่” จึงนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยในวันนี้ โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (6 ต่อ 3) วินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามความในมาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 นับแต่วันที่ 6 เม.ย. 2560 ถึงวันที่ 24 ส.ค. 2565 ผู้ถูกร้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ครบกำหนดเวลาตามมาตรา 158 วรรค 4 ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรค 2 ประกอบมาตรา 158 วรรค 4”

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า ซึ่งการวินิจฉัยคำร้องดังกล่าว เป็นประเด็นปัญหาข้อกฎหมาย โดยมีคำวินิจฉัยว่า ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญปี 2560 บทเฉพาะกาล มาตรา 264 เป็นไปตามหลักทั่วไปใช้บังคับกฎหมาย กฎหมายย่อมมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันประกาศใช้ เมื่อรัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลใช้บังคับเมื่อ 6 เม.ย. 2560 ย่อมมีความหมายว่า ทุกบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไป กรณีตามมาตรา 158 วรรค 4 เรื่องระยะเวลา 8 ปี จึงต้องเริ่มนับทันที นับแต่รัฐธรรมนูญนี้มีผลใช้บังคับ

“สำหรับแถลงการณ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มองว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตีความขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ พร้อมกับเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ นั้น ฝ่ายค้านต้องระมัดระวังการเคลื่อนไหวที่แสดงออกถึงการไม่ยอมรับอำนาจตุลาการ เหมือนเอาอคติเป็นที่ตั้ง ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยไปตามข้อกฎหมายตามที่ฝ่ายค้านยื่นร้องตีความทุกประการ" น.ส. ทิพานัน กล่าว

“น่าสังเกตว่าฝ่ายค้านอาจจะทราบถึงข้อกฎหมายดีอยู่แล้วว่า วาระการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ครบวาระตามรัฐธรรมนูญ 2560 เพียงแต่อาจยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อหวังสร้างเงื่อนไขทางการเมือง โหนกระแสคำวินิจฉัย และคำแถลงการณ์ยังส่อเจตนาให้เห็นว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องขอให้สังคมรู้เท่าทันเล่ห์การเมืองตรงนี้ด้วย" น.ส. ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในเวลานี้พี่น้องประชาชนสามารถร่วมช่วยกันไม่สนับสนุนให้ฝ่ายใดทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำลายบรรยากาศสำคัญในการเดินหน้าฟื้นฟูประเทศ และที่สำคัญประเทศไทยกำลังเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมเอเปค 2022 ในอีก 1 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่พี่น้องประชาชนชาวไทยจะได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพสร้างความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นโอกาสทางด้านเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ของคนไทยทุกคน

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

'ไทยภักดี' ไม่สนหลุดโพล! ลุยช่วยน้ำท่วม หาดใหญ่จบไปต่อปัตตานี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เดินหน้าช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่แม้ไม่มีไทยภักดีในผลโพล

ชำแหละ 9 สถานการณ์ที่ฝ่ายค้านกำลัง 'เดินเกมผิดจังหวะ' อนุทินท้ายุบสภา 12 ธ.ค.

9 สถานการณ์ที่ฝ่ายค้านกำลัง “เดินเกมผิดจังหวะ” หลังจากที่นายกฯอนุทิน ประกาศพร้อมยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. หากฝ่ายค้านยื่นซักฟอกแบบลงมติ

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัด เกณฑ์ยุบสภา นับจากบรรจุวาระ ไม่ใช่วันฝ่ายค้านยื่นญัตติ

สืบเนื่องจากข้อถกเถียงระหว่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรกับศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย มีค