27 พ.ย.2565-นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังผลคำวินิจฉัยคำร้องคดีร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส. ที่มีเรื่องของหาร 100 ปาร์ตี้ลิสต์ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ในวันพุธ 30 พ.ย.ว่า คำร้องดังกล่าว ส.ส.ของพรรคพลังท้องถิ่นไท ได้ร่วมลงชื่อในคำร้องดังกล่าวด้วย เพราะต้องการให้เกิดความชัดเจนในข้อกฎหมาย จะได้หายข้อข้องใจ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าสุดท้าย กติกาเลือกตั้งจะออกมาแบบไหน จะเป็นหาร100 หรือหาร 500 โดย
นายโกวิทย์กล่าวว่า ไม่ว่าสุดท้ายผลคำวินิจฉัยของศาลจะออกมาแบบไหนในวันพุธนี้ เช่นหากสุดท้ายออกมาเป็นว่าให้ใช้กติกาเลือกตั้งแบบหาร 100 พรรคพลังท้องถิ่นไท ยืนยันว่าพร้อมจะเดินหน้าต่อไป เราพร้อมยอมรับทุกกติกาที่จะใช้ เพราะเราทำการเมืองไม่ใช่เพื่อการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่การเมืองคือเรื่องของสาธารณะ พรรคการเมืองต้องทำหน้าที่เป็นปากเสียงของประชาชน ทั้งในสภาและนอกสภา
“ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เราสู้ทุกรูปแบบ เราต้องทำการเมืองให้ไม่ไปตามกระแส ซึ่งกระแสก็อย่างเช่น การคิดว่าจะลงเลือกตั้งต้องมีทุน ต้องมีเงินใช้ในการหาเสียง ซึ่งวิธีแบบนี้เราไม่เอาด้วย แต่ผมอยากทำการเมืองทวนกระแส เช่น เราต้องขายนโยบายกับประชาชนเช่นเรื่องกระจายอำนาจ นโยบายสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ ต้องเป็นการเมืองที่ไม่ใช่ธุรกิจการเมืองไปเกี่ยวข้อง แต่ต้องทำการเมืองแนวใหม่ การเมืองวิถีใหม่ แบบการเมืองภาคพลเมือง เพื่อให้พลเมืองใหญ่กว่านักการเมือง”
หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวอีกว่า สุดท้ายแล้วไม่ว่ากติกาเลือกตั้งส.ส.จะออกมาแบบไหน จะเป็นหาร 100 หรือหาร 500 มันไม่สำคัญ เพราะหากพรรคการเมืองเข้าถึงประชาชน ทำให้ประชาชนสนใจนโยบายของพรรค ผมว่าเขาก็เลือก เพียงแต่ว่าตอนนี้ที่คนเขากลัวกันเพราะการเมืองปัจจุบัน มันไม่ใช่การเมืองแบบดั้งเดิมที่ใช้เสียงประชาชนแบบบริสุทธิ์มาลงคะแนนเสียง ซึ่งพรรคขนาดเล็ก พรรคที่มีทุนน้อยเขาก็หนักใจเรื่องธุรกิจการเมือง อย่างเขตหนึ่งบอกว่าต้องใช้เงินในการเลือกตั้ง 30-40 ล้านบาท พูดกันให้แซ่ดเลย แล้วทุนพวกนี้เอามาจากไหน พรรคเล็กก็กลัว เพราะไม่มีทุน เราสู้ทุนพรรคใหญ่ไม่ได้ เราสู้ธุรกิจการเมืองใหญ่ไม่ได้ อย่างพลังท้องถิ่นไท ไม่มีเงินที่จะไปสู้พรรคใหญ่ ซึ่งหากออกมาเป็นหาร 100 ก็ต้องได้คะแนนมากขึ้นจากเดิม
“หากออกมาเป็นหาร 500 ใช้เสียงน้อยลง ก็มีจุดดี แต่ต้องดูว่า หากใช้แล้วจะให้มีส.ส.พึงมีไว้แบบเดิมหรือไม่ เพราะในรัฐธรรมนูญก็ยังมีเรื่องส.ส.พึงมีอยู่ คิดว่าหากออกมาเป็นหาร 500 แล้วมีเรื่องส.ส.พึงมี พรรคใหญ่ก็ไม่ยอม ก็ต้องโวยวาย เพราะทำให้ไม่ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เลย หากได้ส.ส.เขตเยอะ จะเห็นได้ว่า กลัวกันคนละแบบระหว่างพรรคใหญ่กับพรรคเล็ก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชัดหรือยัง ดร.เสรี ชี้เปรี้ยงสูตรการเมือง 1 ต่อ 1 ล้มพรรคส้ม!
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊ก ถึงผลการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 1 จังหวัดพิษณุ
เปิดคำวินิจฉัยส่วนตน ประธานศาลรธน. 1 ใน 4 ตุลาการ : ความเป็นรมต.ของ 'เศรษฐา' ไม่สิ้นสุดลง
สืบเนื่องจาก ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพา
นิด้าโพล เผยผลสำรวจ คนใต้ 41% บอกไม่เลือก ปชป. แล้ว
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “เสียงพี่น้องชาวใต้ถึงพรรคประชาธิปัตย์ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน 2567
'นันทนา' เหน็บใช้จริยธรรมตัดสิน ‘รมต.’ คงต้องฟูมฟักตั้งแต่เกิด จี้ลดอำนาจศาลรธน.
'นันทนา' รับเป็นเรื่องลำบาก หลัง 11 ว่าที่ รมต.มีชนักติดหลัง เสนอลดอำนาจศาล รธน. เหตุล้นเกินจนเบียดบังนิติบัญญัติ-บริหาร โอดถ้าใช้จริยธรรมตัดสิน คงต้องฟูมฟักตั้งแต่เกิด
มติสว. 118 เสียง ปิดปากรอบสอง ญัตติสอบจริยธรรมตุลาการศาลรธน.
ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม
เมืองโอ่งคึกคัก ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นายกอบจ.ราชบุรี ‘ปธ.กกต.’ ลงตรวจใกล้ชิด
ประธาน กกต.ลงสังเกตการณ์หน่วยเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง